“พิธา” แนะรัฐบาลชัดเจนเกี่ยวกับแผนรายได้และหนี้

รัฐสภา 21 มิ.ย.-“พิธา” ถามรัฐบาลมั่นใจการเก็บรายได้อย่างไร แนะทำตามแนวทาง OECD เสนอความชัดเจนเกี่ยวกับแผนรายได้และหนี้ – ปฏิรูปภาษีอย่างเป็นธรรม – ช่วยเหลือประชาชนงบไม่ครอบคลุม – จัดทำงบอย่างโปร่งใส

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายในการ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 ว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ 2 – 3 ปีที่ผ่านมา ยังไม่ดีขึ้น และถูกกดดันด้วยปัจจัยในประเทศ ทั้งสินค้าที่แพงขึ้น หนี้ครัวเรือน ภัยพิบัติ โรคระบาด สังคมสูงวัย ยาเสพติด วิกฤตทางการเมือง ส่วนปัจจัยภายนอก ทั้งสงคราม การกีดกันการค้า เทคโนโลยี ดังนั้น งบประมาณที่รอบคอบ ที่มีการบริหารความเสี่ยง และมีความสมดุลย์ ระหว่างการกระตุ้นเศรษฐกิจ และความเป็นดีอยู่ดีของพี่น้องประชาชน จึงเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับปี 2568


ในขณะเดียวกันปีนี้เป็นปีที่ 6 ในในการอภิปรายเรื่องงบ อาจไม่มากแต่นานพอที่จะบอกว่ารูปร่างงบประมาณไม่ต่างกันมาก มีโอกาสได้ดูการทำงบประมาณของ OECD (องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ) หรือ The Organization for Economic Cooperation and Development ที่มีข้อเสนอแนะดี ๆ ในการทำงบประมาณ ขั้นตอนต่อจากนี้ที่ไทยจะเข้าสู่ OECD ต้องมีการปรับปรุงมาตรฐานกฎหมาย นโยบาย และแนวปฏิบัติให้สอดคล้อง

งบประมาณ คือ การเรียงลำดับความสำคัญ ทรัพยากรมีจำกัดทุกประเทศ คือการจัดความสำคัญกับประชาชนที่จ่ายภาษี และรัฐที่ใช้ภาษี ใครจ่าย ใครใช้ ใครเจริญ ใครถูกมองข้าม เป็นสิ่งที่เห็นได้ชัด อย่างกรณีการจัดงบประมาณของประเทศนิวซีแลนด์ ที่คำนึงถึงผลประโยชน์ระยะยาว ไม่ได้คิดแค่การปล่อยเงินจากบนลงล่าง หรือล่างขึ้นบน แต่บางครั้ง สิ่งที่ประชาชนต้องการ อาจไม่ใช่พายุเศรษฐกิจ แต่ต้องการลมใต้ปีกของคนตัวเล็ก ๆ ที่ต้องทำงบประมาณแบบละเอียด ไม่ได้ต้องการพาประเทศไปสู่ความเสี่ยงระยะยาว ต้องการโครงการเล็ก ๆ ที่เห็นคนข้างล่างรวมกัน ทำให้เศรษฐกิจโตได้ และลดความเหลื่อมล้ำไปได้


วาระที่ 1 ประมวล รายได้ของรัฐ + เงินกู้จะ = รายจ่ายของรัฐ ซึ่งปัจจุบันไม่เพียงพอกับรายจ่าย จึงต้องมีการกู้เพิ่ม โดยรายได้ของรัฐ มาจากส่วนที่เสียภาษี คือ กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต ส่วนราชการอื่น พาณิชย์ เมื่อรวมกับเงินกู้ จะกลายเป็นค่าใช้จ่ายบุคลากร การชำระหนี้ท้องถิ่น งบผูกพัน สวัสดิการ โครงการดิจิทัล วอลเล็ต และอีก 1 ใน 4 จะเป็นงบประมาณคงเหลือที่ใช้แก้ปัญหาเรื่องอื่นๆ

นายพิธา ยกแผนผังรายได้ของรัฐมีความผันผวน และสัดส่วนการเก็บรายได้ลดลง เมื่อเทียบกับ GDP ซึ่งเป้าหมายของประเทศในกลุ่ม OECD จะมีเป้าหมาย 16 – 18% ซึ่งขณะนี้อยู่ที่ 14 – 15% เท่านั้น จึงเกิดคำถามว่าแผนการจัดเก็บรายได้ของรัฐที่มีความผันผวนมาตลอด รัฐบาลจะมีแผนงานอย่างไร ที่ทำให้ประชาชนมั่นใจได้ว่ารายได้ในอนาคต สามารถเป็นรายได้ที่จะนำมาใช้จ่ายในประเทศได้ โดยไม่ต้องกู้มากขึ้น

นายพิธา ระบุว่า ข้อมูลล่าสุด สะท้อนให้เห็นว่าการจัดเก็บรายได้ รัฐมีความเสี่ยงที่จะทำไม่ได้ตามเป้า อย่างกรมสรรพสามิต จากกรณีที่หยิบยกมาการเก็บรายได้ 7 เดือน จาก 12 เดือน จัดเก็บพลาดไปแล้ว 35,498 ล้านบาท ซึ่งยกตัวอย่าง การเก็บภาษีพลาดเป้าที่ผ่านมา เกิดจากนโยบายของรัฐบาลในการลดภาษีดีเซล และเบนซิน สะท้อนให้เห็นว่าเวลารัฐบาลทำนโยบาย บางครั้งอาจมีความจำเป็นที่ต้องทำ แต่มีราคาที่ต้องจ่าย คือเรื่องรายได้ของรัฐที่หายไป จึงอยากฟังจากกระทรวงการคลัง ว่าจะแก้ไขปัญหาส่วนนี้อย่างไร


สิ่งที่อยากเห็นจากรัฐบาลชุดนี้ คือ แผนรายได้ประเทศ การปฏิรูปภาษี จะทำอย่างไร จะขยายฐานภาษีทางเศรษฐกิจอย่างไร ที่จะไม่ทำให้คนตัวเล็กลำบากมากเกินไป ภาษีมูลค่าเพิ่มที่จะขยายเพิ่มอาจซ้ำเติมความเหลื่อมล้ำ หากคิดตามสัดส่วนรายได้ การบริโภคสินค้าประเภทเดียวกัน คนจนจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มมากกว่าคนรวย ส่วนแนวราบ หรือฐานคนเสียภาษีน้อย ที่จะต้องเพิ่มแรงจูงใจให้คนยื่นภาษีกว้างมากขึ้น

การสร้างรายได้ใหม่ ๆ ให้กับประเทศ จึงอยากถามกระทรวงการคลังเกี่ยวกับเรื่องสุราก้าวหน้า ขอแค่แก้กฎกระทรวง และส่งเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็สามารถแก้ไขเรื่องนี้ได้ทันที โดยที่ไม่ต้องผ่านสภา เหมือนในสมัยรัฐบาลที่แล้ว ยืนยันว่าสามารถทำได้เลยและเพิ่มสรรพสามิตใหม่ ๆ ให้กับประเทศ

นายพิธา ยกตัวอย่าง คำพูดในเว็บไซต์ของพรรคเพื่อไทย คือ “คุณคิดว่าจะมีประชาชนที่ไหนยอมเข้าคิวเสียภาษีล่วงหน้า ง่ายนิดเดียว เอาต้มใต้ดิน มาต้มบนดิน และประชาชนจะเข้าคิวเพื่อซื้อแสตมป์สรรพสามิต มาติดปากขวดเหล้าเพื่อขาย คุณเข้าใจความยิ่งใหญ่นี้ไหม” หากไม่อยากทำตามในสิ่งที่ตนเองพูดไป อย่างน้อย ทำตามสิ่งที่เว็บไซต์ของพรรคเพื่อไทยเคยทำไว้ ก็น่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยกับประชาชน

ส่วนเรื่องการกู้ ภาระดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้นประมาณสองเท่า ย้ำว่า ทุกอย่างมีต้นทุน ซึ่งต้องมาเสียดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นในอนาคต และอีกเรื่องคือความยืดหยุ่นในการทำงบประมาณ ซึ่งครั้งนี้เป็นการไต่เส้น ใกล้เคียงกับกรอบงบประมาณ ทั้งการกู้ปริ่มเพดาน ภาระผูกพันงบประมาณข้ามปี ควรทำอะไรที่เสี่ยงขนาดนี้ เดิมพันกับอนาคต มากขนาดนี้หรือไม่อย่างไรเชื่อว่าประชาชนตัดสินใจได้ อนาคตเรามั่นใจมากน้อยแค่ไหนกับน้ำบ่อหน้า รวมถึงความเชื่อมั่นของทุกภาคส่วนก็ดูไม่สู้ดีนัก รวมถึงงบรายจ่าย เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น เราไม่ค่อยเน้นเรื่องรายได้ หรือแผนเงินกู้ ทำให้เห็นภาพครบทุกมุม อัตราการเติบโตของรายได้โตไม่ทันรายจ่ายของประเทศ ทำให้อัตราการกู้สูงขึ้นเรื่อย ๆ

วาระที่สองการขยาย ได้ยกคำพูดของอดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2565 ถ้ารัฐบาลไม่จนปัญญาจริง ๆ ไม่แจกหรอก เน้นเรื่องการใช้เงินสร้างเศรษฐกิจให้แข็งแรงขึ้น ต้องหาสมดุลย์ระหว่างการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการลดความเหลื่อมล้ำ การหาสมดุลย์ผลประโยชน์ระยะสั้นและความเสี่ยงในระยะยาวมองเห็นกระตุ้น Ignite และเห็นหัวประชาชนที่ถูกมองข้าม การกระตุ้นเศรษฐกิจมีหลายมิติ ปัญหาของ GDP เป็นเรื่องเกี่ยวกับการลงทุน การต่อสู้กับการขาดทุนทางการค้า ไม่ใช่การบริโภค

ภาคเกษตร ปัญหาที่ดินทับซ้อนงบประมาณกว่า 725 ล้านบาทที่จะใช้ในการแก้ไขต้องใช้เวลากว่า 100 ปี ในการแก้ไขปัญหาทั้งหมด ปัญหาเรื่องการจัดการน้ำแล้ง จากการจัดสรรงบประมาณจะทำได้ได้แค่ 1% ของพื้นที่แรงทั้งหมด และเรื่องสุดท้ายคือการเผาในภาคการเกษตรโดยมีงบประมาณ 2,000,000 ตันจาก 24 ล้านตัน ซึ่งเป็นเพียง 10% หากเราแก้ไขการลงทุนในเครื่องจักร หรือปรับระบบการเพาะปลูก จะสามารถแก้ไขได้

ภาคอุตสาหกรรม งบประมาณที่จัดมาแตกต่างจากประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้น จึงเกิดคำถามว่าจะสู้ได้อย่างไร การเปลี่ยนผ่านที่เป็นธรรมของยานยนต์สันดาปไปอีวี เสนอให้จดงบเพื่อเตรียมตัว การปรับตัวให้ทัน AI ซึ่งงบประมาณน้อยกว่าประเทศอื่นๆ จึงเกิดคำถามว่า งบประมาณเท่านี้ จะสู้กับประเทศอื่นได้อย่างไร

การท่องเที่ยว ต้องรักษาไว้ที่การลงทุนด้วยโครงสร้างพื้นฐาน ต้องมีงบประมาณในการรองรับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศด้วย

ในขณะที่งบ Ignite ก็มีคนถูก Ignore ด้วย ทั้งสวัสดิการเด็กเล็ก เงินอุดหนุนเด็กเล็กยังไม่ถ้วนหน้า สวัสดิการผู้พิการ เครื่องมือผู้พิการหายไป และสิ่งแวดล้อม งบดูแลไฟป่าที่ไม่เพียงพอ

วาระที่สามข้อเสนอแนะ คือ การปฏิรูปกระบวนการทางงบประมาณ ตั้งแต่การจัดทำ การอนุมัติ และการบริหารงบประมาณตามข้อเสนอแนะของ OECD คือ การมีส่วนร่วมของสาธารณะยังจำกัดและสามารถทำให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากขึ้น มีการระบุความเสี่ยงการคลังไว้แล้ว แต่การเพิ่มความตระหนักถึงความยั่งยืนการคลังในระยะยาวสามารถปรับปรุงได้ พและการตรวจสอบอิสระซึ่งปัจจุบันยังมีข้อจำกัดอยู่

นายพิธา สรุปว่า 5 สิ่งเร่งด่วนที่รัฐบาลต้องทำเกี่ยวกับงบประมาณแผ่นดิน คือ ความชัดเจนเกี่ยวกับแผนรายได้กับแผนหนี้ของประเทศ, แผนการปฏิรูปภาษีอย่างเป็นธรรม, แผนการช่วยเหลือประชาชนที่งบประมาณไม่ครอบคลุม, การเปิดเผยกระบวนการการพิจารณางบต่อสาธารณะ และการปรับกระบวนการงบประมาณตามมาตรฐาน OECD.-317.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” สีหน้ายิ้มแย้ม เครื่องบินส่วนตัวแลนดิ้งดอนเมือง

ดอนเมือง 8 ก.ย.-เครื่องบินส่วนตัว “ทักษิณ” แลนดิ้งเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ โดย “ทักษิณ” มีใบหน้ายิ้มแย้ม ขณะมาขึ้นรถที่จอดรอหน้าอาคารผู้โดยสาร 8 ก.ย.68 บริเวณทางเข้าออกลานจอดเครื่องบินส่วนบุคคล ท่าอากาศยานดอนเมือง พบสื่อมวลชนเดินทางมาติดตามบรรยากาศเดินทางกลับของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลังได้รับแจ้งข้อมูลเรดาร์เครื่องบินส่วนตัวรุ่น Bombardier Global 7500 ออกเดินทางจากสนามบินเซเลตาร์ ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเมื่อเวลาประมาณ 14.54 น. ที่ผ่านมา เครื่องบินส่วนตัวของนายทักษิณ ลงจอดบริเวณสนามบินส่วนตัว ประเทศไทย เรียบร้อยแล้ว ท่ามกลางบรรยากาศฝนตกหนัก ขณะที่นายทักษิณ เดินออกมาขึ้นรถที่จอดรอหน้าอาคารผู้โดยสาร ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม สวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้า ก่อนจะขึ้นรถเบนซ์แล่นออกจากสนามบินไป พร้อมกับรถยนต์และรถตู้อีกคัน ทั้งนี้ มีรายงานว่า เครื่องบินส่วนตัวของนายทักษิณ มีผู้โดยสารเดินทางมา 6 คน โดยมีนายทักษิณ ชินวัตร นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวของนายทักษิณ ซึ่งเป็นภรรยาของนายสมชาย ร่วมเดินทางมาด้วย พร้อมกับผู้ติดตาม.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน 1” คนการเมืองส่งรายชื่อครบแล้ว

พรรคภูมิใจไทย 8 ก.ย.- โผ ครม. “อนุทิน 1” คนการเมืองส่งรายชื่อครบแล้ว “บวรศักดิ์” นั่งรองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย ด้าน “ไผ่ ลิกค์-สัมพันธ์” หลุดโผ กล้าธรรมดัน “นเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ-อามินทร์” เสียบแทน รอลุ้นตรวจคุณสมบัติ 7-10 วัน หากสะดุดต้องหลีกทางทันที ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้าการจัดโผคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุทิน 1 ว่า ช่วงบ่ายวันนี้ (8 ก.ย.) ได้รับการตอบรับจากนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่มีชื่อนั่งในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ซึ่งมีรายงานว่า ช่วงบ่ายที่ผ่านมาคุยกันลงตัวแล้ว โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้พูดคุยกับนายบวรศักดิ์ ด้วยตัวเอง สำหรับการจัด ครม.ครั้งนี้ มีการใช้รัฐมนตรีคนนอกถึง 6 กระทรวง คือ กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงพลังงาน กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และกระทรวงยุติธรรม […]

“แพทองธาร” บอก “ทักษิณ” กลับแน่ เผยส่งข้อความยินดี “อนุทิน” ตั้งแต่วันแรก

พรรคเพื่อไทย 8 ก.ย.- “แพทองธาร” เข้าพรรคเพื่อไทย บอก “ทักษิณ” กลับแน่ เผยส่งข้อความแสดงความยินดี “อนุทิน” นั่งนายกตั้งแต่วันแรก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เดินทางเข้าที่ทำการพรรคเพื่อไทย โดยได้ทักทายสื่อมวลชน ผู้สื่อข่าวจึงถามว่าสบายดีหรือไม่ น.ส.แพทองธาร ยิ้ม ก่อนกล่าวว่า สบายดีค่ะ เมื่อถามว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับประเทศไทยวันนี้ (8 ก.ย.) หรือไม่ น.ส.แพทองธาร ถามกลับว่า วันนี้หรือเดี๋ยวรอดูแล้วกัน แต่ว่ากลับมาแน่นอน เมื่อถามว่า น.ส.แพทองธาร จะไปรอรับด้วยตัวเองหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า คงไม่ได้ไปรับ พอดีวันนี้ติดงานตอนบ่ายจึงไม่ได้ไป เมื่อถามว่า ตอนนี้นายอนุทิน ชาญวีรกูลนายกรัฐมนตรี ได้เป็นนายกฯ มีอะไรฝากถึงหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ได้ส่งข้อความไปยินดีเรียบร้อยแล้ว ส่งตั้งแต่วันแรกเลย ส่วนวันนี้ที่เดินทางเข้าพรรคเพื่อไทยมีประชุมอะไรหรือไม่ น.ส.แพทองธาร ไม่ได้ตอบคำถาม และขึ้นด้านบนอาคารทันที .-316 […]

จันทรุปราคา

ชาวตรังแห่ชม จันทรุปราคาเต็มดวง ที่หอนาฬิกา ท่ามกลางฝนโปรยปราย

ตรัง 8 ก.ย.- ชาวตรังตื่นตา ชมปรากฏการณ์ จันทรุปราคาเต็มดวง ที่หอนาฬิกา ท่ามกลางฝนโปรยปราย เมื่อคืนที่ผ่านมา ค่ำคืนวันที่ 7 กันยายน 2568 ชาวตรังรวมตัวกันที่ จัตุรัสนครตรัง บริเวณสี่แยกหอนาฬิกาตรัง ถนนวิเศษกุล ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง เพื่อเฝ้าชมปรากฏการณ์ จันทรุปราคาเต็มดวง ที่เกิดขึ้นระหว่างเวลา 00.31 – 01.53 น. บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก แม้มีฝนโปรยปรายลงมาบางช่วง แต่ประชาชนไม่พลาดเก็บภาพความสวยงามของพระจันทร์สีแดงอิฐ พร้อมกันนี้ ตำรวจ สภ.เมืองตรัง ได้จัดกำลังดูแลความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนอย่างใกล้ชิด คืนวันที่ 7 กันยายน 2568 ท้องฟ้าเหนือจังหวัดตรัง ปรากฏการณ์ จันทรุปราคาเต็มดวง สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับประชาชนชาวตรัง โดยเฉพาะที่ จัตุรัสนครตรัง บริเวณสี่แยกหอนาฬิกา ถนนวิเศษกุล ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมืองตรัง มีประชาชนออกมาเฝ้าชมและบันทึกภาพพระจันทร์ที่ถูกเงาโลกบังจนกลายเป็นดวงจันทร์สีแดงอิฐ สวยงามกลางท้องฟ้ายามค่ำคืน ช่วงเวลาสำคัญเริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 00.31 น. ซึ่งเป็นจังหวะที่พระจันทร์ถูกเงาโลกบังทั้งดวง มองเห็นได้ชัดเจนด้วยตาเปล่า […]