รัฐสภา 10 ก.ค.- “สรวงศ์” รับ “แพทองธาร” ตำหนิ “วัน” โผล่บ้าน “บิ๊กแจ๊ส” จริง เพราะต้องโชว์ภาวะผู้นำ แต่ใช้ถ้อยคำนอบน้อม ขณะที่ “วัน” ตัดสินใจลาออกเอง เชื่อ ไม่กระทบสัมพันธ์ อยู่บำรุง-เพื่อไทย พร้อมเป็นกาวใจ ยัน “เฉลิม” ไม่ใช่คนผิด ไม่ถึงขั้นต้องขับออกพรรค
นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายวัน อยู่บำรุง แจ้งขอลาออกจากกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี เพื่อแสดงความรับผิดชอบกรณีมีภาพไปร่วมติดตามผลการนับคะแนนเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปทุมธานี ที่บ้านพักของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ว่า เหตุผลที่ให้ในการลาออก ฟังดูแล้วค่อนข้างรุนแรง ซึ่งความจริงวานนี้ (9 ก.ค.) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้เชิญนายวัน มาพูดคุย ถือเป็นสิ่งที่คนเป็นหัวหน้าพรรคต้องตัดสินใจในการปกครองคนและองค์กร และเห็นว่านายวันต้องเข้าใจเหตุผลของนางสาวแพทองธาร ที่ต้องตำหนิ และจริงๆ แล้ว ไม่ได้ตำหนิรุนแรง ก็เป็นการพูดตรงไปตรงมา
“ท่านวันก็เป็นคนพูดเอง และขอโทษท่านหัวหน้าด้วย ว่า ท่านเองก็คิดน้อยไปหน่อย แต่ผมเองและพวกเราทุกคน รู้ว่าครอบครัวอยู่บำรุง กับท่านคำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง สนิทกันมาก และเราก็ทราบดีว่าตลอดการหาเสียง ที่ผ่านมาครอบครัวอยู่บำรุงไม่ได้ออกมาเชียร์ หรือทำอะไรที่เกินเลยในฐานะที่อยู่กับพรรคเพื่อไทย อันนี้เราทราบ แต่ด้วยไทม์มิง ณ เวลาที่ท่านวันไปอยู่บ้านท่านคำรณวิทย์ ในสื่อท่านยังชนะอยู่ แต่ในทางคะแนนดิบที่พวกเรารวมกันมา มั่นใจว่าทางสายคุณชาญชนะ แต่ชนะไม่เยอะ สิ่งที่ท่านวัน มาชี้แจงคือรู้แล้วว่าแพ้เลยไปให้กำลังใจในฐานะคนรู้จักกัน ซึ่งเรารู้ว่าการปรากฏตัวของท่านวันไม่ได้เปลี่ยนแปลงคะแนนอะไร ทางพรรคทราบแต่ด้วยภาพที่ออกมาแล้ว การเป็นองค์กรใดก็ต้องตัดสินใจอะไรบางอย่าง” นายสรวงศ์ กล่าว
เมื่อถามย้ำว่าถ้านายวันไม่ลาออก ทางพรรคเพื่อไทยจะตัดสินใจอย่างไร เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าเมื่อวานนี้หัวหน้าพรรคเปิดโอกาสให้นายวันเป็นคนพูดเอง ว่า “พี่ก็ต้องหาทางออกให้อิ๊งด้วย ไม่งั้นอิ๊งก็ปกครองคนไม่ได้”
แล้วสิ่งที่นายวัน กล่าวขึ้นมาคือ “ผมขออนุญาตลาออกเอง”
แต่เช้าวันนี้พอเห็น โพสต์ของนายวัน ตนก็รู้สึกตกใจ และมองว่าน่าจะเป็นเรื่องอื่นมากกว่า ที่จะพูดถึงประเด็นนี้ ส่วนการตัดสินใจลาออกของนายวัน โดยอ้างว่าหัวหน้าพรรคไม่พอใจ ถือเป็นคำอ้างหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ถ้าจะบอกว่าหัวหน้าพรรคไม่พอใจก็ต้องบอกว่าไม่พอใจจริงๆ และในฐานะที่เป็นผู้นำองค์กร ถ้าปล่อยให้ทำเช่นนี้ก็จะเสียกระบวนการ แต่ขอรับประกันได้ว่าการปฏิบัติของหัวหน้ากับนายวัน ทุกอย่างเป็นไปด้วยความนอบน้อมไม่มีอะไรรุนแรงเลย และขอยืนยันอีกครั้งว่าเป็นความประสงค์ของนายวันที่ตัดสินใจลาออก
ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นถือเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดูเพื่อปรามคนอื่นในพรรคหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ความจริงแล้วในพรรคก็มีคนถูกเรียกต่อว่าหรือลงโทษ บ่อยและเยอะด้วย เวลาที่ทำอะไร ไม่ถูกต้อง ซึ่งหัวหน้าพรรคพูดเสมอว่า มีอะไรที่ติดขัดก็ขอให้มาบอก เพราะหัวหน้าพรรคก็อยากจะรู้ความเป็นมาในพรรคทุกเรื่อง และตนขอเรียนด้วยความสัตย์จริงว่า การปกครององค์กรต้องตัดสินใจอะไรบางอย่าง และการตัดสินใจอาจจะถูกใจคนใดคนหนึ่งบ้าง อาจจะผิดหรือไม่พอใจบ้าง ก็ถือเป็นเรื่องปกติ แต่ในนามของเลขาธิการพรรค ขอรับอาสาที่เป็นคนเชื่อมระหว่างครอบครัวอยู่บำรุงกับพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว ไม่มีปัญหาพร้อมที่จะช่วยกัน
ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นจะถึงขั้นแตกหักระหว่าง พรรคเพื่อไทยกับตระกูลอยู่บำรุงหรือไม่ เนื่องจาก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นบิดา ท้าให้ขับออกจากพรรค ว่า ตนเพิ่งเจอกับร.ต.อ.เฉลิม เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา และได้เรียนว่าขอให้ใจเย็นๆ และค่อยๆ พูดจากัน ซึ่งทุกอย่างมีทางออก และเราอยู่ด้วยกันมานาน รวมทั้ง ร.ต.อ.เฉลิม เป็นบุคคลที่คนในพรรคให้ความเคารพนับถือ เหตุการณ์ในลักษณะนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้น คงเป็นธรรมดาของคนที่ไม่ค่อยได้พูดคุยกันเท่าไหร่ ซึ่ง ร.ต.อ.เฉลิม ไม่ค่อยได้ไปที่พรรคเพื่อไทย
อย่างไรก็ตาม ตนรับหน้าที่เป็นคนช่วยพูดคุย ทำความเข้าใจ หัวหน้าพรรคก็บอกว่าถ้ามีโอกาสจะไปทำความเข้าใจกับ ร.ต.อ.เฉลิม ด้วยเช่นกัน
ส่วนจะถึงขั้นขับ ร.ต.อ.เฉลิม ออกจากพรรค หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ไม่ถึงขั้นขับเพราะการจะขับออกจากพรรค ต้องเป็นเรื่องที่เจ้าตัวทำอะไรร้ายแรง ซึ่งต้องเป็นไปตามข้อบังคับ ดังนั้นต้องแยกกันให้ออก ระหว่างนายวัน และ ร.ต.อ.เฉลิม ก็เป็นคนละคนกัน แม้จะเป็นพ่อลูกกัน แต่ก็จะต้องแยกถึงสิ่งที่กระทำ และขอยืนยันว่าการตัดสินใจลาออก เป็นความประสงค์ของนายวัน
สำหรับกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า เป็นเพราะพรรคเพื่อไทยลดบทบาทของตระกูลอยู่บำรุงหรือไม่ จึงมีอาการน้อยใจ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ไม่ได้มีการลดบทบาทอะไร พวกเราทุกคนยังเคารพนับถือ ร.ต.อ.เฉลิม เหมือนเดิม และนายวัน ก็ได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรี และเท่าที่ทราบเหมือนจะมีการโยกย้ายกระทรวงให้นายวันอยู่แล้ว แต่เหตุการณ์ก็เกิดขึ้นเสียก่อน ซึ่งไม่ทราบว่าจะเป็นแบบนี้
นายสรวงศ์ ย้ำว่าในฐานะที่เป็นเลขาธิการพรรค และถือเป็นลูกหลานของ ร.ต.อ.เฉลิม ด้วยว่าจะรีบพูดคุยทำความเข้าใจกับทางครอบครัวอยู่บำรุง ไม่ให้มีการเข้าใจผิด ซึ่งคิดว่าน่าจะเคลียร์ได้ เพราะ ร.ต.อ.เฉลิม มีเหตุผลเชื่อว่าจะรับฟัง
เมื่อถามว่าหลังเกิดเรื่องนางสาวแพทองธาร ว่าอย่างไรบ้างนั้น นายสรวงศ์ กล่าวว่า ไม่มีอะไร ล่าสุดยังคงประชุมเรื่องการจัดการภายในพรรคกันอยู่ และเห็นว่าความจริงแล้ว ในความเป็นผู้นำพรรค และผู้นำองค์กรถึงเวลาก็เมื่อถึงเวลาก็ต้องตัดสินใจอะไรสักอย่าง เพื่อประคองภาพรวมเอาไว้ ไม่เช่นนั้นก็จะมีการทำเช่นนี้ แล้วไม่ถูกตำหนิก็ไม่ถูกต้อง.-312 -สำนักข่าวไทย