“ณัฐพงษ์” เล็งต่อยอดยื่นฟ้องในอนาคต หาก นายกฯ แจง-แก้ต่างไม่ได้

รัฐสภา ​19 มี.ค.-“ณัฐพงษ์” รับยากจะเล็งผล ถอดถอน “นายกฯ” จากเวทีซักฟอก แต่จะต่อยอดยื่นฟ้องในอนาคต หากแจง-แก้ต่างไม่ได้ แนะจับตาคะแนนโหวตสะท้อน “แพทองธาร” คุมเสียงรัฐบาลได้หรือไม่ เชื่อกรอบซักฟอกยังยืดหยุ่นได้ แจงเปลี่ยนจาก “ทักษิณ” เป็น​”บุคคลในครอบครัว” เพื่อเปิดกว้างมากขึ้น รับอาจโยงถึง ​”ยิ่งลักษณ์”

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ​สส. บัญชีรายชื่อ​หัวหน้าพรรคประชาชน​ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร​ ย้ำจุดยืนอยากให้การอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นไปด้วยความราบรื่น และได้ข้อสรุปเรื่องกรอบเวลา และกติกา ในการหักเวลาระหว่างกัน เช่นการประท้วง ควรหักเวลาของแต่ละฝ่ายเพื่อไม่ให้กินเวลาฝ่ายอื่น ตอนนี้ สิ่งที่คาดหวังคือวิป3ฝ่านจะหาข้อสรุปตรงกันได้​


ส่วนที่รัฐบาลกำหนดไว้ให้ฝ่ายค้าน 23 ชั่วโมงนั้นนายณัฐพงษ์​ เชื่อว่ายังปรับยืดหยุ่นได้ และสิ่งสำคัญไม่แพ้กันคือการเซ็ตกรอบจำนวนวันที่ควรจะต้องทำให้เกิดประสิทธิภาพในการประชุมมากที่สุด เช่นไม่ควรเลิกดึกเกินไป คนที่จะตอบข้อชี้แจง อย่างนายกรัฐมนตรีอาจตอบอย่างไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอหากวันสุดท้ายต้องเลิกใกล้เที่ยงคืน​ นายกรัฐมนตรีอาจจะรวบรวมประเด็นได้ไม่หมด รวมถึงประชาชนที่อยู่ที่บ้านอาจฟังไม่ทั่วถึง ดังนั้นถ้ารัฐบาลเปิดกว้าง อภิปรายอย่างตรงไปตรงมา ต้องให้ประชาชนที่ฟังทางบ้านเข้าใจข่าวสารมากที่สุดและหลักร่วมกัน คือการอภิปรายครั้งนี้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด

นายณัฐพงษ์​ ยังกล่าวถึงเหตุผลที่แก้ญัตติจากชื่อนายทักษิณ​ ชินวัตร​ เป็นคำว่าบุคคลในครอบครัวว่า​ สามารถอภิปรายได้กว้างขึ้น ธีมหรือชื่อในการอภิปราย​คือ​ดีลแลกประเทศ ที่เรามองเห็นว่าพรรคเพื่อไทยนำผลประโยชน์ของประเทศแลกกับผลประโยชน์​ของบุคคลในครอบครัวซึ่งเปิดกว้างในการอภิปรายมากขึ้น


ส่วนที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร​เปิดช่องให้ใช้คำว่า​ สทร.​ได้​ นายณัฐพงษ์​ กล่าวว่า ในวันจริงจะยังมีคำอีกหลากหลายแต่คำว่าบุคคลในครอบครัวที่ใส่ไว้​เป็นภาษาเขียนในญัตติที่เป็นคำทางการและ ค่อนข้างมีความเหมาะสม

ทั้งนี้การอภิปรายจะกล่าวถึง บุคคลอื่นในตระกูลชินวัตรอย่างเช่นนางสาวยิ่งลักษณ์​ ชินวัตรด้วยหรือไม่ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า มีความเป็นไปได้​ แต่อยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริงว่าการ จัดตั้งรัฐบาล การดำเนินนโยบาย ของรัฐบาลไม่ได้เอาผลประโยชน์ของประชาชนในประเทศ เป็นตัวตั้งแต่เอาผลประโยชน์ของครอบครัวมากกว่า

เมื่อถามว่าข้อมูลที่ได้จะอภิปรายลึกแค่ไหน นายณัฐพงษ์กล่าวว่าได้ข้อมูลมาหลายส่วน ที่ได้มาลึก และมีที่ไม่เคยเปิดเผยต่อสื่อมวลชนมาก่อน พร้อมยืนยันว่าประชาชนจะได้รับประโยชน์สูงสุด


เมื่อถามว่าหากเทียบกับความผิดของนายกรัฐมนตรีจะถึงขั้นยุบสภาหรือลาออกหรือไม่นายณัฐพงษ์กล่าวว่า​การเล็งเห็นผลมติถอดถอนนายกรัฐมนตรี​เลยคงเป็นไปได้ยาก​ แต่ข้อมูลที่เปิดในการอภิปรายในสภาเชื่อว่าจะใช้เป็นหลักฐานยื่นฟ้องร้องและใช้ในกระบวนการยื่นถอดถอนต่อไปในอนาคตได้หากนายกรัฐมนตรีไม่สามารถชี้แจงได้ชัดเจนหรือไม่สามารถแก้ต่างข้อกล่าวหาได้

เมื่อถามถึงการแบ่งเวลาของพรรคร่วมฝ่ายค้านโดยเฉพาะพลังประชารัฐที่พลเอกประวิตร​ วงษ์สุวรรณ​ หัวหน้าพรรค​ จะเป็นผู้อภิปรายด้วยนายณัฐพงษ์กล่าวว่า สำหรับเวลา ของพรรคร่วมฝ่านค้าน จะมีการแบ่งซึ่งพรรคพลังประชารัฐ แสดงจุดยืนที่จะอภิปรายด้วย แต่เป็นเรื่องภายใน ว่าจะจัดสรรใครอภิปราย

สำหรับคะแนนเสียง ของการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้ง จะเป็น สะท้อนอะไรกับรัฐบาลหรือไม่นายณัฐพงษ์กล่าวว่า จำนวนสิ่งที่จะลงมติจะสะท้อนส่วนสำคัญ ว่ารัฐบาลมีเสถียรภาพมากน้อยขนาดไหน ดังนั้นทุกคะแนนเสียงที่จะโหวตเห็นชอบให้กับนางสาวแพทองธาร​ ชินวัตร​ นายกรัฐมนตรี จะเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถจับตาและประเมินได้ ว่านางสาวแพรทองทานจะสามารถควบคุมเสียงรัฐบาลได้หรือไม่

ส่วนที่ฝ่ายการบอกว่าจะเห็นรอยร้าวของพรรคร่วมรัฐบาบได้​นั้น​นายณัฐ​พงษ์​ กล่าวว่า​ การดำเนินงานของฝ่ายนิติบัญญัติไม่ว่าจะเป็นเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือร่างกฎหมายต่างๆ​ ก็ไม่สามารถเดินหน้าได้​ เมื่อพักร่วมรัฐบาลไม่เอาพรรคเพื่อไทยก็ต้องถอยตาม หลายสิ่งต่างๆ ที่ออกมาทำให้เห็นความไม่ลงรอยของรัฐบาลการ อภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้จะทำให้สังคมเห็นว่าปัญหาของรัฐบาลคือเรื่องนี้จริงๆ ดังนั้นตอนตั้งคำถาม ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ต้องดูว่านายกรัฐมนตรี​ตอบชี้แจงได้หรือไม่มอบให้รัฐมนตรีคนอื่นชี้แจงได้หรือไม่ ซึ่งตนเชื่อว่าบรรยากาศการอภิปรายจะทำให้เห็น จุดนี้มากขึ้น

เมื่อถามถึงม็อบปลาหมอคางดำ มาเทปลาที่ทำเนียบถูกนำไปเปรียบเทียบภาพนายกรัฐมนตรี​นำลูกๆไปเดินเล่นสนามหญ้าหน้าตึกไทย​คู่​ฟ้า​ สะท้อนอะไรหรือไม่ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า คนที่เป็นนายกรัฐมนตรีผู้นำของประเทศสิ่งสำคัญคือการแสดงออกของการรับรู้ความรู้สึกปัญหาของพี่น้องประชาชนเรื่องนี้ไม่ขอให้ความเห็น ว่านายกรัฐมนตรีจะทำภารกิจอะไร แต่สิ่งที่อยากบอกนายกรัฐมนตรี​คือประชาชนมีความเดือดร้อนการแสดงทุกย่างก้าวของนายกฯส่งผลต่อรู้สึกของประชาชน

เมื่อถามถึงกรณีที่นายวิโรจน์​ ลักขณาอดิศร​ สส. บัญชีรายชื่อพรรคประชาชนถูกตำหนิว่าไม่รู้กาลเทศะหลังวิพากษ์วิจารณ์นายกรัฐมนตรี นายณัฐพงษ์กล่าวว่า เป็นสิ่งที่สส.​อาจจะแสดงความโกรธเคืองแทนพี่น้องประชาชนได้​ การ ใช้คำหรือ การแสดงความรู้สึก อาจเกิดขึ้นได้หน้างานแต่การแสดงออกของนายวิโรจน์ คงต้องการแสดงออกถึงการ เป็นตัวแทนประชาชนและรับรู้ปัญหาของประชาชน

เมื่อถามย้ำถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย ออกมากตำหนิว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นการตีกิน​ใช้เวทีสภาเพื่อประโยชน์ทางการเมือง​ นายณัฐพงษ์​ กล่าวว่า​ ไม่อยากให้วิเคราะห์ขนาดนั้น​ ขอรอดูอภิปรายดีกว่าว่าสิ่งที่นำเสนอ มีข้อมูลข้อเท็จจริงอย่างไร.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยศาล รธน. ยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติ

ทำเนียบ 1 ก.ค.-นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ พร้อมชี้แจงเต็มที่ ยืนยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติและรักษาอธิปไตย ไม่มีเจตนาอยากได้อะไรเป็นของตัวเอง พร้อมขอโทษ หากวิธีการไม่ถูกใจใครหลายคน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม แถลงภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งรับคำร้องไว้วินิจฉัย กรณีคลิปเสียงสนทนากับ สมเด็จฮุนเซ็น และให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย ด้วยมติ 7:2 ว่า ขอน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลต่อจากนี้ได้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งระยะเวลานั้นไม่แน่ใจ แต่มีเวลาประมาณ 15 วันที่จะชี้แจง ตนจะทำให้เต็มที่ในการที่จะบอกความตั้งใจที่แท้จริงว่าคลิปเสียงที่หลุดออกมาว่า ความตั้งใจและเจตนาจริงๆ เกิน 100% ว่าตั้งใจทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อรักษาไว้เพื่ออธิปไตยของเรา เพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิตของกองทัพและทหารทุกคน เพื่อสันติภาพที่จะเกิดขึ้นในประเทศของเรา ตนมั่นใจในสิ่งนี้มากๆ แต่วิธีการที่ตนเองทำ อาจจะมีทั้งถูกใจหรือไม่ถูกใจใครหลายๆ คน แต่ก็จะพยายามพิสูจน์เรื่องนี้ให้ได้ ว่าเป็นความตั้งใจ เป็นความพยายามเกิน 100% ที่จะทำเพื่อประเทศชาติจริงๆ เจตนาไม่มีอยากได้อะไรของตัวเองเลย และคิดอย่างเดียวว่าทำอย่างไรที่จะไม่ให้เกิดความวุ่นวายและ ทำอย่างไรที่จะไม่ต้องสู้รบกัน ทหารไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อ และตนก็คงรับไม่ได้หากพูดอะไรกับทางผู้นำและทำให้เกิดผลเสีย เกิดการทะเลาะหรือโกรธเคือง อันนั้นเป็นความตั้งใจจริงๆ ถ้าลองฟังดูจริงๆ ก็จะรู้ว่าไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร เพราะฉะนั้นนี่คือ […]

ศาล รธน. สั่ง ​”แพทองธาร” หยุดปฏิบัติหน้าที่​นายกฯ​

ศาลรัฐธรรมนูญ 1 ก.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญสั่ง ​”แพทองธาร” หยุดปฏิบัติหน้าที่​นายกฯ​ หลังรับคำร้อง 36 สว. ยื่นถอดถอน ปมคลิปเสียงคุย “ฮุน เซน” ผิดจริยธรรม​ เปิดชื่อ 2 ตุลาการเสียงข้างน้อย “นครินทร์-อุดม” ไม่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ แค่ห้ามใช้อำนาจหน้าที่ด้านความมั่นคง-การต่างประเทศ-การคลัง ศาลรัฐธรรมนูญ นัดประชุมปรึกษาคดีที่นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ได้ยื่นคำร้องของ 36 สว. ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรค 3 ประกอบมาตรา 82 ว่านางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กระทำฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ รวมทั้งขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นางสาวแพทองธารหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย จากกรณีคลิปเสียงสนทนาเรื่องข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชากับสมเด็จ ฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องและและเอกสารประกอบคำร้องแล้วเห็นว่า กรณีเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 […]

รวบ 2 ผู้ต้องหาปล้นเงินกลางห้างดัง ยึดของกลาง 1.9 ล้าน

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ผบช.น. แถลงรวบ 2 ผู้ต้องหาปล้นเงินกลางห้างดัง ตามยึดของกลางคืนแล้ว 1.9 ล้านบาท ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 5 คน ขออนุมัติศาลออกหมายจับบ่ายนี้ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงข่าวเปิดเผยความคืบหน้าการจับกุมผู้ต้องหาปล้นเงินสดจำนวน 3.4 ล้านบาท ภายในศูนย์การค้าแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าวเมื่อคืนที่ผ่านมา พร้อมระบุว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว และ น.ส.นานา โดยสามารถตามจับกุมได้ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งใน อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี เมื่อช่วงเวลา 01.00 น.ที่ผ่านมา พร้อมกันนี้ยังสามารถตรวจยึดของกลางเป็นเงินสดจำนวน 1.9 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนแบ่งจากการกระทำความผิด เสื้อผ้าที่สวมใส่ในขณะก่อเหตุ บัญชีธนาคารและบัตร ATM รวมทั้งสิ่งของที่ได้มาจากการทำความผิดก่อนหน้านี้ของผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย จากการสอบปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งสองให้การยอมรับสารภาพจากการจำนวนต่อหลักฐาน โดยอ้างว่า นายเฌอพัชญ์ จะทำหน้าที่เป็น Agent หรือตัวแทนหลอกซื้อขายคริปโตเคอเรนซี่ผ่านกลุ่ม Facebook […]

“สรวงศ์” ยันเร่งแก้ระบบล่ม หลังแห่ลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง”

ทำเนียบ 1 ก.ค.- “สรวงศ์” ยันเร่งแก้ปัญหาแอปฯ ล่ม หลังปชช.แห่ลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” เผยอาจมีการเพิ่มสิทธิมากขึ้น นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึง การเปิดลงทะเบียนโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง ในวันนี้ เป็นวันแรก (1 ก.ค.) หลังเปิดให้ลงทะเบียนเวลา 08.00 น. ปรากฏว่าแอปฯ ล่ม ว่า ในเรื่องของแอปฯ ล่มกำลังแก้ไขอยู่ โดยจะดำเนินการให้เร็วที่สุด ซึ่งยอมรับว่าเมื่อเปิดให้มีการลงทะเบียน มีประชาชนเข้าไปลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก นายสรวงศ์ ยืนยันว่าเรื่องของระบบการลงทะเบียนได้มีการเตรียมความพร้อมเอาไว้แล้ว แต่บางครั้งเป็นปัญหาทางเทคนิค แต่ก็จะพยายามแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด นายสรวงศ์ มองว่า การที่ประชาชนเข้าไปลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก เป็นเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนอยากจะเที่ยวอยู่ ซึ่งก็จะมีการพิจารณาอีกครั้งว่า หากมีประชาชนลงทะเบียนจนครบตามสิทธิแล้ว นายกรัฐมนตรีเคยบอกแล้วว่า จะเพิ่มสิทธิตรงนี้ให้.-315 -สำนักข่าวไทย