เลขาฯ กกต.พอใจภาพรวมเลือก สว.ระดับจังหวัด

กกต. 16 มิ.ย.-เลขาฯ กกต.พอใจภาพรวมเลือก สว.ระดับจังหวัด เผยผู้สมัครกลุ่มกฎหมาย ทักท้วงหลังรู้ผลแพ้ราบคาบ ยันไม่สามารถนับคะแนนใหม่ได้ แต่มีสิทธิร้องศาลได้ภายใน 3 วัน จับตาตั้งแคมป์-เปิดโรงแรมแนะนำตัว ขอบคุณทุกฝ่ายร่วมมือดี

นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง สรุปภาพรวมการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ระดับจังหวัดทั่วประเทศ ว่า สถานการณ์ในขณะนี้ถ้าดูจังหวัดใหญ่ๆ ที่ได้รับรายงานมาคือ นครราชสีมา เชียงใหม่ อุบลราชธานี ทำการเลือกเสร็จสิ้นแล้ว รวมถึงจังหวัดอื่นๆ ก็ดำเนินการเลือกสว.ระดับจังหวัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยสรุปเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีการทักท้วง เพราะทุกคนให้ความร่วมมือดี เหลือเพียง กรุงเทพมหานคร ขณะนี้เพิ่งจะมีการแจกเอกสารแนะนำตัว ในการเลือกรอบ 2 หรือรอบแบ่งสาย เพราะมีปัญหา ผู้สมัครกลุ่มที่ 2 กลุ่มกฎหมาย ทำการทักท้วงผลคะแนน แต่ไม่ได้ทำระหว่างที่มีการขานคะแนน หรือขีดคะแนน แต่ทักท้วงหลังทราบผลคะแนนเรียบร้อยแล้ว ถือเป็นการคาดคะเน อีกทั้งยังไม่ได้เขียนใบคำร้องเอาไว้แต่อย่างใด ทั้งนี้ในการทำงานจะมีผู้บันทึกเหตุการณ์เอาไว้อยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ผู้ทักท้วงสามารถไปใช้สิทธิ์ ยื่นต่อศาลฎีกาได้ ส่วนการที่ผู้สมัครจะไปแจ้งความก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อผลกระทบแต่อย่างใด


เมื่อถามว่าถ้าเขาทักท้วง ว่าคะแนนหายไป จะสามารถนับคะแนนใหม่ได้หรือไม่ นายแสวงกล่าวว่า “ระหว่างนั้นเขาต้องดู เพราะเขานั่งฟังอยู่ ใครไม่ขีดคะแนนให้ท่าน ต้องทักท้วงตอนนั้น อ่านหมายเลขไม่ชัดเจนก็ต้องทักท้วงตอนนั้น แล้วก็จะรู้แล้วก็จะรู้ว่านั่นเป็นการทำให้คะแนนของเขาหายไป แต่ไม่ใช่ปล่อยให้จนมีการรวมคะแนนแล้ว แล้วมาบอกว่าคะแนนหายไป มันผ่านมาแล้ว ซึ่งท่านก็นั่งเป็นผู้สังเกตการณ์อยู่ตรงนั้นอยู่แล้ว” นายแสวง กล่าวและว่าไม่เห็นว่ามีอะไรที่จะต้องทำให้การเลือกสวเป็นโมฆะ

ส่วนเรื่องร้องเรียน การเลือกสวขณะนี้มี 80 เรื่อง โดยมี 2 เรื่องที่เป็นการร้องการเลือกสว.ระดับจังหวัดในวันนี้ ทางกกต.จะเร่งวินิจฉัย ส่วนเรื่องที่จะทำให้การเลือกไม่เป็นไปด้วยความสุจริตและเที่ยงธรรม กกต.ให้ทางจังหวัดไปสืบเสาะหาข้อมูลว่าผู้สมัคร ได้เข้าพักที่โรงแรมไหนอย่างไร มีการทำอะไรบ้างซึ่งก็ต้องรอรายงานกลับเข้ามาอีกครั้ง แต่ทั้งนี้กันอยู่โรงแรมเดียวกันและแนะนำตัวต่อกันแบบไม่ผิดกฎหมายก็สามารถทำได้อยู่แล้ว แต่ก็ต้องดูว่ามีการกระทำที่เข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายหรือไม่ ทั้งนี้ขอย้ำว่าการที่ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบติดตามกรณีพักโรงแรมเดียวกันนั้นเป็นเพียงมาตรการป้องปราม


นายแสวง กล่าวว่าหลังจากนี้ หลักการนับคะแนนเสร็จสิ้นวันนี้ ผอ.ระดับจังหวัด จะปิดประกาศรายงานผลการนับคะแนน หน้าสถานที่เลือก โดยผู้ได้รับคะแนนสูงสุด 2 ลำดับแรกของแต่ละกลุ่มจะเป็นผู้ได้รับเลือกระดับจังหวัดสำหรับกลุ่มนั้นๆ เพื่อเข้าไปเลือกในระดับประเทศต่อไป ซึ่งยอดรวม 20 กลุ่ม จะมีผู้เข้าสู่ระดับประเทศ 3,080 คนเลือกกันในวันที่ 26 มิ.ย.นี้ และภายในวันที่ 17 มิ.ย. ผอ.การเลือกส่งรายชื่อผู้ได้รับเลือกในวันนี้ตามแบบ สว. 55 ให้กับผอ.การเลือกระดับจังหวัดและติดประกาศ ณ ที่ว่าการอำเภอ และเผยแพร่ในเว็บไซต์ รวมถึงแอปพลิเคชั่น Smart vote และก่อนเลือกระดับประเทศไม่น้อยกว่า 3 วันหรือประมาณวันที่ 22 มิ.ย. ผอ.การเลือกระดับจังหวัด จะแจ้งให้ผู้ได้รับเลือกเข้าไปรับเอกสารข้อมูลแนะนำตัวผู้สมัครของแต่ละกลุ่มที่อยู่ภายในเขตจังหวัดนั้น เพื่อนำไปศึกษาในการใช้เรื่องระดับประเทศต่อไป

ทั้งนี้ หากพบความไม่ชอบมาพากล ผู้มีสิทธิเลือกสามารถดำเนินการได้ 2 ช่องทางคือ 1. ตามมาตรา 44 ผู้มีสิทธิเลือกระดับจังหวัดเห็นว่าการดำเนินการเกี่ยวกับการเลือกของคณะกรรมการ ผอ.การเลือก หรือเจ้าหน้าที่เป็นไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย สามารถยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาภายใน 3 วัน นับแต่วันเลือก ศาลจะพิจารณาให้แล้วเสร็จก่อนวันเลือกไม่น้อยกว่า 1 วัน ก่อนการเลือกในระดับต่อไป หากยังไม่มีคำพิพากษาของศาลก็ให้ดำเนินการเลือกต่อไป 2. ผู้มีสิทธิเลือกระดับจังหวัดเห็นว่าการเลือกไม่เป็นไปโดย สุจริตเที่ยงธรรม ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ก็ยื่นให้กกต.ภายใน 3 วันนับแต่วันเลือกแล้วให้ กกต.วินิจฉัยโดยเร็ว

นายแสวง ยังได้กล่าวถึงกรณีการเลือก สว.ระดับจังหวัด ที่ศรีสะเกษ ซึ่งปรากฏว่ามีตำรวจสันติบาล เข้าไปถ่ายภาพ บริเวณพื้นที่ที่จัดให้มีการสังเกตการณ์ ซึ่งเป็นการกระทำตามข้อสั่งการของผู้บังคับบัญชา อาจจะทำให้เกิดการเข้าใจผิดระหว่างกันได้ ดังนั้นทั้งสองฝ่ายจึงไปลงบันทึกประจำวันเอาไว้แต่ไม่ได้เอาความซึ่งการและกัน


ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีนางสาวพรรณิการ์ วานิชย์ คณะก้าวหน้า ซึ่งมาร่วมสังเกตการณ์ การเลือกสวจังหวัด กรุงเทพฯ พร้อมระบุว่า มีการจ่ายเงิน 2-3 หมื่นบาท เพื่อให้ได้รับเลือก นายแสวง กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ข่าวก็คือข่าว ข้อเท็จจริงเราก็ต้องไปหา ส่วนที่มีข่าวว่ามีการไปตั้งแคมป์ ก่อนเลือกระดับประเทศอาจเข้าข่ายเป็นการล็อบบี้กัน กรณีนี้ก็เหมือนกับกรณีมีการระบุว่า มีผู้สมัครไปพักที่โรงแรมแล้วทำอะไรบ้าง ถ้าทำตามแนวทางที่กฎหมายกำหนด เราก็ทำอะไรเขาไม่ได้ แต่ถ้าไม่ใช่ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย

นายแสวง ยังกล่าวขอบคุณผู้เกี่ยวข้องในการจัดการเลือก สว.ระดับจังหวัดว่า ขอขอบคุณผู้มีส่วนที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการดำเนินการจัดการเลือก สว. ทุกจังหวัดให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ที่บอกว่าเป็นไปด้วยความเรียบร้อยนั้นไม่ได้หมายความว่า กกต.ทำงานเก่ง แต่เป็นเพราะเราได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายเป็นอย่างดี.-313.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

เสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก”

17 ก.ค. – หลายหน่วยงานรวมพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในงานเสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก” โดย บมจ.อสมท นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานสัมมนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” ยอมรับว่า นับว่าปัญหาเศรษฐกิจโลกกระทบมายังไทย จากภาษีศุลกากรของสหรัฐกระทบมายังประชาชน ผู้ผลิต เอสเอ็มอีรายย่อย ความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน ประชาชน จึงต้องร่วมมือกันปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” โดยได้จัดเวทีใหญ่ให้ผู้กำหนดนโยบายและทิศทางของประเทศ และภาคเอกชน มาร่วมแสดงความเห็น ด้านเศรษฐกิจ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในหัวข้อ เกาะติดมาตรการกระทรวงการเงินการคลัง พลิกฟื้นกำลังซื้อในประเทศ และแนวโน้มเศรษฐกิจ และสงครามการค้า ภาษีนำเข้าของสหรัฐ ว่าทีมไทยแลนด์ นำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง กำหนดเจรจากับผู้แทนการค้าสหรัฐช่วงค่ำวันนี้ ต้องชั่งน้ำหนัก ทั้ง 2 มิติ คือ ผลกระทบที่ผู้ส่งออก และผู้ผลิตในประเทศทั้งภาคอุตสาหกรรม และเกษตรกร รัฐบาลไม่มอง เพียงจะเจรจาภาษีได้เท่าไหร่ ยอมรับไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ แต่จะสานประโยชน์ให้ตกกับทุกฝ่าย […]

ทบ. เร่งตรวจสอบวิเคราะห์ “ทุ่นระเบิด” คาดผลชัด 2-3 วัน

17 ก.ค.- โฆษก ทบ. แจงเร่งตรวจสอบเหตุกำลังพลเหยียบกับระเบิดชายแดนช่องบก คาดใช้เวลา 2-3 วัน ชัดเจนเรื่องชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ยังไม่ยืนยันว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยภายหลังได้รับทราบรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 กรณีเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (16 ก.ค.68) เกิดเหตุกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ปัจจุบันทุกนายอาการปลอดภัยอยู่ในระหว่างการพักสังเกตอาการที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับทุ่นระเบิดดังกล่าวนั้น ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเข้าพื้นที่เกิดเหตุและเก็บหลักฐาน มาดำเนินการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดอย่างละเอียด ซึ่งขั้นตอนนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 วัน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน ในเรื่องของชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ตามที่สังคมได้ให้ข้อสังเกตว่าอาจเป็นทุ่นระเบิดที่ถูกวางขึ้นใหม่ ไม่ใช่ทุ่นระเบิดที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่การสู้รบเดิม ทั้งนี้ โฆษกกองทัพบก ยังได้กล่าวว่า หลังจากนี้หน่วยในพื้นที่ชายแดน จะได้มีการตรวจสอบพิสูจน์ทราบเพิ่มเติมว่า ทางกัมพูชาได้มีการนำทุ่นระเบิดมาใช้ในพื้นที่หรือไม่ เพราะในปัจจุบันทั้งไทยและกัมพูชา ได้ให้สัตยาบันในการเข้าร่วมเป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2542.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิด

17 ก.ค.- แม่ทัพภาค 2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิดขาขาด เลื่อนยศ “สิบเอก” รับบำนาญเกือบ 30,000 บาท/เดือน เงินช่วยเหลือกว่า 1 ล้านบาท บรรจุทายาทรับราชการ เมื่อวันที่ 17 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้ฝ่ายกำลังพลกองทัพภาคที่ 2 ได้ตรวจสอบสิทธิของข้าราชการทหารในการปฏิบัติราชการสนาม และให้ดำเนินการปูนบำเหน็จแก่พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน สูงสุด เพราะ เป็นการปฏิบัติภารกิจเพื่อปกป้องอธิปไตยในการ ออกลาดตระเวนและเหยียบกับระเบิดที่เนิน 481 วานนี้ โดย ได้รับการปูนบำเหน็จ เลื่อนชั้นเป็นสิบเอก (ส.อ.) หลังจากรักษาตัวแล้วเสร็จ ปลดเหตุสูญเสียฯจากการรบ ได้รับบำนาญเดือนละ 15,600 บาท ซึ่งเมื่อรวม เงินรายเดือน จากหน่วยงาน/องค์กรต่าง ๆ แล้ว คาดว่าจะได้รับเงิน รวม 29,800 บาท/เดือน (โดยประมาณ) […]