กรุงเทพฯ 1 ส.ค.-นายกฯ ติดตามความพร้อมการป้องกันและรับมือน้ำท่วม ขอ กทม. เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมซ้ำซาก-ชุมชนแออัด หลังปีนี้ปริมาณน้ำมาก เตรียมลงร่วมลงพื้นที่ดูปัญหา แต่ไม่ได้ไปจับผิดพร้อมสั่งดูงบฯ สร้างเขื่อนปทุมธานี รับมือน้ำเหนือ
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมการป้องกัน และรับมือน้ำท่วม ณ ศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม สำนักการระบายน้ำ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เขตดินแดง โดยมีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อม ผู้บริหารกรุงเทพมหานครให้การต้อนรับ
โดยนายชัชชาติ กล่าวขอบคุณนายรัฐมนตรี ที่เดินทางมาเยี่ยม และมอบนโยบายให้กับศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม สำนักการระบายน้ำ เพราะสถานที่แห่งนี้จะเป็นสถานที่แรกในการวางแผน เพื่อรองรับสถานการณ์น้ำท่วม
ขณะที่นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จริงๆแล้ววันนี้มาให้กำลังใจ เพราะเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว และหน้าฝนปีนี้มาเร็ว ทุกคนก็ทำงานได้เป็นอย่างดี ไม่เป็นปัญหามากกับพี่น้องประชาชน แต่เนื่องจากว่าปีนี้ปรากฏการณ์ลานีญาทำให้ปีนี้มีฝนมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนและภาคอีสาน ซึ่งทำให้ปริมาณน้ำที่จะไหลลงสู่กรุงเทพมหานครในช่วงเดือนนี้(ส.ค.) ไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน และช่วงลอยกระทง รัฐบาล ดังนั้นกรุงเทพมหานคร จึงต้องเตรียมความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์น้ำที่กำลังจะเกิดขึ้น เพื่อป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน รวมถึงพื้นที่ด้านเศรษฐกิจที่สำคัญ
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า อยากขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึงกรุงเทพมหานคร เตรียมการเฝ้าระวัง และการประกาศเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยง พร้อมช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในเหตุการณ์เฉพาะหน้าเรื่องปัญหาน้ำท่วมและการระบายน้ำ รวมถึงการ
เตรียมพื้นที่แก้มลิง เพื่อรองรับน้ำรอการระบาย พร้อมรับมือน้ำเหนือหลาก และน้ำทะเลหนุน อีกทั้งการควบคุมปริมาณน้ำในคลองต่างๆต้องให้เกิดความเหมาะสม
“หากฝนตกน้ำทะเลหนุนก็ถือเป็นเรื่องใหญ่ การขุดลอกระบายน้ำปัจจุบันได้กำชับกรมราชทัณฑ์ ซึ่งเขายินดีที่จะช่วยอยู่แล้ว ขณะเดียวกันฝ่ายความมั่นคง ก็ช่วยในเรื่องของการขุดลอกคลอง การกำจัดขยะวัชพืชตามท่อระบายจุดต่างๆ ขอให้ทางกรุงเทพมหานครร่วมงานกับฝ่ายปกครองกรมชลประทานและกรมทรัพยากรน้ำในการจัดการทุกมิติอย่างเต็มที่ขอให้กำลังใจเพราะงานนี้ไม่ใช่งานง่ายประกอบกับปีนี้น้ำเยอะจึงฝากด้วยแล้วกัน” นายกรัฐมนตรี ระบุ
นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำและสอบถาม กทม.ว่า พื้นที่สุ่มเสี่ยงที่เกิดปัญหาน้ำท่วมประจำ โดยเฉพาะในพื้นที่ชุมชนที่แออัด ซึ่งรู้อยู่แล้วว่าจะมีน้ำท่วมจะไปกำหนดจุดและแก้ไขปัญหาอย่างไร โดยเฉพาะชุมชนบ่อนไก่ ที่เกิดปัญหาเป็นประจำ ขอให้กรุงเทพมหานครไปดูแลพื้นที่เปราะบางเป็นอันดับแรกของการแก้ไขปัญหา พื้นที่น้ำท่วม และ หากมีโอกาสตนเองจะร่วมลงพื้นที่ด้วย ยืนยันว่าไม่ได้ไปจับผิดแต่เป็นการช่วยกันทำงาน
ด้านผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ปริมาณน้ำที่จะไหลลงสู่ กทม.มีทั้งหมด 4 สาย ประกอบด้วย น้ำเหนือ น้ำฝน น้ำทะเลหนุน และน้ำตามทุ่ง หากมาพร้อมกันก็จะเป็นปัญหา เหมือนที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2554 ส่วนการป้องกันจะมี2 แนวทาง คือ เส้นเลือดใหญ่และเส้นเลือดฝอย ที่จะช่วยเรื่องของการระบายน้ำ เส้นเลือดใหญ่ คือแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนเส้นเลือดฝอยจะเป็นการระบายน้ำตามคูคลองสายย่อยต่างๆ ที่จะต้องขุดลอกคูคลองรอรับการระบาย
จากนั้นนายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมห้องนิทรรศการโครงการตามแนวพระราชดำริด้านการป้องกันและแก้ไขน้ำท่วมเขตกรุงเทพมหานคร และตรวจเยี่ยมศูนย์ควบคุมระบบน้ำท่วมกรุงเทพมหานคร แบบ Real Time โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้มาให้กำลังใจ และมาพูดคุยกักรุงเทพมหานคร ถึงแผนการรองรับพื้นที่เปราะบาง และมาตรการที่จะดูแลพี่น้องประชาชนจากสถานการณ์น้ำท่วม ซึ่งมีเขื่อนที่จังหวัดปทุมธานีที่ยังไม่มีการก่อสร้าง จึงได้สั่งให้คณะทำงานของนายกฯดูว่า จะสามารถนำงบประมาณตรงไหนมาดำเนินการได้บ้าง ย้ำว่าวันนี้เดินทางมาให้กำลังใจผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครโดยเฉพาะการขับเคลื่อนงานที่ได้สั่งการในที่ประชุมแล้ว.-316.-สำนักข่าวไทย