“ชัยชนะ” นำ กมธ.ตร. ลุยตรวจย่าน “ห้วยขวาง-รัชดา”

กรุงเทพฯ 23ก.ย.-“ชัยชนะ” นำ กมธ.ตร. ร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง ลุยตรวจย่าน “ห้วยขวาง-รัชดา” พบผิดกฎหมายเพียบ! เชื่อคนไทยไม่อยากเห็นจีนเทาครองเมือง

นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานกรรมาธิการตำรวจสภาผู้แทนราษฎร นำคณะ ลงพื้นที่รัชดา และย่านอาร์ซีเอ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร เพื่อรับฟังความคิดเห็นของผู้ประกอบการและสังเกตการการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในการตรวจตราและปฏิบัติตามกฎหมายของสถานบริการ ร่วมกับ ผู้แทนหน่วยงานต่างๆ ประกอบด้วย กองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กองบังคับการตำรวจนครบาล1 กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 สถานีตำรวจนครบาลมักกะสัน สถานีตำรวจนครดินแดง สถานีตำรวจนครห้วยขวาง สถานีตำรวจนครสุทธิสาร กรุงเทพมหานคร และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา


นายชัยชนะ ในฐานะประธานกรรมาธิการตำรวจสภาผู้แทนราษฎร กล่าวในขณะลงตรวจพื้นที่ว่าได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่ามีกลุ่มคนจีนสีเทาประกอบกิจการผิดกฎหมาย สร้างความไม่สงบให้กับชุมชน วันนี้จึงมาลงพื้นที่ จุดแรกที่ไปคือร้านชาบูฉงชิง ซึ่งมีผู้ถือหุ้นทั้งหมด5คน ทุนจดทะเบียน 18 ล้านบาท ผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นหญิงชาวอุบลราชธานี และมีผู้ถือหุ้นอื่นเป็นคนจีน 4 คน ตั้งข้อสังเกตว่าทำไมร้านชาบูจึงมีทุนจดทะเบียนถึง 18 ล้าน ผู้ถือหุ้นใหญ่มีอายุเพียง 33 ปี คณะกรรมาธิการ ตร. ต้องมีการตรวจสอบว่าเป็นผู้ถือหุ้นจริงหรือเป็นนอร์มินี คณะกมธ.ตร. จะได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบว่ามีตัวตนอยู่จริงหรือไม่ อย่างไรต่อไป ส่วนคนจีน4คนที่ถือหุ้นอยู่ต้องเช็คว่าวีซ่าการลงทุนในประเทศไทยถูกต้องหรือไม่ ผู้ลงทุนที่จดทะเบียนทุน 18 ล้าน มีการเสียภาษีให้กับประเทศไทยหรือไม่

นอกจากนี้ยังมีกรณีการขออนุญาตก่อสร้าง หรือต่อเติมอาคาร ว่าเป็นไปตามที่ขออนุญาตต่อกรุงเทพมหานครหรือไม่ หากไม่ถูกต้องผู้อำนวยการเขตต้องระงับทันที จากการตรวจสอบยังพบว่ามีการขยายพื้นที่เพิ่มเติม ทั้งนี้ยังพบว่าในร้านมีการจำหน่ายสุรา มีทั้งผิดกฎหมายและถูกกฎหมาย ซึ่งได้มอบหมายให้กรมสรรพสามิตตรวจสอบต่อไป สินค้าในร้านไม่มีสินค้าไทยเลย เช่นนี้ประเทศไทยเสียดูลย์การค้า เพราะไม่มีการใช้ของไทยเลย ดังนั้นนโยบายของรัฐบาลนี้ต้องตรวจสอบอย่างจริงจังว่าเมื่อมีผู้มาลงทุนค้าขายในประเทศ ไทยยินดีให้ต่างชาติมาลงทุน แต่ต้องเคารพกฎหมายไทย


ประธาน กมธ.ตร. กล่าวย้ำว่า เรื่องนี้หากไม่จริงจังก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ขอฝากไปถึงเจ้าหน้าที่รัฐบางคนที่สมยอมกับกลุ่มทุนจีนสีเทา ว่าขอให้หยุดพฤติกรรมนี้ ตนมีข้อมูลการกระทำความผิดครบถ้วน รวมทั้งเส้นทางการเงินด้วย ขอร้องให้หยุดพฤติกรรมนี้ เราไม่เคยกีดกันให้ต่างชาติมาลงทุนในประเทศไทย แต่เมื่อลงทุนแล้วก็ต้องทำให้ถูกต้องตามกฎหมายประเทศไทยเช่นกัน

หลังจากนั้นคณะได้ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านหวังจงหวัง ซึ่งเป็นร้านขายสินค้านำเข้าจากประเทศจีน พบว่า มีทุนจดทะเบียน 4 ล้านบาท และพบว่ามีสินค้าหลายรายการที่ไม่ผ่าน อย. หลังจากนี้จะให้หน่วยงานที่รับผิดชอบร่วมกับ อย. ดำเนินคดีความสำหรับสินค้าที่ไม่ผ่าน อย. ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ คณะธรรมาธิการตำรวจสภาผู้แทนราษฎร จะนำเรื่องนี้เข้าหารือในสภาเพื่อตราเป็นกฎหมายว่าในอนาคตหากทำความผิดครั้งที่ 2 ครั้งที่ 2 ควรจะมีการโทษจำคุกหรือเพิกถอนใบอนุญาตการขายจำหน่ายสินค้า เพราะขณะนี้ช่องว่างคือมีเพียงโทษปรับอย่างเดียว

จุดที่สามเป็นร้านสปาและร้านนวด ทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท จากการตรวจสอบตั้งข้อสังเกตว่าอาคารที่ต่อเติมทั้งหมดได้ขออนุญาตจาก กทม.หรือไม่ บันไดหนีไฟใช้เส้นทางขึ้นลงปกติไม่มีความปลอดภัยกับผู้ใช้บริการ จึงให้กรุงเทพมหานคร และ สน.สุทธิสาร ประสานกับผู้ประกอบการให้ปรับปรุงทางเดินหนีไฟ นอกจากนี้บริเวณชั้น 3 ของอาคาร พนักงานแจ้งว่าไม่มีการเปิดใช้งาน แต่พอขึ้นไปพบว่ามีบาร์เหล้าเก่า และมีเก้าอี้คล้ายเก้าอี้ในคาสิโน และลักษณะเหมือนมีการใช้งานปกติ และพบห้องหนึ่งปิดล็อคไว้ เปิดแอร์ แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถที่จะเข้าได้ พนักงานแจ้งว่าไม่มีอำนาจตัดสินใจ กมธ.ตร จึงได้ประสานให้ สน.สุทธิสาร ให้เข้าตรวจสอบในห้องดังกล่าวว่าพบสิ่งผิดปกติอันใดหรือไม่.-312.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

แจ้งข้อหาเพิ่ม “ทนายตั้ม” คดี 39 ล้านบาท รวม 7 ข้อหา

แจ้งข้อหาเพิ่ม “ทนายตั้ม” คดี 39 ล้านบาท รวม 7 ข้อหา จ่อแจ้งข้อหา “นุ-แซน” เพิ่มเติม และเชื่อว่ามีบุคคลอื่นที่ต้องถูกดำเนินคดีอีก ส่วน “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ยังไม่ประสานเข้าพบหลังออกหมายเรียก

วิสามัญมือยิงประธานสภา อบต.โพนจาน ยิงสู้ จนท.

วิสามัญมือยิงประธานสภา อบต.โพนจาน จ.นครพนม หลังหนีข้ามมา จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่ปิดล้อมเกลี้ยกล่อมให้วางอาวุธ แต่ไม่สำเร็จ คนร้ายยิงต่อสู้

ขู่ยื่นเอาผิด รมว.ดีอี ปล่อยโฆษณาหลอกหลวง ปชช.

รัฐสภา 3 ธ.ค. – กมธ.ไอซีที สว. ขู่ ยื่น ม.157 เอาผิด รมว.ดีอี ฉุนเกียร์ว่าง ปล่อยโฆษณาหลอกหลวง ประชาชน – ปล่อย “หมอบุญ” หนีลอยนวล จี้รัฐยกปราบหลอกลวงออนไลน์เป็นวาระแห่งชาติ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. ฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคม คนที่หก วุฒิสภา แถลงผลการประชุมกมธ. เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ซึ่งตรวจสอบกรณีการโฆษณาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ให้ลงทุนในสินทรัพย์ ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงอาทิ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กรณีของนพ.บุญ วนาสิน ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรี ที่พบกรณีฉ้อโกงและฟอกเงิน เป็นมูลค่าสูงกว่า 7,500 ล้านบาท อย่างไรก็ดีในคดีดังกล่าวถูกแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.ห้วยขวาง แล้วปี 2566 แต่ไม่มีการดำเนินการใดๆ จนกระทั่งนพ.บุญเดินทางออกไปนอกประเทศและไม่มีการอายัดทรัพย์ ทั้งนี้ในการหลอกหลวงผ่านโฆษณาชวนเชื่อนั้น ทำผ่านโบรกเกอร์ที่หลอกลงทุน ทั้งนี้เชื่อว่าจะเป็นนักลงทุนที่เคยลงทุนที่คุ้นเคยกับเครือโรงพยาบาลธนบุรี “จากการชี้แจงกรณี นพ.บุญของหน่วยงานที่ชี้แจง พบเป็นการโยนกลองกันไปมา ไม่มีหน่วยงานใดที่รับผิดชอบจริงจัง […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ นำ ครม.ทำบุญตักบาตรเนื่องในวันพ่อแห่งชาติ 5 ธ.ค.67

นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 189 รูป ที่ท้องสนามหลวง ก่อนวางพานพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะ ในหลวงรัชกาลที่ 9 เนื่องในวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2567

เปิดให้สักการะ “พระเขี้ยวแก้ว” วันแรก

ริ้วขบวนอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุพระเขี้ยวแก้ว ถึงยังมณฑลพิธีท้องสนามหลวงแล้ว พร้อมเชิญชวนประชาชนสักการะ วันนี้ (5 ธ.ค.) วันแรก ตั้งแต่ 07.00 น.เป็นต้นไป

ยูเนสโก ประกาศรับรอง ‘เคบายา’ มรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้

วธ.เผย ยูเนสโก ประกาศรับรอง ‘เคบายา’ มรดกวัฒนธรรมร่วม 5 ประเทศ บรูไน อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และไทย ขึ้นทะเบียนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ประจำปี 2567