ทำเนียบ 6 พ.ค.- “ทวี” รับเหตุรุนแรงจังหวัดชายแดนใต้ พุ่งเป้าไทยพุทธ มีสาเหตุ ให้กระบวนการวิทยาศาสตร์ตรวจสอบอยู่ โต้ฝ่ายค้านจี้พูดคุยสันติสุขเร็วขึ้น บอกพูดคุยตลอด ไม่จำเป็นต้องออกทีวี ลั่นไม่เคยบอกจะทำเป็นเขตปกครองพิเศษ แค่พูดถึงอุยกูร์ ภาษาวัฒนธรรมไม่ควรถูกปิดกั้น เผย พ.ร.บ.ก่อการร้าย เป็นแนวคิด สว. ไม่ใช่รัฐบาล
พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึง การเกิดเหตุความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ค่อนข้างถี่ ขณะที่เป็นพื้นที่ฐานเสียงของพรรคประชาชาติ มีการประเมินสาเหตุหรือไม่ ว่า รัฐบาลมีความมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาภาคใต้ เพราะถือเป็นเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน อยากจะสร้างสันติภาพสันติสุข ให้ยั่งยืน การแก้ปัญหาภาคใต้ต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ โดยรัฐธรรมนูญบอกว่าการแก้ปัญหาความรุนแรงความขัดแย้ง ด้วยสันติวิธี ซึ่งเมื่อวานนี้ตนได้ลงพื้นที่รดน้ำศพเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้พบกับกำลังในพื้นที่ ต้องทำให้ประชาชนได้รับการปกป้องคุ้มครองความปลอดภัย อย่าให้พื้นที่เป็นของฝ่ายตรงข้าม พื้นที่ต้องเป็นของรัฐ โดยโครงสร้าง ในหมู่บ้าน มีผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และ ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน หรือ ชรบ. แต่ละหมู่บ้านมี 37 คน ขณะที่ อส. เฉพาะในจังหวัดนราธิวาสมี 3,000 นาย ทหารพรานที่มาจากชาวบ้าน 7,005 นาย ตำตำรวจ 3,800 นาย ซึ่งกำลังดังกล่าวอาจจะป้องกันไม่ได้ แต่ต้องได้รับความร่วมมือจากผู้นำพื้นที่ ผู้นำศาสนา ผู้นำจิตวิญญาณ
พันตำรวจเอกทวี กล่าวว่า วันนี้ต้องเข้าใจ ชีวิตมนุษย์ต้องได้รับการปกป้องคุ้มครอง ส่วนการแก้ปัญหาระยะยาว รัฐบาลมีนโยบายอยู่แล้ว โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นคนกำกับดูแล ซึ่งตนก็เป็นกลไกหนึ่ง คงจะได้พูดคุยกัน
ส่วนที่มีการพุ่งเป้าก่อเหตุไปที่ไทยพุทธเพิ่มขึ้น ผิดปกติกว่าเหตุการณ์ที่ผ่านมาหรือไม่ พันตำรวจเอกทวี กล่าวว่า มีการรายงานสาเหตุ แต่ขอให้วิทยาศาสตร์ตรวจสอบสาเหตุ ซึ่งเวลาลงพื้นที่ไปตรวจเยี่ยมผู้นำก็ให้ความร่วมมือ คงไม่ใช่เรื่องของศาสนา แต่การก่อเหตุกับกลุ่มเปราะบางเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง
เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านออกแถลงการณ์ เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งเปิดพื้นที่เจรจาสันติสุข พันตำรวจเอกทวี กล่าวว่า เราคงไม่ต้องออกทีวีเจรจา
และเมื่อถามย้ำว่า ขณะนี้มีการเจรจาทางลับอยู่ตลอดเวลาใช่หรือไม่ พันตำรวจเอกทวี กล่าวว่าสูงสุดคือต้องเอาความปลอดภัยของประชาชน สร้างความอยู่ดีกินดี พร้อมบอกรัฐบาลเคารพฝ่ายค้าน แต่วิธีการกระทำของรัฐบาล ต้องทำต้องทำภายใต้รัฐธรรมนูญที่สำคัญต้องเปิดให้ประชาชนมีส่วนกำหนดชะตาชีวิตของตัวเอง โดยเฉพาะไทยพุทธต้องเข้ามามีส่วนในการพูดคุยด้วย
เมื่อถามว่าขณะนี้ผ่านมาสองปีแล้วแต่ รัฐบาลไทยยังไม่ชัดเจน ในตัวบุคคลที่จะเป็นหัวหน้าชุดพูดคุยสันติสุข 1000 ตำรพันตำรวจเอกเทวีกล่าวว่าเดิมคือเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ เลขาฯสมช. พอเปลี่ยนรัฐบาล ยังไม่ทราบว่าคำสั่งนั้นยกเลิกหรือไม่ มันก็เป็นแบบนี้มาตลอด
ส่วนคนที่เราพูดคุยด้วย ใช่คนที่มีอำนาจในการ ตัดสินใจหรือไม่ พันตำรวจเอกทวีกล่าวว่า “เราอย่าไปด้อยค่าเขา เพราะการพูดคุยในอดีต เขาบอกว่าเดือนรอมฎอนจะมีการหยุดยิง ก็มีการหยุดจริง จึงอย่าไปด้อยค่าเขา“
ส่วนในพื้นที่มีใบปลิวว่ารัฐบาลจะออก พ.ร.บ. ก่อการร้าย ข้อเท็จจริงรัฐบาลเคยมีการพูดคุยเรื่องนี้หรือไม่ พันตำรวจเอกทวี กล่าวว่า ข้อเท็จจริงไม่เคยมีการพูดคุย จากฝ่ายรัฐบาล แต่เป็นการพูดคุยของ สว. ซึ่งในส่วนของรัฐบาลไม่น่าจะมีความคิด โดยเฉพาะตน ไม่มีความคิดในเรื่องนี้
ขณะเดียวกันพันตำรวจเอกทวี ยังชี้แจงเรื่องจะทำ พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นเขตปกครองพิเศษ ว่าไม่เคยพูด แต่พูดว่า เพิ่งไปเขตปกครองพิเศษซินเจียงอุยกูร์มา ซึ่งมีลักษณะคล้ายภาคใต้ ในเรื่องภาษาวัฒนธรรม เพราะคนจีนก็พูดกับคนในพื้นที่ไม่ได้ต้องแปลจากภาษาอุยกูร์เป็นภาษาจีน ซึ่งได้พูดว่าเรื่องภาษาวัฒนธรรมไม่ควรถูกปิดกั้น.-315 -สำนักข่าวไทย
