“ภูมิธรรม” ขอหยุดใช้ความเชื่อของตัวเอง ทำประเทศขาดความเชื่อมั่น

ทำเนียบ 3 มี.ค.-“ภูมิธรรม” ย้อนถามแรง ต้องให้มีวางระเบิด-บ้านเมืองถูกทำลายใช่ไหม ถึงจะสะใจ ขอหยุดใช้ความเชื่อของตัวเอง ทำให้ประเทศขาดความเชื่อมั่น ปมวิจารณ์ส่งชาวอุยกูร์กลับจีน ย้ำทางการจีนยินดีให้ตรวจสอบ สื่อไหนอยากไปเชิญได้เลย ยืนยันชัดคุยหมดแล้วไม่มีประเทศที่ 3 ต้องการรับไปดูแลต่อ ระบุฝ่ายค้านอภิปรายได้แต่ต้องเอาหลักฐานข้อเท็จจริงมาพูด

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีสถานการณ์ความมั่น หลังมีการส่งตัวชาวอุยกูร์กลับประเทศจีนได้มีการกำชับการดูแลอย่างไรบ้างหรือไม่ ว่า เรื่องนี้ต้องเริ่มต้นจากความจริง ไม่ใช่เริ่มต้นจากความเชื่อ เชื่อว่าเดี๋ยวจะมีระเบิด เราจะเชื่อไปได้เรื่อยๆ จินตนาการไปได้มากมาย แล้วจะไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ ในแง่ของฝ่ายความมั่นคง มีเรื่องนี้หรือไม่มีเราระมัดระวังอยู่แล้ว ก็เป็นหน้าที่ของหน่วยต่างๆที่เกี่ยวข้อง ตอนนี้ตนว่าพรรคฝ่ายค้าน หรือองค์กรสิทธิมนุษยชน กำลังมองด้วยจินตนาการ ย้อนหลังไปเป็น 10 ปี ตนไม่อยากพูดอะไรมากเพราะเป็นหน้าที่ของประเทศจีนที่ต้องชี้แจง แต่วันนี้บ้านเมืองเปลี่ยนแปลงไปเยอะมากแล้ว การแก้ไขปัญหาของประเทศจีนวันนี้ ไม่มีอะไรที่จะไปโจมตีเขาได้ ซึ่งประเทศอื่นภาวะเศรษฐกิจก็มีปัญหา แต่ประเทศจีนก็สามารถแก้ปัญหาของเขาได้ ซึ่งเรื่องของชาวอุยกูร์ ไม่ใช่เรื่องของความเชื่อที่ว่า เขาถูกส่งกลับไปแล้วจะมีเหตุการณ์เกิดขึ้น


แต่ประเด็นในเรื่องนี้ เราละเมิดสิทธิของเขา จึงต้องมีการจัดการปัญหา และเมื่อวานนี้ทางสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ได้มีการออกหนังสือ ออกมาให้ดู ซึ่งเป็นหนังสือที่เค้ายื่นให้กับประเทศ เป็นหนังสือทางการทูต ที่ยืนยันได้ชัดเจนตามหลักการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และการเมืองระหว่างประเทศ หนังสือฉบับนั้นได้พูดชัดเจน ในนามรัฐบาลจีน และเรายังได้รับความมั่นใจว่า เขาอยากขอตัวชาวอุยกูร์ เพราะไม่มีประเทศที่3 ถ้าใครบอกว่ามีก็ให้มาพูดคุย ที่ได้ดำเนินการทั้งหมดในเรื่องของประเทศที่3 นั้น แม้กระทั่งที่ตนได้พูดกับต่างประเทศไป ก็ได้ดำเนินการไปแล้ว เพราะว่าทางจีน ได้มาแสดงตัวว่าพลเมืองเหล่านั้น เป็นประเทศของเขา และจะขอรับตัวคืน ซึ่งเราก็รอมาแล้ว 10 กว่าปี ถ้าทำอะไรไม่ได้ก็ให้หาประเทศที่3 ซึ่งตนได้พูดกับประเทศใหญ่ๆ แต่ไม่เห็นมีใครบอกว่า “ ฉันเอาแน่นอน” เมื่อมันไม่มี กระบวนการก็ต้องเดินไปตามระบบ ดังนั้นหลายๆเรื่องอย่าเอาความเชื่อของตน มาพูดและคำนึงถึงหลักปรัชญาบางอย่าง แล้วมาทำร้ายประเทศตัวเอง ตนขอร้องถ้าจะทำแบบนั้นจริงๆ ควรทำแบบสส.พรรคประชาชน ที่มายื่นหลักฐานเรื่องของโรงพยาบาลทหารผ่านศึกถึงตนที่มีการทุจริต เอารูปธรรมแบบนั้นมาแล้วการแก้ปัญหา ไม่ใช่พูดไปเรื่อยเปื่อย พูดให้เกิดความหวาดกลัว ตนคิดว่าเรื่องนี้อยู่ที่ความจริง ซึ่งกระบวนการที่ทางจีนได้ยอมรับ คือเราสามารถไปตรวจสอบชาวอุยกูร์ได้เป็นระยะ ในเมื่อทางการจีนไม่กลัวและให้ตรวจสอบ เราจะมากลัวว่าจะมาตายได้อย่างไร ลงจากเครื่องขึ้นเครื่องก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ที่วุ่นวาย ตอนลงจากเครื่องก็ไม่ได้มีพันธนาการ ก็เดินลงมาดีๆ แม้จะมีการเชื่อว่า เป็นเรื่องการจัดฉาก แต่สื่อในโลกนี้ไม่ใช่เป็นสื่อในโลกดึกดำบรรพ์ หรืออยู่ในเกาะ ก็ไปดูกันได้ ประเทศจีนในเมืองซินเจียงก็ไม่ได้มีอะไรปิดกั้น อยากไปทำข่าวคุณก็ไปเลย และเราก็บอกว่าหลังจากนี้ 15 วัน จะมีรัฐมนตรีเดินทางไปเยี่ยม สื่อมวลชนใครอยากไปก็สามารถติดต่อประสานงานไปได้เลย ตนก็อาจจะเดินทางไปเองก็ได้ เมื่อทางรัฐมนตรีเดินทางไปดูแล้วเราก็ยังจะให้สถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงปักกิ่ง ไปดูเป็นระยะ

“จะเอายังไงอีก หรือจะเอาให้บ้านเมืองนี้ถูกทำลาย จะต้องมีการวางระเบิด ถึงจะสะใจ ผมว่าเอาความจริงอย่าเอาความเชื่อของตัวเอง ไปจินตนาการไปสร้างปัญหาให้กับประเทศ ผมว่าพอได้แล้วไม่ว่าจะเป็นคุณทั้งหลายทั้งปวง ที่ไปออกทีวีตอนนี้ คุณอยากเห็นประเทศมีปัญหาหรืออย่างไร วันนี้เราทำเพื่อลดภาระเรา เราจัดการได้ควรจะดีใจ ไม่ใช่ควรมานั่งตั้งคำถามว่า อันนี้จะเกิดจากป้องกันอย่างไร ก็คิดอะไรได้ 108 นิวเคลียร์จะลงก็คิดได้ คิดให้หวาดผวา ให้ประเทศขาดความเชื่อมั่น ทำให้ประเทศมีปัญหาต่อไป ทำแล้วสบายใจเลยครับ” นายภูมิธรรม กล่าว


เมื่อถามว่า นายกัณวีร์ สืบแสง สส.พรรคเป็นธรรม จะนำเรื่องนี้มาอภิปรายนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็เอาหลักฐานมาว่า เขาตายมีรูปเขาถูกทำร้ายร่างกายลงไปแล้ว ถึงบ้านแล้วถูกนู่นนี่ ก็เอาหลักฐานมาคุย อย่าเอาความเชื่อมาอภิปราย หากเอาความเชื่อมาอภิปรายเราไม่ตอบ

ส่วนกรณีที่ ญี่ปุ่นและสหรัฐ ออกประกาศเตือนพลเมืองให้คนของตัวเอง ระมัดระวังในการเดินทางมาประเทศไทย นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็เป็นสิทธิ์ ตนคิดว่าก็เป็นไปได้ที่แต่ละประเทศ อาจจะไม่สบายใจ เขาจึงเตือนคนของเขาซึ่งเราก็เตือนอยู่บ่อยๆ เวลามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น เขาก็มีสิทธิ์เตือน แต่ความเป็นจริงมันก็จะซัดขึ้นเรื่อยๆ ว่าเขาไปแล้ว เขาไม่ได้เป็นอะไร เราเป็นห่วงอะไรแทนเขา

เมื่อถามย้ำว่าหน่วยงานความมั่นคงจะต้องมีความห่วงใยอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า หน่วยงานความมั่นคงรับผิดชอบ ในเรื่องนี้ก็ทำหน้าที่ต่อเนื่องไม่เคยละเว้น หรือประมาท.-316.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“วัดพระบาทน้ำพุ” แจงเงินวัด เข้าแล้วออกไปไหน

ลพบุรี 8 ส.ค. – หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ก็มีเสียงสะท้อนออกมาหลายแง่มุม ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินวัดที่มีการเปิดรับบริจาค และการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี ว่ายังมีความจำเป็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

บุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.-กำนัน ทุจริตที่ดินเอื้อนายทุน

สระบุรี 8 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” นำกำลังบุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.สระบุรี-กำนัน ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 600-700 ไร่ เอื้อประโยชน์นายทุนสร้างบ้านพักหรู พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเข้าจับกุมนายวิชยุตม์ อายุ 42 ปี นายช่างสำรวจชำนาญงาน ขณะกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องทำงาน ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี และนายสิปปกร อายุ 57 ปี กำนัน ต.หนองย่างเสือ อ.หมวกเหล็ก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับร่วมกันกระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ หลังพบใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้าบุกรุกหรือครอบครองที่ป่าไม้ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบคาเฟ่ รีสอร์ตหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างบุกรุกผืนป่า จึงเร่งขยายตรวจสอบที่ไปที่มาของการเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว กระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ด้วยการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เพื่อใช้อ้างสิทธิเข้าครอบครอง […]

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]

“บุ๋ม ปนัดดา” พร้อมชน “มาลี”

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – ฮือฮาและเป็นที่พูดถึงอย่างมาก สำหรับการแต่งตั้ง “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” นั่งโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา ด้าน “บุ๋ม” เปิดใจ เป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา พร้อมชน “มาลี” ลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์.-สำนักข่าวไทย