สมาคมนักข่าวฯ-ThaiPBS ยื่นตรวจสอบจริยธรรม “บิ๊กป้อม”

รัฐสภา​ 21 ส.ค.-สมาคมนักข่าวฯ-ThaiPBS ยื่นตรวจสอบจริยธรรม “บิ๊กป้อม” เหตุมีพฤติกรรมคุกคามสื่อ ประสานเสียงขอให้เป็นบรรทัดฐานการทำหน้าที่ร่วมกับแหล่งข่าว

นายสุปัน รักเชื้อ ประธานสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย พร้อมด้วย นายอิทธิพันธ์ บัวทอง นายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย เข้ายื่นหนังสือต่อ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่านทางโฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ตรวจสอบจริยธรรมข้อ 12 และ 13 ในข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและกรรมาธิการ พ.ศ 2563


โดยนายสุปัน กล่าวว่า สืบเนื่องจากกรณีที่มีการปรากฎคลิป ผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์ พล.อ.ประวิตร ในประเด็นการโหวตนายกรัฐมนตรี แต่ พล.อ.ประวิตร กลับแสดงพฤติกรรมไม่พอใจ และเกรี้ยวกราด ซึ่ง เป็นการกระทำที่ไม่ใช่ทำด้วยอารมณ์ชั่ววูบ ซึ่งเมื่อพิจารณาอย่างรอบด้านแล้วการกระทำแบบนี้ ไม่ใช่การหยุมหัว แต่เป็นพฤติกรรมที่เกรี้ยวกราดและคุกคามสื่อ ซึ่งนี่ไม่ใช่พฤติกรรมครั้งแรกของนักการเมืองท่านนี้ ก่อนหน้านี้เคยมีการดูหมิ่นดูแคลนเพื่อนร่วมวิชาชีพมาก่อนดังนั้น จากการพิจารณาจึงยื่นคำร้องให้ตรวจสอบจริยธรรมนักการเมืองคนนี้เพราะนี่เป็นเหตุการณ์ เสมือนนิสัย ที่ทำต่อสื่อมวลชนในความผิดจริยธรรมข้อ 12 และ 13 ทั้งนี้การพิจารณาของคณะกรรมการสภาจะเป็นอย่างไรขอไม่ก้าวล่วงแต่ขอทราบผลการพิจารณาทุกขั้นตอนตามที่ระบุไว้ในระเบียบข้อบังคับ และไม่ใช่เป็นการเร่งรัด แต่มองว่าเช่นเดียวกันหากสื่อ ถูกยื่นตรวจสอบจริยธรรมทางสมาคมก็จะตรวจสอบโดยใช้กรอบเวลา 30 วันและคาดว่าการตรวจสอบของสภาจะใช้เวลาประมาณเดียวกัน ทั้งนี้ นอกจากที่สมาคมจะมายื่นกับสภาแล้ว ยังมีองค์กรภาคประชาสังคมเตรียมยื่นให้กับ ป.ป.ช.แล้วด้วย

นายสุปัน ยังกล่าวถึงกรณีที่หลายคนมองว่าเจ้าทุกข์ไม่เอาเรื่อง ว่า เป็นการตีความในเรื่องของการทำร้ายร่างกายซึ่งเจ้าทุกข์จะต้องเป็นผู้ร้องแต่เรากำลังพูดถึงจริยธรรมและการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนที่การทำหน้าที่จะต้องได้รับการปกป้อง และต้องตระหนักในส่วนนี้แต่ถ้าใครจะเปลี่ยนประเด็นไปที่เรื่องของการถูกกระทำ ก็เป็นสิทธิ์ของผู้ถูกกระทำ


“นี่คือปรากฏการณ์ครั้งแรกที่เพื่อนร่วมวิชาชีพลุกขึ้นมาปกป้องสิทธิเสรีภาพของเพื่อนร่วมอาชีพด้วยกันมากกว่าการออกแถลงการณ์ และด้วยการที่เป็นวิชาชีพสื่อสามารถทำได้แค่นั้นและนี่อาจจะเป็นเรื่องใหม่ และเป็นบรรทัดฐานให้กับนักการเมืองที่จะปฏิบัติต่อสื่อมวลชนให้ตระหนักว่าเราไม่ใช่คู่ขัดแย้งเราทำหน้าที่ในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถ้าแหล่งข่าวหรือนักการเมืองไม่เต็มใจที่จะตอบ หรือไม่พร้อมที่จะตอบ ก็ขอให้บอกว่าไม่ตอบ อย่างล่าสุดอดีตนายกรัฐมนตรีที่ยิ้มแล้วเดินออกไปไม่เห็นจะต้องแสดงกิริยา ที่เกรี้ยวกราดและคุกคามกันขนาดนี้” นายสุปัน กล่าว

นายสุปัน ยังกล่าวด้วยว่า การยื่นร้องครั้งนี้ยืนยันไม่มีประเด็นทางการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง เพียงแค่ต้องการปกป้องสิทธิเสรีภาพในการทำงานของเพื่อนร่วมอาชีพมากกว่าที่จะถูกโยงไปเป็นประเด็นทางการเมือง และเรื่องนี้องค์กรวิชาชีพได้ปรึกษากันในทุกแง่ทุกมุม และได้มีการส่งคลิปให้กับคณะกรรมการไว้พิจารณาด้วย และการแสดงท่าทีล่าช้าเป็นเพราะต้องดูในทุกแง่ทุกมุม และต้องรอบคอบพอสมควรในกรอบกฎหมายและจริยธรรมที่เรามีอยู่

ขณะที่นายนพดล ศรีหทัย บรรณาธิการบริหาร ThaiPBS  ยื่นหนังสือขอให้สอบจริยธรรมพลเอกประวิตรเช่นเดียวกัน เนื่องจากภายหลังจากที่ได้พูดคุยกับผู้สื่อข่าวแล้ว พบว่าไม่สามารถนิ่งนอนใจได้ เนื่องจากไทยพีบีเอส เป็นองค์กรสื่อสาธารณะที่ต้องคุ้มครองผู้สื่อข่าว เพราะการทำงานของสื่อหลังจากนี้ที่มีความเข้มข้นขึ้น ดังนั้นการข่มขู่ ทำร้ายเป็นการริดรอนสิทธิ์ของการทำงานของสื่อ และการยื่นในครั้งนี้จะเป็นบรรทัดฐาน และ การยื่นในครั้งนี้เพื่อให้เกิดเป็นแบบอย่างการทำหน้าที่ของสื่อและบรรทัดฐานทางจริยธรรม


ส่วนการดำเนินคดีอาญาข้อหาทำร้ายร่างกายนั้นขอให้เป็นหน้าที่ของสมาคมสื่อทำไปก่อน เนื่องจากมองว่าหากดำเนินการจะมีผลต่อการทำหน้าที่ของผู้สื่อข่าวที่ ต้องทำงานร่วมกับแหล่งข่าว ซึ่งสอดคล้องกับเจตจำนงของผู้สื่อข่าวที่อยู่ในคลิปที่ไม่ต้องการดำเนินคดี

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการยื่นสอบในครั้งนี้คงไม่มีผลต่อการทำหน้าที่สื่อสาธารณะ และคงไม่ใช่เรื่องที่ไม่กล้าเดินหน้านำเสนอสิ่งที่ประชาชนอยากรู้

ส่วนเรื่องการพูดคุยกันระหว่างพลเอกประวิตรกับผู้สื่อข่าวคนดังกล่าว ว่าเป็นการหยอกล้อนั้น นายนพดล กล่าวว่า ภาพที่ออกมาไม่ใช่การหยอกล้อและไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนสามารถดูออกว่า เป็นการหยอกล้อหรือข่มขู่ทำร้ายร่างกาย.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

ทบ.ชี้กัมพูชายั่วยุละเมิดข้อตกลง เกณฑ์คนประท้วงบ้านหนองจาน

4 ก.ย.- ทบ. เผยกรณีชาวกัมพูชาประท้วงที่บ้านหนองจาน ชี้เป็นการยั่วยุละเมิดข้อตกลงหยุดยิง กองกำลังบูรพาพร้อมตำรวจควบคุมฝูงชนเตรียมกำลังเพื่อป้องกันอธิปไตยและการกระทำผิดกฎหมาย วันนี้ (4 ก.ย.68) กองทัพบกได้รับรายงานจากศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 ว่าพบประชาชนชาวกัมพูชาประมาณ 150 คน เข้ามารวมตัวประท้วงแสดงความไม่พอใจในบริเวณใกล้กับหลักเขตแดนที่ 46 บ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยังอยู่ในพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยพบว่าประชาชนบางส่วนมีลักษณะพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม แสดงท่าทียั่วยุเจ้าหน้าที่ พกพาไม้เป็นอาวุธ และบางรายมีลักษณะเป็นแกนนำของมวลชน ซึ่งสังเกตได้จากการใช้และพกพาวิทยุสื่อสารประจำตัว พร้อมพบว่ามีทหารกัมพูชาคอยสังเกตการณ์และร่วมอยู่ในกลุ่มมวลชนชาวกัมพูชาด้วย ซึ่งตั้งแต่เกิดเหตุ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 โดยกองกำลังบูรพา ได้จัดกำลังพลร่วมกับชุดควบคุมฝูงชนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรสระแก้ว เข้าควบคุมสถานการณ์ พร้อมเตรียมดำเนินการกับกลุ่มผู้ประท้วง หากพบว่ามีการรุกล้ำอธิปไตยไทยและกระทำผิดกฎหมายในทันที ล่าสุด พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่าเมื่อเวลา 13.30 น. กองกำลังบูรพาได้รายงานเพิ่มเติมว่าทางกัมพูชามีการเกณฑ์ประชาชน ทั้งจากนอกพื้นที่ และที่สัญจรผ่านไปมา เข้ามาร่วมประท้วงและแสดงท่าทียั่วยุต่อทหารไทยในพื้นที่เพิ่มเติม ซึ่งการกระทำในครั้งนี้ ถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงที่ทั้งไทยและกัมพูชาได้มีมติเห็นพ้องร่วมกันในการดำเนินการ จากการประชุม GBC และ RBC ที่ผ่านมา รวมทั้งโฆษกกองทัพบกได้ย้ำว่า […]

“ภูมิธรรม” โพสต์แจง 2 ฉบับ ย้ำเจตนารมณ์รัฐบาลคืนอำนาจให้ ปชช.

กทม. 4 ก.ย.- “ภูมิธรรม” โพสต์ข้อความชี้แจง 2 ฉบับ “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา – เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจง 2 ฉบับ “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา – เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” โดยฉบับที่ 1 ระบุว่า “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา” ในช่วงที่การเมืองยังสับสน ผมขอเรียนชี้แจงให้เกิดความกระจ่างชัดในประเด็นร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรดังนี้ รัฐบาลได้ดำเนินการจัดทำร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร และส่งให้สำนักงานองคมนตรีพิจารณาแล้วเมื่อเย็นวันที่ 2 กันยายน 2568 ต่อมาได้รับแจ้งจากสำนักงานองคมนตรี ว่ายังมีประเด็นข้อกฎหมายที่มีการโต้แย้งและยังไม่เป็นข้อยุติ โดยเฉพาะประเด็นอำนาจของรองนายกรัฐมนตรีผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีในการถวายคำแนะนำ จึงยังไม่เห็นสมควรนำร่างพระราชกฤษฎีกาขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายในเวลานี้ รัฐบาลเคารพในขั้นตอนและหลักนิติธรรมทุกประการ และจะนำกลับมาทบทวนและพิจารณาเพื่อให้เกิดความเหมาะสมถูกต้อง แต่ขอย้ำชัดว่า เจตนารมณ์ของรัฐบาลคือการคืนอำนาจให้ประชาชนโดยเร็วที่สุด จากนั้นได้โพสต์ ฉบับที่ 2 “เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” ระบุ เมื่อพรรคประชาชนได้แสดงจุดยืนชัดเจนว่าจะโหวตสนับสนุนพรรคภูมิใจไทย และมีการบรรจุวาระเลือกนายกรัฐมนตรีแล้ว ทุกพรรคการเมืองต้องแสดงความรับผิดชอบต่อการตัดสินใจของตน ให้ประชาชนได้เห็นว่ากลไกสภายังคงทำงานตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ สำหรับพรรคเพื่อไทย เราพร้อมเสนอชื่อศาสตราจารย์ชัยเกษม นิติสิริ เป็นนายกรัฐมนตรี และขอยืนยันต่อประชาชนว่า หากเราได้รับเสียงสนับสนุน […]

ชาวกัมพูชาลุกฮือประชิดชายแดนบ้านหนองจาน

4 ก.ย. – สระแก้วตึงเครียด! ชาวกัมพูชาลุกฮือประชิดชายแดนบ้านหนองจาน หลังไทยปักป้ายประกาศให้ออกจากพื้นที่ ขณะที่จังหวัดสุรินทร์ เจ้าหน้าที่พบหลักฐานชิ้นสำคัญลูกเหล็กสะเก็ดระเบิด “Ball Bearing” ในบ้านประชาชนเหยื่อจรวด BM-21 สถานการณ์ล่าสุดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา บ้านหนองจาน ตำบลโนนหมากมุ่น อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว หลังจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย นำโดยกำลังทหาร กรมป่าไม้ ตำรวจตระเวนชายแดน และฝ่ายปกครองในพื้นที่ ได้ร่วมกันติดตั้งป้ายประกาศ 3 ภาษา (ไทย–อังกฤษ–เขมร) เพื่อแจ้งเตือนให้ชาวกัมพูชาที่บุกรุกเข้ามาในพื้นที่เขตไทย ออกจากบริเวณดังกล่าวโดยทันที หากฝ่าฝืนจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากกระทำในพื้นที่เกินกว่า 25 ไร่ ต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่ 2 ปี ถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 ถึง 100,000 บาท ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป การติดตั้งป้ายดังกล่าว ทำให้กลุ่มชาวกัมพูชาที่อาศัยอยู่บริเวณแนวชายแดนไม่พอใจ และได้รวมตัวกันจำนวนหนึ่ง เคลื่อนเข้ามาใกล้แนวชายแดนฝั่งไทย […]

เพื่อไทย เสนอสูตรใหม่ โหวต “ชัยเกษม” แลกยุบสภาทันที

รัฐสภา 4 ก.ย.-เพื่อไทย เสนอสูตรใหม่ ชวน ปชน. โหวต “ชัยเกษม” แลกยุบสภาทันทีหลังแถลงนโยบาย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ และประธาน สส.พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณถึงการบรรจุวาระโหวตนายกฯ ไว้ต่อที่ประชุมสภาฯ วันที่ 5 ก.ย. นี้ ว่า เข้าใจว่าอาจจะมีการเสนอให้เลื่อนระเบียบวาระขึ้นมาพิจารณา แต่พรรคเพื่อไทยจะขอให้พิจารณาไปตามระเบียบวาระและไม่ยอมให้เลื่อนวาระขึ้นมาพิจารณาก่อน อย่างไรก็ดีเชื่อว่าหากมีการลงมติจะมีเสียงสนับสนุนเพียงพอ นายวิสุทธิ์ กล่าวต่อว่าตนได้รับการประสานมาจากพรรคประชาชน ให้ขอให้พรรคเพื่อไทยยืนยันต่อการเสนอชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย ต่อที่ประชุมสภาฯ ขณะเดียวกันนั้นได้เรียกร้องว่าหาก นายชัยเกษมได้เป็นนายกฯ หลังการแถลงนโยบายแล้วต้องประกาศยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ทันที “ตอนนี้มีข้อเสนอแบบนี้หหลังจากที่แถลงนโยบาย เราจะยุบสภาทันที หากพรรคประชาชนไม่อยากให้เกิดปัญหา กรณีที่ชาวบ้านไม่ยอมรับ ต้องทำตามนี้ ส่วนหนึ่งที่ต้องทำแบบนี้ เพื่อให้นายกฯ ของพรรคเพื่อไทยมีอำนาจยุบสภา หลังจากที่ขณะนี้มีปัญหา” นายวิสุทธิ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย