“ณัฐพงษ์” เล็งต่อยอดยื่นฟ้องในอนาคต หาก นายกฯ แจง-แก้ต่างไม่ได้

รัฐสภา ​19 มี.ค.-“ณัฐพงษ์” รับยากจะเล็งผล ถอดถอน “นายกฯ” จากเวทีซักฟอก แต่จะต่อยอดยื่นฟ้องในอนาคต หากแจง-แก้ต่างไม่ได้ แนะจับตาคะแนนโหวตสะท้อน “แพทองธาร” คุมเสียงรัฐบาลได้หรือไม่ เชื่อกรอบซักฟอกยังยืดหยุ่นได้ แจงเปลี่ยนจาก “ทักษิณ” เป็น​”บุคคลในครอบครัว” เพื่อเปิดกว้างมากขึ้น รับอาจโยงถึง ​”ยิ่งลักษณ์”

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ​สส. บัญชีรายชื่อ​หัวหน้าพรรคประชาชน​ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร​ ย้ำจุดยืนอยากให้การอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นไปด้วยความราบรื่น และได้ข้อสรุปเรื่องกรอบเวลา และกติกา ในการหักเวลาระหว่างกัน เช่นการประท้วง ควรหักเวลาของแต่ละฝ่ายเพื่อไม่ให้กินเวลาฝ่ายอื่น ตอนนี้ สิ่งที่คาดหวังคือวิป3ฝ่านจะหาข้อสรุปตรงกันได้​


ส่วนที่รัฐบาลกำหนดไว้ให้ฝ่ายค้าน 23 ชั่วโมงนั้นนายณัฐพงษ์​ เชื่อว่ายังปรับยืดหยุ่นได้ และสิ่งสำคัญไม่แพ้กันคือการเซ็ตกรอบจำนวนวันที่ควรจะต้องทำให้เกิดประสิทธิภาพในการประชุมมากที่สุด เช่นไม่ควรเลิกดึกเกินไป คนที่จะตอบข้อชี้แจง อย่างนายกรัฐมนตรีอาจตอบอย่างไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอหากวันสุดท้ายต้องเลิกใกล้เที่ยงคืน​ นายกรัฐมนตรีอาจจะรวบรวมประเด็นได้ไม่หมด รวมถึงประชาชนที่อยู่ที่บ้านอาจฟังไม่ทั่วถึง ดังนั้นถ้ารัฐบาลเปิดกว้าง อภิปรายอย่างตรงไปตรงมา ต้องให้ประชาชนที่ฟังทางบ้านเข้าใจข่าวสารมากที่สุดและหลักร่วมกัน คือการอภิปรายครั้งนี้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด

นายณัฐพงษ์​ ยังกล่าวถึงเหตุผลที่แก้ญัตติจากชื่อนายทักษิณ​ ชินวัตร​ เป็นคำว่าบุคคลในครอบครัวว่า​ สามารถอภิปรายได้กว้างขึ้น ธีมหรือชื่อในการอภิปราย​คือ​ดีลแลกประเทศ ที่เรามองเห็นว่าพรรคเพื่อไทยนำผลประโยชน์ของประเทศแลกกับผลประโยชน์​ของบุคคลในครอบครัวซึ่งเปิดกว้างในการอภิปรายมากขึ้น


ส่วนที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร​เปิดช่องให้ใช้คำว่า​ สทร.​ได้​ นายณัฐพงษ์​ กล่าวว่า ในวันจริงจะยังมีคำอีกหลากหลายแต่คำว่าบุคคลในครอบครัวที่ใส่ไว้​เป็นภาษาเขียนในญัตติที่เป็นคำทางการและ ค่อนข้างมีความเหมาะสม

ทั้งนี้การอภิปรายจะกล่าวถึง บุคคลอื่นในตระกูลชินวัตรอย่างเช่นนางสาวยิ่งลักษณ์​ ชินวัตรด้วยหรือไม่ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า มีความเป็นไปได้​ แต่อยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริงว่าการ จัดตั้งรัฐบาล การดำเนินนโยบาย ของรัฐบาลไม่ได้เอาผลประโยชน์ของประชาชนในประเทศ เป็นตัวตั้งแต่เอาผลประโยชน์ของครอบครัวมากกว่า

เมื่อถามว่าข้อมูลที่ได้จะอภิปรายลึกแค่ไหน นายณัฐพงษ์กล่าวว่าได้ข้อมูลมาหลายส่วน ที่ได้มาลึก และมีที่ไม่เคยเปิดเผยต่อสื่อมวลชนมาก่อน พร้อมยืนยันว่าประชาชนจะได้รับประโยชน์สูงสุด


เมื่อถามว่าหากเทียบกับความผิดของนายกรัฐมนตรีจะถึงขั้นยุบสภาหรือลาออกหรือไม่นายณัฐพงษ์กล่าวว่า​การเล็งเห็นผลมติถอดถอนนายกรัฐมนตรี​เลยคงเป็นไปได้ยาก​ แต่ข้อมูลที่เปิดในการอภิปรายในสภาเชื่อว่าจะใช้เป็นหลักฐานยื่นฟ้องร้องและใช้ในกระบวนการยื่นถอดถอนต่อไปในอนาคตได้หากนายกรัฐมนตรีไม่สามารถชี้แจงได้ชัดเจนหรือไม่สามารถแก้ต่างข้อกล่าวหาได้

เมื่อถามถึงการแบ่งเวลาของพรรคร่วมฝ่ายค้านโดยเฉพาะพลังประชารัฐที่พลเอกประวิตร​ วงษ์สุวรรณ​ หัวหน้าพรรค​ จะเป็นผู้อภิปรายด้วยนายณัฐพงษ์กล่าวว่า สำหรับเวลา ของพรรคร่วมฝ่านค้าน จะมีการแบ่งซึ่งพรรคพลังประชารัฐ แสดงจุดยืนที่จะอภิปรายด้วย แต่เป็นเรื่องภายใน ว่าจะจัดสรรใครอภิปราย

สำหรับคะแนนเสียง ของการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้ง จะเป็น สะท้อนอะไรกับรัฐบาลหรือไม่นายณัฐพงษ์กล่าวว่า จำนวนสิ่งที่จะลงมติจะสะท้อนส่วนสำคัญ ว่ารัฐบาลมีเสถียรภาพมากน้อยขนาดไหน ดังนั้นทุกคะแนนเสียงที่จะโหวตเห็นชอบให้กับนางสาวแพทองธาร​ ชินวัตร​ นายกรัฐมนตรี จะเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถจับตาและประเมินได้ ว่านางสาวแพรทองทานจะสามารถควบคุมเสียงรัฐบาลได้หรือไม่

ส่วนที่ฝ่ายการบอกว่าจะเห็นรอยร้าวของพรรคร่วมรัฐบาบได้​นั้น​นายณัฐ​พงษ์​ กล่าวว่า​ การดำเนินงานของฝ่ายนิติบัญญัติไม่ว่าจะเป็นเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือร่างกฎหมายต่างๆ​ ก็ไม่สามารถเดินหน้าได้​ เมื่อพักร่วมรัฐบาลไม่เอาพรรคเพื่อไทยก็ต้องถอยตาม หลายสิ่งต่างๆ ที่ออกมาทำให้เห็นความไม่ลงรอยของรัฐบาลการ อภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้จะทำให้สังคมเห็นว่าปัญหาของรัฐบาลคือเรื่องนี้จริงๆ ดังนั้นตอนตั้งคำถาม ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ต้องดูว่านายกรัฐมนตรี​ตอบชี้แจงได้หรือไม่มอบให้รัฐมนตรีคนอื่นชี้แจงได้หรือไม่ ซึ่งตนเชื่อว่าบรรยากาศการอภิปรายจะทำให้เห็น จุดนี้มากขึ้น

เมื่อถามถึงม็อบปลาหมอคางดำ มาเทปลาที่ทำเนียบถูกนำไปเปรียบเทียบภาพนายกรัฐมนตรี​นำลูกๆไปเดินเล่นสนามหญ้าหน้าตึกไทย​คู่​ฟ้า​ สะท้อนอะไรหรือไม่ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า คนที่เป็นนายกรัฐมนตรีผู้นำของประเทศสิ่งสำคัญคือการแสดงออกของการรับรู้ความรู้สึกปัญหาของพี่น้องประชาชนเรื่องนี้ไม่ขอให้ความเห็น ว่านายกรัฐมนตรีจะทำภารกิจอะไร แต่สิ่งที่อยากบอกนายกรัฐมนตรี​คือประชาชนมีความเดือดร้อนการแสดงทุกย่างก้าวของนายกฯส่งผลต่อรู้สึกของประชาชน

เมื่อถามถึงกรณีที่นายวิโรจน์​ ลักขณาอดิศร​ สส. บัญชีรายชื่อพรรคประชาชนถูกตำหนิว่าไม่รู้กาลเทศะหลังวิพากษ์วิจารณ์นายกรัฐมนตรี นายณัฐพงษ์กล่าวว่า เป็นสิ่งที่สส.​อาจจะแสดงความโกรธเคืองแทนพี่น้องประชาชนได้​ การ ใช้คำหรือ การแสดงความรู้สึก อาจเกิดขึ้นได้หน้างานแต่การแสดงออกของนายวิโรจน์ คงต้องการแสดงออกถึงการ เป็นตัวแทนประชาชนและรับรู้ปัญหาของประชาชน

เมื่อถามย้ำถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย ออกมากตำหนิว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นการตีกิน​ใช้เวทีสภาเพื่อประโยชน์ทางการเมือง​ นายณัฐพงษ์​ กล่าวว่า​ ไม่อยากให้วิเคราะห์ขนาดนั้น​ ขอรอดูอภิปรายดีกว่าว่าสิ่งที่นำเสนอ มีข้อมูลข้อเท็จจริงอย่างไร.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แม่ “จ.ส.อ.ธวัชชัย” เปลี่ยนความเสียใจเป็นภาคภูมิใจ

มุกดาหาร 27 ก.ค. – แม่ “จ.ส.อ.ธวัชชัย” ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุปะทะไทย-กัมพูชา เปลี่ยนความเสียใจเป็นภาคภูมิใจในตัวลูกชายที่ได้รับใช้ชาติ ที่จังหวัดมุกดาหาร ผู้ว่าราชการจังหวัด เชิญสิ่งของพระราชทานมอบให้ครอบครัว จ.ส.อ.ธวัชชัย บุสภา หรือ จ่าโต๋ ซึ่งเสียชีวิตบริเวณฐานปฏิบัติการฟ้าลั่น (เขาสัตตะโสม) อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จากเหตุปะทะและการยิงถล่มของกัมพูชาบริเวณเนิน 333 แม่ของ จ.ส.อ.ธวัชชัย บอกว่าตอนนี้ตนได้เปลี่ยนจากความเสียใจเป็นภาคภูมิใจในตัวลูกชายในการรับใช้ชาติ อีกทั้งครอบครัวได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถือเป็นบุญของลูกชายและครอบครัว ส่วนน้องชายที่เป็นทหารพรานอยู่ตอนนี้ก็ไม่ถอดใจ ส่วนที่ศาลาประชาคมชาวบ้านห้วยเตย ตำบลศรีสุขสำราญ อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น เชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสาพร้อมใจกันร้องเพลงชาติไทยดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังและส่งกำลังใจให้ทหารทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องรักษาชายแดนไทยและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมเปิดจุดรับบริจาคสิ่งของเพื่อนำส่งความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่และผู้ประสบภัย.-สำนักข่าวไทย

ชายแดนสุรินทร์ยังปะทะหนัก แม้ “ทรัมป์” เสนอเจรจาหยุดยิง

สุรินทร์ 27 ก.ค.-ชายแดนสุรินทร์ยังปะทะหนัก กัมพูชาเปิดฉากยิงใส่แต่เช้ามืด กระสุนบางส่วนตกใส่หมู่บ้านฝั่งไทย ขยายรัศมีไกลขึ้นเรื่อยๆ แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เสนอเจรจาหยุดยิง แม้จะมีการเจรจาหยุดยิงผ่านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา แต่ขณะที่ยังไม่มีการเจรจาทวิภาคี ระหว่างไทย-กัมพูชา เช้ามืดวันนี้ ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ ก็ยังมีการปะทะกันอย่างหนัก จนกระสุนมาตกสร้างความเสียหายให้ราษฎรไทยอย่างที่เห็น“ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านปราสาทตาควายและตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เริ่มเปิดฉากปะทะกันตั้งแต่ช่วงตี 4 กระสุนจากการประทะบางส่วนเข้ามาตกในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งปรากฏกระสุนรุกล้ำดินแดนไทยลึกเข้ามาเรื่อยๆ ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง และมีไฟลุกไหม้ เศษสังกะสี ซีเมนต์ วัสดุโครงสร้างบ้านปลิวกระจัดกระจาย เคราะห์ยังดี ที่เจ้าของบ้านอพยพออกนอกพื้นที่หมดแล้ว เพราะเจ้าหน้าที่ขอร้องให้อพยพออกไปเมื่อวานนี้ จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต บางจุดลงฟาร์มวัววากิว ทำให้วัวตายไป 6 ตัว เจ้าของวัวเล่าว่า ตื่นขึ้นมาก็ได้ยินเสียงลูกปืนใหญ่ของ 2 ฝ่าย และสังเกตเห็นจรวด BM-21 พุ่งเข้ามาที่คอกวัว จึงได้หลบหาที่กำบัง พอเสียงเงียบ ตนก็รีบออกมาดู ก็พบว่า วัวของตนถูกกระสุนตายไป […]

บุรีรัมย์สั่งอพยพชาวบ้านเพิ่ม 3 อำเภอ

บุรีรัมย์ 27 ก.ค.-บุรีรัมย์ ประกาศให้ชาวบ้านอพยพเพิ่มอีก 3 อำเภอ หลังพื้นที่ปะทะและรัศมีอาวุธขยายไปไกลขึ้น ทั้งวัด โรงเรียน ศูนย์พักพิงชั่วคราว และ รพ.อีก 2 แห่ง ต้องอพยพผู้ป่วยด่วน เหลือเพียงหน่วยรับผู้ป่วยฉุกเฉิน ช่วงเวลาบ่าย 2-3 โมง เมื่อวานนี้ ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ มีเสียงปืน เสียงระเบิดดังเป็นระยะ และมีกระสุนปืนใหญ่ ตกในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ จึงประกาศให้ชาวบ้านในพื้นที่ 3 อำเภอ คือ อ.ละหานทราย อ.เฉลิมพระเกียรติ และ อ.โนนดินแดง อพยพไปอยู่ตามบ้านญาติ หรือศูนย์พักพิงที่ห่างไกลจากรัศมีวิถีกระสุนปืนใหญ่ และอาวุธหนัก บางครัวเรือนก็มีลูกหลานมารับออกไปแล้ว ส่วนชาวบ้านที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ทางเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน ก็ได้จัดรถไปช่วยอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่ด้วย ด้าน โรงพยาบาลในพื้นที่ 2 แห่ง คือ รพ.ละหานทราย และ รพ.เฉลิมพระเกียรติ ก็มีการอพยพผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลเช่นกัน รวมถึงให้แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ถอนกำลังออกจากพื้นที่ เหลือไว้แค่หน่วยที่จะรับผู้ป่วยฉุกเฉิน […]

Trump says he is seeking a ceasefire between Thailand, Cambodia

“ทรัมป์” โยงเรื่องการค้ากับหยุดยิงไทย-กัมพูชา

เอดินบะระ 27 ก.ค.-  ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ พูดคุยกับผู้นำของทางการไทยและกัมพูชา โดยโยงเรื่องการเจรจาทางการค้ากับสหรัฐกับเรื่องหยุดยิงของทั้ง 2 ประเทศ ด้านนายกรัฐมนตรีมาเลเซียจะผลักดันข้อเสนอหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ในระหว่างการเยือนสกอตแลนด์เมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ประธานาธิบดีทรัมป์ได้โพสต์ในทรูธโซเชียลที่เป็นสื่อสังคมออนไลน์ของเขาเกี่ยวกับสถานการณ์ไทยและกัมพูชา 3 โพสต์ติดต่อกัน โพสต์แรกระบุว่า ได้หารือทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรี มาเนตกัมพูชาและนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษานายกรัฐมนตรีของไทย เรื่องการหยุดยิงและยุติสงครามที่กำลังดำเนินอยู่ สหรัฐซึ่งกำลังหารือทางการค้ากับทั้ง 2 ประเทศอยู่ในขณะนี้ไม่ต้องการทำข้อตกลงกับประเทศใดประเทศหนึ่งหากยังมีการสู้รบกันอยู่ กัมพูชาจะแสดงท่าทีเรื่องหยุดยิงหลังจากที่เขาได้คำตอบจากไทยในเรื่องนี้ นายทรัมป์ระบุด้วยว่า สถานการณ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาทำให้เขานึกถึงสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างปากีสถานกับอินเดียที่ได้รับการยับยั้งเป็นผลสำเร็จ หลังจากนั้นราว 1 ชั่วโมง ประธานาธิบดีทรัมได้โพสต์ข้อความใหม่ว่า ได้สนทนากับรักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย ฝ่ายไทยต้องการหยุดยิงและสันติภาพเช่นเดียวกับกัมพูชา และหลังจากนั้นไม่นานผู้นำสหรัฐโพสต์ข้อความที่ 3 ว่า เพิ่งเสร็จสิ้นการสนทนากับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาและแจ้งเรื่องที่ได้หารือกับทางการไทย ทั้ง 2 ฝ่ายต้องการหยุดยิงและสันติภาพ และต้องการกลับมาเจรจาทางการค้ากับสหรัฐ โดยตกลงจะพบหารือและหาทางหยุดยิงโดยทันที ด้านนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิมของมาเลเซีย เปิดเผยกับสื่อที่เมืองปุตราจายาเมื่อวานนี้ว่า จะเดินหน้าผลักดันข้อเสนอหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งยังคงมีการยิงปะทะกันอยู่ เขาได้ขอให้รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของมาเลเซียประสานงานกับรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยและกัมพูชา และหากเป็นไปได้ เขาจะเข้าไปประสานงานด้วยตัวเองเพื่อหยุดยั้งการสู้รบ รอยเตอร์รายงานว่า กัมพูชาสนับสนุนข้อเสนอของนายอันวาร์ ส่วนไทยระบุว่า เห็นชอบในหลักการ.-820(814).-สำนักข่าวไทย