กมธ.ความมั่นคง ถกปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14

รัฐสภา 7 พ.ย.- กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐ ถกปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 ไร้เงา “บิ๊กโจ๊ก-เสรีพิศุทธ์” ด้านอดีตรองนายแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ บอก ไม่ทราบรายละเอียดรักษา “ทักษิณ” อยู่ระหว่างลาพักร้อน เตรียมเออร์รี่ฯ รับ มีผู้ต้องขังมารักษาตัว แต่ไม่ทราบมีการบันทึกภาพหรือไม่ ขณะกรมราชทัณฑ์ ยัน การส่งตัวรักษาเป็นไปตามกฎกระทรวง


คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ ที่มีนายรังสิมันต์ โรม เป็นประธาน ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการรักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ มาชี้แจง

โดยมีผู้เข้าร่วมชี้แจง คือ พลตำรวจตรี สรวุฒิ เหล่ารัตนวรพงษ์ อดีตรองนายแพทย์ใหญ่ โรงพยาบาลตำรวจ และนายแพทย์ วัฒน์ชัย มิ่งบรรเจิดสุข ผู้อำนวยการทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ขณะที่ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แจ้งว่าจะมาชี้แจง แต่เมื่อถึงเวลาประชุม ไม่เดินทางมาและเจ้าหน้าที่ไม่สามารถติดต่อได้


สำหรับผู้ที่แจ้งว่าไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้ คือ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียาเวช ,พลตำรวจโทโสภณรัชต์ สิงหจารุ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพลตำรวจโททวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ แต่จะส่งเอกสารประกอบการพิจารณาภายหลัง

นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส. พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมาธิการ หารือว่า การประชุมวันนี้ได้รับความสนใจ ขอเปิดให้สื่อมวลชนทำข่าวได้ตลอด เพื่อไม่ก่อให้เกิดความสงสัย และจะได้ไม่เป็นการปกปิดในสิ่งที่ทุกคนอยากรู้เช่นกัน ซึ่งนายโรม บอกว่า เป็นความตั้งใจที่จะให้เปิดให้รับฟัง แต่ผู้ชี้แจงก็อาจจะมีความกังวลในเรื่องของความมั่นคง แต่เมื่อมีผู้เสนอ จึงคิดว่าวันนี้จะเปิดให้สื่อมวลชนได้รับฟัง

นายประยุทธ์ ย้ำว่า เป็นเรื่องของผู้ป่วยคนหนึ่ง ถ้าเปิดเผยก็ไม่น่าจะกระทบอะไร ผู้ชี้แจงก็ไม่น่าจะปิดบัง หรือเป็นประเด็นที่ต้องเก็บไว้เป็นความลับ ผู้ป่วยคนหนึ่งไม่ว่าจะเป็นนายทักษิณ หรือไม่ว่าจะเป็นใคร ก็เปิดเผยได้ เรื่องของความมั่นคงนั้นคงไม่เกี่ยว


ทั้งนี้เมื่อเริ่มประชุม พลตำรวจตรีสรวุฒิ เหล่ารัตนวรพงษ์ อดีตรองนายแพทย์ใหญ่ โรงพยาบาลตำรวจ กล่าวว่า ในการทำงาน ตนเองทำหน้าที่เป็นรองแพทย์ใหญ่รับผิดชอบงานด้านการเงินและบัญชี ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลผู้ป่วยนั้นไม่ทราบ เพราะช่วงนั้นกำลังทำเรื่องยื่นเออร์รี่รีไทร์ และกำลังยื่นลาพักผ่อน ซึ่งภารกิจของโรงพยาบาลตำรวจ อย่างกรณีทั่วไป หากเจ้าหน้าที่ส่งตัวมาเมื่อเรารักษาเสร็จก็จะส่งตัวกลับ ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาวะของผู้ป่วยที่ดูแลอยู่

นายแพทย์ วัฒน์ชัย มิ่งบรรเจิดสุข ผู้อำนวยการทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์มีเรือนจำทั้งหมด 143 แห่ง ซึ่งภารกิจคือดูแลผู้ต้องขังที่ป่วยของกรมราชทัณฑ์ 7 แห่งในกรุงเทพมหานคร โดยถ้าผู้ป่วยมีอาการวิกฤต ก็สามารถส่งต่อผู้ต้องขังไปโรงพยาบาลอื่นๆ แต่เมื่อหายแล้วก็จะนำกลับ เพราะเกรงว่าจะมีการหลบหนี

นายแพทย์วาโย อัศวรุ่งเรือง ประธานคณะกรรมาธิการการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นประธานคณะกรรมาธิการการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ในฐานะผู้ร่วมสังเกตการณ์ สอบถามว่า ที่โรงพยาบาลมีหมอกระดูก ที่เป็นแพทย์ฟูลไทม์และพาร์ทไทม์กี่คน และ กรณีเส้นเอ็นเปื่อยยุ่ยฉีกขาดมีการผ่าตัดกี่ครั้ง และพลตำรวจตรีสรวุฒิ เป็นผู้ผ่าตัดหรือไม่

นางสาวพรรณิการ์ วานิช ที่ปรึกษากรรมาธิการ สอบถามว่า มีผู้ต้องขังที่เคยถูกส่งตัวมามาพักรักษาตัวข้างนอกอยู่ยาวนานเท่าไหร่ และอยู่จนพ้นโทษเลยหรือไม่ รวมถึงใช้หลักเกณฑ์ใดว่าจะต้องมีการส่งตัวกลับเรือนจำ และประเมินแบบไหน ทุกกี่วัน มีหลักฐานบันทึกเวชระเบียนหรือไม่ และต้องมีการบันทึกภาพผู้ต้องขัง เพื่อรายงานต้นสังกัดอยู่ตลอดเวลาหรือไม่ เพราะตนมีประสบการณ์จากการไปเยี่ยมผู้ต้องขังห้องไอซียู จังหวัดสงขลา มีเจ้าหน้าที่เฝ้าอย่างเข้มงวดตลอดเวลา และเป็นผู้ป่วยโคม่าก็ถูกใส่กุญแจมือ ทั้งที่ไม่มีสติ อีกทั้ง มีการบันทึกภาพในการควบคุมตัวที่ชั้น 14 และชั้น 14 มีสถานะอย่างไร และมีใครบ้างที่เคยรักษาตัวอยู่ในชั้นนั้นบ้าง

นายแพทย์สรวุฒิ ชี้แจงว่า มีแพทย์ทำงาน 4 ท่านเป็นแพทย์ประจำ ส่วนแพทย์พาร์ทไทม์นั้นไม่แน่ใจ ตนเองเชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดผ่านกล้อง แต่ไม่ได้เป็นผู้ทำการผ่าตัดนายทักษิณ เพราะตนได้ออกจากราชการไปแล้ว ช่วงนั้นตนลาไป 3 สัปดาห์ ดังนั้นในรายละเอียด ตนจึงไม่ทราบ

ผู้อำนวยการทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ กล่าวว่า การอนุญาตให้ผู้ป่วยออกไปรักษาข้างนอก เป็นไปตามกฎกระทรวงปี 2563 ที่ระบุว่าหากมีผู้ต้องขังที่มีอาการเจ็บป่วยป่วย และพิจารณาแล้วเห็นว่าต้องส่งตัว ไปรักษาภายนอก เป็นอำนาจของผู้บัญชาการเรือนจำ และ ยังระบุว่าต้องส่งโดยเร็ว ซึ่งคำนึงถึงอาการเจ็บป่วยเป็นหลัก เกิดไม่ให้เกิดเหตุพิการหรือเสียชีวิต ส่วนกรณีของนายทักษิณเป็นการส่งต่อจากเรือนจำไปที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งข้อมูลในส่วนนี้ ทางกรมราชทัณฑ์ได้ชี้แจงไปก่อนหน้านี้

นายรังสิมันต์ สอบถามว่า ทางกรมราชทัณฑ์ ได้มีการประเมินอย่างไรว่า อดีตนายกรัฐมนตรีจะต้องมีการส่งตัวโรงพยาบาล

ผู้อำนวยการทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ชี้แจง ว่าในช่วงกลางคืนมีปัญหา เนื่องจากพบว่ามีอาการแน่นหน้าอก มีความดันโลหิตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีภาวะระดับออกซิเจนต่ำ

ด้านนายปิยรัฐ จงเทพ สส.พรรคประชาชน กล่าวว่า การที่เรือนจำจะส่งผู้ต้องขังที่ป่วยออกไปรักษาตัวข้างนอกเป็นเรื่องยากมาก ตนเคยเห็นผู้ต้องขังเสียชีวิตกับตา มาแล้ว ซึ่งการย้ายผู้ป่วย ได้แจ้งศาลหรือไม่ เพราะกรณีแบบนี้จะต้องมีการแจ้งศาล ซึ่งหลังจากที่ได้มีการซักถามกันไปมา นายประยุทธ์ สส.เพื่อไทย แย้งต่อที่ประชุม ว่าหากมีการซักถามแบบนี้ ก็จะไม่มีอะไรคืบหน้า วนเวียนอยู่แค่กรมราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ สิ่งที่สังคมอยากรู้คือเรื่องชั้น 14 กฎหมาย ป.วิอาญา มาตรา 89 (1) มากกว่า จึงขอให้ถามอยู่ในประเด็น พร้อมบอกตนชี้โพรงให้ ซึ่งนายรังสิมันต์ กล่าวว่า อยากให้สะเด็ดน้ำ ซึ่งไม่ง่ายหลังจากดูจำนวนผู้ชี้แจง

ผู้อำนวยการทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ชี้แจงว่า การรักษาในเรือนจำเรามีสถานพยาบาลในเรือนจำ เมื่อพิจารณาว่าจะต้องส่งตัวไปรักษาข้างนอก ส่วนใหญ่เป็นพยาบาลที่อยู่ในเรือนจำ หรือนายแพทย์ข้างนอกที่เข้ามาปฎิบัติหน้าที่มาช่วยตรวจ หลังจากตรวจแล้วพยาบาลจะเป็นผู้ประสานถ้าเคสเร่งด่วน เป็นการปฏิบัติเหมือนกันทั่วประเทศในเรือนจำ ส่วนสาเหตุส่งไปโรงพยาบาลตำรวจ เนื่องจากเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลที่กรมราชทัณฑ์ส่งผู้ต้องขังไปมากที่สุด ขณะเดียวกันมีทีมตำรวจทำหน้าที่ควบคุม ควบคู่กับทีมของกรมราชทัณฑ์ และมีการลงบันทึกความเข้าใจบูรณาการด้านสุขภาพกับโรงพยาบาลตำรวจ

อดีตรองนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ชี้แจงเรื่องโรงพยาบาลตำรวจชั้น 14 เป็นห้องวีไอพีหรือไม่ และจำนวนวันที่พักรักษาตัว ว่า ไม่ทราบข้อมูล ซึ่งอยู่ที่อาการและภาวะแทรกซ้อนของโรค ซึ่งหากมีปัญหาก็ต้องรักษายาวต่อเนื่อง ส่วนจะอยู่จนสิ้นสุดหรือไม่ ไม่ทราบข้อมูลตรงนี้และไม่เคยขึ้นไปทำการรักษาที่ชั้น 14

สำหรับการประเมินเพื่อส่งตัวกลับเมื่ออาการทุเลานั้น อยู่ที่แพทย์ผู้รักษา ซึ่งหากเห็นว่ามีความจำเป็นให้รักษาต่อก็บันทึกการรักษาอยู่แล้ว ส่วนมีการบันทึกภาพหรือไม่นั้น ไม่เห็น และจากประสบการณ์มีการบันทึกภาพหรือไม่นั้น ไม่ทราบ ไม่เคยเข้าไปดูว่ามีรายละเอียด.-315 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“อนุทิน” โชว์ตัวว่าที่ รมต.ทีมเศรษฐกิจ ล้อมวงกินเค้กส้ม

พรรคภูมิใจไทย 6 ก.ย.- “อนุทิน” โชว์ตัว ว่าที่ 3 รมต.ทีมเศรษฐกิจป้ายแดง ล้อมวงกินเค้กส้ม “เอกนิติ” นั่งขุนคลัง เตรียมนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ชี้ปล่อยฟื้นคนละครึ่งกระแสเต็มฟีด ขณะ “สีหศักดิ์” เตรียมนั่ง รมว.กต. มั่นใจชื่อนี้นานาชาติยอมรับ รับเผือกร้อนแก้ปมชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะ “อรรถพล” อดีต CEO ปตท. นั่ง รมว.พลังงาน ทำงานได้เลยไม่ต้องรำมวย ยอมรับเก้าอี้กลาโหม ต้องมีความรู้ในวิชาชีพ ปัดตอบชิงดำ “บิ๊กป้อม-ธรรมนัส” นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อดีต ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงลอนดอน และอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ดื่มกาแฟร่วมกันที่ร้านจานิสตาร์ ชั้น 1 ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ภายหลังหารือร่วมกันที่บริเวณชั้นบน ทั้งนี้ คาดว่านายสีหศักดิ์ ถูกทาบทาม […]

“ธรรมนัส” ปัดแย่งเก้าอี้กลาโหม “บิ๊กป้อม” ไม่กังวลปมคุณสมบัติ

พรรคภูมิใจไทย 6 ก.ย.- “ธรรมนัส” ปัดแย่งเก้าอี้กลาโหม “บิ๊กป้อม” อุบตอบ “กล้าธรรม” ได้กระทรวงอะไรเพิ่ม ไม่กังวลปมคุณสมบัติ เหตุตัวเองเป็น “รมต.” มา 2 รอบแล้ว แย้ม เลขาฯ พรรค ต้องได้เก้าอี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา และประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม เดินทางมายังที่ทำการพรรคภูมิใจไทย เพื่อพบกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะว่าที่นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือเป็นการส่วนตัว จากนั้นเวลา 16.50 น. นายอนุทิน และ ร.อ.ธรรมนัส เดินลงจากที่ทำการพรรคมายังร้านกาแฟจาริสต้าร์ ซึ่งมี น.ส.ธนพร ศรีวิราช ภรรยาของ ร.อ.ธรรมนัส รออยู่ ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัส สั่งเครื่องดื่มอเมริกาโน่ร้อน ไม่หวาน ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า มาซื้อกาแฟวันนี้ หมายความว่าได้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแล้วใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ทราบ ตนมารับภรรยา เมื่อถามว่า พรรคกล้าธรรมมีการพูดคุยตำแหน่งรัฐมนตรีลงตัวแล้วหรือไม่ […]

พายุไต้ฝุ่น ‘เผ่ย์ผ่า’ ถล่มชิซูโอกะในญี่ปุ่น

โตเกียว 6 พ.ย. – พายุไต้ฝุ่น “เผ่ย์ผ่า” (Peipah) ได้สร้างความเสียหายอย่างหนักในจังหวัดชิซูโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ในวันศุกร์ โดยมีรายงานว่าลมกระโชกแรงจากพายุลูกนี้ทำลายอาคารไปอย่างน้อย 220 หลัง และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 23 คน เอ็นเอชเค สื่อสาธารณะของญี่ปุ่นรายงานว่า ตรวจพบกระแสลมแรงใน เขตเทศบาล 4 แห่งของจังหวัดชิซูโอกะ ซึ่งรวมถึงเมืองโยชิดะและเมืองมากิโนะฮาระ เจ้าหน้าที่เมืองมากิโนะฮาระระบุว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อย 20 ราย ณ เวลา 21:30 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกับ 19.30 น. ตามเวลาในประเทศไทย นอกจากนี้ เอ็นเอชเค ยังรายงานด้วยว่า มีอาคารอย่างน้อย 43 หลังในเมืองมากิโนะฮาระถูกทำลายทั้งหมดหรือเสียหายครึ่งหนึ่งและอีก 184 หลังได้รับความเสียหายบางส่วน พายุ “เผ่ย์ผ่า” ได้ลดระดับลงเป็นพายุโซนร้อนเมื่อเวลาประมาณ 21:00 น. ของวันศุกร์ ตามเวลาท้องถิ่น […]

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักมากบางพื้นที่ใน กทม.และปริมณฑล-ตะวันออก

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักมากบางพื้นที่ใน กทม.-ปริมณฑล และภาคตะวันออก บริเวณ จ.นครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมขัง น้ำรอการระบาย กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมขัง น้ำรอการระบาย โดยเฉพาะบริเวณชุมชนเมือง เช่น กรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมทั้งระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า […]

มทภ.2 วอนอย่าหลงเชื่อข่าวปั่นกระแสพูดโยงการเมือง

7 ก.ย. – แม่ทัพภาค 2 วอนอย่าหลงเชื่อ ข่าวปั่นกระแสพูดโยงการเมือง ยันทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตย ชาติ พระมหากษัตริย์ และประชาชน เท่านั้น เมื่อวันที่ 7 ก.ย.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีสื่อโซเชียล นำภาพของตนมาประกอบกับข้อความเรื่องโยงการเมืองว่า ขอพี่น้องประชาชนโปรดอย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เป็นการสร้างกระแส ยุยง ปลุกปั่น ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ตนพูดชัดอยู่แล้วว่า จะไม่ยุ่งเกี่ยวการเมือง ตนเป็นทหาร ไม่ยุ่งเรื่องการเมืองอยู่แล้ว การเมืองก็ให้เขาว่ากันไป เรามีหน้าที่ดูแลอธิปไตยของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน นี่คือหน้าที่ของทหาร “ถึงผมจะเกษียณอีกไม่กี่วัน แต่ผมก็คือทหาร จะไม่ยุ่งเกี่ยวทางการเมืองอย่างแน่นอน” พล.ท.บุญสิน กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

โคลนผุดบนถนนย่านวงเวียนใหญ่ ชาวบ้านหวั่นถนนทรุด

กทม. 7 ก.ย. – ดินโคลนผุดใต้พื้นถนนบริเวณจุดก่อสร้างรถไฟฟ้า ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสินก่อนเข้าวงเวียนใหญ่ ชาวบ้านหวั่นพื้นทรุดตัว เจ้าหน้าที่เร่งถมยางมะตอย หลังจากฝนตกติดต่อกันหลายวัน ช่วงบ่ายของวันนี้ บริเวณจุดก่อสร้างรถไฟฟ้า ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสินก่อนเข้าวงเวียนใหญ่ มีโคลนสีเหลือง ผุดขึ้นมาบนพื้นถนนจำนวนมาก จนทำให้การจราจรบริเวณนั้นติดขัด โดยพื้นที่บริเวณดังกล่าวกำลังมีการก่อสร้าง โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก ) ซึ่งสาเหตุที่มีโคลนสีเหลืองผุดขึ้นมาเป็นจำนวนมาก สันนิษฐานว่า ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นสาเหตุทำให้น้ำเข้าไปขังใต้พื้นถนนกลายเป็นดินโคลนที่ผุดขึ้นมา ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่โครงการรถไฟฟ้า ได้นำยางมะตอยเข้ามาถมจุดที่มีโคลนผุดขึ้นมา พร้อมกับจัดเจ้าหน้าที่คอยสอดส่องการทรุดตัวของพื้นถนน เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายกับประชาชนที่สัญจรเส้นทางดังกล่าว ฝากประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนที่จะสัญจรเส้นทางดังกล่าว หากไม่มีกรณีเร่งด่วนให้หลีกเลี่ยง หรือเปลี่ยนเส้นทางสัญจร เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน.-สำนักข่าวไทย

เขมรครึ่งร้อยป่วนบ้านหนองจานอีก

สระแก้ว 7 ก.ย. – ชาวกัมพูชากว่า 50 คน รวมตัวท่ามกลางสายฝน กดดันทหารไทย เกณฑ์เด็ก-ผู้หญิง เข้ามาในพื้นที่บ้านหนองจาน สร้างเพิงพักชั่วคราวใกล้แนวชายแดน ชาวกัมพูชากว่า 50 คน รวมตัวท่ามกลางสายฝน กดดันทหารไทย โดยเกณฑ์เด็กและผู้หญิงเข้ามาในพื้นที่บ้านหนองจาน ใกล้หลักเขต 46 ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ทั้งสร้างเพิงพักชั่วคราวบริเวณใกล้แนวชายแดน สถานการณ์โดยรวมยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่ปรากฏเหตุการณ์ความวุ่นวาย หรือการกระทบกระทั่งแต่อย่างใด ส่วนบริเวณจุดตรวจ 40 บ้านหนองจาน ผู้กำกับ สภ.โคกสูง ได้จัดกำลังตำรวจเข้าดูแลพื้นที่รักษาความปลอดภัย ช่วงเวลา 11.00 น. มีกลุ่มมวลชนเดินทางเข้ามาในพื้นที่ประมาณ 20 คน เหตุการณ์ทั่วไปยังปกติ.-สำนักข่าวไทย