“ชัยธวัช” เผย กมธ.นิรโทษกรรม เสียงแตกปม ม.112

รัฐสภา 25 ก.ค. – “ชัยธวัช” เผย กมธ.นิรโทษกรรม เสียงแตกปม ม.112 บางส่วนเสนอต้องมีเงื่อนไข หวังสภาฯ รับฟังอย่างมีวุฒิภาวะ ไร้ความขัดแย้ง


นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า วันนี้เป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ โดยพรุ่งนี้ (26 ก.ค.67) จะมีการสรุปรายงานอย่างเป็นทางการ เพื่อบรรจุเข้าสู่วาระการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรให้เร็วที่สุด

สำหรับสาระสำคัญคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ เห็นว่าการนิรโทษกรรมครั้งนี้คงไม่สามารถออกเป็นกฎหมายเหมือนในอดีตที่มีการกำหนดฐานความผิดโดยเฉพาะ หรือจะนิรโทษกรรมคดีใดคดีหนึ่งโดยเฉพาะ เนื่องจากคดีที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่มีความขัดแย้งทางการเมืองเกือบ 20 ปี มีหลากหลายฐานความผิด และหลากหลายเหตุการณ์


ดังนั้น จึงต้องตรากฎหมายให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงมากที่สุด คือการเสนอให้มีการตั้งคณะกรรมการนิรโทษกรรม ว่ามีคดีใดบ้างที่ควรจะได้รับการนิรโทษกรรม พร้อมกับนิยามว่าคดีการกระทำผิดที่เกิดจากแรงจูงใจทางการเมือง หมายถึงการกระทำที่มีฐานความผิดที่เกี่ยวเนื่องกับเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง หรือต้องการบรรลุเป้าหมายทางการเมืองอย่างใดอย่างหนึ่งในช่วงเวลาที่มีความขัดแย้ง หรือช่วงที่มีเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง ตั้งแต่ปี 2548 ถึงปัจจุบัน

ส่วนการนิรโทษกรรมความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ จากพรรคก้าวไกล เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรมมาตรา 112 แต่ยังมีความเห็นต่างกันอยู่ในคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ จึงได้มีการรวมความคิดทุกรูปแบบ เพื่อให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาอย่างรอบด้านแบ่งเป็น 3 กลุ่ม

1.ไม่เห็นด้วยกับการที่นิรโทษกรรมมาตรา 112
2.เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรมมาตรา 112 เหมือนกับฐานความผิดอื่นๆ
3.เห็นด้วยที่จะนิรโทษกรรมมาตรา 112 แต่เป็นการนิรโทษกรรมแบบมีเงื่อนไข


นายชัยธวัช ยอมรับว่า ในคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ มีความกังวลหลายอย่าง หากมีการนิรโทษกรรมคดี 112 จะเกิดปัญหาการแสดงออกอย่างที่เคยเกิดขึ้น แล้วนำไปสู่การดำเนินคดี ซึ่งมีข้อเสนอว่าควรมีกำหนดมีเงื่อนไขผ่าน 2 องค์ประกอบ ได้แก่ 1.เสนอให้คณะกรรมการนิรโทษกรรมมีอำนาจในการกำหนดเงื่อนไข เพื่อเข้าสู่การพิจารณานิรโทษกรรม 2.ควรจะมีมาตรการในการป้องกันการกระทำผิดซ้ำ

ผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิด หรือผู้กระทำผิดต้องมาแถลงข้อเท็จจริงถึงสาเหตุ และแรงจูงใจในการกระทำตามที่ถูกกล่าวหา พร้อมทั้งมีกระบวนการเปิดพื้นที่ปลอดภัยให้เกิดการสานเสวนาระหว่างผู้กระทำผิดและผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิด กับคู่ขัดแย้งและเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เพื่อให้ได้มีการแลกเปลี่ยนข้อเท็จจริงกัน ทั้งนี้ การกำหนดเงื่อนไขในการกระทำความผิดซ้ำในแต่ละคดีจะไม่เหมือนกัน แล้วแต่พฤติการณ์แต่ละคดี

ประเด็นสำคัญคือระหว่างที่คดีนั้นยังอยู่ในกระบวนการพิจารณานิรโทษกรรม มีข้อเสนอว่าควรจะมีมาตรการอำนวยความยุติธรรมเบื้องต้น เช่น การชะลอฟ้อง การให้สิทธิประกันตัว หรือการจำหน่ายคดีชั่วคราว เนื่องจากคดีที่มีเงื่อนไขเช่นนี้อาจจะใช้ระยะเวลาในการพิจารณามากกว่าคดีอื่น

สำหรับมาตรการป้องกันกระทำผิดซ้ำ อาจมีมาตรการอื่นหลังได้รับนิรโทษกรรมไปแล้ว เช่น การละเมิดเงื่อนไขอาจจะต้องเสียสิทธิในการนิรโทษกรรม มาตรการการรายงานตัวเป็นระยะ หรือกระบวนการสร้างความปรองดอง เป็นต้น นอกจากนี้คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ บางส่วนยังมีข้อเสนอไม่ให้นิรโทษกรรมทันที แต่อาจให้มีการสานเสวนาแล้วค่อยพิจารณานิรโทษกรรม

ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ เห็นร่วมกันว่าคดีละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับชีวิตไม่ควรได้รับการนิรโทษกรรม และเมื่อรายงานเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ แล้ว คณะรัฐมนตรี (ครม.) ควรจะรีบพิจารณาจัดทำร่างกฎหมายนิรโทษกรรมของรัฐบาล และระหว่างที่กฎหมายยังตราไม่แล้วเสร็จก็ควรมีการอำนวยความยุติธรรมด้วย

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่รายงานฉบับดังกล่าวผ่านการพิจารณาของสภาฯ แล้ว จะจัดส่งรายงานไปยัง ครม. และหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม โดยจะขอให้ส่งรายงานกลับมาที่สภาฯ ภายใน 60 วัน ถึงความคืบหน้าในการดำเนินการตามข้อเสนอ

ขณะที่ความเห็นของหลายพรรคการเมืองยังแตกต่างกัน ส่วนใหญ่ไม่สนับสนุนให้มีการนิรโทษกรรมในคดี 112 พรรคก้าวไกลไม่ได้ไม่ได้มีการจัดทัพขนาดนั้น แม้เราจะมีความเห็นแบบหนึ่ง แต่เราก็รับฟังและพยายามเข้าใจความเห็นของฝ่ายที่มีข้อกังวลในประเด็นนี้ แม้กระทั่งการทำงานในคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ก็มีความเห็นที่แตกต่างกัน แต่เราก็รับฟังความเห็นซึ่งกันและกัน พยายามหาข้อเสนอที่จะเป็นที่ยอมรับได้มากที่สุด ยกตัวอย่างข้อเสนอนิรโทษกรรมอย่างมีเงื่อนไขก็เป็นความพยายามที่จะเข้าใจซึ่งกันและกัน โดยในรายงานที่จะเข้าสู่สภาฯ จะมีความเห็นของทุกฝ่าย

“หวังว่าบรรยากาศในสภาฯ คงไม่ใช่บรรยากาศแห่งความขัดแย้ง แต่เป็นบรรยากาศที่พยายามรับฟังซึ่งกันและกัน พิจารณาทุกเรื่องอย่างรอบด้านอย่างดีที่สุดและมีวุฒิภาวะ หากในสภาฯ บรรยากาศยังไม่ปรองดอง ไม่เปิดใจรับฟังซึ่งกันและกัน การออกกฎหมาย เพื่อมีเป้าหมายในการลดความขัดแย้งทางการเมืองคงไม่บรรลุ” นายชัยธวัช กล่าว.-317-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯหารือบริษัทยา

นายกฯ ถกบริษัทยา Astrazeneca พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทย

บริษัทยาระดับโลก Astrazeneca หารือ นายกฯ ยืนยันไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีมายาวนาน พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ นายกฯ มั่นใจการแพทย์ของไทยติดระดับในโลก ยืนยันหลายประเทศทั่วโลกบินมารักษาในประเทศไทยจำนวนมาก

ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค.

กรมควบคุมมลพิษ เผยวันนี้ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค. ประสานทุกหน่วยงานยกระดับการแก้ไขปัญหา พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข

หวยอลวน12ล้าน

หวย 12 ล้านพาวุ่น “ผู้กองเข้ม” แจ้งความ “ยายแหล่”

หวยอลวนมาอีกแล้ว หลังยายแหล่ แม่ค้าร้านลาบก้อย ที่เพิ่งถูกสลากฯ เป็นเศรษฐีใหม่ 12 ล้านบาท แต่มีตำรวจรายหนึ่ง ไปแจ้งความ ว่าถูกยายแหล่ ยักยอกทรัพย์

แอปฯ “ล่าเหรียญ” ฟีเวอร์ ทำชาวบ้านเดือดร้อน

แอปพลิเคชัน “Jagat” ฟีเวอร์ ทำวัยรุ่นว้าวุ่น แห่ล่าเหรียญแลกเงินที่กระจายอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ทำชาวบ้านและผู้ประกอบการเดือดร้อน ตำรวจเตือนการแชร์พิกัดตำแหน่งอาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพเฝ้าติดตามและฉวยโอกาสขโมยทรัพย์สินได้ และอาจเสี่ยงเจอข้อหาบุกรุก