“ขัตติยา” ลั่นไม่ใช่คำพูดล้อเล่น “มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี”

รัฐสภา 12 ก.ย.- “เดียร์ ขัตติยา” ป้องนายกฯ ลั่นไม่ใช่คำพูดล้อเล่น “มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี” ชี้หากมองใจเป็นธรรม “แพทองธาร” พูดด้วยความฝัน หยอดคำหวาน นโยบายรัฐบาลครบถ้วน-เป็นระบบ เปรียบ 1 ปี “เศรษฐา” เหมือนปรับหน้าดิน หลังจากนี้ 3 ปี หว่านเมล็ด-รดน้ำ-พรวนดิน เชื่อรัฐบาลชุดนี้สร้างบ้านให้คนไทยภูมิใจได้แน่


ในการประชุมร่วมรัฐสภา ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม วาระการแถลงนโยบายรัฐบาลของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

นางสาวขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ลุกอภิปรายเป็นคนแรกของฝั่งพรรคร่วมรัฐบาล ว่า เหตุการณ์ที่ศาลรัฐธรรมนูญถอดถอนนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี สร้างความกังวลใจให้กับพี่น้องประชาชนและส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนจากทั่วโลก ว่าสภาวะสุญญากาศทางการเมืองนี้ จะทำให้นโยบายต่างๆที่ได้เริ่มไว้ของนายเศรษฐาต้องยุติลงหรือไม่ แต่มาในวันนี้ ตนมั่นใจว่าหลังจากที่พี่น้องประชาชนและนักลงทุนจากทั่วโลกแต่เห็นรายชื่อของคณะรัฐมนตรี และได้ฟังคำแถลงนโยบายของนายกรัฐมนตรี ย่อมเกิดความมั่นใจได้ว่ารัฐบาลชุดใหม่นี้ จะทำให้เกิดความต่อเนื่องในการบริหารประเทศ จะรับไม้ต่อจากรัฐบาลชุดก่อนแล้วจะสร้างนโยบายใหม่ที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ จะสร้างความเปลี่ยนแปลงและจะสร้างผลสำเร็จให้เกิดขึ้นจริงได้อย่างแน่นอน ตนอยากจะเรียกความต่อเนื่องว่า 1 ปีซ่อม 3 ปีสร้าง วางรากฐานโอกาสไทย


“1 ปีซ่อมของนายเศรษฐา เหมือนกับการปรับหน้าดินที่มีปัญหาให้กลับมาเป็นเนื้อดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ เป็นการเตรียมหน้าดินให้พร้อมกับการลงเมล็ดพันธุ์ใหม่ ในการเพาะปลูกครั้งต่อไป 3 ปีสร้างที่จะเกิดขึ้นกับนางสาวแพทองธารกับเปรียบเสมือนการหว่านเมล็ด ใส่ปุ๋ย รดน้ำและพรวนดิน เพื่อเป็นการสร้างการเติบโตให้กับเมล็ดพันธุ์ที่รัฐบาลชุดนี้จะทำ การเพาะปลูกลงไป และเตรียมรอรับดอกผลการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต” นางสาวขัตติยา กล่าว

นางสาวขัตติยา กล่าวว่า ย้อนกลับไปในสมัยปี 2544 เพิ่งผ่านต้มยำกุ้งมาไม่นาน ซึ่งเราต้องยอมรับว่าวิกฤติเศรษฐกิจสมัยนั้นมันไม่ได้เกิดผลกระทบเป็นวงกว้างเท่ากับสมัยนี้ ซึ่งตอนนี้ส่งผลกระทบต่อผู้มีรายได้น้อยที่เป็นฐานพีระมิดของระบบเศรษฐกิจไทย เขาขาดกำลังจับจ่ายใช้สอย ค่าแรงหรือรายได้โตไม่ทันกับรายจ่ายที่สูงขึ้น ไม่สามารถออมเงินได้ มีหนี้เรื้อรังและไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินได้ เกิดหนี้เสียสูงขึ้น

ประการที่สอง เศรษฐกิจไทยมักพึ่งพิงจากภายนอก แต่ในวันนี้ตัวเลขการส่งออกและการท่องเที่ยวถดถอยลง แต่การบริโภคภายในประเทศกลับไม่สามารถที่จะทำหน้าที่เป็นเครื่องยนต์หลักที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้ไปข้างหน้าได้


ประการที่สาม ขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศที่ถดถอยลง ครั้งหนึ่งประเทศไทยเคยเกือบได้เป็นเสือที่ 5 ของเอเชีย มาวันนี้เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศไหลออกนอกประเทศ แม้ว่าการจัดอันดับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศเราจะอยู่ในระดับที่น่าพอใจ แต่เมื่อเราไปดูอันดับโครงสร้างพื้นฐานทางด้านการศึกษาที่เป็นหัวใจสำคัญในการที่จะพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน การจัดอันดับส่วนนี้กลับอยู่ในอันดับที่น่ากังวลเป็นอย่างยิ่ง เรายังไม่รับวิกฤติด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม

“วิกฤติรอบด้านที่รัฐบาลต้องเผชิญเป็นโจทย์ที่ยากกว่าในอดีต หากรัฐบาลทำสำเร็จ ต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจวิสัยทัศน์ ประสบการณ์ เจตนารมณ์ทางการเมือง รวมทั้งพลังสนับสนุนจากพี่น้องประชาชนมากยิ่งกว่ารัฐบาลในอดีตเพื่อที่จะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้สำเร็จ แม้ภารกิจในการซ่อมเพื่อพาประเทศออกจากวิกฤติครั้งนี้จะยากลำบากแค่ไหนก็ตามแต่ ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมาที่นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน เราได้เห็นการปรับหน้าดินเพื่อซ่อมแซมและเตรียมความพร้อมให้กับประเทศจะมีความคืบหน้าไปแล้วหลายด้าน … ทำให้ประเทศไทยที่เหมือนคนป่วยมานานกลับมามีแรงเดินหน้าต่อ จึงนับว่าเป็น 1 ปีในการปรับหน้าดินสังคมไทย เพื่อให้พร้อมรองรับต่อการยกระดับศักยภาพของประเทศ” นางสาวขัตติยา กล่าว

“ดิฉันขอชื่นชมคำแถลงของนายกรัฐมนตรีแพทองธารสักเล็กน้อย ว่าเป็นการวางนโยบายได้เป็นระบบ ครอบคลุมและรอบด้านไม่ว่าจะเป็นการแบ่งนโยบายตามความเร่งด่วนระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว มีการต่อยอดนโยบายเดิมและเพิ่มเติมนโยบายใหม่ มีทั้งนโยบายที่เป็นกระตุ้นเศรษฐกิจเฉพาะหน้าไปจนถึงนโยบายที่ปรับโครงสร้างและวางรากฐานใหม่ใหม่มี ทั้งนโยบายที่เป็นระดับบนระดับล่าง” นางสาวขัตติยา กล่าว

นางสาวขัตติยา กล่าวช่วงหนึ่งว่า มีคนนำไปพูดล้อเลียนตลกว่า “อยากเห็นคนไทยมีกินมีใช้ มีเกียรติมีศักดิ์ศรี ดิฉันคิดว่าหากเรามองประโยคนี้ด้วยใจเป็นธรรมและความอคติและความเกลียดชังทางการเมือง เราจะพบว่าประโยคดังกล่าวมันไม่ใช่คำพูดล้อเล่น ไม่ใช่เรื่องตลกขบขัน แต่จริงๆแล้วประโยคนี้มีหลักการ 3 ข้อด้วยกัน ที่สะท้อนถึงความฝันของการอยากเห็นสังคมที่ดีสังคมที่น่าอยู่ และสังคมที่มีความเป็นธรรม”

นางสาวขัตติยา กล่าวต่อว่า เริ่มจากคำว่ามีกินมีใช้ คำนี้เป็นคำที่สะท้อนถึงสังคมที่มีระดับ การกระจายทรัพยากรทางเศรษฐกิจ มีการกระจายโอกาสและมีการกระจายความมั่งคั่งอย่างทั่วถึง ทำให้สังคมนั้นไม่มีความเหลื่อมล้ำจนเกินไป สังคมที่กินมีใช้ ประชาชนสามารถเข้าถึงทรัพยากรและขนาดตัวเองก็ยังมีคุณภาพ

คำว่ามีเกียรติ สะท้อนถึงสังคมที่เคารพและยอมรับความแตกต่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเพศสภาพ วัฒนธรรม ศาสนาชาติพันธุ์ สังคมที่มีเกียรติคือสังคมที่สามารถอยู่ร่วมกับความแตกต่างได้ พลเมืองทุกคนให้เกียรติซึ่งกันและกัน แม้จะมีความแตกต่างกัน

และคำว่ามีศักดิ์ศรี คำนี้สะท้อนให้เห็นสังคมที่มีรากฐานทางเศรษฐกิจสังคมและการเมืองที่เข้มแข็ง พลเมืองมีคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกๆด้าน จนทำให้สังคมนั้นมีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับจากสังคม สุดท้ายตนอยากจะขอฝากความเชื่อมั่นของคนไทยทุกคนเอาไว้ที่นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีชุดนี้ ตนเชื่อมั่นด้วยศักยภาพและวิสัยทัศน์เชิงนโยบาย เราจะมีโอกาสได้เห็นประเทศนี้กลับมาเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยความหวัง เป็นบ้านที่เต็มไปด้วยความฝัน เป็นบ้านที่เต็มไปด้วยโอกาสและเป็นบ้านที่ทำให้คนไทยทุกคนรู้สึกภาคภูมิใจอีกครั้งหนึ่ง.-312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พายุคาจิกิกระทบหลายจังหวัดเหนือ-อีสาน

27 ส.ค. – ผลกระทบจากพายุ “คาจิกิ” ส่งผลหลายจังหวัดภาคเหนือและภาคอีสาน ฝนตกหนัก อย่าง จ.แม่ฮ่องสอน น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม ส่วน จ.เลย แม่น้ำเหืองเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ต.นาแก้ว อ.นาแห้ว ชาวบ้านต้องเร่งยกสิ่งของขึ้นที่สูง พายุคาจิกิเคลื่อนตัวสู่ จ.น่าน ทำให้ 6 อำเภอทางตอนเหนือของเมืองน่าน มีฝนตกหนักและเริ่มมีน้ำป่าหลากดินสไลด์ใน ต.ปิงหลวง อ.นาหมื่น ชาวบ้านตามชุมชนและร้านค้าต่างๆ เร่งเก็บข้าวของไว้บนที่สูง อย่างชุมชนสวนตาลล่าง ซึ่งยังไม่ทันฟื้นฟูความเสียหายจากพายุวิภาเมื่อเดือนที่แล้ว ต้องเตรียมพร้อมกันอีกรอบ อย่างร้านจำหน่ายแอร์และกล้องวงจรปิดร้านนี้ ซึ่งครั้งที่แล้วเสียหายไปกว่า 6 ล้านบาท ต้องขนสินค้าออกจากร้านและยกขึ้นชั้น 2 หวั่นเจอน้ำท่วมซ้ำอีก ขณะเดียวกันเริ่มอพยพผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงที่อยู่ในจุดเสี่ยงน้ำท่วมออกมาอยู่ที่ศูนย์พักพิงแล้วกว่า 20 ราย รวมทั้งเร่งเสริมคันดินและกระสอบทรายตามจุดเสี่ยงรอบเมือง โดยเฉพาะโรงพยาบาลน่าน ที่เคยถูกน้ำท่วมเสียหายเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งขนอุปกรณ์การแพทย์ขนาดใหญ่ไปไว้ในที่ปลอดภัย และเสริมแนวกระสอบทรายป้องกันไว้แล้ว พร้อมยกระดับยกระดับการป้องกันและรับมือกับพายุคาจิกิขั้นสูงสุด ขณะที่ จ.แม่ฮ่องสอน มีผู้ใช้โซเชียลโพสต์คลิปสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงช่วงบ่ายวานนี้ (26 ส.ค.) ในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม […]

ทบ.ย้ำชัดกัมพูชาบิดเบือน-ให้ร้าย ตั้งชุมชนรุกล้ำผิด MOU 2000

27 ส.ค.- โฆษก ทบ.โต้กัมพูชา กล่าวหาบิดเบือนพยายามให้ร้ายฝ่ายไทย ย้ำชัดวางลวดหนาม “บ้านหนองจาน” อยู่ในเขตอธิปไตยไทย ชี้เขมรตั้งชุมชนรุกล้ำผิด MOU 2000 จากกรณีที่สำนักข่าว Fresh News รายงานว่า นายชุม ซอนรี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชา แถลงความคืบหน้าเกี่ยวกับการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกัมพูชา–ไทย เมื่อช่วงเย็นวันที่ 26 สิงหาคม 2568 เวลา 16.00 น. โดยระบุว่า ฝ่ายไทยได้ละเมิดอธิปไตยของกัมพูชา และละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ด้วยการวางลวดหนามรุกล้ำพื้นที่บ้านเรือนและที่ดินของประชาชนในหมู่บ้านโจกเจย ตำบลโอเบยเจือน อำเภอโอโจรว จังหวัดบันเตียเมียนเจย ซึ่งสะท้อนถึงฝ่ายไทยได้ขยายพื้นที่ความขัดแย้งเข้ามาสู่เขตชุมชนพลเรือน และจากการประชุม GBC เมื่อ 7 สิงหาคม 2568 มีบันทึกความเข้าใจ 13 ข้อ ระบุว่าจะไม่มีการดำเนินการใด ๆ ที่เป็นการยั่วยุ และจะหลีกเลี่ยงการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้เกิดความตึงเครียดเพิ่มขึ้น รวมถึงตามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ปี 2000 ห้ามการดำเนินการใด ๆ […]

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน ฝนตกหนักบางพื้นที่

กรุงเทพฯ 27 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนประชาชนโดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนภาคกลาง รวมทั้ง กทม.-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมกำลังค่อนข้างแรงบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน […]

“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยกหารือเวที UN พรุ่งนี้

สวีเดน 26 ส.ค.-“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา หลังกัมพูชาใช้โล่มนุษย์ยั่วยุในพื้นที่ต่อเนื่อง เตรียมยกเรื่องนี้หารือเวที UN ที่เจนีวา พรุ่งนี้ ยันยังไม่ส่งทูตกลับ จนกว่าเขมรแสดงให้เห็นว่าจริงใจ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวภายหลังการหารือทวิภาคีกับนางมารีอา มัลเมอร์ สเตเนอร์การ์ด (Maria Malmer Stenergard) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสวีเดน ถึงสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ที่มีการยั่วยุโดยใช้พลเรือนเป็นเครื่องมืออย่างต่อเนื่อง ว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นที่หน่วยงานในพื้นที่ต้องช่วยกันระมัดระวังไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน เพราะเมื่อมีพลเรือนเข้ามาเกี่ยวข้อง ในการทำงานของทางทหารก็จะยากลำบาก อาจจะนำไปสู่การสร้างความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น ดังนั้นหน่วยงานที่เป็นพลเรือนในพื้นที่ก็จำเป็นจะต้องเข้ามาดูแลและแก้ไขสถานการณ์ตรงนี้ นายมาริษ กล่าวว่า ในการพบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสวีเดน ตนได้อธิบายให้เข้าใจว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่กัมพูชาพยายามใช้ ซึ่งขัดต่อความตกลงในกฎบัตรสหประชาชาติเป็นอย่างมาก เหมือนกับใช้ประชาชนและพลเรือนเป็นโล่มนุษย์ เพื่อที่จะทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง ซึ่งประเทศสวีเดนก็เข้าใจ และพรุ่งนี้ (27 ส.ค.) ตนจะมีโอกาสได้ชี้แจงกับที่ประชุม UN ที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ตนจะยกประเด็นนี้ขึ้นแสดงความห่วงกังวลว่า การใช้วิธีเอาพลเรือนมาเป็นตัวกดดัน หรือมาสร้างความตึงเครียด หรือขยายความตึงเครียดบริเวณชายแดนมากยิ่งขึ้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ […]