พล.อ.เกรียงไกร รับหนักใจถูกเสนอชื่อชิงเก้าอี้ประธานวุฒิสภา

กกต. 12 ก.ค.-พล.อ.เกรียงไกร รับหนักใจถูกเสนอชื่อชิงเก้าอี้ประธานวุฒิสภา ออกตัวต้องการทำงาน กมธ.ทหารและความมั่นคง มอง “ประวุฒิสภา” ต้องรู้กฎหมาย มีวุฒิภาวะ เป็นที่ยอมรับ ส่วนว่าที่ สว.ทยอยรับหนังสือรับรองที่ กกต.ต่อเนื่องในวันสุดท้าย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ว่าที่ สว.ทยอยเดินทางมารับเอกสารรายงานตัว ที่สำนักงาน กกต. ต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้ โดยมีผู้ที่มารอตั้งแต่ก่อนเวลา 08.30 น. จากที่มารับไปแล้วเมื่อวานนี้ 173 คน และในจำนวนผู้มารับเอกสารรับรอง คือ พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ สว.กลุ่ม 1 กลุ่มบริหารราชการแผ่นดิน โดยมารอก่อนเวลา 8.30 น.


พลเอกเกรียงไกร ให้สัมภาษณ์ภายหลังรับหนังสือรับรองถึงกระแสถูกเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภา ว่า มีความหนักใจ และต้องขอขอบคุณสื่อที่เสนอว่าตนเป็น 1 ในแคนดิเดตประธานวุฒิสภา แต่ความตั้งใจที่ตนเข้ามาสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา อยากทำงานทางด้านความมั่นคงในเรื่องของการด้านทหาร โดยเฉพาะชายแดนภาคใต้ จะเอาประสบการณ์ องค์ความรู้ที่มีไปแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้

ในการเลือกประธานวุฒิสภามีประเด็นเรื่อง สว.กลุ่มสีสู้กับกลุ่มอิสระ มองอย่างไร พล.อ.เกรียงไกร กล่าวว่า ทุกคนมีโอกาส ทุกคนเป็นผู้มีองค์ความรู้ หลากหลายกลุ่มอาชีพทั้ง 20 กลุ่ม เราจะเห็นว่ากระบวนการเลือก สว.ที่ผ่านมา ที่กำหนดมาใน 20 กลุ่มอาชีพ เป็นกลุ่มอาชีพที่มีความหลากหลายและมีประสบการณ์ในอาชีพของตนเอง ที่ก้าวเข้ามาดูแลอาชีพของตนเอง ในบริบทของการเป็น สว.


เมื่อถามต่อการเป็นทหารจะถูกมองอีกมุมหรือไม่ พล.อ.เกรียงไกร กล่าวว่า ไม่เป็นไร อยากทำหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง โดยเฉพาะงานจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 4 อยู่ที่นั่นมาอย่างยาวนานตั้งแต่เกิดจนกระทั่งบัดนี้ ไปเป็นเลขาฯ ของกระบวนการพูดคุยสันติสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ถ้าได้ทำงานตรงนี้ความต่อเนื่องจะเกิดขึ้น ในบริบทของกลุ่มทหารก็ดี หรือกลุ่มต่างๆก็ดี ก็มีเป้าหมายร่วมกัน คือทำอย่างไรให้สันติสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้เกิดขึ้น แต่ว่ากลยุทธ์ในการเดินกฎหมายแตกต่างกัน ก็ปรับกันได้ เพราะความหลากหลายตรงนี้ คือสิ่งที่ทำให้เกิดกระบวนการนำไปสู่จุดหมายร่วมกัน ในการเปลี่ยนแปลงวิธีการ ถ้าตนคิดคนเดียวก็อยู่ในมุมของตน ถ้าตนรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น การที่จะเดินไปสู่จุดหมายได้ก็เกิดความรอบครอบมากยิ่งขึ้น

เมื่อถามว่ามองว่าการทำงานของ สว.ใหม่ 200 คนจะเป็นอย่างไรบ้าง พล.อ.เกรียงไกร กล่าวว่าความหลากหลายใน 20 กลุ่มอาชีพ ทำให้มีการได้เปรียบในเชิงการปฎิบัติของผู้คนที่มีประสบการณ์ สามารถที่จะนำมาสู่กระบวนการกลั่นกรอง การทำงานของสมาชิกวุฒิสภา

ส่วนข้อกังขาในเรื่อง สว.จัดตั้ง จะเป็นอุปสรรคและปัญหาของการทำงานของ สว.ชุดนี้หรือไม่ พล.อ.เกรียงไกร กล่าวว่า เราต้องขอมองกลับไป ว่าการที่เกิดปัญหาการฮั๊ว ตนว่ามีกันทุกกลุ่ม เราก้าวเข้ามาด้วยห้วงเวลาที่จำกัด ไม่มีกระบวนการในการหาเสียง และเราก็ได้ใช้การพูดคุย การรวมกลุ่มกันให้ได้นำเสนอโอกาสของตัวเอง หรือผลงานในช่วงที่ผ่านมา และได้มีการจับกลุ่มคุยกัน ซึ่งเป็นปกติในส่วนที่มีมุมมองต่างๆ ก็เป็นเรื่องของมุมมอง ความคิดเห็นที่มีความแตกต่างกันออกไป ก็ไม่เป็นไรให้อยู่ในกระบวนการตรวจสอบ


การที่มี สว.กลุ่มเสียงข้างน้อย มองว่า สว.เสียงข้างมากจะกินรวบตำแหน่งฝ่ายนิติบัญญัติ ประธานและรองประธาน มองเรื่องนี้อย่างไร พล.อ.เกรียงไกร กล่าวว่าไม่แน่เสมอไป ต้องมาดูกันในวันที่เปิดการประชุม ว่าบริบทตรงนี้จะเป็นอย่างไร ตนคิดว่าอย่างไรก็แล้วแต่ในเรื่องของกระบวนการประชาธิปไตย ในเรื่องของการยอมรับในเสียงส่วนมากในการลงมติ แต่ก็ไม่เพิกเฉยต่อเสียงส่วนน้อย ก็ต้องฟังเสียงส่วนน้อยในข้อท้วงติง และแนะนำข้อเสนอเพื่อนำไปสู่เป้าหมาย

ส่วนกรณีที่มี สว. บางคน อยากฟังวิสัยทัศน์ ผู้ชิงตำแหน่งประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งมีการเสนอชื่อตนนั้น ก็เห็นว่า วิสัยทัศน์ของทุกคนมีอยู่แล้ว การเลือกประธานวุฒิสภาในกระบวนการที่แสดงวิสัยทัศน์ตามที่เคยปฏิบัติมา ทุกคนที่คาดหวังในจุดนั้น ก็คงมีการเตรียมตัวมา ในส่วนตัวต้องไปดูบริบท ว่าจะนำเสนอให้สมาชิกได้รับทราบอย่างไรในความตั้งใจของเรา แต่อย่างที่เคยบอกไป ส่วนตัวอยากทำหน้าที่ในกรรมาธิการด้านทหารและด้านความมั่นคง

เมื่อถามว่า หากมีการเสนอชื่อให้ลงชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภานั้น พล.อ.เกรียงไกร กล่าวว่า แล้วแต่สมาชิกแต่ละคน ส่วนในความคิดของตนต่อผู้ที่จะเป็นประธานวุฒิสภา จะต้องมีความรอบรู้ทางด้านกฎหมาย มีวุฒิภาวะ และเป็นที่ยอมรับ

เมื่อถามว่า สว. หลายคน อาจมองว่า ประธานวุฒิสภา ควรเป็นนักกฎหมายมากกว่านักบริหารนั้น พล.อ.เกรียงไกร กล่าวว่า แล้วแต่มุมมองแต่ละคน เพราะแต่ละคนมีความคิดที่แตกต่างกัน แต่ก็ต้องยอมรับในกระบวนการที่ตกลงกัน ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเสนอได้ทั้ง 200 คน เพราะมีโอกาสเป็นได้ทั้งนั้นและใน 200 คน ส่วนตัวยังไม่ทราบว่ามีใครที่เคยเป็นวุฒิสภามาบ้างหรือไม่ แต่ส่วนใหญ่ก็คงยังไม่คุ้นเคยกับสภา ทั้งสภาผู้แทนราษฎร และ วุฒิสภา ถือว่าเป็นบทบาทใหม่ ที่เราต้องเรียนรู้กันไป ในกฎระเบียบ ข้อบังคับ และหลักการทำงาน เราต้องศึกษาและเรียนรู้และดำเนินการ บางส่วนก็ได้มีการเตรียมการไปแล้วในหน้าที่บทบาทที่ตัวเองต้องทำ

เมื่อถามว่า วุฒิสภาสามารถทำหน้าที่เป็นสภาพี่เลี้ยงของสภาผู้แทนฯได้ใช่หรือไม่ พล.อ.เกรียงไกร กล่าวว่า ตนคิดว่าทุกคนมีวุฒิภาวะ มีความรู้สึกสำนึกในหน้าที่ของตัวเอง ที่ได้รับผิดชอบ ก็ต้องทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด เพราะเป็นสิ่งที่ประชาชนคาดหวัง คิดว่าทิศทางน่าจะเป็นไปด้วยดี

เมื่อถามว่าเสียใจหรือไม่ เนื่องจากว่ามีการนำเสนอข่าวว่า เป็น สว.ที่มีสี พล.อ.เกรียงไกร กล่าวว่า ตนเป็นสีน้ำเงินเข้มอยู่แล้ว หมายถึง ตนมาจากทหาร ยึดสถาบันพระมหากษัตริย์ยิ่งชีวิต ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สีแดง สีขาว สีน้ำเงิน และน้ำเงินแถบใหญ่มาก เป็นสีตรงกลางที่สำคัญมาก.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

ตรึงกำลังเข้ม-รถจีโน่เข้าประจำการชายแดนสระแก้ว

สระแก้ว 20 ก.ย. – เจ้าหน้าที่ตรึงกำลังเข้มบ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว นำรถจีโน่เข้าประจำการชายแดน เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ ขณะที่น้ำใจชาวไทยหลั่งไหลสู่เจ้าหน้าที่ไม่ขาดสาย ส่วนที่จันทบุรี วางลวดหนามหีบเพลงตามจุดล่อแหลม.-สำนักข่าวไทย

Delayed flights at Brussels airport after cyberattack disrupts operations

เหตุโจมตีไซเบอร์ป่วนสนามบินในยุโรป

ลอนดอน 20 ก.ย. – สนามบินในยุโรปหลายแห่งได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์โจมตีไซเบอร์ต่อระบบเช็กอินและการขึ้นเครื่อง ทำให้เที่ยวบินล่าช้าและถูกยกเลิกบางส่วน ขณะที่สหรัฐมีเหตุขัดข้องที่สนามบินในเมืองดัลลัส ท่าอากาศยานฮีทโธรว์ในกรุงลอนดอนของอังกฤษแจ้งเตือนเรื่องเที่ยวบินล่าช้า เนื่องจากบริษัทคอลลินส์ แอโรสเปซ (Collins Aerospace) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการระบบเช็คอินและขึ้นเครื่องให้กับสายการบินหลายสายในสนามบินหลายแห่งทั่วโลกกำลังประสบปัญหาทางเทคนิค ซึ่งอาจกระทบต่อผู้โดยสารขาออก   ขณะที่ท่าอากาศยานบรัสเซลส์ของเบลเยียมแถลงผ่านเว็บไซต์ว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อคืนวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น การโจมตีไซเบอร์ครั้งนี้ทำให้ระบบการเช็คอินอัตโนมัติไม่สามารถใช้งานได้ จึงต้องใช้การเช็คอินและขึ้นเครื่องด้วยระบบมือเท่านั้น ส่งผลกระทบครั้งใหญ่ต่อกำหนดตารางการบิน ทำให้เที่ยวบินล่าช้าและยกเลิก ขอให้ผู้โดยสารที่มีกำหนดเดินทางในวันเสาร์ตรวจสอบกับสายการบินก่อนเดินทางไปยังสนามบิน ด้านท่าอากาศยานเบอร์ลินของเยอรมนีแจ้งข้อความผ่านเว็บไซต์ว่า เนื่องจากบริษัทผู้ให้บริการระบบเกิดปัญหาขัดข้องทางเทคนิค ส่งผลให้การเช็คอินต้องใช้เวลานานขึ้น แต่ท่าอากาศยานแฟรงเฟิร์ต ซึ่งเป็นสนามบินใหญ่ที่สุดในเยอรมนีและท่าอากาศยานซูริคของสวิตเซอร์แลนด์ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด อาร์ทีเอ็กซ์ คอร์ปอเรชัน ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของคอลลินส์ แอโรสเปซแจ้งว่า ทราบเรื่องซอฟต์แวร์ที่สนามบินบางแห่งมีปัญหาที่เกี่ยวกับไซเบอร์แล้ว แต่ไม่ได้ระบุชื่อสนามบินเหล่านั้น ส่วนที่สหรัฐองค์การบริหารการบินแห่งชาติหรือเอฟเอเอ (FAA) ได้สั่งระงับเที่ยวบินขาออกมากกว่า 1,800 เที่ยวที่สนามบิน 2 แห่งของเมืองดัลลัส ในรัฐเท็กซัสเมื่อวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น และต้องยกเลิกเที่ยวบินอีกหลายร้อยเที่ยว หลังจากระบบโทรคมนาคมเกิดปัญหาขัดข้อง เอฟเอเอระบุว่า ปัญหาการจราจรล่าช้าเกิดจากอุปกรณ์ของบริษัทโทรคมนาคมท้องถิ่นมีปัญหา ไม่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ของเอฟเอเอ และเอฟเอเอได้ร่วมมือกับบริษัทโทรคมนาคมดังกล่าวเพื่อหาสาเหตุของปัญหาแล้ว.-816(814).-สำนักข่าวไทย

อพยพด่วน! พนังกั้นน้ำแตกทะลักท่วมเทศบาลเมืองหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์

เพชรบูรณ์ 20 ก.ย. – พนังกั้นน้ำหน้าสวนดงตาลแตก ทำให้น้ำทะลักท่วมเทศบาลเมืองหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เจ้าหน้าที่เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียงและอพยพประชาชนไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย มีรายงานว่า พนังกั้นน้ำหน้าสวนดงตาลแตก ฝั่งถนนพิทักษ์ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ทำให้น้ำทะลักท่วมเทศบาลเมืองหล่มสัก รอบที่ 2 กู้ชีพกู้ภัย รถพยาบาล ระดมกำลังเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียง และอพยพประชาชนไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ขณะที่เจ้าหน้าที่ประกาศห้ามรถทุกชนิดผ่าน และให้ยกของขึ้นที่สูงโดยด่วน ส่วนอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการชลประทาน พร้อมทหาร เร่งวางแบริเออร์ กระสอบทรายบริเวณสวนสาธารณะดงตาล เพื่อชะลอมวลน้ำไม่ให้เข้าในพื้นที่.-สำนักข่าวไทย

“20 ชม.” แพทย์ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ผ่าตัดต่อมือเด็กสำเร็จ

เชียงใหม่ 20 ก.ย.- ทีมแพทย์ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ผ่าตัด 20 ชั่วโมง ต่อมือเด็กหญิงวัย 14 ปี ประสบความสำเร็จ หลังถูกฟันขาด เบื้องต้นยังต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด เหตุการณ์ ขณะนายจายอ้ายหม่อง หรือ นายหม่อง อันธพาลเมียนมาและพวก ถือมีดสปาต้า วิ่งเข้าไล่ฟันกลุ่มผู้เสียหาย จนได้รับบาดเจ็บ 3 คน หนึ่งในนั้น คือ ด.ญ.อายุ 14 ปี ซึ่งยกแขนขึ้นบัง ทำให้ถูกนายหม่องฟันจนข้อมือขาด เหตุเกิดเมื่อกลางดึกของวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา บริเวณร้านซักรีดแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.หนองป่าครั่ง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ต่อมาตำรวจตามจับคนก่อเหตุได้ทั้งหมด 15 ราย ล่าสุด รศ.นพ.นเรนทร์ โชติรสนิรมิต คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ออกแถลงการณ์ ระบุได้รับผู้ป่วยเด็กหญิงอายุ 14 ปี ซึ่งถูกทำร้ายด้วยอาวุธมีดจนมือขวาขาดระดับข้อมือ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 […]