รัฐสภา 1 ส.ค.-“สรชาติ” สว. ค้านเพิ่ม กมธ.สามัญ วุฒิสภา เหตุไม่ตอบโจทย์จำนวน สว.ที่เหลือ 200 คน เหน็บเข้าใจมีคนอยากเป็นประธาน กมธ.กันเยอะ แต่ต้องเข้าใจสภาพความเป็นจริง พร้อมยันไม่มีล็อกโควตาประธาน
นายสรชาติ วิชย สุวรรณพรหม สว. กล่าวถึงกรณีที่มีการเสนอรร่างข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา เพิ่มจำนวนกรรมาธิการสามัญเป็น 28 คณะ ว่า ตนไม่เห็นด้วยกับการเพิ่มจำนวน กรรมการสามัญ เพราะขณะนี้จำนวนสว.ลดลงจาก 250 เป็น 200 คน และตามข้อบังคับเดิม 1 คนเป็นกรรมาธิการได้ 2 คณะ หากเพิ่มจำนวนกรรมการสามัญอาจจะมีคนไม่พอ ตนจึงได้ยกร่างข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา โดยรวมกรรมาธิการฯ ที่ทำงานในลักษณะใกล้เคียงกันมาไว้ด้วยกัน ให้มีกรรมาธิการสามัญประจำวุฒิสภาจำนวน 23 คณะ แต่ละคณะประกอบด้วยกรรมาธิการจำนวนไม่น้อยกว่า 9 คน แต่ไม่เกิน 17 คน ซึ่งเป็นเหมือนกับข้อบังคับการประชุมวุฒิสภาปี 2551 และขณะนี้ส่งร่างฯให้เพื่อนสว. รับไปศึกษาแล้ว และหากมีความเห็นพ้องกัน ก็ค่อยลงชื่อเสนอต่อประธานวุฒิสภา และเห็นว่าควรพิจารณาในที่ประชุม 3 วาระรวดโดยไม่ต้องเสียเวลา ตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาศึกษาอีก แต่หากยังเห็นไม่ตรงกัน ก็ใช้ข้อบังคับการประชุมวุฒิสภาเดิมไปก่อน 1-2 ปี
“ผมคำนวณดูแล้วว่าถ้าเราไม่ปลดล็อคตรงที่ว่า คนหนึ่งเป็นได้กี่คณะ ถ้าคนหนึ่งเป็นได้หลายคณะ จะทำงานกันอย่างไร เดี๋ยวก็วิ่งไปวิ่งมาก็ไม่ได้อีก เราถูกล็อคด้วยจำนวนว่ามีแค่ 200 คนต่างหาก ถ้าเราคิดว่าตั้งกรรมาธิการ 1 คณะมีเพียง 7-8 คนได้มันก็ไม่สมควร ส.ส.เขามี 500 คน เขายังมีแค่ 36 คณะเองดังนั้นเราจะมีไปมากกว่าก็คงเป็นไปไม่ได้ คือตามใจของเพื่อนสมาชิกอยากจะเป็นประธานกรรมาธิการกันเยอะ เราเข้าใจว่าอยากจะมีบทบาท เข้าใจความต้องการของกลุ่มเพื่อนสมาชิกกลุ่มที่อยากจะได้เยอะๆ แต่เราต้องดูสภาพความเป็นจริงในการทำงาน” นายสรชาติ กล่าว
ส่วนตำแหน่งประธานคณะกรรมการสามัญ นั้น นายสรชาติ กล่าวว่า ควรตั้งจากคนที่มีความรู้เฉพาะด้านนั้นจริงๆ ขณะที่คนใหม่ๆก็ควรศึกษากันก่อน ซึ่งเชื่อว่าใช้เวลาไม่นาน อย่างไรก็ตามยืนยันว่ายังไม่มีการล็อคตัวประธานคณะกรรมาธิการฯ และย้ำว่าขณะนี้สว.อยู่ในช่วงการเตรียมความพร้อมของสว.ใหม่ ที่จะต้องพัฒนาศักยภาพตัวเองในการทำหน้าที่ เพราะต้องยอมรับว่าหลายคนแม้จะจบการศึกษาระดับสูง แต่ไม่ได้ผ่านงานการเมืองไม่เคยเป็นส.ส.ไม่เคยเป็นสว. แต่เชื่อว่าไม่น่าจะใช้เวลานานในการปรับตัว
นายสุรชาติ กล่าวด้วยว่า เพื่อให้คณะกรรมาธิการสามารถปฏิบัติหน้าที่สนับสนุนภารกิจของวุฒิสภาในการดำเนินงานด้านนิติบัญญัติ และติดตามการบริหารราชการแผ่นดินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขอให้ปรับปรุงแก้ไขบทบัญญัติเกี่ยวกับคณะกรรมาธิการวิสามัญประจำสภา และให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญประจำสภาขึ้นใหม่ จำนวน 2 คณะ คือ คณะกรรมาธิการวิสามัญการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ เพื่อพิจารณาหาแนวทางการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่สั่งสมมานานในสังคมไทย และให้มีคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาศึกษาหาแนวทางที่เหมาะสม เพื่อรองรับข้อเสนอให้แก้ไขเพิ่มเติมรัฐธธรรมนูญที่อาจมีขึ้นในอนาคตด้วย
ด้านนางนันทนา นันทวโรภาส แกนนำสว.พันธุ์ใหม่ เปิดเผยว่า กลุ่มสว.พันธุ์ใหม่ เสนอญัตติ แก้ไขข้อบังคับการประชุม สว. 2ร่าง โดย ร่างแรก เสนอปรับแก้คณะกมธ. ตามภารกิจเป้าหมาย และจำนวนกมธ.ในแต่ละคณะ เสนอโดย สว.ประพาส ปิ่นตบแต่งและคณะ
อีกหนึ่งร่าง เป็นการแก้ไขเรื่องการบันทึกการลงมติผ่านสื่ออิเล็กทรอนิค เสนอโดย สว.เทวฤทธิ์ มณีฉายและคณะทั้งสองร่างบรรจุเข้าระเบียบวาระการประชุม ของวุฒิสภา เพื่อพิจารณาในวันจันทร์ที่ 5 สค.นี้.-312.-สำนักข่าวไทย