“ณัฐพงษ์” เล็งต่อยอดยื่นฟ้องในอนาคต หาก นายกฯ แจง-แก้ต่างไม่ได้

รัฐสภา ​19 มี.ค.-“ณัฐพงษ์” รับยากจะเล็งผล ถอดถอน “นายกฯ” จากเวทีซักฟอก แต่จะต่อยอดยื่นฟ้องในอนาคต หากแจง-แก้ต่างไม่ได้ แนะจับตาคะแนนโหวตสะท้อน “แพทองธาร” คุมเสียงรัฐบาลได้หรือไม่ เชื่อกรอบซักฟอกยังยืดหยุ่นได้ แจงเปลี่ยนจาก “ทักษิณ” เป็น​”บุคคลในครอบครัว” เพื่อเปิดกว้างมากขึ้น รับอาจโยงถึง ​”ยิ่งลักษณ์”

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ​สส. บัญชีรายชื่อ​หัวหน้าพรรคประชาชน​ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร​ ย้ำจุดยืนอยากให้การอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นไปด้วยความราบรื่น และได้ข้อสรุปเรื่องกรอบเวลา และกติกา ในการหักเวลาระหว่างกัน เช่นการประท้วง ควรหักเวลาของแต่ละฝ่ายเพื่อไม่ให้กินเวลาฝ่ายอื่น ตอนนี้ สิ่งที่คาดหวังคือวิป3ฝ่านจะหาข้อสรุปตรงกันได้​


ส่วนที่รัฐบาลกำหนดไว้ให้ฝ่ายค้าน 23 ชั่วโมงนั้นนายณัฐพงษ์​ เชื่อว่ายังปรับยืดหยุ่นได้ และสิ่งสำคัญไม่แพ้กันคือการเซ็ตกรอบจำนวนวันที่ควรจะต้องทำให้เกิดประสิทธิภาพในการประชุมมากที่สุด เช่นไม่ควรเลิกดึกเกินไป คนที่จะตอบข้อชี้แจง อย่างนายกรัฐมนตรีอาจตอบอย่างไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอหากวันสุดท้ายต้องเลิกใกล้เที่ยงคืน​ นายกรัฐมนตรีอาจจะรวบรวมประเด็นได้ไม่หมด รวมถึงประชาชนที่อยู่ที่บ้านอาจฟังไม่ทั่วถึง ดังนั้นถ้ารัฐบาลเปิดกว้าง อภิปรายอย่างตรงไปตรงมา ต้องให้ประชาชนที่ฟังทางบ้านเข้าใจข่าวสารมากที่สุดและหลักร่วมกัน คือการอภิปรายครั้งนี้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด

นายณัฐพงษ์​ ยังกล่าวถึงเหตุผลที่แก้ญัตติจากชื่อนายทักษิณ​ ชินวัตร​ เป็นคำว่าบุคคลในครอบครัวว่า​ สามารถอภิปรายได้กว้างขึ้น ธีมหรือชื่อในการอภิปราย​คือ​ดีลแลกประเทศ ที่เรามองเห็นว่าพรรคเพื่อไทยนำผลประโยชน์ของประเทศแลกกับผลประโยชน์​ของบุคคลในครอบครัวซึ่งเปิดกว้างในการอภิปรายมากขึ้น


ส่วนที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร​เปิดช่องให้ใช้คำว่า​ สทร.​ได้​ นายณัฐพงษ์​ กล่าวว่า ในวันจริงจะยังมีคำอีกหลากหลายแต่คำว่าบุคคลในครอบครัวที่ใส่ไว้​เป็นภาษาเขียนในญัตติที่เป็นคำทางการและ ค่อนข้างมีความเหมาะสม

ทั้งนี้การอภิปรายจะกล่าวถึง บุคคลอื่นในตระกูลชินวัตรอย่างเช่นนางสาวยิ่งลักษณ์​ ชินวัตรด้วยหรือไม่ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า มีความเป็นไปได้​ แต่อยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริงว่าการ จัดตั้งรัฐบาล การดำเนินนโยบาย ของรัฐบาลไม่ได้เอาผลประโยชน์ของประชาชนในประเทศ เป็นตัวตั้งแต่เอาผลประโยชน์ของครอบครัวมากกว่า

เมื่อถามว่าข้อมูลที่ได้จะอภิปรายลึกแค่ไหน นายณัฐพงษ์กล่าวว่าได้ข้อมูลมาหลายส่วน ที่ได้มาลึก และมีที่ไม่เคยเปิดเผยต่อสื่อมวลชนมาก่อน พร้อมยืนยันว่าประชาชนจะได้รับประโยชน์สูงสุด


เมื่อถามว่าหากเทียบกับความผิดของนายกรัฐมนตรีจะถึงขั้นยุบสภาหรือลาออกหรือไม่นายณัฐพงษ์กล่าวว่า​การเล็งเห็นผลมติถอดถอนนายกรัฐมนตรี​เลยคงเป็นไปได้ยาก​ แต่ข้อมูลที่เปิดในการอภิปรายในสภาเชื่อว่าจะใช้เป็นหลักฐานยื่นฟ้องร้องและใช้ในกระบวนการยื่นถอดถอนต่อไปในอนาคตได้หากนายกรัฐมนตรีไม่สามารถชี้แจงได้ชัดเจนหรือไม่สามารถแก้ต่างข้อกล่าวหาได้

เมื่อถามถึงการแบ่งเวลาของพรรคร่วมฝ่ายค้านโดยเฉพาะพลังประชารัฐที่พลเอกประวิตร​ วงษ์สุวรรณ​ หัวหน้าพรรค​ จะเป็นผู้อภิปรายด้วยนายณัฐพงษ์กล่าวว่า สำหรับเวลา ของพรรคร่วมฝ่านค้าน จะมีการแบ่งซึ่งพรรคพลังประชารัฐ แสดงจุดยืนที่จะอภิปรายด้วย แต่เป็นเรื่องภายใน ว่าจะจัดสรรใครอภิปราย

สำหรับคะแนนเสียง ของการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้ง จะเป็น สะท้อนอะไรกับรัฐบาลหรือไม่นายณัฐพงษ์กล่าวว่า จำนวนสิ่งที่จะลงมติจะสะท้อนส่วนสำคัญ ว่ารัฐบาลมีเสถียรภาพมากน้อยขนาดไหน ดังนั้นทุกคะแนนเสียงที่จะโหวตเห็นชอบให้กับนางสาวแพทองธาร​ ชินวัตร​ นายกรัฐมนตรี จะเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถจับตาและประเมินได้ ว่านางสาวแพรทองทานจะสามารถควบคุมเสียงรัฐบาลได้หรือไม่

ส่วนที่ฝ่ายการบอกว่าจะเห็นรอยร้าวของพรรคร่วมรัฐบาบได้​นั้น​นายณัฐ​พงษ์​ กล่าวว่า​ การดำเนินงานของฝ่ายนิติบัญญัติไม่ว่าจะเป็นเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือร่างกฎหมายต่างๆ​ ก็ไม่สามารถเดินหน้าได้​ เมื่อพักร่วมรัฐบาลไม่เอาพรรคเพื่อไทยก็ต้องถอยตาม หลายสิ่งต่างๆ ที่ออกมาทำให้เห็นความไม่ลงรอยของรัฐบาลการ อภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้จะทำให้สังคมเห็นว่าปัญหาของรัฐบาลคือเรื่องนี้จริงๆ ดังนั้นตอนตั้งคำถาม ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ต้องดูว่านายกรัฐมนตรี​ตอบชี้แจงได้หรือไม่มอบให้รัฐมนตรีคนอื่นชี้แจงได้หรือไม่ ซึ่งตนเชื่อว่าบรรยากาศการอภิปรายจะทำให้เห็น จุดนี้มากขึ้น

เมื่อถามถึงม็อบปลาหมอคางดำ มาเทปลาที่ทำเนียบถูกนำไปเปรียบเทียบภาพนายกรัฐมนตรี​นำลูกๆไปเดินเล่นสนามหญ้าหน้าตึกไทย​คู่​ฟ้า​ สะท้อนอะไรหรือไม่ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า คนที่เป็นนายกรัฐมนตรีผู้นำของประเทศสิ่งสำคัญคือการแสดงออกของการรับรู้ความรู้สึกปัญหาของพี่น้องประชาชนเรื่องนี้ไม่ขอให้ความเห็น ว่านายกรัฐมนตรีจะทำภารกิจอะไร แต่สิ่งที่อยากบอกนายกรัฐมนตรี​คือประชาชนมีความเดือดร้อนการแสดงทุกย่างก้าวของนายกฯส่งผลต่อรู้สึกของประชาชน

เมื่อถามถึงกรณีที่นายวิโรจน์​ ลักขณาอดิศร​ สส. บัญชีรายชื่อพรรคประชาชนถูกตำหนิว่าไม่รู้กาลเทศะหลังวิพากษ์วิจารณ์นายกรัฐมนตรี นายณัฐพงษ์กล่าวว่า เป็นสิ่งที่สส.​อาจจะแสดงความโกรธเคืองแทนพี่น้องประชาชนได้​ การ ใช้คำหรือ การแสดงความรู้สึก อาจเกิดขึ้นได้หน้างานแต่การแสดงออกของนายวิโรจน์ คงต้องการแสดงออกถึงการ เป็นตัวแทนประชาชนและรับรู้ปัญหาของประชาชน

เมื่อถามย้ำถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย ออกมากตำหนิว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นการตีกิน​ใช้เวทีสภาเพื่อประโยชน์ทางการเมือง​ นายณัฐพงษ์​ กล่าวว่า​ ไม่อยากให้วิเคราะห์ขนาดนั้น​ ขอรอดูอภิปรายดีกว่าว่าสิ่งที่นำเสนอ มีข้อมูลข้อเท็จจริงอย่างไร.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สร้อยเพชรโลตัส

2 รัฐมนตรี “พิชัย” ปฏิเสธ ลั่นไม่เกี่ยวรับจำนำสร้อยเพชรโลตัส

2 รัฐมนตรี “พ” ยืนยันไม่รู้เรื่องสร้อยเพชรเส้นเดียวในโลกของ เมย์-วาสนา หลังมีข่าว ดิว-อริสรา เอาไปจำนำกับรัฐมนตรีอักษรย่อ “พ”

รอง ผบก.ป.เผยพร้อมออกหมายจับ “ดิว” หากมีพฤติกรรมหลบหนี

รอง ผบก.ป. ระบุจ่อพิจารณาออกหมายจับ “ดิว” หากมีพฤติกรรมหลบหนี ส่วนผู้ครอบครองทรัพย์สิน หากไม่ส่งทรัพย์สินคืนเป็นของกลาง เสี่ยงผิด รับของโจร

ตม.เผยมีการประสานขอข้อมูล “ดิว” บินออกนอกประเทศ

ตม.เผยมีการประสานขอข้อมูล “ดิว อริสรา” บินออกนอกประเทศ พร้อมคุมตัวตามขั้นตอนหากพบผู้ถูกกล่าวหาเดินทางเข้าไทย

สพฐ.สั่งเด้ง ผอ.รร.ในกาฬสินธุ์ ถูกร้องเรียนมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม

สพฐ.สั่งเด้ง ผอ.โรงเรียนในจังหวัดกาฬสินธุ์และ ผอ.เขตพื้นที่ฯ เข้า สพฐ.ชั่วคราว หลังถูกร้องเรียน ผอ.โรงเรียน มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับครูในโรงเรียน

ข่าวแนะนำ

อนุมัติงบกำจัดปลาหมอคางดำ

นายกฯ อนุมัติงบ 98 ล้านบาท เร่งกำจัดปลาหมอคางดำอีก 3 ล้านกิโลกรัม

รมช.อัครา เผย นายกฯ อนุมัติงบประมาณ 98 ล้านบาท กำจัดปลาหมอคางดำเพิ่มเติมอีก 3 ล้านกิโลกรัม ย้ำกรมประมงดำเนินการแก้ไขปัญหาต่อเนื่อง มั่นใจสถานการณ์จะดีขึ้นตามลำดับ

ภูมิธรรมกลับไทย

“ภูมิธรรม” พร้อมคณะกลับถึงไทย หลังเยี่ยมชาวอุยกูร์รวม 15 คน

“ภูมิธรรม” พร้อมคณะกลับถึงไทย หลังเยี่ยมชาวอุยกูร์รวม 15 คน ที่เมืองซินเจียง หลังจากนี้มอบหมายทูตไทยประจำกรุงปักกิ่ง เยี่ยมกลุ่มคนที่เหลือให้เกิดความมั่นใจ ขอบคุณรัฐบาลจีนอำนวยความสะดวก

นักแสดงอาวุโส “สีดา พัวพิมล” เสียชีวิต

วงการบันเทิงสูญเสียนักแสดงอาวุโส “สีดา พัวพิมล” เสียชีวิต ในวัย 70 ปี เผยวงจรปิดเดินเข้าอพาร์ตเมนต์ตั้งแต่ 17 มี.ค. และไม่ออกมาอีก

รวบหนุ่มจีนใช้แอปฯ หาคู่ ตระเวนหลอกฉกทรัพย์เหยื่อ

เตือนภัยแอปฯ หาคู่ หลังตำรวจเชียงใหม่ ตามรวบหนุ่มจีนวัย 31 ปี คาสนามบิน ก่อเหตุลวงเหยื่อผ่านแอปฯ หาคู่ เข้าโรงแรมฉกทรัพย์ ก่อนหลบหนี สอบสวนพบตระเวนก่อเหตุมาแล้วหลายประเทศแถบเอเชีย