จำเลยคดีตากใบ 2 คน หนีไปต่างประเทศแล้ว

รัฐสภา 9 ต.ค.-ตำรวจรับจำเลยคดีตากใบ 2 ราย หนีไปต่างประเทศแล้ว ตั้งแต่ยังไม่มีหมายจับ ยืนยันติดตามตัวทุกขั้นตอน พร้อมประสานทุกหน่วยงาน ด้าน “วิทยา” จวกถามกันแบบนี้ไม่ได้ข้อมูล เหตุผู้ที่มาชี้แจงเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของจำเลย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน ที่มีนายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ สส.นราธิวาส พรรคประชาชาติ เป็นประธาน ซึ่งมีวาระการพิจารณาติดตามผู้ต้องหาคดีตากใบ หลังจากที่ศาลจังหวัดนราธิวาส ฟ้องและออกหมายจับจำเลย 7 คน และอัยการสูงสุดเห็นแย้งกับพนักงานสอบสวน ที่มีคำสั่งส่งฟ้องผู้ต้องหา 8 คน รวมทั้งหมด 14 คน ซ้ำกับจำเลยเดิม 1 คน


โดยในที่ประชุมได้มีตัวแทนจากคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ เข้าร่วมรับฟังการพิจารณาด้วย นอกจากนี้ยังมีการเชิญ ตัวแทนจากโจทก์และตัวแทนผู้ร้องในคดีดังกล่าว คือ นางพรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผู้อำนวยการมูลนิธิผสานวัฒนธรรม มาในฐานะตัวแทนโจทก์ในคดี และได้มีการเชิญ กองทัพบก ผู้อำนวยการ รักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า สภาความมั่นคงแห่งชาติ ตำรวจภูธรภาค 9 และอัยการภาค 9 โดยแต่ละหน่วยงานได้ส่งตัวแทนมาชี้แจง

นายวิทยา แก้วภราดัย กรรมาธิการ ได้สอบถามว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตม.เกี่ยวกับจำเลย 14 รายแล้วหรือไม่ พ.ต.อ.รังษี มั่นจิตร ตัวแทนจากตำรวจภูธรภาค 9 แจ้งว่าได้มีการส่งหมายจับไปยัง ตม. แล้ว เพื่อตรวจสอบว่าบุคคลตามหมายจับมีการเดินทางออกนอกประเทศหรือไม่ หากตรวจพบก็จะแจ้งมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อประสานไปยังตำรวจอินเตอร์โพล


นายกมลศักดิ์ ได้ถามต่อว่า ตม.แจ้งว่า จำเลยทั้ง 14 รายยังไม่ได้เดินทางออกนอกประเทศใช่หรือไม่ พ.ต.อ.รังษี เนื่องจากการประชุมวันนี้ไม่ใช่การประชุมลับ นายกมลศักดิ์ ยังคงยืนยันในคำถามเดิมโดยมองว่า เป็นข้อมูลที่น่าจะเปิดเผยได้ ไม่ได้ลงในรายละเอียดว่าเดินทางออกเมื่อไหร่ไปที่ใด เพียงอยากรู้ว่ากี่รายเท่านั้นและไม่น่ากระทบกับรูปคดี พ.ต.อ.รังษี จึงชี้แจงเพียงว่ามี 2 ราย แต่ขอสงวนรายชื่อว่าเป็นบุคคลใด

ด้าน น.ส.นิตยา มีศรี สส.พรรคประชาชน ในฐานะกรรมาธิการ สอบถามว่าระหว่างวันที่ 12 กันยายนที่ศาลอนุมัติหมายจับ ไปจนถึงวันที่ 20 กันยายนมีการประสานกับ ตม. ถึงการเดินทางออกนอกประเทศหรือไม่ พ.ต.อ.รังษี ชี้แจงว่าทันทีที่ทราบหมายจับในวันที่ 12 กันยายนได้ประสานไปยัง ตม.ทันที แต่ ตม.แจ้งกลับมาว่ามีคนเดินทางออกนอกประเทศไปก่อน ที่จะมีการออกหมายจับ 2 ราย

ทั้งนี้ได้มีการสอบถามต่อถึงกระบวนการเช็คพิกัดของสัญญาณโทรศัพท์ และการติดตามตัว นอกเหนือจากการบุกค้นบ้านตามทะเบียนบ้าน พ.ต.อ.รังษี ชี้แจงว่าเราไม่ได้เลือกปฏิบัติ ยืนยันว่าเรามีการตรวจสอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ถิ่นที่อยู่ หรือบุคคลใกล้ชิด และไม่ได้มุ่งเรื่องโทรศัพท์เพียงอย่างเดียว แต่ใช้การติดตามข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ ทุกอย่าง เชื่อว่าคนร้ายต้องทิ้งร่องรอยไว้อยู่แล้ว เหมือนกับกรณีของแป้งนาโหนด ที่ทิ้งร่องรอยเอาไว้จึงตามได้


ด้านนายรอมฎอน ปันจอร์ สส.พรรคประชาชน ในฐานะตัวแทนจากกรรมาธิการความมั่นคงฯ กล่าวว่าสิ่งที่ชี้แจงพยายามจะบอกว่าได้ปฏิบัติตามหน้าที่เพื่อหลีกเลี่ยง การไม่ปฏิบัติหน้าที่ แต่สิ่งที่สังคม อยากรู้คือผู้ต้องหาทั้ง 14 รายอยู่ที่ไหน จากข้อมูลที่ตนทราบบุคคลที่หนีออกไปนอกประเทศคนหนึ่งอยู่ที่ลอนดอนประเทศอังกฤษ อีกคนอยู่ที่โตเกียวประเทศญี่ปุ่นใช่หรือไม่ ทางตำรวจได้พยายามติดตามสื่อสารเพื่อขอตัวแล้วหรือไม่

พ.ต.อ.รังษี ชี้แจงว่า ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าผู้ต้องหาทั้ง 14 หมายจับอยู่ที่ไหน ส่วนที่ถามว่ายืนยันหรือไม่ว่ามีผู้ต้องหาหลบหนีไปที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ และโตเกียวประเทศญี่ปุ่นนั้น ถือว่าท่านให้เบาะแส ซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ส่งเรื่องไปยังอินเตอร์โพลเพื่อขอหมายแดงเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พร้อมชี้แจงกระบวนการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า
หลังวันที่ 12 กันยายนที่ศาลนราธิวาส ออกหมายจับโดยหมายศาล แต่วันที่ 20 กันยายน พนักงานสอบสวนไปขอหมายจับจากศาลปัตตานี และวันที่ 21 กันยายนออกหมายจับ ได้มีการเร่งรัด และตามโดยมีเดทไลน์ 25 ตุลาคม 2567 และนำหมายศาลลงไปในระบบครามของตำรวจ

ขณะที่นายคุณากร มั่นนทีรัย สส.พรรคประชาชนในฐานะกรรมาธิการ กล่าวว่าผู้ต้องหาหลายคน รับราชการทหาร ตำรวจ และมีทหาร 3 คน ที่ยังไม่เกษียณราชการ ซึ่งคนเหล่านี้มีนายทหารติดตาม ได้มีการตรวจค้นบ้านพัก หรือติดตามข้อมูล กับบุคคลเหล่านี้หรือไม่ พ.ต.อ.รังษี ยืนยันว่าได้มีการติดตามตรวจสอบทุกขั้นตอน เส้นทางการเงิน รวมถึงการติดตามสอบสวนและติดตามหาข่าว

ด้านนางสาวชลธิชา แจ้งเร็ว สส.พรรคประชาชนในฐานะกรรมาธิการ ได้สอบถามว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการแจ้ง Watch List กับผู้ต้องหาหลังจากที่ศาลประทับรับฟ้องคดีนี้เลยหรือไม่ เพื่อติดตามผู้ต้องหาทั้ง 14 ราย พ.ต.อ.รังษี ชี้แจงว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้ง ตม.ตามระเบียบ แต่ ตม.จะดำเนินการแล้วหรือไม่ เราไม่ทราบแต่ระเบียบมีอยู่ ถ้าเจ้าหน้าที่ผิดพลาดก็เป็นเรื่องของตัวบุคคล ขอให้เข้าใจความหมายนี้ด้วย

จากนั้นนางพรเพ็ญ ในฐานะตัวแทนโจทก์ ได้สอบถามอัยการที่เป็นทนายความให้กับจำเลยที่ 8-9 ตัวแทนอัยการได้ชี้แจงว่ากรณีเจ้าหน้าที่รับเจ้าหน้าที่รัฐถูกกล่าวหา โดยราษฎรฟ้อง อัยการเรามีสิทธิ์ที่จะเข้าไปรับแก้ต่าง โดยไม่ต้องจ้างทนาย ตาม พ.ร.บ.อัยการและพนักงานอัยการมาตรา 14 (4) โดยเหตุผลที่เป็นทนายเพราะจำเลยทั้ง 2 รายสังกัดกระทรวงมหาดไทยเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง แต่ผู้ต้องหารายอื่นพนักงานอัยการไม่รับแก้ต่าง

อย่างไรก็ตาม ในช่วงหนึ่งของการประชุม นายวิทยา ได้กล่าวว่าหลังจากดูชื่อ มาถามตรงนี้ก็ไม่ได้อะไรหรอก เพราะคนที่โดนออกหมายจับเป็นผู้บังคับบัญชาของทุกคนในนี้ยกเว้นอัยการ ที่ไม่มีผู้บังคับบัญชา แต่ที่เหลือเป็นอดีตผู้บังคับบัญชาทั้งหมด เรื่องนี้หากจะเดินต่อได้ให้ถามรัฐบาล ถามตรงนี้ไม่มีคำตอบ ต่อให้ตอบ ก็ตอบไม่ถูก บางทีบางคนในนี้ยังไม่รับราชการดี เพราะในผู้ต้องหายศต่ำที่สุดคือผู้ว่าราชการจังหวัด ตอนนี้ก็อายุจะ 80 แล้ว และป่วยหนัก

โดยหลังจากพูดจบนายวิทยาได้ลุกออกจากห้องประชุมทันที ขณะที่ระหว่างการประชุมห้องประชุมสภาได้มีการเรียกลงมติ ซึ่งที่ประชุมจากหอพักการประชุม แต่ สส.ของพรรคประชาชน และนายกัณวีร์ สืบแสง สส.พรรคเป็นธรรม บอกว่าการลงมติใช้เวลานาน จึงขอให้ดำเนินการประชุมต่อ ขณะที่ สส.พรรคอื่นในกรรมาธิการ ได้ลุกออกจากห้องประชุมไปลงมติ โดยในที่ประชุมเหลือเพียง สส.พรรคประชาชน และสส.พรรคเป็นธรรม ที่ดำเนินการพิจารณาต่อ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมญาติผู้เสียหายได้ติดตาม ผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยกล่าวว่า อยากให้เจ้าหน้าที่เร่งจับกุมผู้ต้องการให้ได้ทั้งหมด และอยากเห็นและรอความยุติธรรมจากคดีดังกล่าว ขณะที่ทางตำรวจก็ได้กล่าวย้ำว่าเร่งรัดการจับกุมอยู่.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อนลงเป็นกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร […]

วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

กทม. 15 ก.ค.-กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ยืนยันกัมพูชาไม่ได้นำวรรณกรรมไทย 22 รายการ สอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกหนังสือชี้แจง ตามที่มีการกล่าวอ้างในเพจดังกล่าวว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่กัมพูชานำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย เพราะรัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยและไม่คัดค้านเลยแม้แต่นิดเดียว…” กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณท่านที่ห่วงใยต่อกรณีประเทศกัมพูชานำวรรณกรรมไทย จำนวน 22 รายการ นำไปขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ในหัวข้อ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกัมพูชา เพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodia เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับยูเนสโก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และขอชี้แจง ดังนี้ 1.ข้อมูลที่อ้างว่ามีการขึ้นทะเบียน “วรรณกรรมไทย 22 รายการ” โดยกัมพูชา ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้เสนอขอขึ้นทะเบียนวรรณกรรม จำนวน 22 เรื่อง ต่อองค์การยูเนสโก แต่กัมพูชาได้เสนอขึ้นทะเบียน The Royal Ballet of Cambodia ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงโบราณของกัมพูชา และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2546 […]

รวมพลัง 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

15 ก.ค. – กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย องค์การทางศาสนาทั้ง 15 องค์การ จาก 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และศาสนาซิกข์ รวมทั้งหน่วยงานเครือข่าย มีผู้เข้าร่วมทั้งผู้ประกอบพิธีทางศาสนา ผู้นำทางศาสนา ศาสนิกชน เครือข่ายสถานศึกษา ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม รวมกว่า 1,000 คน ร่วมพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม จัดขึ้น ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล แสดงความจงรักภักดีและสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า กิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายพระพรชัยมงคล […]

หน่วยงาน 3 ป. แถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” จ่อขยายผลเส้นเงิน

บก.ป. 15 ก.ค.- ตำรวจแถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” ตรวจสอบเงินในบัญชี 3 ปีย้อนหลัง พบมีเงินหมุนเวียน 385 ล้านบาท ส่วนใหญ่โอนไปเว็บพนัน เหลือเงินในบัญชี 8,000 บาท ขณะที่พระผิดธรรมวินัยทยอยลาสิกขาแล้ว 9 รูป จากทั้งหมด 13 รูป พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วยนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการ ปปง., นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ […]