“ณัฐพงษ์” เล็งต่อยอดยื่นฟ้องในอนาคต หาก นายกฯ แจง-แก้ต่างไม่ได้

รัฐสภา ​19 มี.ค.-“ณัฐพงษ์” รับยากจะเล็งผล ถอดถอน “นายกฯ” จากเวทีซักฟอก แต่จะต่อยอดยื่นฟ้องในอนาคต หากแจง-แก้ต่างไม่ได้ แนะจับตาคะแนนโหวตสะท้อน “แพทองธาร” คุมเสียงรัฐบาลได้หรือไม่ เชื่อกรอบซักฟอกยังยืดหยุ่นได้ แจงเปลี่ยนจาก “ทักษิณ” เป็น​”บุคคลในครอบครัว” เพื่อเปิดกว้างมากขึ้น รับอาจโยงถึง ​”ยิ่งลักษณ์”

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ​สส. บัญชีรายชื่อ​หัวหน้าพรรคประชาชน​ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร​ ย้ำจุดยืนอยากให้การอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นไปด้วยความราบรื่น และได้ข้อสรุปเรื่องกรอบเวลา และกติกา ในการหักเวลาระหว่างกัน เช่นการประท้วง ควรหักเวลาของแต่ละฝ่ายเพื่อไม่ให้กินเวลาฝ่ายอื่น ตอนนี้ สิ่งที่คาดหวังคือวิป3ฝ่านจะหาข้อสรุปตรงกันได้​


ส่วนที่รัฐบาลกำหนดไว้ให้ฝ่ายค้าน 23 ชั่วโมงนั้นนายณัฐพงษ์​ เชื่อว่ายังปรับยืดหยุ่นได้ และสิ่งสำคัญไม่แพ้กันคือการเซ็ตกรอบจำนวนวันที่ควรจะต้องทำให้เกิดประสิทธิภาพในการประชุมมากที่สุด เช่นไม่ควรเลิกดึกเกินไป คนที่จะตอบข้อชี้แจง อย่างนายกรัฐมนตรีอาจตอบอย่างไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอหากวันสุดท้ายต้องเลิกใกล้เที่ยงคืน​ นายกรัฐมนตรีอาจจะรวบรวมประเด็นได้ไม่หมด รวมถึงประชาชนที่อยู่ที่บ้านอาจฟังไม่ทั่วถึง ดังนั้นถ้ารัฐบาลเปิดกว้าง อภิปรายอย่างตรงไปตรงมา ต้องให้ประชาชนที่ฟังทางบ้านเข้าใจข่าวสารมากที่สุดและหลักร่วมกัน คือการอภิปรายครั้งนี้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด

นายณัฐพงษ์​ ยังกล่าวถึงเหตุผลที่แก้ญัตติจากชื่อนายทักษิณ​ ชินวัตร​ เป็นคำว่าบุคคลในครอบครัวว่า​ สามารถอภิปรายได้กว้างขึ้น ธีมหรือชื่อในการอภิปราย​คือ​ดีลแลกประเทศ ที่เรามองเห็นว่าพรรคเพื่อไทยนำผลประโยชน์ของประเทศแลกกับผลประโยชน์​ของบุคคลในครอบครัวซึ่งเปิดกว้างในการอภิปรายมากขึ้น


ส่วนที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร​เปิดช่องให้ใช้คำว่า​ สทร.​ได้​ นายณัฐพงษ์​ กล่าวว่า ในวันจริงจะยังมีคำอีกหลากหลายแต่คำว่าบุคคลในครอบครัวที่ใส่ไว้​เป็นภาษาเขียนในญัตติที่เป็นคำทางการและ ค่อนข้างมีความเหมาะสม

ทั้งนี้การอภิปรายจะกล่าวถึง บุคคลอื่นในตระกูลชินวัตรอย่างเช่นนางสาวยิ่งลักษณ์​ ชินวัตรด้วยหรือไม่ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า มีความเป็นไปได้​ แต่อยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริงว่าการ จัดตั้งรัฐบาล การดำเนินนโยบาย ของรัฐบาลไม่ได้เอาผลประโยชน์ของประชาชนในประเทศ เป็นตัวตั้งแต่เอาผลประโยชน์ของครอบครัวมากกว่า

เมื่อถามว่าข้อมูลที่ได้จะอภิปรายลึกแค่ไหน นายณัฐพงษ์กล่าวว่าได้ข้อมูลมาหลายส่วน ที่ได้มาลึก และมีที่ไม่เคยเปิดเผยต่อสื่อมวลชนมาก่อน พร้อมยืนยันว่าประชาชนจะได้รับประโยชน์สูงสุด


เมื่อถามว่าหากเทียบกับความผิดของนายกรัฐมนตรีจะถึงขั้นยุบสภาหรือลาออกหรือไม่นายณัฐพงษ์กล่าวว่า​การเล็งเห็นผลมติถอดถอนนายกรัฐมนตรี​เลยคงเป็นไปได้ยาก​ แต่ข้อมูลที่เปิดในการอภิปรายในสภาเชื่อว่าจะใช้เป็นหลักฐานยื่นฟ้องร้องและใช้ในกระบวนการยื่นถอดถอนต่อไปในอนาคตได้หากนายกรัฐมนตรีไม่สามารถชี้แจงได้ชัดเจนหรือไม่สามารถแก้ต่างข้อกล่าวหาได้

เมื่อถามถึงการแบ่งเวลาของพรรคร่วมฝ่ายค้านโดยเฉพาะพลังประชารัฐที่พลเอกประวิตร​ วงษ์สุวรรณ​ หัวหน้าพรรค​ จะเป็นผู้อภิปรายด้วยนายณัฐพงษ์กล่าวว่า สำหรับเวลา ของพรรคร่วมฝ่านค้าน จะมีการแบ่งซึ่งพรรคพลังประชารัฐ แสดงจุดยืนที่จะอภิปรายด้วย แต่เป็นเรื่องภายใน ว่าจะจัดสรรใครอภิปราย

สำหรับคะแนนเสียง ของการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้ง จะเป็น สะท้อนอะไรกับรัฐบาลหรือไม่นายณัฐพงษ์กล่าวว่า จำนวนสิ่งที่จะลงมติจะสะท้อนส่วนสำคัญ ว่ารัฐบาลมีเสถียรภาพมากน้อยขนาดไหน ดังนั้นทุกคะแนนเสียงที่จะโหวตเห็นชอบให้กับนางสาวแพทองธาร​ ชินวัตร​ นายกรัฐมนตรี จะเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถจับตาและประเมินได้ ว่านางสาวแพรทองทานจะสามารถควบคุมเสียงรัฐบาลได้หรือไม่

ส่วนที่ฝ่ายการบอกว่าจะเห็นรอยร้าวของพรรคร่วมรัฐบาบได้​นั้น​นายณัฐ​พงษ์​ กล่าวว่า​ การดำเนินงานของฝ่ายนิติบัญญัติไม่ว่าจะเป็นเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือร่างกฎหมายต่างๆ​ ก็ไม่สามารถเดินหน้าได้​ เมื่อพักร่วมรัฐบาลไม่เอาพรรคเพื่อไทยก็ต้องถอยตาม หลายสิ่งต่างๆ ที่ออกมาทำให้เห็นความไม่ลงรอยของรัฐบาลการ อภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้จะทำให้สังคมเห็นว่าปัญหาของรัฐบาลคือเรื่องนี้จริงๆ ดังนั้นตอนตั้งคำถาม ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ต้องดูว่านายกรัฐมนตรี​ตอบชี้แจงได้หรือไม่มอบให้รัฐมนตรีคนอื่นชี้แจงได้หรือไม่ ซึ่งตนเชื่อว่าบรรยากาศการอภิปรายจะทำให้เห็น จุดนี้มากขึ้น

เมื่อถามถึงม็อบปลาหมอคางดำ มาเทปลาที่ทำเนียบถูกนำไปเปรียบเทียบภาพนายกรัฐมนตรี​นำลูกๆไปเดินเล่นสนามหญ้าหน้าตึกไทย​คู่​ฟ้า​ สะท้อนอะไรหรือไม่ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า คนที่เป็นนายกรัฐมนตรีผู้นำของประเทศสิ่งสำคัญคือการแสดงออกของการรับรู้ความรู้สึกปัญหาของพี่น้องประชาชนเรื่องนี้ไม่ขอให้ความเห็น ว่านายกรัฐมนตรีจะทำภารกิจอะไร แต่สิ่งที่อยากบอกนายกรัฐมนตรี​คือประชาชนมีความเดือดร้อนการแสดงทุกย่างก้าวของนายกฯส่งผลต่อรู้สึกของประชาชน

เมื่อถามถึงกรณีที่นายวิโรจน์​ ลักขณาอดิศร​ สส. บัญชีรายชื่อพรรคประชาชนถูกตำหนิว่าไม่รู้กาลเทศะหลังวิพากษ์วิจารณ์นายกรัฐมนตรี นายณัฐพงษ์กล่าวว่า เป็นสิ่งที่สส.​อาจจะแสดงความโกรธเคืองแทนพี่น้องประชาชนได้​ การ ใช้คำหรือ การแสดงความรู้สึก อาจเกิดขึ้นได้หน้างานแต่การแสดงออกของนายวิโรจน์ คงต้องการแสดงออกถึงการ เป็นตัวแทนประชาชนและรับรู้ปัญหาของประชาชน

เมื่อถามย้ำถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย ออกมากตำหนิว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นการตีกิน​ใช้เวทีสภาเพื่อประโยชน์ทางการเมือง​ นายณัฐพงษ์​ กล่าวว่า​ ไม่อยากให้วิเคราะห์ขนาดนั้น​ ขอรอดูอภิปรายดีกว่าว่าสิ่งที่นำเสนอ มีข้อมูลข้อเท็จจริงอย่างไร.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ทบ.ติดแฮชแท็กเซฟ มทภ.2

กทม. 18 มิ.ย.- ทบ.ติดแฮชแท็กเซฟ มทภ.2 ส่วนหน้าสโมสรกองทัพบก ถ.วิภาวดีรังสิต ขึ้นข้อความให้กำลังใจผ่านจอแอลอีดี ขณะที่เพจโซเชียลกองทัพ แห่โพสต์ข้อความ #ศักดิ์ศรีของทหาร 18 มิ.ย.68 ภายหลังจากที่มีคลิปเสียงการพูดคุยระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา หลุดออกมา และมีการพูดถึง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ว่าอยู่ฝั่งตรงข้าม ล่าสุดเพจเฟซบุ๊กของหน่วยทหารต่างๆ อาทิ กรมกิจการพลเรือนทหารบก ได้โพสต์ข้อความว่า พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เรื่อง #ศักดิ์ศรีของทหาร 1. ทหาร คือ ผู้ที่ได้รับเกียรติอย่างสูงจากประชาชนทั้งชาติ ให้เป็นสุภาพบุรุษ ถืออาวุธเพื่อป้องกันประเทศ 2. ทหาร เป็นผู้เสียสละประโยชน์สุขส่วนตัว เพื่อความผาสุกของประชาชนและความอยู่รอดของชาติ 3. ทหาร คือ ผู้ที่รักและบูชาเกียรติยศมากกว่าเงิน นอกจากนี้ เพจ Smart Soldiers Strong […]

“อนุทิน” บอก “จบแล้วครับนาย” ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู

กทม. 18 มิ.ย.-“อนุทิน” สั่ง จนท.ขนของออกจากกระทรวง บอก “จบแล้วครับนาย” ไม่ต้องคุยนายกฯ หลัง “หมอมิ้ง” ยื่นไพ่ใบสุดท้าย ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู เตรียมซ้อมกับ “ไอซ์ รักชนก” เวลา 13.35 น. วันที่ 18 มิ.ย.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังนายกฯ ระบุว่ายังไม่แจ้งเงื่อนไขการปรับ ครม. ว่า ตนยังไม่ได้ยิน ซึ่งเมื่อวานนี้ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ซึ่งเราก็บอกท่าทีเราไปแล้ว เมื่อถามว่า การขนของออกจากห้องทำงาน ถือเป็นการปิดประตูเจรจาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ ชัดเจนแล้วว่า เราคงไม่ได้เปลี่ยนอะไร และ นพ.พรหมินทร์ ได้ย้ำเงื่อนไขของพรรคเพื่อไทยว่าเป็นแบบนี้ เมื่อถามต่อว่า ต้องคุยกับนายกฯ อีกครั้งหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คุยกับนายกฯ และเมื่อวาน […]

“ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงฉบับเต็ม 17 นาที

กัมพูชา 18 มิ.ย. – “ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงคุย “แพทองธาร” ฉบับเต็ม 17 นาที เผยบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส ส่งต่อให้บุคคลอื่นราว 80 คน เว็บไซต์ขแมร์ ไทม์ส รายงานว่า “นายฮุน เซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชาเปิดเผยผ่านสื่อโซเชียล มีเนื้อหาระบุว่า “เมื่อเย็นวันที่ 15 มิถุนายน ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีของไทยเป็นเวลา 17 นาที 6 วินาที โดยมีนายเคลียง ฮวต รองผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ ทำหน้าที่ล่ามแปลภาษา ซึ่งตามปกติแล้วเพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าใจที่คลาดเคลื่อนหรือตีความหมายผิดในเรื่องที่เป็นทางการ จึงจำเป็นต้องทำการบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส รวมถึงเพื่อวัตถุประสงค์ภายในของกัมพูชาด้วย และจากนั้นเป็นต้นมา ตนเอง ก็ได้แชร์เทปเสียงสนทนานี้ให้กับบุคคลอื่นๆ ราว 80 คน ที่รวมถึงสมาชิกคณะกรรมการถาวรของพรรค คณะทำงานวุฒิสภา หน่วยงานเฉพาะกิจด้านการต่างประเทศ หน่วยงานด้านการศึกษาและการเข้าถึงกลุ่มกิจการชายแดน และสมาชิกกองกำลังติดอาวุธ ซึ่งในจำนวนคนเหล่านี้อาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีบางคนที่ไม่พอใจนายกรัฐมนตรีของไทย ฮุน เซนโพสต์ต่อว่า “แต่หลังจากการสนทนาผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง ผู้นำไทยกลับออกมากล่าวหาผู้นำกัมพูชาอย่างเปิดเผยว่าทำงานการเมืองอย่างไม่เป็นมืออาชีพ และขับเคลื่อนประเด็นทางการเมืองผ่านทางเฟซบุ๊ก […]

ข่าวแนะนำ

มทภ.4 กำชับเร่งสืบจับมือวางระเบิดงานกาชาดปัตตานี

ปัตตานี 20 มิ.ย. – แม่ทัพภาค 4 ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าเหตุลอบวางระเบิดงานกาชาดปัตตานี กำชับเร่งสืบจับผู้ก่อเหตุ เพิ่มความเข้มงวดรักษาความปลอดภัย ป้องกันเกิดเหตุซ้ำ ขณะที่บรรยากาศภายในงานกาชาดฯ หลายร้านตัดสินใจไม่ขายต่อ พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมคณะ เข้าตรวจสอบความเสียหาย รวมถึงติดตามความคืบหน้าเหตุลอบวางระเบิดงานกาชาดปัตตานี พร้อมกำชับตำรวจและฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัย ป้องกันเกิดเหตุซ้ำ และปรับแผนให้รัดกุมยิ่งขึ้น ขณะที่บรรยากาศภายในงานกาชาดปัตตานี หลังเกิดเหตุระเบิด 3 ลูก เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (20 มิ.ย.68) พบว่า เจ้าของร้านต่างเร่งซ่อมแซมส่วนที่เสียหายให้กลับมาเปิดขายได้อีกครั้ง และพบว่าหลายร้านตัดสินใจไม่ขายต่อ หนึ่งในนั้นคือ ร้านขายไก่ทอด ไก่ย่าง ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากเหตุดังกล่าว ตัดสินใจเดินทางกลับ จ.ตรัง โดยบอกว่า ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ตั้งแต่ขายมา ไม่ว่าจะที่ จ.ยะลา หรือนราธิวาส จึงรู้สึกกลัว แม้อยากทำมาหาเลี้ยงชีพ แต่รักชีวิตมากกว่า. – สำนักข่าวไทย

เขมรป่วน! นำมวลชน-พระสงฆ์ บุกปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 20 มิ.ย. – กัมพูชาป่วนไม่เลิก ล่าสุดนำมวลชน-พระสงฆ์ บุกปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ไล่นักท่องเที่ยวชาวไทยกลับ ทหารและฝ่ายปกครองต้องเตือนให้หยุด และให้กลับลงไปทันที นี่เป็นภาพขณะเจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครองของไทย เข้าชี้แจงชาวกัมพูชาและพระสงฆ์กัมพูชา ประมาณ 15 รูป ซึ่งตอนแรกทำทีเป็นนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ในเวลาประมาณ 10.00 น. วานนี้ (19 มิ.ย.68) แต่ต่อมากลับพากันมายืนที่จุดจีพีเอส ขวางประตูทางเข้าตัวปราสาทตาเมือนธม และพูดกับคนไทยที่มาเที่ยวชมปราสาท ในลักษณะจะไม่ให้เข้า และข้ามหลักจีพีเอสไป ทั้งที่บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ของไทยทั้งหมด ขณะนั้นเจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครอง อ.พนมดงรัก ที่ปฏิบัติการที่ปราสาทตาเมือนธม เห็นเข้า จึงรีบเข้าไปแจ้งเตือนและให้หยุดการกระทำดังกล่าวทันที โดยมีทหารฝ่ายกัมพูชาเข้ามาร่วมชี้แจงด้วย ก่อนจะพาชายคนดังกล่าวพร้อมคณะกลับลงไปฝั่งกัมพูชาทันที ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางกัมพูชาใช้ฐานปฏิบัติการทหารที่อยู่ตรงข้ามกับปราสาทตาเมือนธม เป็นจุดรวมผู้คนและพระสงฆ์ที่เกณฑ์มา ให้มารวมตัวกัน โดยทหารกัมพูชาที่มาอำนวยความสะดวกบริเวณปราสาทตาเมือนธม จะเป็นผู้รายงานว่า ฝั่งไทยมีความเคลื่อนไหวอย่างไร นักท่องเที่ยวชาวไทยขึ้นมาเยอะหรือไม่ จากนั้นก็จะแจ้งให้ทางกัมพูชาทราบและจัดคนขึ้นมาที่ตัวปราสาท แล้วก็มาป่วน พยายามสร้างกระแสยั่วยุฝั่งไทยอย่างต่อเนื่อง ทบ.แจงเหตุมวลชนเขมรบุกร้องเพลงบนปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ การยั่วยุลักษณะนี้เกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา […]

ไมค์โขกหัวนายกฯ

นายกฯ โพสต์แจง “ไมค์โขกศีรษะ” นักข่าวไม่ได้ตั้งใจ

กรุงเทพฯ 20 มิ.ย.- นายกฯ อิ๊งค์ แจงไมค์โขกศีรษะ นักข่าวไม่ได้ตั้งใจ บอกหน้างานเบียดกันมาก โดนไม่แรง พร้อมขอบคุณทุกกำลังใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีโพสต์ข้อความผ่านสตอรี่ไอจี กรณีมีไมค์ของสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งโดนศรีษะของนายกรัฐมนตรี ระหว่างลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี และนายกรัฐมนตรีได้อุทาน ซึ่งนายกรัฐมนตรีชี้แจงว่า วันนี้ที่มีข่าวเรื่องไมโครโฟนโขกศีรษะ

รองเลขาธิการนายกฯ แจ้งความดำเนินคดี “ฮุนเซน”

กทม. 20 มิ.ย.-“สมคิด” รองเลขาธิการนายกฯ เข้าแจ้งความตำรวจไซเบอร์ ดำเนินคดี “ฮุนเซน” กรณีคลิปเสียงหลุด ยันไม่ได้แก้เกี้ยวให้ “แพทองธาร” ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือตำรวจไซเบอร์ นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับสมเด็จฮุนเซน กรณีคลิปเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรี ความยาว 17.6 วินาที ที่หลุดออกมาจากฝั่งเขา จนสร้างความแตกแยก จึงได้แจ้งดำเนินคดีในข้อหาเกี่ยวกับภัยความมั่นคง ยืนยันไม่ได้เป็นการแก้เกี้ยวให้กับนายกฯ และไม่ได้เรียนให้นายกฯ ทราบว่าจะมาแจ้งความ พลตำรวจโทไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ ยืนยันไม่ว่าการกระทำดังกล่าวจะเกิดขึ้นในหรือนอกราชอาณาจักร เป็นคนไทยหรือต่างชาติ หากทำลายความมั่นคง ก็สามารถดำเนินคดีตามกฎหมายไทยได้ โดยตำรวจจะรวบรวมพยานหลักฐาน สืบค้นแหล่งที่มาของต้นโพสต์ หารือกับอัยการสูงสุดและประสานสถานทูตประเทศนั้น เพื่อให้ส่งเอกสารไปยังประเทศปลายทางของผู้ที่ถูกออกหมายจับ ส่วนจะได้ตัวหรือไม่ ไม่อยากให้คาดการณ์.-สำนักข่าวไทย