นายกฯ เปิดงานรวมพลังชุมชน อีสานเหนือสู้ภัยยาเสพติด

อุดรธานี 10 ก.ค.- นายกฯ ลุยอุดรธานี สวมถุงมือสีขาว ปลุกพลัง 12 จังหวัดอีสานตอนบน ประกาศลั่น “ไม่มีพื้นที่ให้ยาเสพติด” สั่ง ป.ป.ส.เพิ่มเงินเยียวยา สร้างขวัญกำลังใจ จนท.บาดเจ็บ เป็น 50,000 บาท เตรียมประสาน “สมศักดิ์” เพิ่มเป้าผู้ป่วยเข้ารับการบำบัด หลังรัฐบาลยกระดับมาตรการกวาดล้างขั้นสูงสุด


เมื่อเวลา 13.35 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงท่าอากาศยานทหารกองบิน 23 ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี ก่อนที่เวลา 13.45 น.นายกรัฐมนตรี เดินทางด้วยรถยนต์โตโยต้าอัลพาร์ดสีดำ ทะเบียน กล 5559 อุดรธานี ถึงมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ตำบลสามพร้าว อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี โดยมีนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และข้าราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรอต้อนรับ

โดยเมื่อเดินทางถึงนายกรัฐมนตรี รับฟังบรรยายสรุปแผนสกัดกั้นแนวชายแดนอีสานตอนบน 5 จังหวัด และรับฟังบรรยายายสรุปปฏิบัติการไล่ล่า (เด็ดปีก)นักค้าอีสานเหนือ 252 จากตำรวจภูธรภาค 4 ซึ่งรายงานว่า ได้มีการใช้เทคโนโลยีวิเคราะห์ข้อมูลด้วยเครื่องมือพิเศษ ปิดล้อม และตรวจค้นจำนวน 6 ครั้ง โดยสามารถจับกุมผู้ค้ายาเสพติดจำนวน 3,446 ราย และยึดทรัพย์ของกลางยาบ้า 10,345,615 เม็ด ยึดอาวุธปืน 217 กระบอก เครื่องกระสุน 32 นัด และสามารถตรวจยึดทรัพย์ 1,553 รายการ มูลค่าทั้งสิ้น 254,961,366 บาท


โดยนายกรัฐมนตรี ได้สอบถามเลขาธิการ ป.ป.ส. ถึงเรื่องค่าตอบแทนของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการทั้งทหารตำรวจและพลเรือน ที่ได้รับเงินจากกองทุน ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กรณีได้รับบาดเจ็บ โดยเลขาป.ป.ส.รายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้รับเงินเยียวยาจำนวน 10,000 บาท ด้านนายกฯกล่าวกำชับว่า ขอให้เพิ่มเงินเยียวยาดังกล่าวเป็น 50,000 บาท เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ในการปฎิบัติหน้าที่ที่เข้มข้นขึ้น ก่อนที่นายกฯจะเยี่ยมชมรถ ซึ่งเป็นระบบเทคโนโลยีตรวจจับผู้ต้องสงสัย

ต่อมานายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมและรับฟังบรรยายายโครงการชุมชนยั่งยืนของตำรวจภูธรภาค 4 พร้อมกันนี้ นายกฯ ได้พูดคุยกับผู้กล้าที่เลิกยาเสพติด โดยนายกฯ สอบถามว่า ได้เลิกยามากี่ปีแล้ว และมีการฝึกอาชีพให้หรือไม่

จากนั้นนายกรัฐมนตรี รับฟังบรรยายสรุปการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดของฝ่ายปกครอง โดยมีการค้นหาผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติด ด้วยการเอ็กซเรย์และมีการจัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูทางสังคม รวมถึงมีการจัดตั้งจุดสกัดตรวจสถานบริการ และตั้งศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคม ก่อนรับฟังบรรยายสรุปจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี ในส่วนของผลงานด้านบำบัดฟื้นฟูผู้ป่วยยาเสพติด 12 จังหวัดภาคอีสานระยะเร่งรัด 3 เดือน


นายกรัฐมนตรี ยังกำชับว่า ขอให้ตั้งเป้าการนำผู้เสพเข้าสู่การบำบัดให้สูงขึ้น เพื่อกวาดล้างให้ได้มากที่สุด ทั้งนี้ตนจะหารือกับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในเรื่องดังกล่าว โดยจังหวัดหนองคายถือเป็นจังหวัดที่นำผู้เสพที่มีอาการทางจิตเข้าสู่กระบวนการบำบัดน้อยที่สุด ก็ขอให้เป็นจังหวัดนำร่อง ดังนั้นขอให้ตั้งเป้าให้เยอะ เพราะฝ่ายความมั่นคงกวาดล้างได้จำนวนมาก

นอกจากนี้ เด็กนักเรียนและครูชมรม To BE Number one จากโรงเรียนพันดอนวิทยา องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดร 4 ร้องเพลงบูมเชียร์ให้กับ นายกฯ ก่อนที่นายกฯจะเดินทักทาย

จากนั้นนายกฯ รับชมวีดิทัศน์ขับเคลื่อนการปลุกพลังชุมชน ก่อนรับชมการแสดงเพลงมุ่งสู่ขวัญ NPD.P4 จากนักเรียนและครูโรงเรียนชุมชนสามพร้าวและครูแดร์ หรือ D.A.R.E. โดยระหว่างชมการแสดงนายกฯได้อมยิ้มพร้อมกับหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปด้วย

ต่อมานายกฯเป็นประธานเปิดงานกิจกรรม “งานรวมพลังชุมชน อีสานเหนือสู้ภัยยาเสพติด” โดยผู้ร่วมงาน และนายกฯร่วมกันแสดงพลังสู้ภัยยาเสพติดใส่ถุงมือแสดงสัญลักษณ์ ที่มีข้อความว่า “No Place Fordrug”

นายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดกิจกรรมตอนหนึ่งว่า ตนมีความยินดีที่ได้มาร่วมกิจกรรมงานรวมพลังชุมชน อีสานเหนือสู้ภัยยาเสพติด ซึ่งยาเสพติดเป็นเรื่องที่ไม่ว่าจะลงพื้นที่มากี่ครั้ง กี่หมู่บ้าน ก็ล้วนแต่ได้ยินมาว่าเป็นปัญหา เป็นเรื่องที่หนักหนาจริง ๆ ลูกหลานของพวกเราจำนวนมากต้องตกเป็นทาสยาเสพติด ตนเห็นหลายครอบครัวที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยความกลัว อยู่ด้วยกันในชุมชนก็รู้สึกไม่ปลอดภัย ซึ่งสังคมไทยไม่ควรเป็นแบบนี้

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ตนยอมไม่ได้ที่สังคมไทย ลูกหลานของเรา อยู่ในสังคมที่มียาเสพติดแพร่ระบาดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ทั้งนี้ การป้องกันปราบปรามยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ ที่รัฐบาลเร่งดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรม บูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วน ทั้งในระดับพื้นที่ และภาคประชาชน เพื่อแก้ปัญหาในชุมชน และมุ่งปราบปรามการค้ายาเสพติดนำไปสู่การสร้างพลังชุมชนที่เข้มแข็ง และยั่งยืนในการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยเราปฏิบัติการเด็ดปีกนักค้าอีสานเหนือครอบคลุม 12 จังหวัด ทำให้เห็นพลังของมวลชนต่อการประกาศจุดยืนในการต่อสู้กับปัญหายาเสพติดในชุมชนของตนเอง

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า นอกจากการแก้ไขปัญหายาเสพติดจะสำเร็จได้ ทุกคนทุกภาคส่วน ตำรวจ จังหวัด ทหาร สาธารณสุข ป.ป.ส. และหน่วยงานอื่น ๆ จะต้องทำงานร่วมกัน และต้องได้รับการสนับสนุนจากชุมชน ให้ลุกขึ้นมาต่อสู้กับปัญหายาเสพติดร่วมกัน และเป็นหูเป็นตา ช่วยกันดูแลสอดส่อง แจ้งเบาะแส เฝ้าระวัง และป้องกันลูกหลานไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด อย่างไรก็ตาม วันนี้พวกเราทุกคนได้แสดงเจตนารมณ์ร่วมกัน ขอให้พวกเราบอกกล่าวในชุมชนให้ขยายผลการปฎิบัติออกไปในวงกว้าง เพื่อฝึกพลังชุมชนทุกพื้นที่ให้รวมพลังอย่างเข้มแข็ง ซึ่งตนขอบคุณในความตั้งใจ และพลังของทุกคน ทุกภาคส่วนที่ร่วมกันต่อสู้ เพื่อเอาปัญหายาเสพติดให้หมดออกไปจากสังคม เราจะร่วมกันรักษา ฟื้นฟู ดูแล และปกป้องลูกหลานของเราให้ห่างไกลยาเสพติด

“ขอให้ทุกคนน้อมนำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่ทรงห่วงใยปัญหายาเสพติด ไปปฏิบัติให้เกิดเป็นรูปธรรม ตามพระราชประสงค์อย่างยั่งยืนต่อไป” นายกฯ กล่าว

จากนั้นนายกรัฐมนตรี นำกล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อนำพลังชุมชนอีสานเหนือสู่ภัยยาเสพติด ก่อนร่วมกันยืนแสดงความเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมี และเพลงสดุดีจอมราชา และร่วมกันโบกธงเพื่อแสดงความจงรักภักดี เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก่อนจะถ่ายรูปร่วมกับเด็กนักเรียนอย่างเป็นกันเอง และเดินทางกลับกรุงเทพฯ .-316 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือน “อีสาน กลาง ใต้” รับมือฝนถล่ม

6 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ รับมือฝนถล่ม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 8 – 9 ก.ย. โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” บอกฟอร์มทีม ครม.เรียบร้อยแล้ว-เร่งเดินหน้าแก้ปัญหา

พรรคภูมิใจไทย 5 ก.ย.-“อนุทิน” ขอบคุณเสียงโหวตนั่งนายกฯ คนที่ 32 เร่งเดินหน้าแก้ปัญหาทดแทนโอกาสที่เสียไป เผย วินาทีกราบพ่อ เป็นสิ่งแรกที่อยากทำ ฟอร์มทีม ครม.เรียบร้อยแล้ว บอกผมโอเค พรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องโอเค นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภายหลังร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร พร้อมเปิดใจเป็นครั้งแรก หลังจากได้รับการโหวตเห็นชอบให้เป็นนายกรัฐมนตรี โดยนายอนุทินได้กล่าวขอบคุณประชาชน ในโอกาสที่ได้รับเสียงสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะถือเป็นเสียงของประชาชนที่ได้ใช้สิทธิ์ ผ่านสส. โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สส.พรรคประชาชน และพรรคการเมืองที่ได้ลงคะแนนให้กับตน หรือพรรคที่ไม่ได้ลงคะแนนให้กับตน โดยการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่มีนายชัยเกษม นิติสิริ ได้รับการเสนอชื่อโหวตชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อการโหวตผ่านพ้นไปแล้ว ก็อยากให้ทุกอย่างมันจบไปด้วยดี และอยากให้เราหันหน้าเข้าหากัน เพื่อทำงานให้กับประชาชน ให้กับประเทศ ในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวไปข้างหน้า ด้วยความรวดเร็ว เพื่อทดแทนโอกาสที่เสียไป ซึ่งตนเชื่อว่าหากเราหันหน้าทำงานด้วยกัน ก็จะทำให้ทะลุเป้าหมายต่างๆ ได้ ส่วนจะผลักดันนโยบายอะไรต่อขอยังไม่ลงรายละเอียด เมื่อถามถึงการเข้าพบนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล ผู้เป็นบิดา หลังจากได้รับการโหวตเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี นายอนุทินเล่าว่า นายชวรัตน์ ไม่ค่อยสบาย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งตนก็คิดว่านายชวรัตน์ ก็อยากให้ไปหา จึงเร่งไปกราบเป็นอันดับแรก เมื่อถามว่านายชวรัตน์ให้พรอะไรบ้าง […]

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย