บุรีรัมย์ 20 ธ.ค.- “ทรงศักดิ์” ฮึ่ม รฟท. ก้าวล่วงสิทธิ์ประชาชน ชาวบ้านกว่า 400 คน ปรบมือแช่งคิดจะฮุบเขากระโดง บอกอธิบดีกรมที่ดิน หากถูกฟ้อง พร้อมไปเป็นจำเลยร่วม ขณะ สส.บุรีรัมย์ ภูมิใจไทย ซัดทุกเลือกตั้งถูกขุดประเด็นเขย่าการเมือง หวังตี “เนวิน” ฟาด “วิโรจน์” มั่ว กล่าวหาย้ายหลักกิโล สร้างค่ายทหาร ร้อนถึงพระเจ้าอาวาสโอด ถ้าลากเส้นตามแนวร ฟท. จะส่งผลกระทบอย่างมาก เพราะเป็นจุดไว้ใช้เผาศพ
นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบกว่า 400 คน เข้าร่วม ประชุมสัมมนา เชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับการ สร้างความรู้ความเข้าใจ เรื่องที่ดินเขากระโดงที่กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ 1 ว่า วันนี้พยายามนำข้อเท็จจริงมาสะท้อนปัญหาให้เห็นถึงข้อพิพาท เรื่องที่ดินเขากระโดง ซึ่งเป็นประเด็นไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เมื่อก่อนไม่ค่อยมีคนให้ความสนใจ พี่ตนต้องพูดอย่างนี้ เพราะเป็นคนบุรีรัมย์เหมือนกัน เป็นคนบุรีรัมย์เกิดมาก็เห็นเขากระโดง เห็นประชาชนอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว เห็นถนนมาจากประโคนชัยมายังบุรีรัมย์ไปมาหาสู่กัน ซึ่งเป็นคนในจังหวัดเดียวกัน และเป็นประเด็นผิดพลาดมาจะเป็นเรื่อง มีคนเข้าใจกันคลาดเคลื่อน มากมายไม่ว่าจะเป็นเรื่องของที่ดิน ของการรถไฟหรือไม่ และมีข่าวที่ออกไป จนเป็นประเด็นปัญหาทำให้เกิดความเสียหายต่อประชาชน
นายทรงศักดิ์ ยังระบุอีกว่า จากการรับฟังประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ 5,000 ไร่ รวมไปถึงศูนย์ราชการและวัดที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าว หากฟังทั้งหมดตนเข้าใจว่า เหมือนการรถไฟจะไปก้าวล่วงสิทธิ์ของประชาชน ตนเชื่ออย่างนี้ เพราะการได้มาซึ่งที่ดินของการรถไฟมีกฎหมายเฉพาะ ซึ่งไม่น่าจะเป็นที่ดินของการรถไฟ เป็นที่ดินที่มีความพิพาทเรื่องของความคิดเห็นประชาชนที่รับฟังจากสื่อมวลชน ที่นำเสนอ น่าจะมีความเข้าใจไปในทำนองว่าประชาชนไปอยู่ในที่ของการรถไฟเพราะฉะนั้นวันนี้ถือเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์ ที่ทางกรมที่ดินและผู้ว่าราชการจังหวัด และส่วนราชการได้เชิญประชาชน ที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งถือว่าเป็นผู้มีส่วนได้เสีย มาพบกัน หลายคนก็แสดงเอกสารสิทธิ์ที่เป็นโฉนด ซึ่งบางคนเห็นได้ว่าโฉนดเก่ามากแทบขาด
นายทรงศักดิ์กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการให้กำกับดูแลกรมที่ดิน ตนเน้นย้ำกับอธิบดีอยู่เสมอว่าเริ่มพิพาทที่เป็นการริดรอนสิทธิแบบนี้ จะต้องมีหลักฐาน ที่หนีบข้อมูล ต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดเพราะกระทบกับสิทธิ์ของประชาชนไม่ใช่น้อย 5,000 กว่าไร่ 900 กว่าแปลง และต้องทำให้เกิดความชัดเจนและย้ำเน้นอยู่เสมอ เพิ่งจะนำมาสู่ การนำเอกสารสิทธิ์ดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ในเรื่องของทุน วันนี้พอมีเรื่องข่าวของความไม่ชัดเจนเรื่องที่ดินทำให้ประชาชนที่ถือเอกสารสิทธิ์ ไม่มีความมั่นใจ พร้อมกับระบุว่าการไถ่ถอนเอกสารสิทธิ์จากธนาคารหากต้องการยื่นต่อธนาคารอีกครั้งเราจะทำต่ออีกไม่ได้ เนื่องจากธนาคารจะไม่รับเอกสารที่ดินที่มีกรณีพิพาท ถือว่าจำเป็นต้องเร่งรัดเพื่อให้เกิดความชัดเจน
ด้านนายสนอง เทพอักษรณรงค์ สส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีข้อพิพาทเขากระโดง ว่า ส่วนตัวตนเชื่อว่าไม่มีพี่น้องชาวบุรีรัมย์คนใดคิดจะโกงที่ดินของราชการ เพราะตนเป็นจังหวัดบุรีรัมย์เห็นความเจริญของพื้ยงนที่มาโดยตลอด และตนมีโอกาสได้ดข้าร่วมประชุมที่บ้านศิลาทอง โดยให้พี่น้องที่ถือครองที่ดิน นำโฉนดที่ตนถือครองมาแสดง ซึ่งทำให้เห็นว่าโฉนดที่ดินที่พี่น้องถือครองอยู่นั้นเป็นเอกสิทธิ์ตามกฎหมาย ที่ออกโดยกรมที่ดิน และโฉนดของพี่น้องบางคน ถือครองมาตั้งแต่ในสมัย ปู่ ย่า ตา ยาย
นายสนอง กล่าวต่อว่า เรื่องที่ดินเขากระโดง สำคัญคือเรื่องการเมือง ทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง สมัยก่อนมีก็มักจะมีนักการเมือง นำเรื่องเขากระโดงมาหาเรื่อง และมาโจมตีผู้ที่ครอบครองที่ดินโดยเฉพาะ นายเนวิน ชิดชอบ และเมื่อการเลือกตั้งเสร็จทุกอย่างก็เงียบ และขอยืนยันด้วยความบริสุทธิ์ว่าประชาชนที่อยู่อาศัยได้รับโฉนดได้รับเอกสารสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนพอดี 35 แปลงที่ศาลมีคำสั่ง กรมที่ดินก็ทำตามคำสั่งของศาลไปแล้ว แต่อีก 7,000 แปลงที่เกิดขึ้นมาใหม่ ไปเกี่ยวข้องอะไรด้วย
ส่วนที่คณะกรรมาธิการทหาร นำโดยนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส. บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ในฐานะคณะกรรมาธิการทหาร ออกมาระบุว่า มทบ.26 เลี่ยงการ ก่อสร้างในที่ดินบริเวณเขากระโดง โดยออกมาระบุว่าเป็นการเลื่อนหลักกิโลเพื่อช่วยเหลือคนบางคนให้ครอบครองที่ดินโดยการจัดตั้งค่ายทหาร ว่า ค่ายทหารไม่ได้อยู่ที่กิโลเมตรที่ 7-8 ไม่ใช่กิโลเมตร แต่อยู่ที่กิโลเมตรที่ 4 แต่เมื่หน่วยงานทหานมาชี้แจงข้อเท็จจริง ทำให้ นายวิโรจน์ เงียบไป เพราะไม่ใช่สิ่งที่ นายวิโรจน์ มากล่าวอ้าง
นายสนอง กล่าวย้ำว่า พวกเราทั้งหมดเราไม่เคยบุกรุกที่หลวง ที่การรถไฟ แต่เป็นที่ดินที่เรามีนส. 3 มีเอกสารสิทธิ์ ที่เราครอบครอง ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันคนบุรีรัมย์เคารพกฎกติกาและทำตามกฎหมายทุกประการ
ขณะที่นายทิวา การกระสัง ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า การสำรวจพื้นที่เขากระโดงตามพระราชกฤษฎีกาปี 2462 ถึงปี 2463 ถูกยกเลิกไปแล้วตามพระราชกฤษฎีกาปี 2464 แสดงให้เห็นว่ากฎหมายทั้งสองฉบับไม่ใช่กฎหมายที่จะให้ที่ดินดังกล่าวเป็นสิทธิ์ของการรถไฟฯ ฉะนั้น จะมาบอกว่าที่ดินตรงนี้เป็นของการรถไฟฯได้อย่างไร วันนี้ตนจะมาทำให้เห็นว่าพวกที่นั่งทางในอยู่ที่กรุงเทพฯ ที่บอกว่าเป็นที่ของการรถไฟฯจริงๅแล้วเป็นอย่างไร
นายทิวา กล่าวว่า ตอนที่จะมีการวางรางรถไฟมีการเขียนแผนที่ไว้ก่อนว่าทางรถไฟจะออกไปทางไหนผ่านที่ไหนบ้าง ซึ่งทางผ่านจังหวัดบุรีรัมย์มีการเขียนแผนที่ส่วนแยกไว้สองส่วน คือส่วนแยกเขากระโดงกับส่วนแยกบ้านตะโก ซึ่งเขียนไว้ก่อนที่จะมีการสำรวจในปี 2462 แต่เพิ่งมีการเริ่มอ้างสิทธิ์ในปี 2517
“เรื่องเขากระโดงทุกคนต่างอ้างตัวหนังสือ ตะแบงเอากฎหมายใกล้เคียงมาตัดสิน โดยไม่มองความเป็นธรรม และความยุติธรรมของพวกเราเลย“ นายทิวา ระบุ
จากนั้น นายทิวา ได้ให้ชาวบ้านปรบมือแช่งการรถไฟฯที่จะมาเอาที่ดินเขากระโดง ขณะเดียวกันให้ชาวบ้านปรบมือให้กับอธิบดีกรมที่ดิน เพราะถ้าไม่มีอธิบดีท่านนี้ชาวบ้านคงไม่มีที่อยู่กันแล้ว พร้อมบอกว่าถ้าอธิบดีกรมที่ดินถูกฟ้อง ก็ขอให้แจ้งในชาวบ้าน เพราะเราจะไปเป็นจำเลยด้วยกัน.-319 -สำนักข่าวไทย