“ทนายตั้ม” เชื่อถูกแช่แข็งสำนวนสอบ “บิ๊กต่อ” ร่ำรวยผดปกติ

กกต. 28 มิ.ย.-“ทนายตั้ม” เชื่อถูกแช่แข็งสำนวนสอบ “บิ๊กต่อ” ร่ำรวยผดปกติ ชี้เป็นเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน ให้ลูกน้องตรวจสอบผู้บังคับบัญชาใครจะกล้า ขู่ร้อง ป.ป.ช.สอบจริยธรรมร้ายแรงนายกฯ เหตุสั่งกลับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เหน็บ “วิษณุ” แถลงไม่เคลียร์ 3-4 เดือนสอบ บอกแค่คนทะเลาะกัน

นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เปิดเผยถึงการยื่นหนังสือให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ตรวจสอบ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กรณีพฤติกรรมร่ำรวยผิดปกติ ปกปิดทรัพย์สินไม่ยื่นครอบครองบ้านพักที่ประเทศอังกฤษ ว่า ไม่มีสัญญาณตอบรับ ซึ่งตนเคยบอกแล้วว่า เรื่องนี้เป็นผลประโยชน์ทับซ้อน ที่คนระดับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติถูกดำเนินคดี แล้วให้ลูกน้องทำงานเป็นผู้ตรวจสอบ จึงไม่มีใครกล้าดำเนินการ ตนคิดว่าตอนนี้สำนวนน่าจะถูกแช่แข็งเรียบร้อยแล้ว แต่ตนก็ไปยื่นเรื่องให้เป็นเชิงสัญลักษณ์เพื่อให้นายกรัฐมนตรีได้เห็นว่า ตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ ซึ่งตนเรียกร้องมานานแล้วว่า ให้มีการเปิดเผยผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่จนกระทั่งปัจจุบันยังไม่มีใครออกมาเปิดเผย เพราะหากตรวจสอบแล้ว พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ น่าจะพัวพัน ปรากฏว่า นายกฯให้พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กลับมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายกฯ อาจจะมีความผิดในเรื่องจริยธรรมร้ายแรงได้ อย่างไรก็ตามหากมีผลการตรวจสอบออกมา และนายกฯ มีความผิด ตนก็จะไปร้องสำนักงานคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ต่อไป


เมื่อถามว่า จะไปยื่นกรรมาธิการสภา ในสภาผู้แทนราษฎรด้วยหรือไม่ นายษิทรา กล่าวว่า ยังไม่มีแนวคิด เพราะต้องรอให้เรื่องนี้เปิดเผยก่อน ส่วนที่นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี แถลงเรื่องการคืนตำแหน่ง ในคำแถลงไม่ได้ระบุว่าใครผิด ใครถูก แค่แถลงว่ามีการทะเลาะกัน แต่ตนมองว่าไม่มีความชัดเจน สิ่งที่ประชาชนอยากรู้คือใครฟอกเงินบ้าง มีการรับผลประโยชน์จากเว็บไซต์การพนันออนไลน์หรือไม่ และยิ่งเป็นข้าราชการตำรวจระดับสูง ผบ.ตร. หรือ รอง ผบ.ตร.เกี่ยวข้อง เป็นสิ่งที่ประชาชนต้องรู้และนายกฯ ต้องพิจารณาว่า สมควรให้กลับมาปฏิบัติงานหรือไม่

นายษิทรา กล่าวต่อว่า การตรวจสอบข้อเท็จจริง จะมีการตรวจสอบว่า มีหลักฐานไปถึงหรือไม่ และข้อเท็จจริงมีอะไรบ้าง ไม่ใช่ว่า ตรวจสอบเฉพาะข้อเท็จจริงเรื่องการทะเลาะกันเท่านั้น แต่ต้องตรวจสอบให้ได้ข้อเท็จจริงทั้งหมด และเปิดเผยให้ประชาชนรับทราบ ซึ่งรอมาตั้ง 3-4 เดือนแล้ว


“ประชาชนรอตั้ง 3-4 เดือนแล้ว แต่ไม่มีผลอะไรออกมา แค่บอกว่าทะเลาะกัน เขารู้กันอยู่แล้ว แม่ค้าในตลาดก็รู้ ใครๆ ก็รู้กันทั้งนั้น” นายษิทรา กล่าว

เมื่อถามถึงความเห็นต่อมติคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ที่ออกมาเห็นชอบกับคำสั่งให้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ออกจากราชการ ชอบด้วยกฎหมาย นายษิทรา กล่าวว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 2 หน่วยงานให้ความเห็นไม่ตรงทั้งสำนักงานกฤษฎีกา และก.ตร. ตนมองว่า มีความลักลั่น การเมืองไทยมี 2 มาตรฐาน กฎหมายจะไม่เหมือนกันได้อย่างไร ในเมื่อเขียนมาเป็นตัวบทเดียวกัน แต่ดันแปลความไม่เหมือนกัน แบบนี้แปลว่า ใครเป็นพวกใครมากกว่า

เมื่อถามต่อว่า นายกฯ ระบุว่า มติ ก.ตร.ยังไม่สิ้นสุด ยังต้องคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) รออีก 30 วัน นายษิทรา มองว่าเป็นการดึงเวลาออกไป แทนที่จะคืนความเป็นธรรมให้พล.ต.อ.สุรเชษ์ได้เร็ว กลับต้องรอ ก.พ.ค.ตร. ซึ่งไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาอีกกี่เดือน กี่ปี หากผลออกมาใน 30 วัน ตนยังพอรับได้ แต่หากเกินจากนี้ หรือขยายไปเรื่อยๆ ก็เป็นการดึงเวลา ซึ่งดูจาก ก.ตร.แล้ว น่าจะเกิดการหักดีลกันแล้ว ไม่ทำตามที่ตกลง


มีกระแสข่าวว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์จะลาออกเพื่อเปิดทางให้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มีจริงหรือไม่ นายษิทรา กล่าวว่า ก่อนจะลาออก ก็ต้องคืนตำแหน่งให้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ก่อน หากเป็นไปตามดีล ซึ่งใครๆ ก็รู้ ข้าราชการตำรวจก็ทราบกันดีว่ามีการพูดคุยอะไรกันไว้บ้าง ส่วนตัวไม่ได้ร่วมดีลด้วย การหักดีลก็เท่ากับว่า มีคนโดนหลอก แต่ตนไม่ได้โดนหลอกเพราะไม่ได้ไปร่วมด้วย ตนยังแฉอยู่

เมื่อถามถึงกระแสข่าวโยกพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. ไปนั่งเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย นายษิทรา กล่าวว่า เรื่องนี้ตนคิดว่าไม่สำเร็จ เพราะ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ไม่โอเคก็จบ ส่วนหากจะย้าย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ก็ต้องเป็นตำแหน่งที่สูงกว่าตำแหน่งมหาดไทย คนดีๆ ก็ต้องทำงานดีๆ

“เรื่องนี้ประเทศชาติเสียหมด เพราะมีการดีลตกลงผลประโยชน์กันให้ลงตัว ส่วนเรื่องดกฎหมายจะเป็นอย่างไร ความยุติธรรมจะเป็นอย่างไรไม่เคยคิดกันเลย คิดแต่เรื่องสมประโยชน์กันของพวกผู้บริหารระดับสูง หรือพวกที่มีอำนาจ” นายษิทรา กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ชะตากรรมชาวตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านคลองลึก

สระแก้ว 25 มิ.ย. – เสียงสะท้อนจากพ่อค้าแม่ค้าในตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านพรมแดนคลองลึก จากที่ต้องดิ้นรนค้าขายในยุคเศรษฐกิจย่ำแย่อยู่แล้ว ยิ่งย่ำแย่ลงกว่าเดิม.-สำนักข่าวไทย

EOD ทำลายระเบิดซุก จยย.จอดทิ้งหน้าอาคารสนามบินภูเก็ต

ภูเก็ต 25 มิ.ย. – ตำรวจชุด EOD ตรวจสอบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยซุกระเบิด จอดทิ้งหน้าอาคารผู้โดยสารสนามบินภูเก็ต ล่าสุดยิงทำลายวัตถุระเบิดได้แล้ว อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ ยืนยันมีลูกเดียว ไม่มีผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต .-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือคนไทยออกจากอิสราเอล-อิหร่าน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย.- นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือ-อำนวยความสะดวกคนไทยต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่าน เผยล่าสุดมี 73 คน ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน และ 18 คนจากอิสราเอลต้องการกลับไทย ขอคนที่อยู่ต่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุรัฐบาลได้เตรียมการดูแลพี่น้องคนไทยทั้งในอิสราเอลและอิหร่าน ในกรณีที่ต้องการเดินทางกลับไทย เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง โดยกระทรวงการต่างประเทศได้วางแผนช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้คนไทยที่ต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่านโดยรวดเร็วและปลอดภัยค่ะ ในอิหร่าน มีคนไทยรวมประมาณ 300 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานและนักศึกษา ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ช่วยเหลือให้ไปพำนักชั่วคราวที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Amol ในอิหร่านแล้ว 35 คน และอีก 4 คนไปที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Van ในตุรกี นอกจากนั้น กระทรวงการต่างประเทศกำลังเร่งประสานงานให้คนไทย 73 คนที่ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะหารือกับฝ่ายอิหร่าน เพื่อให้เร่งออก exit visa ให้ ในส่วนของอิสราเอล มีคนไทยอยู่ประมาณ 40,000 คน เกือบทั้งหมดเป็นแรงงาน สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ติดตามสอบถามความเป็นอยู่อย่างใกล้ชิด รวมทั้งไปเยี่ยมเยียนด้วย ซึ่งในชั้นนี้ […]

นายกฯ เปิดประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ไร้ตัวแทนกัมพูชาร่วม

พัทยา 25 มิ.ย.-ไร้เงาตัวแทนกัมพูชา นายกฯ เปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ชมสาธิตวิธีการช่วยอากาศยานประสบภัยในทะเล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี และกล่าวเปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเชียน (ASEAN Coast Guard Forum 2025: ACF 2025) และการฝึกค้นหา และช่วยเหลืออากาศยานประสบภัยในทะเล และการแพทย์ฉุกเฉินในทะเล ที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดประชุม ระหว่างวันที่ 24-27 มิถุนายน 2568 เพื่อส่งเสริมความปลอดภัย มั่นคง มั่งคั่ง ในอาเซียน ณ โรงแรมฮิลตัน พัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยมีพลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือให้การต้อนรับ โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวต้อนรับผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน ประเทศผู้สังเกตการณ์ และพันธมิตรสำคัญที่เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้สู่เมืองพัทยา และแสดงความยินดีที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมในพิธีเปิดเวทีความร่วมมืออันสำคัญของภูมิภาค ซึ่งเป็นเวทีที่หน่วยรักษาความปลอดภัยชายฝั่ง หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทางทะเล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศสมาชิกอาเซียน ได้มาพบปะ แลกเปลี่ยนมุมมอง และเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อยกระดับความมั่นคงทางทะเลร่วมกัน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงความสำคัญของความมั่นคง และความปลอดภัยทางทะเล ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อภูมิภาค เนื่องจากท้องทะเลไม่เพียงเป็นเส้นทางการค้าสำคัญ […]