“ขัตติยา” ลั่นไม่ใช่คำพูดล้อเล่น “มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี”

รัฐสภา 12 ก.ย.- “เดียร์ ขัตติยา” ป้องนายกฯ ลั่นไม่ใช่คำพูดล้อเล่น “มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี” ชี้หากมองใจเป็นธรรม “แพทองธาร” พูดด้วยความฝัน หยอดคำหวาน นโยบายรัฐบาลครบถ้วน-เป็นระบบ เปรียบ 1 ปี “เศรษฐา” เหมือนปรับหน้าดิน หลังจากนี้ 3 ปี หว่านเมล็ด-รดน้ำ-พรวนดิน เชื่อรัฐบาลชุดนี้สร้างบ้านให้คนไทยภูมิใจได้แน่


ในการประชุมร่วมรัฐสภา ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม วาระการแถลงนโยบายรัฐบาลของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

นางสาวขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ลุกอภิปรายเป็นคนแรกของฝั่งพรรคร่วมรัฐบาล ว่า เหตุการณ์ที่ศาลรัฐธรรมนูญถอดถอนนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี สร้างความกังวลใจให้กับพี่น้องประชาชนและส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนจากทั่วโลก ว่าสภาวะสุญญากาศทางการเมืองนี้ จะทำให้นโยบายต่างๆที่ได้เริ่มไว้ของนายเศรษฐาต้องยุติลงหรือไม่ แต่มาในวันนี้ ตนมั่นใจว่าหลังจากที่พี่น้องประชาชนและนักลงทุนจากทั่วโลกแต่เห็นรายชื่อของคณะรัฐมนตรี และได้ฟังคำแถลงนโยบายของนายกรัฐมนตรี ย่อมเกิดความมั่นใจได้ว่ารัฐบาลชุดใหม่นี้ จะทำให้เกิดความต่อเนื่องในการบริหารประเทศ จะรับไม้ต่อจากรัฐบาลชุดก่อนแล้วจะสร้างนโยบายใหม่ที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ จะสร้างความเปลี่ยนแปลงและจะสร้างผลสำเร็จให้เกิดขึ้นจริงได้อย่างแน่นอน ตนอยากจะเรียกความต่อเนื่องว่า 1 ปีซ่อม 3 ปีสร้าง วางรากฐานโอกาสไทย


“1 ปีซ่อมของนายเศรษฐา เหมือนกับการปรับหน้าดินที่มีปัญหาให้กลับมาเป็นเนื้อดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ เป็นการเตรียมหน้าดินให้พร้อมกับการลงเมล็ดพันธุ์ใหม่ ในการเพาะปลูกครั้งต่อไป 3 ปีสร้างที่จะเกิดขึ้นกับนางสาวแพทองธารกับเปรียบเสมือนการหว่านเมล็ด ใส่ปุ๋ย รดน้ำและพรวนดิน เพื่อเป็นการสร้างการเติบโตให้กับเมล็ดพันธุ์ที่รัฐบาลชุดนี้จะทำ การเพาะปลูกลงไป และเตรียมรอรับดอกผลการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต” นางสาวขัตติยา กล่าว

นางสาวขัตติยา กล่าวว่า ย้อนกลับไปในสมัยปี 2544 เพิ่งผ่านต้มยำกุ้งมาไม่นาน ซึ่งเราต้องยอมรับว่าวิกฤติเศรษฐกิจสมัยนั้นมันไม่ได้เกิดผลกระทบเป็นวงกว้างเท่ากับสมัยนี้ ซึ่งตอนนี้ส่งผลกระทบต่อผู้มีรายได้น้อยที่เป็นฐานพีระมิดของระบบเศรษฐกิจไทย เขาขาดกำลังจับจ่ายใช้สอย ค่าแรงหรือรายได้โตไม่ทันกับรายจ่ายที่สูงขึ้น ไม่สามารถออมเงินได้ มีหนี้เรื้อรังและไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินได้ เกิดหนี้เสียสูงขึ้น

ประการที่สอง เศรษฐกิจไทยมักพึ่งพิงจากภายนอก แต่ในวันนี้ตัวเลขการส่งออกและการท่องเที่ยวถดถอยลง แต่การบริโภคภายในประเทศกลับไม่สามารถที่จะทำหน้าที่เป็นเครื่องยนต์หลักที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้ไปข้างหน้าได้


ประการที่สาม ขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศที่ถดถอยลง ครั้งหนึ่งประเทศไทยเคยเกือบได้เป็นเสือที่ 5 ของเอเชีย มาวันนี้เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศไหลออกนอกประเทศ แม้ว่าการจัดอันดับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศเราจะอยู่ในระดับที่น่าพอใจ แต่เมื่อเราไปดูอันดับโครงสร้างพื้นฐานทางด้านการศึกษาที่เป็นหัวใจสำคัญในการที่จะพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน การจัดอันดับส่วนนี้กลับอยู่ในอันดับที่น่ากังวลเป็นอย่างยิ่ง เรายังไม่รับวิกฤติด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม

“วิกฤติรอบด้านที่รัฐบาลต้องเผชิญเป็นโจทย์ที่ยากกว่าในอดีต หากรัฐบาลทำสำเร็จ ต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจวิสัยทัศน์ ประสบการณ์ เจตนารมณ์ทางการเมือง รวมทั้งพลังสนับสนุนจากพี่น้องประชาชนมากยิ่งกว่ารัฐบาลในอดีตเพื่อที่จะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้สำเร็จ แม้ภารกิจในการซ่อมเพื่อพาประเทศออกจากวิกฤติครั้งนี้จะยากลำบากแค่ไหนก็ตามแต่ ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมาที่นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน เราได้เห็นการปรับหน้าดินเพื่อซ่อมแซมและเตรียมความพร้อมให้กับประเทศจะมีความคืบหน้าไปแล้วหลายด้าน … ทำให้ประเทศไทยที่เหมือนคนป่วยมานานกลับมามีแรงเดินหน้าต่อ จึงนับว่าเป็น 1 ปีในการปรับหน้าดินสังคมไทย เพื่อให้พร้อมรองรับต่อการยกระดับศักยภาพของประเทศ” นางสาวขัตติยา กล่าว

“ดิฉันขอชื่นชมคำแถลงของนายกรัฐมนตรีแพทองธารสักเล็กน้อย ว่าเป็นการวางนโยบายได้เป็นระบบ ครอบคลุมและรอบด้านไม่ว่าจะเป็นการแบ่งนโยบายตามความเร่งด่วนระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว มีการต่อยอดนโยบายเดิมและเพิ่มเติมนโยบายใหม่ มีทั้งนโยบายที่เป็นกระตุ้นเศรษฐกิจเฉพาะหน้าไปจนถึงนโยบายที่ปรับโครงสร้างและวางรากฐานใหม่ใหม่มี ทั้งนโยบายที่เป็นระดับบนระดับล่าง” นางสาวขัตติยา กล่าว

นางสาวขัตติยา กล่าวช่วงหนึ่งว่า มีคนนำไปพูดล้อเลียนตลกว่า “อยากเห็นคนไทยมีกินมีใช้ มีเกียรติมีศักดิ์ศรี ดิฉันคิดว่าหากเรามองประโยคนี้ด้วยใจเป็นธรรมและความอคติและความเกลียดชังทางการเมือง เราจะพบว่าประโยคดังกล่าวมันไม่ใช่คำพูดล้อเล่น ไม่ใช่เรื่องตลกขบขัน แต่จริงๆแล้วประโยคนี้มีหลักการ 3 ข้อด้วยกัน ที่สะท้อนถึงความฝันของการอยากเห็นสังคมที่ดีสังคมที่น่าอยู่ และสังคมที่มีความเป็นธรรม”

นางสาวขัตติยา กล่าวต่อว่า เริ่มจากคำว่ามีกินมีใช้ คำนี้เป็นคำที่สะท้อนถึงสังคมที่มีระดับ การกระจายทรัพยากรทางเศรษฐกิจ มีการกระจายโอกาสและมีการกระจายความมั่งคั่งอย่างทั่วถึง ทำให้สังคมนั้นไม่มีความเหลื่อมล้ำจนเกินไป สังคมที่กินมีใช้ ประชาชนสามารถเข้าถึงทรัพยากรและขนาดตัวเองก็ยังมีคุณภาพ

คำว่ามีเกียรติ สะท้อนถึงสังคมที่เคารพและยอมรับความแตกต่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเพศสภาพ วัฒนธรรม ศาสนาชาติพันธุ์ สังคมที่มีเกียรติคือสังคมที่สามารถอยู่ร่วมกับความแตกต่างได้ พลเมืองทุกคนให้เกียรติซึ่งกันและกัน แม้จะมีความแตกต่างกัน

และคำว่ามีศักดิ์ศรี คำนี้สะท้อนให้เห็นสังคมที่มีรากฐานทางเศรษฐกิจสังคมและการเมืองที่เข้มแข็ง พลเมืองมีคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกๆด้าน จนทำให้สังคมนั้นมีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับจากสังคม สุดท้ายตนอยากจะขอฝากความเชื่อมั่นของคนไทยทุกคนเอาไว้ที่นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีชุดนี้ ตนเชื่อมั่นด้วยศักยภาพและวิสัยทัศน์เชิงนโยบาย เราจะมีโอกาสได้เห็นประเทศนี้กลับมาเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยความหวัง เป็นบ้านที่เต็มไปด้วยความฝัน เป็นบ้านที่เต็มไปด้วยโอกาสและเป็นบ้านที่ทำให้คนไทยทุกคนรู้สึกภาคภูมิใจอีกครั้งหนึ่ง.-312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยันไม่เคยสั่งกำลังพลไปเก็บศพเขมร อย่าเชื่อข่าวปลอม

5 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชา บริเวณชายแดน ขออย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เมื่อวันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากกรณีที่สื่อโซเชียลมีเดียได้ลงข้อความอันเป็นเท็จ ที่ทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผิดว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณชายแดนนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปปฏิบัติอย่างนั้น ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นชาวกัมพูชา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับทางประเทศไทย “ผมไม่เคยมีคำสั่งแบบนี้ และขอยืนยันว่า ข่าวที่ออกมานั้นเป็นข่าวปลอม ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ“ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

ทหารไทยยอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง

ศรีสะเกษ 5 ส.ค. – วันนี้ยังมีการเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือนฝั่งไทย ส่วนเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เป็นคืนแรกของการประชุม GBC ชุด ชรบ.หมู่บ้านแนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จึงออกตรวจตราเข้มข้น ขณะที่ทหารแนวหน้ายอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สอบถามถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น คือกลิ่นศพของทหารกัมพูชา ทหารยอมรับว่ามีกลิ่นจริง และมีศพทหารกัมพูชาถูกทิ้งไว้จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากมีหน้ากากอนามัยเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหน้ากาก N95 ส่งถึงพื้นที่บ้างแล้ว พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกำลังใจ ทหารยังพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ วันนี้ทีมข่าวยังเกาะติดภารกิจเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จุดแรก จรวด BM-21 ถูกกัมพูชายิงตกใส่ลงทุ่งนาของชาวบ้าน พื้นที่ ต.ทุ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ โดยห่างกันราว 1 กิโลเมตร ส่วนอีกจุดเป็นการทำลายลูกจรวด PG-7 ที่ถูกยิงจากเครื่องยิงจรวด RPG ตกลงในสวนยางพาราของชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่ถูกพบในสภาพพร้อมทำงาน จุดนี้อยู่ห่างจากชายแดนกัมพูชาเพียง […]

เปิดศักยภาพ Gripen เขี้ยวเล็บใหม่กองทัพอากาศไทย

5 ส.ค. – เปิดคุณสมบัติโดดเด่นของ “กริพเพน” เครื่องบินรบฝูงใหม่ ซึ่งกองทัพอากาศและประเทศไทยกำลังจะทำสัญญาจัดซื้อจากสวีเดน .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ขึ้นภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท นำร้องเพลงชาติไทย

5 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ตรวจเยี่ยมภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท ปกป้องอธิปไตย พร้อมร่วมร้องเพลงชาติ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี พื้นที่ภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้ทำการเดินลาดตระเวน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่วางกำลังฐานปฏิบัติการ ทั้งนี้ มีพระสงฆ์จำนวน 3 รูปจากวัดใกล้เคียง มารอแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อมอบวัตถุมงคลและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้พรกำลังพลทุกนาย ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ภูมะเขือ โดยเน้นย้ำให้อยู่ในความไม่ประมาท ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติ ด้วยความปลอดภัยและให้ดูแลรักษาสุขภาพให้ดี จากนั้น พล.ท.บุญสิน ได้ให้กำลังพลเปลี่ยนธงชาติไทยผืนใหญ่กว่าเดิม นำร้องเพลงชาติบนยอดภูมะเขือร่วมกัน ก่อนเดินทางกลับได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและถ่ายรูปร่วมกับกำลังพล -สำนักข่าวไทย