นายกฯ เปิดงานรวมพลังชุมชน อีสานเหนือสู้ภัยยาเสพติด

อุดรธานี 10 ก.ค.- นายกฯ ลุยอุดรธานี สวมถุงมือสีขาว ปลุกพลัง 12 จังหวัดอีสานตอนบน ประกาศลั่น “ไม่มีพื้นที่ให้ยาเสพติด” สั่ง ป.ป.ส.เพิ่มเงินเยียวยา สร้างขวัญกำลังใจ จนท.บาดเจ็บ เป็น 50,000 บาท เตรียมประสาน “สมศักดิ์” เพิ่มเป้าผู้ป่วยเข้ารับการบำบัด หลังรัฐบาลยกระดับมาตรการกวาดล้างขั้นสูงสุด


เมื่อเวลา 13.35 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงท่าอากาศยานทหารกองบิน 23 ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี ก่อนที่เวลา 13.45 น.นายกรัฐมนตรี เดินทางด้วยรถยนต์โตโยต้าอัลพาร์ดสีดำ ทะเบียน กล 5559 อุดรธานี ถึงมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ตำบลสามพร้าว อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี โดยมีนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และข้าราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรอต้อนรับ

โดยเมื่อเดินทางถึงนายกรัฐมนตรี รับฟังบรรยายสรุปแผนสกัดกั้นแนวชายแดนอีสานตอนบน 5 จังหวัด และรับฟังบรรยายายสรุปปฏิบัติการไล่ล่า (เด็ดปีก)นักค้าอีสานเหนือ 252 จากตำรวจภูธรภาค 4 ซึ่งรายงานว่า ได้มีการใช้เทคโนโลยีวิเคราะห์ข้อมูลด้วยเครื่องมือพิเศษ ปิดล้อม และตรวจค้นจำนวน 6 ครั้ง โดยสามารถจับกุมผู้ค้ายาเสพติดจำนวน 3,446 ราย และยึดทรัพย์ของกลางยาบ้า 10,345,615 เม็ด ยึดอาวุธปืน 217 กระบอก เครื่องกระสุน 32 นัด และสามารถตรวจยึดทรัพย์ 1,553 รายการ มูลค่าทั้งสิ้น 254,961,366 บาท


โดยนายกรัฐมนตรี ได้สอบถามเลขาธิการ ป.ป.ส. ถึงเรื่องค่าตอบแทนของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการทั้งทหารตำรวจและพลเรือน ที่ได้รับเงินจากกองทุน ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กรณีได้รับบาดเจ็บ โดยเลขาป.ป.ส.รายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้รับเงินเยียวยาจำนวน 10,000 บาท ด้านนายกฯกล่าวกำชับว่า ขอให้เพิ่มเงินเยียวยาดังกล่าวเป็น 50,000 บาท เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ในการปฎิบัติหน้าที่ที่เข้มข้นขึ้น ก่อนที่นายกฯจะเยี่ยมชมรถ ซึ่งเป็นระบบเทคโนโลยีตรวจจับผู้ต้องสงสัย

ต่อมานายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมและรับฟังบรรยายายโครงการชุมชนยั่งยืนของตำรวจภูธรภาค 4 พร้อมกันนี้ นายกฯ ได้พูดคุยกับผู้กล้าที่เลิกยาเสพติด โดยนายกฯ สอบถามว่า ได้เลิกยามากี่ปีแล้ว และมีการฝึกอาชีพให้หรือไม่

จากนั้นนายกรัฐมนตรี รับฟังบรรยายสรุปการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดของฝ่ายปกครอง โดยมีการค้นหาผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติด ด้วยการเอ็กซเรย์และมีการจัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูทางสังคม รวมถึงมีการจัดตั้งจุดสกัดตรวจสถานบริการ และตั้งศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคม ก่อนรับฟังบรรยายสรุปจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี ในส่วนของผลงานด้านบำบัดฟื้นฟูผู้ป่วยยาเสพติด 12 จังหวัดภาคอีสานระยะเร่งรัด 3 เดือน


นายกรัฐมนตรี ยังกำชับว่า ขอให้ตั้งเป้าการนำผู้เสพเข้าสู่การบำบัดให้สูงขึ้น เพื่อกวาดล้างให้ได้มากที่สุด ทั้งนี้ตนจะหารือกับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในเรื่องดังกล่าว โดยจังหวัดหนองคายถือเป็นจังหวัดที่นำผู้เสพที่มีอาการทางจิตเข้าสู่กระบวนการบำบัดน้อยที่สุด ก็ขอให้เป็นจังหวัดนำร่อง ดังนั้นขอให้ตั้งเป้าให้เยอะ เพราะฝ่ายความมั่นคงกวาดล้างได้จำนวนมาก

นอกจากนี้ เด็กนักเรียนและครูชมรม To BE Number one จากโรงเรียนพันดอนวิทยา องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดร 4 ร้องเพลงบูมเชียร์ให้กับ นายกฯ ก่อนที่นายกฯจะเดินทักทาย

จากนั้นนายกฯ รับชมวีดิทัศน์ขับเคลื่อนการปลุกพลังชุมชน ก่อนรับชมการแสดงเพลงมุ่งสู่ขวัญ NPD.P4 จากนักเรียนและครูโรงเรียนชุมชนสามพร้าวและครูแดร์ หรือ D.A.R.E. โดยระหว่างชมการแสดงนายกฯได้อมยิ้มพร้อมกับหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปด้วย

ต่อมานายกฯเป็นประธานเปิดงานกิจกรรม “งานรวมพลังชุมชน อีสานเหนือสู้ภัยยาเสพติด” โดยผู้ร่วมงาน และนายกฯร่วมกันแสดงพลังสู้ภัยยาเสพติดใส่ถุงมือแสดงสัญลักษณ์ ที่มีข้อความว่า “No Place Fordrug”

นายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดกิจกรรมตอนหนึ่งว่า ตนมีความยินดีที่ได้มาร่วมกิจกรรมงานรวมพลังชุมชน อีสานเหนือสู้ภัยยาเสพติด ซึ่งยาเสพติดเป็นเรื่องที่ไม่ว่าจะลงพื้นที่มากี่ครั้ง กี่หมู่บ้าน ก็ล้วนแต่ได้ยินมาว่าเป็นปัญหา เป็นเรื่องที่หนักหนาจริง ๆ ลูกหลานของพวกเราจำนวนมากต้องตกเป็นทาสยาเสพติด ตนเห็นหลายครอบครัวที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยความกลัว อยู่ด้วยกันในชุมชนก็รู้สึกไม่ปลอดภัย ซึ่งสังคมไทยไม่ควรเป็นแบบนี้

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ตนยอมไม่ได้ที่สังคมไทย ลูกหลานของเรา อยู่ในสังคมที่มียาเสพติดแพร่ระบาดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ทั้งนี้ การป้องกันปราบปรามยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ ที่รัฐบาลเร่งดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรม บูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วน ทั้งในระดับพื้นที่ และภาคประชาชน เพื่อแก้ปัญหาในชุมชน และมุ่งปราบปรามการค้ายาเสพติดนำไปสู่การสร้างพลังชุมชนที่เข้มแข็ง และยั่งยืนในการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยเราปฏิบัติการเด็ดปีกนักค้าอีสานเหนือครอบคลุม 12 จังหวัด ทำให้เห็นพลังของมวลชนต่อการประกาศจุดยืนในการต่อสู้กับปัญหายาเสพติดในชุมชนของตนเอง

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า นอกจากการแก้ไขปัญหายาเสพติดจะสำเร็จได้ ทุกคนทุกภาคส่วน ตำรวจ จังหวัด ทหาร สาธารณสุข ป.ป.ส. และหน่วยงานอื่น ๆ จะต้องทำงานร่วมกัน และต้องได้รับการสนับสนุนจากชุมชน ให้ลุกขึ้นมาต่อสู้กับปัญหายาเสพติดร่วมกัน และเป็นหูเป็นตา ช่วยกันดูแลสอดส่อง แจ้งเบาะแส เฝ้าระวัง และป้องกันลูกหลานไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด อย่างไรก็ตาม วันนี้พวกเราทุกคนได้แสดงเจตนารมณ์ร่วมกัน ขอให้พวกเราบอกกล่าวในชุมชนให้ขยายผลการปฎิบัติออกไปในวงกว้าง เพื่อฝึกพลังชุมชนทุกพื้นที่ให้รวมพลังอย่างเข้มแข็ง ซึ่งตนขอบคุณในความตั้งใจ และพลังของทุกคน ทุกภาคส่วนที่ร่วมกันต่อสู้ เพื่อเอาปัญหายาเสพติดให้หมดออกไปจากสังคม เราจะร่วมกันรักษา ฟื้นฟู ดูแล และปกป้องลูกหลานของเราให้ห่างไกลยาเสพติด

“ขอให้ทุกคนน้อมนำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่ทรงห่วงใยปัญหายาเสพติด ไปปฏิบัติให้เกิดเป็นรูปธรรม ตามพระราชประสงค์อย่างยั่งยืนต่อไป” นายกฯ กล่าว

จากนั้นนายกรัฐมนตรี นำกล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อนำพลังชุมชนอีสานเหนือสู่ภัยยาเสพติด ก่อนร่วมกันยืนแสดงความเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมี และเพลงสดุดีจอมราชา และร่วมกันโบกธงเพื่อแสดงความจงรักภักดี เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก่อนจะถ่ายรูปร่วมกับเด็กนักเรียนอย่างเป็นกันเอง และเดินทางกลับกรุงเทพฯ .-316 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระดูกเทียมไทเทเนียม นวัตกรรมไทยช่วยทหารกล้าชายแดน

กรุงเทพฯ 16 ส.ค.-สินค้า IP ไทยสุดเลิศ ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อยอดส่งออกสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยในระยะยาว นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับบริษัท เมติคูลี่ จำกัด ผู้ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผู้ป่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จำนวน 4 ราย ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าตามลำดับ เพื่อให้ทหารกล้าของไทยฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยเร็ว “ความร่วมมือครั้งนี้ เริ่มจากกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีเยี่ยมผู้ประสบภัย ชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2568 จากนั้นได้ประสานกับ เมติคูลี่ ซึ่งได้รับเลือกจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ให้เป็น IP Champion ในสาขาสิทธิบัตรการประดิษฐ์ประจำปีนี้ มอบแผ่นปิดกะโหลกเทียมไทเทเนียมออกแบบเฉพาะบุคคล และกระดูก มือเทียมไทเทเนียมเฉพาะบุคคลให้ทางโรงพยาบาลเพื่อให้นายทหารที่ผ่านการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ 3 ราย และผ่าตัดข้อมือ 1 ราย ได้รับการรักษาที่มีความแม่นยำสูง ด้วยการออกแบบกระดูกที่มีขนาดจำเพาะกับสรีระผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยฟื้นฟูร่างกายได้ดีขึ้น และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติ โดยกระทรวงฯ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2” […]

“นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก

กทม.16 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เผย “นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก สั่งการเร่งขยายผลต่อเนื่อง พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ว่าจากการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด ในวันนี้ทางจังหวัดนราธิวาสร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ได้มีการแกะรอย และตรวจค้นรถกระบะที่มีการลักลอบขนส่งยาเสพติด บริเวณอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส สามารถตรวจจับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ซุกซ่อนอยู่ในรถกระบะขนผัก จำนวน 30 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 900 กิโลกรัม และได้ทำการควบคุมตัวตัวผู้ต้องหาไว้ได้แล้ว นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามการดำเนินงานและร่วมแถลงผลการจับกุมในวันที่ 16 ส.ค.นอกจากนี้ยังได้ให้กำลังใจผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด ไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านที่ทำหน้าที่อย่างเข้มข้น ตั้งใจ จนสามารถจับกุมกรณีการลักลอบขนส่งยาเสพติดล็อตใหญ่นี้ได้ และได้ให้ติดตามเพื่อขยายผลการจับกุมต่อไป.-319.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียน-ปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียน รับเงินช่วยเหลือ

ทำเนียบฯ 16 ส.ค. – รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียนปีการผลิต 2568/69 พร้อมรอรับเงินช่วยเหลือตามนโยบายรัฐบาล นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เห็นชอบโครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตข้าวของเกษตรกรปลูกข้าวปีการผลิต 2568/69 และนาปรังปีการผลิต 2568 โดยจะจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาต้นทุนการผลิตสูงและราคาข้าวที่ตกต่ำ ซึ่งเกษตรกรที่ทำนาปรังและนาปี จะได้รับเงินหลังจากลงทะเบียนและตรวจสอบสิทธิแล้วเสร็จ ทั้งนี้ คาดว่าจะเกษตรกรที่ทำนาปรังจะได้รับเงินเร็วที่สุดภายในเดือนกันยายน 2568 ส่วนเกษตรกรที่ทำนาปี จะได้รับในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีงบประมาณ 2569 รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอเชิญชวนเกษตรกรทั่วประเทศ เร่งดำเนินการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ประจำปีการผลิต 2568/69 โดยเกษตรกรสามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกรผ่านช่องทางการบริการของรัฐโดยไม่มีค่าใช้จ่ายดังนี้ วิธีที่ 1 แจ้งกับเจ้าหน้าที่ สำหรับเกษตรกรรายเดิม แปลงเดิม สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อม และร่วมเป็นหน่วยสนับสนุนที่เกษตรกรมีพื้นที่การเกษตรอยู่ รวมถึงแจ้งข้อมูลผ่านผู้นำชุมชนหรือตัวแทนอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ส่วน เกษตรกรรายใหม่ และรายเดิม แต่เพิ่มแปลงใหม่ […]

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ทุ่นระเบิดใหม่ตอกย้ำกัมพูชาละเมิดกติกาสากล

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – วันนี้ รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูตภาคีอนุสัญญาออตตาวา ลงพื้นที่ดูปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิด บนภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมเรียกร้องให้ตัดงบช่วยเหลือกัมพูชา หลังใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ผู้บริจาค ขณะที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ยืนยันเป็นทุ่นระเบิดใหม่ที่เพิ่งพบช่วงเหตุปะทะล่าสุด.-สำนักข่าวไทย

ผลถก RBC กัมพูชาเมินกู้ทุ่นระเบิด-ปราบสแกมเมอร์

ตราด 16 ส.ค. – กัมพูชายังไม่ให้ความร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิด หลังฝ่ายไทยผลักดันในเวที “RBC ไทย-กัมพูชา” พื้นที่ชายแดนจันทบุรี-ตราด พร้อมการแก้ไขปัญหาสแกมเมอร์ แขวนไว้หารือในการประชุมครั้งต่อไป พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า วันนี้ (16 สิงหาคม 2568) พลเรือโท อภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด และพลตรี อุย เฮียง ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 3 ของกองทัพบกกัมพูชา ตลอดจนคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคของทั้งสองฝ่าย จัดให้มีการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ (Regional Border Committee) หรือ RBC ณ ประเทศไทย ที่บ้านทะเลภูรีสอร์ท อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด เพื่อร่วมกันหารือในการแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ และการดำเนินชีวิตของประชาชนทั้งสองประเทศด้วยสันติวิธี โดยได้ลงนามใน “บันทึกความตกลงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ราชอาณาจักรไทย กับภูมิภาคที่ 3 […]

วัดเครือวัลย์ ตั้งโต๊ะแจงดำเนินคดีอดีตไวยาวัจกร ยักยอกเงินวัด 56 ล้านบาท

กทม. 16 ส.ค.-ไวยาวัจกรฝ่ายกฎหมายวัดเครือวัลย์ ตั้งโต๊ะชี้แจงการดำเนินคดีกับอดีตไวยาวัจกร ยักยอกเงินวัด 56 ล้านบาท ตรวจสอบประวัติย้อนหลัง 10 ปี พบปลอมลายมือชื่อเจ้าอาวาส 240 ครั้ง ด้านเจ้าอาวาสยอมรับเสียใจ ผิดหวังที่ไว้ใจคนใกล้ตัว ไวยาวัจกรวัดฝ่ายกฎหมาย ตั้งโต๊ะชี้แจง กรณีที่มีบุคคลภายในวัดปลอมลายมือชื่อเจ้าอาวาสวัดเครือวัลย์วรวิหาร ไปถอนเงินออกจากบัญชีวัดกว่า 240 ครั้ง ยักยอกเงินกว่า 56 ล้านบาท ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน ปี 67 ที่ผ่านมา ในส่วนการดำเนินการขณะนี้แบ่งเป็น 3 คดี คดีแรก พบการกระทำความผิดคือเมื่อเดือนเมษายน 2567 ทางวัดได้รับบริจาคจากกองทัพเรือเป็นแคชเชียร์เช็ค 1.5 ล้านบาท ลงวันที่ 10 เมษายน 2567 โดยในแคชเชียร์เช็คระบุว่ามอบให้ทางวัด จึงต้องเอาเข้าบัญชีวัด ทางเจ้าอาวาสจึงมีการมอบให้นายกฤษณ์ ที่เป็นไวยาวัจกรวัดในตอนนั้น เอาแคชเชียร์เช็คดังกล่าวไปขึ้นเงินและเอาเข้ายังบัญชีของวัด ต่อมาทางเจ้าอาวาสได้ทวงถามไปยังนายกฤษณ์ เพราะในขณะนั้นจำเป็นจะต้องบูรณะศาสนสถาน แต่นายกฤษณ์ อ้างว่าไม่ว่าง และได้มอบหมายให้นายชัยณรงค์ ซึ่งเป็นผู้ช่วยไวยาวัจกรในตอนนั้นนำเงินไปเข้าธนาคาร ทางเจ้าอาวาสเลยมีการติดต่อไปยังนายชัยณรงค์ เพื่อทวงถามเรื่องเงิน แต่ก็บ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด […]

“มาริษ” นำคณะทูตดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูต 33 ประเทศ ดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ เตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง ให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ หลังจากฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในภาพรวมที่โรงเรียนภูมิซรอลวิทยา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้นำคณะทูตประเทศภาคีอนุสัญญาออตตาวา และตัวแทนองค์กรระหว่างประเทศ รวม 33 ประเทศ ขึ้นไปสำรวจพื้นที่และดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ ที่อยู่ใกล้แนวปราสาทพระวิหาร เจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือสื่อมวลชนที่ขึ้นภูมะเขือ งดถ่ายภาพติดพื้นที่ทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ระหว่างทางขึ้น ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง และเพื่อนบ้านใกล้เคียง ถูกสะเก็ดเสียหายอีก 2 หลัง โดยจุดนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 รายด้วย เพื่อให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ.-สำนักข่าวไทย