“พิธา” แนะรัฐบาลชัดเจนเกี่ยวกับแผนรายได้และหนี้

รัฐสภา 21 มิ.ย.-“พิธา” ถามรัฐบาลมั่นใจการเก็บรายได้อย่างไร แนะทำตามแนวทาง OECD เสนอความชัดเจนเกี่ยวกับแผนรายได้และหนี้ – ปฏิรูปภาษีอย่างเป็นธรรม – ช่วยเหลือประชาชนงบไม่ครอบคลุม – จัดทำงบอย่างโปร่งใส

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายในการ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 ว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ 2 – 3 ปีที่ผ่านมา ยังไม่ดีขึ้น และถูกกดดันด้วยปัจจัยในประเทศ ทั้งสินค้าที่แพงขึ้น หนี้ครัวเรือน ภัยพิบัติ โรคระบาด สังคมสูงวัย ยาเสพติด วิกฤตทางการเมือง ส่วนปัจจัยภายนอก ทั้งสงคราม การกีดกันการค้า เทคโนโลยี ดังนั้น งบประมาณที่รอบคอบ ที่มีการบริหารความเสี่ยง และมีความสมดุลย์ ระหว่างการกระตุ้นเศรษฐกิจ และความเป็นดีอยู่ดีของพี่น้องประชาชน จึงเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับปี 2568


ในขณะเดียวกันปีนี้เป็นปีที่ 6 ในในการอภิปรายเรื่องงบ อาจไม่มากแต่นานพอที่จะบอกว่ารูปร่างงบประมาณไม่ต่างกันมาก มีโอกาสได้ดูการทำงบประมาณของ OECD (องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ) หรือ The Organization for Economic Cooperation and Development ที่มีข้อเสนอแนะดี ๆ ในการทำงบประมาณ ขั้นตอนต่อจากนี้ที่ไทยจะเข้าสู่ OECD ต้องมีการปรับปรุงมาตรฐานกฎหมาย นโยบาย และแนวปฏิบัติให้สอดคล้อง

งบประมาณ คือ การเรียงลำดับความสำคัญ ทรัพยากรมีจำกัดทุกประเทศ คือการจัดความสำคัญกับประชาชนที่จ่ายภาษี และรัฐที่ใช้ภาษี ใครจ่าย ใครใช้ ใครเจริญ ใครถูกมองข้าม เป็นสิ่งที่เห็นได้ชัด อย่างกรณีการจัดงบประมาณของประเทศนิวซีแลนด์ ที่คำนึงถึงผลประโยชน์ระยะยาว ไม่ได้คิดแค่การปล่อยเงินจากบนลงล่าง หรือล่างขึ้นบน แต่บางครั้ง สิ่งที่ประชาชนต้องการ อาจไม่ใช่พายุเศรษฐกิจ แต่ต้องการลมใต้ปีกของคนตัวเล็ก ๆ ที่ต้องทำงบประมาณแบบละเอียด ไม่ได้ต้องการพาประเทศไปสู่ความเสี่ยงระยะยาว ต้องการโครงการเล็ก ๆ ที่เห็นคนข้างล่างรวมกัน ทำให้เศรษฐกิจโตได้ และลดความเหลื่อมล้ำไปได้


วาระที่ 1 ประมวล รายได้ของรัฐ + เงินกู้จะ = รายจ่ายของรัฐ ซึ่งปัจจุบันไม่เพียงพอกับรายจ่าย จึงต้องมีการกู้เพิ่ม โดยรายได้ของรัฐ มาจากส่วนที่เสียภาษี คือ กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต ส่วนราชการอื่น พาณิชย์ เมื่อรวมกับเงินกู้ จะกลายเป็นค่าใช้จ่ายบุคลากร การชำระหนี้ท้องถิ่น งบผูกพัน สวัสดิการ โครงการดิจิทัล วอลเล็ต และอีก 1 ใน 4 จะเป็นงบประมาณคงเหลือที่ใช้แก้ปัญหาเรื่องอื่นๆ

นายพิธา ยกแผนผังรายได้ของรัฐมีความผันผวน และสัดส่วนการเก็บรายได้ลดลง เมื่อเทียบกับ GDP ซึ่งเป้าหมายของประเทศในกลุ่ม OECD จะมีเป้าหมาย 16 – 18% ซึ่งขณะนี้อยู่ที่ 14 – 15% เท่านั้น จึงเกิดคำถามว่าแผนการจัดเก็บรายได้ของรัฐที่มีความผันผวนมาตลอด รัฐบาลจะมีแผนงานอย่างไร ที่ทำให้ประชาชนมั่นใจได้ว่ารายได้ในอนาคต สามารถเป็นรายได้ที่จะนำมาใช้จ่ายในประเทศได้ โดยไม่ต้องกู้มากขึ้น

นายพิธา ระบุว่า ข้อมูลล่าสุด สะท้อนให้เห็นว่าการจัดเก็บรายได้ รัฐมีความเสี่ยงที่จะทำไม่ได้ตามเป้า อย่างกรมสรรพสามิต จากกรณีที่หยิบยกมาการเก็บรายได้ 7 เดือน จาก 12 เดือน จัดเก็บพลาดไปแล้ว 35,498 ล้านบาท ซึ่งยกตัวอย่าง การเก็บภาษีพลาดเป้าที่ผ่านมา เกิดจากนโยบายของรัฐบาลในการลดภาษีดีเซล และเบนซิน สะท้อนให้เห็นว่าเวลารัฐบาลทำนโยบาย บางครั้งอาจมีความจำเป็นที่ต้องทำ แต่มีราคาที่ต้องจ่าย คือเรื่องรายได้ของรัฐที่หายไป จึงอยากฟังจากกระทรวงการคลัง ว่าจะแก้ไขปัญหาส่วนนี้อย่างไร


สิ่งที่อยากเห็นจากรัฐบาลชุดนี้ คือ แผนรายได้ประเทศ การปฏิรูปภาษี จะทำอย่างไร จะขยายฐานภาษีทางเศรษฐกิจอย่างไร ที่จะไม่ทำให้คนตัวเล็กลำบากมากเกินไป ภาษีมูลค่าเพิ่มที่จะขยายเพิ่มอาจซ้ำเติมความเหลื่อมล้ำ หากคิดตามสัดส่วนรายได้ การบริโภคสินค้าประเภทเดียวกัน คนจนจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มมากกว่าคนรวย ส่วนแนวราบ หรือฐานคนเสียภาษีน้อย ที่จะต้องเพิ่มแรงจูงใจให้คนยื่นภาษีกว้างมากขึ้น

การสร้างรายได้ใหม่ ๆ ให้กับประเทศ จึงอยากถามกระทรวงการคลังเกี่ยวกับเรื่องสุราก้าวหน้า ขอแค่แก้กฎกระทรวง และส่งเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็สามารถแก้ไขเรื่องนี้ได้ทันที โดยที่ไม่ต้องผ่านสภา เหมือนในสมัยรัฐบาลที่แล้ว ยืนยันว่าสามารถทำได้เลยและเพิ่มสรรพสามิตใหม่ ๆ ให้กับประเทศ

นายพิธา ยกตัวอย่าง คำพูดในเว็บไซต์ของพรรคเพื่อไทย คือ “คุณคิดว่าจะมีประชาชนที่ไหนยอมเข้าคิวเสียภาษีล่วงหน้า ง่ายนิดเดียว เอาต้มใต้ดิน มาต้มบนดิน และประชาชนจะเข้าคิวเพื่อซื้อแสตมป์สรรพสามิต มาติดปากขวดเหล้าเพื่อขาย คุณเข้าใจความยิ่งใหญ่นี้ไหม” หากไม่อยากทำตามในสิ่งที่ตนเองพูดไป อย่างน้อย ทำตามสิ่งที่เว็บไซต์ของพรรคเพื่อไทยเคยทำไว้ ก็น่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยกับประชาชน

ส่วนเรื่องการกู้ ภาระดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้นประมาณสองเท่า ย้ำว่า ทุกอย่างมีต้นทุน ซึ่งต้องมาเสียดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นในอนาคต และอีกเรื่องคือความยืดหยุ่นในการทำงบประมาณ ซึ่งครั้งนี้เป็นการไต่เส้น ใกล้เคียงกับกรอบงบประมาณ ทั้งการกู้ปริ่มเพดาน ภาระผูกพันงบประมาณข้ามปี ควรทำอะไรที่เสี่ยงขนาดนี้ เดิมพันกับอนาคต มากขนาดนี้หรือไม่อย่างไรเชื่อว่าประชาชนตัดสินใจได้ อนาคตเรามั่นใจมากน้อยแค่ไหนกับน้ำบ่อหน้า รวมถึงความเชื่อมั่นของทุกภาคส่วนก็ดูไม่สู้ดีนัก รวมถึงงบรายจ่าย เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น เราไม่ค่อยเน้นเรื่องรายได้ หรือแผนเงินกู้ ทำให้เห็นภาพครบทุกมุม อัตราการเติบโตของรายได้โตไม่ทันรายจ่ายของประเทศ ทำให้อัตราการกู้สูงขึ้นเรื่อย ๆ

วาระที่สองการขยาย ได้ยกคำพูดของอดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2565 ถ้ารัฐบาลไม่จนปัญญาจริง ๆ ไม่แจกหรอก เน้นเรื่องการใช้เงินสร้างเศรษฐกิจให้แข็งแรงขึ้น ต้องหาสมดุลย์ระหว่างการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการลดความเหลื่อมล้ำ การหาสมดุลย์ผลประโยชน์ระยะสั้นและความเสี่ยงในระยะยาวมองเห็นกระตุ้น Ignite และเห็นหัวประชาชนที่ถูกมองข้าม การกระตุ้นเศรษฐกิจมีหลายมิติ ปัญหาของ GDP เป็นเรื่องเกี่ยวกับการลงทุน การต่อสู้กับการขาดทุนทางการค้า ไม่ใช่การบริโภค

ภาคเกษตร ปัญหาที่ดินทับซ้อนงบประมาณกว่า 725 ล้านบาทที่จะใช้ในการแก้ไขต้องใช้เวลากว่า 100 ปี ในการแก้ไขปัญหาทั้งหมด ปัญหาเรื่องการจัดการน้ำแล้ง จากการจัดสรรงบประมาณจะทำได้ได้แค่ 1% ของพื้นที่แรงทั้งหมด และเรื่องสุดท้ายคือการเผาในภาคการเกษตรโดยมีงบประมาณ 2,000,000 ตันจาก 24 ล้านตัน ซึ่งเป็นเพียง 10% หากเราแก้ไขการลงทุนในเครื่องจักร หรือปรับระบบการเพาะปลูก จะสามารถแก้ไขได้

ภาคอุตสาหกรรม งบประมาณที่จัดมาแตกต่างจากประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้น จึงเกิดคำถามว่าจะสู้ได้อย่างไร การเปลี่ยนผ่านที่เป็นธรรมของยานยนต์สันดาปไปอีวี เสนอให้จดงบเพื่อเตรียมตัว การปรับตัวให้ทัน AI ซึ่งงบประมาณน้อยกว่าประเทศอื่นๆ จึงเกิดคำถามว่า งบประมาณเท่านี้ จะสู้กับประเทศอื่นได้อย่างไร

การท่องเที่ยว ต้องรักษาไว้ที่การลงทุนด้วยโครงสร้างพื้นฐาน ต้องมีงบประมาณในการรองรับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศด้วย

ในขณะที่งบ Ignite ก็มีคนถูก Ignore ด้วย ทั้งสวัสดิการเด็กเล็ก เงินอุดหนุนเด็กเล็กยังไม่ถ้วนหน้า สวัสดิการผู้พิการ เครื่องมือผู้พิการหายไป และสิ่งแวดล้อม งบดูแลไฟป่าที่ไม่เพียงพอ

วาระที่สามข้อเสนอแนะ คือ การปฏิรูปกระบวนการทางงบประมาณ ตั้งแต่การจัดทำ การอนุมัติ และการบริหารงบประมาณตามข้อเสนอแนะของ OECD คือ การมีส่วนร่วมของสาธารณะยังจำกัดและสามารถทำให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากขึ้น มีการระบุความเสี่ยงการคลังไว้แล้ว แต่การเพิ่มความตระหนักถึงความยั่งยืนการคลังในระยะยาวสามารถปรับปรุงได้ พและการตรวจสอบอิสระซึ่งปัจจุบันยังมีข้อจำกัดอยู่

นายพิธา สรุปว่า 5 สิ่งเร่งด่วนที่รัฐบาลต้องทำเกี่ยวกับงบประมาณแผ่นดิน คือ ความชัดเจนเกี่ยวกับแผนรายได้กับแผนหนี้ของประเทศ, แผนการปฏิรูปภาษีอย่างเป็นธรรม, แผนการช่วยเหลือประชาชนที่งบประมาณไม่ครอบคลุม, การเปิดเผยกระบวนการการพิจารณางบต่อสาธารณะ และการปรับกระบวนการงบประมาณตามมาตรฐาน OECD.-317.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]