นายกฯ ยันตั้ง “วิษณุ” ไม่ใช่ทีมกฎหมายเพื่อไทยไม่เก่ง

ทำเนียบ 4 มิ.ย.- นายกฯ เชื่อ สส.เพื่อไทย เข้าใจ เชิญ “วิษณุ” นั่งที่ปรึกษาช่วยรัฐบาล ยันทำงานไม่เลือกปฏิบัติ ไม่ใช่ทีมกฎหมายพรรคไม่เก่ง เผยทำสัญญาใจอดีตนายกฯ ทุกคน ไม่เว้น “พล.อ.ประยุทธ์” ชี้วิธีการแตกต่าง แต่เป้าหมายเดียวกัน


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการตั้งนายวิษณุ เครืองาม เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี และมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันในพรรคเพื่อไทย จะมีการชี้แจงทำความเข้าใจอีกหรือไม่ ว่า ตนพูดไปเยอะแล้ว เรื่องวาทกรรมด้านการเมืองก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง และปฏิเสธไม่ได้ว่านายวิษณุ มีความรู้ความสามารถ แต่ไม่ใช่ว่าทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทยไม่เก่ง ตนเชื่อว่าที่เราประสบปัญหาทั้งรัฐบาลและประชาชน รวมถึงปัญหาทั่วไปในประเทศเราต้องการคนเก่งเข้ามาช่วย ส่วนจะเป็นเรื่องสีเสื้อหรือคนละขั้วก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่เราคำนึงถึงประชาชนเป็นหลัก การขับเคลื่อนนโยบายหลักของรัฐบาลว่าจะทำอย่างไร ถึงจะเป็นไปด้วยความรอบคอบ ซึ่งตนเชื่อว่าเพื่อนสส. ในพรรคเพื่อไทยน่าจะมีความเข้าใจในส่วนนี้

ส่วนเรื่องสีเสื้อควรจะหยุดได้หรือยัง นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เห็นด้วยกับข้อเสนอเรื่องที่พูดว่าควรจะหยุด เราไม่มีสีเสื้อแล้วก็เป็นเรื่องของการพูด เหนือสิ่งอื่นใดคือการกระทำมากกว่า รัฐบาลนี้โดยเฉพาะตนเองเรื่องการลงพื้นที่ก็ไม่ได้ไปเฉพาะที่พรรคเพื่อไทยมี สส. เยอะนั่นก็คือภาคอีสาน เพราะตนก็ไปที่ภาคใต้ ไปทำงานให้ทุกภาค และมีเจตนารมย์ที่ชัดเจนว่า ที่มาทำงานตรงนี้ไม่ได้ทำเพื่อประชาชนภาคใดภาคหนึ่ง แต่การกระทำของหลายรัฐมนตรีมีความเข้าใจถึงปัญหาที่รัฐบาลประสบมาปัจจุบันและในอดีต


“ส่วนเรื่องปัญหาที่เคยทะเลาะเบาะแว้ง เป็นเรื่องที่เราไม่ปรารถนาให้เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นการแสดงออกของรัฐมนตรีหรือการทำงานรัฐบาล เป็นเรื่องที่ตนเน้นย้ำมาตลอดว่าอย่าทำแต่เขตของตนเองหรือพรรคพวกของตัวเอง ตนไม่อยากให้มีใครจะพูดก็พูดไป แต่การกระทำ จะเป็นภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุด และตนได้แสดงออกอย่างเต็มที่แล้วว่าเราไม่มีสีเสื้อ ก็พยายามที่จะเดินหน้ากันต่อไป และเข้าใจถึงความเจ็บปวดในอดีตที่ยังมีมาอยู่ ซึ่งต้องไปดูเรื่องความคาดหวังเรื่องสภาพจิตใจของทุกฝ่าย ไม่ใช่ว่าเป็นหน้าใหม่จากการเมืองเข้ามา 2-3 ปี แล้วพยายามจะลืมทุกอย่าง แต่เวลาจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยเยียวยาจิตใจของทุกฝ่าย และเชื่อว่าการตั้งใจมาทำงานตรงนี้ พยายามที่จะขจัดปัญหาความยากจน ความเหลื่อมล้ำถือเป็นสัญญาณที่ดีของทุกฝ่าย ส่วนความรุนแรงและความร้อนแรงทางการเมืองก็หวังว่าจะลดลงไปได้” นายกรัฐมนตรี ระบุ

เมื่อถามย้ำว่าที่จริงจึงแล้วนายวิษณุ ก็เคยมาช่วยงานหลายรัฐบาล นายกรัฐมนตรีอยากให้ส่วนที่ไม่เห็นด้วย เคารพในการตัดสินใจด้วยหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าที่จริงแล้วประวัติศาสตร์ ชัดเจน ถูกเขียนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว ก็ไม่ทราบว่าจะอธิบายเยอะกว่านี้ได้ อย่างไร ขอให้ดูกันที่ผลงาน ความตั้งใจของท่าน และ การทำงานร่วมกันในอนาคตดีกว่า เรื่องนี้คงประจักษ์ดีกับทุกฝ่ายอยู่แล้วและไม่อยากย้ำไปย้ำมา

ส่วนมีคนมองว่ามวลชนหรือคะแนนของพรรคเพื่อไทยจะหายไปกับพรรคฝ่ายประชาธิปไตยพรรคอื่น นายกรัฐมนตรี เชื่อว่า การที่ประชาชนจะเลือกพรรคใด เรื่องการทำงานของรัฐบาลเป็นเรื่องสำคัญ บางเรื่องต้องใช้เวลาในการแก้ไขปัญหา และงบประมาณปี 2567 รัฐบาลเพิ่งได้เริ่มใช้ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และการเลือกตั้งตอนนี้จบไป มั่นใจว่า รัฐบาลรวมถึงรัฐมนตรีทุกคนร่วมกันทำงานเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน


นายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า วันนี้คงไม่ได้เดินทางเข้าไปร่วมประชุมกับ สส. ของพรรคเพื่อไทย เนื่องจากตนติดภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาล

ส่วนที่นายวิษณุ ให้สัมภาษณ์ว่าจะมาอยู่แค่ชั่วคราว และมีสัญญาใจไว้กับนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา กล่าวว่า เวลาพูดถึงสัญญาใจ ก็เป็นเรื่องของคนสองคน จึงขอความกรุณา ส่วนตัวรู้จักนายวิษณุ มานาน แต่ก็ยังไม่เคยทำงานร่วมกัน ก็คิดว่าเป็นเรื่องที่ต้องพัฒนาความสัมพันธ์กันต่อไป มั่นใจว่าหากสามารถทำให้ท่านมีความสุขได้ เราก็คงอยากจะลองคุยกันไปนาน ๆ

ส่วนได้มีสัญญาใจกับนายทักษิณ ด้วยหรือไม่ ในฐานะที่เป็นผู้นำประเทศเหมือนกัน นายเศรษฐา ระบุว่า ตนเองมีสัญญาใจกับอดีตผู้นำหลายท่าน ใครมีข้อเสนอแนะที่ดี ก็น้อมรับ การเป็นนายกรัฐมนตรีวันนี้ กับเมื่อ 17 ปีที่ผ่านมา ก็มีข้อจำกัดที่แตกต่างกันไป ผู้เล่นต่าง ๆ ก็ต่างกันไป แต่เหนือสิ่งอื่นใด เราต้องทำตัวเป็นน้ำไม่เต็มแก้ว ใครมีข้อแนะนำดี ๆ หรือมีข้อติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สิ่งที่เราควรจะฟังก็คือ ข้อติมากกว่า ถ้าได้ยินสิ่งที่ตัวเองอยากได้ยินตลอด ก็ไม่มีการพัฒนา ตนเองก็พูดมาตลอดว่า มาอยู่ตรงนี้ได้ เพราะทำตัวไม่เป็นน้ำเต็มแก้ว และไม่ได้เลือกได้ยินเฉพาะสิ่งที่ตัวเองอยากได้ยิน เสียงที่เราไม่อยากได้ยิน เป็นเสียงที่ประเสริฐที่สุด ต้องนำมาพัฒนา และแก้ไขปรับปรุงกันไป ไม่ว่าจะมาจากท่านนายกฯ ทักษิณ ท่านนายกฯ อานันท์ ปันยารชุน หรือท่านนายกฯ ชวน หลีกภัย ถ้าเป็นเรื่องที่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน ก็พร้อมจะนำไปปรับปรุง

ส่วนได้มีสัญญาใจกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรีด้วยหรือไม่ นายเศรษฐา ระบุว่า เรื่องใจต่อใจที่มีต่อท่านนายกฯ ประยุทธ์ ชัดเจนว่าจุดมุ่งหมายของเรา คือสิ่งเดียวกัน เพราะท่านฝากบ้านเมืองไว้กับตนเอง ในฐานะนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ต่อจากท่านซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 29 ก็ต้องดูแลพี่น้องประชาชนให้ดีที่สุด แน่นอนว่าปูมหลัง หรือวิธีการ ก็แตกต่างกันไป ตนเองมาจากภาคธุรกิจ ท่านมาจากฝ่ายความมั่นคง วิธีการแนวทางอาจจะต่างกัน แต่จุดมุ่งหมายเดียวกัน และมั่นใจว่าท่านก็มีความปรารถนาดีต่อบ้านเมือง แต่วิธีการอาจจะต่างกัน .-316 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อนลงเป็นกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร […]

วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

กทม. 15 ก.ค.-กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ยืนยันกัมพูชาไม่ได้นำวรรณกรรมไทย 22 รายการ สอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกหนังสือชี้แจง ตามที่มีการกล่าวอ้างในเพจดังกล่าวว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่กัมพูชานำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย เพราะรัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยและไม่คัดค้านเลยแม้แต่นิดเดียว…” กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณท่านที่ห่วงใยต่อกรณีประเทศกัมพูชานำวรรณกรรมไทย จำนวน 22 รายการ นำไปขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ในหัวข้อ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกัมพูชา เพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodia เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับยูเนสโก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และขอชี้แจง ดังนี้ 1.ข้อมูลที่อ้างว่ามีการขึ้นทะเบียน “วรรณกรรมไทย 22 รายการ” โดยกัมพูชา ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้เสนอขอขึ้นทะเบียนวรรณกรรม จำนวน 22 เรื่อง ต่อองค์การยูเนสโก แต่กัมพูชาได้เสนอขึ้นทะเบียน The Royal Ballet of Cambodia ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงโบราณของกัมพูชา และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2546 […]

รวมพลัง 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

15 ก.ค. – กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย องค์การทางศาสนาทั้ง 15 องค์การ จาก 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และศาสนาซิกข์ รวมทั้งหน่วยงานเครือข่าย มีผู้เข้าร่วมทั้งผู้ประกอบพิธีทางศาสนา ผู้นำทางศาสนา ศาสนิกชน เครือข่ายสถานศึกษา ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม รวมกว่า 1,000 คน ร่วมพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม จัดขึ้น ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล แสดงความจงรักภักดีและสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า กิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายพระพรชัยมงคล […]

หน่วยงาน 3 ป. แถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” จ่อขยายผลเส้นเงิน

บก.ป. 15 ก.ค.- ตำรวจแถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” ตรวจสอบเงินในบัญชี 3 ปีย้อนหลัง พบมีเงินหมุนเวียน 385 ล้านบาท ส่วนใหญ่โอนไปเว็บพนัน เหลือเงินในบัญชี 8,000 บาท ขณะที่พระผิดธรรมวินัยทยอยลาสิกขาแล้ว 9 รูป จากทั้งหมด 13 รูป พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วยนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการ ปปง., นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ […]