กทม. 25 พ.ค.- 5 องค์กรประชาชน แถลงปัญหาสมัคร สว. ระบบล่าช้า ขาดการเตรียมความพร้อม จี้ กกต. เร่งสรุปยอดผู้สมัคร-สถานที่เลือกระดับอำเภอ ออกระเบียบแนะนำตัวใหม่ ย้ำ กกต. ต้องไม่อุธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลาง ชี้ระบบซับซ้อน เป็นเหตุให้ยอดต่ำกว่าเกณฑ์
5 องค์กรเครือข่ายภาคประชาชน We Watch / iLaw / ActLab / เครือข่ายรณรงค์รัฐธรรมนูญ (CALL) / คณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญประชาชน (ครช.) แถลงข่าวสรุปปัญหา ในการเปิดรับสมัครสมาชิกวุฒิสภา และแนวทางการมีส่วนร่วมของประชาชน
โดยนายกฤต แสงสุรินทร์ We Watch กล่าวสรุปปัญหาที่พบในวันรับสมัคร สว. ทั้ง 5 วันที่ผ่านมา โดยระบุว่า กลไกการสมัครล่าช้า สร้างภาระให้ประชาชน โดยรับสมัครวันแรกพบว่าระบบล่มในหลายพื้นที่จนทำให้การรับสมัครล่าช้า นอกจากนั้นเมื่อระบบกลับมา โดยรวมยังพบว่ากระบวนการรับสมัครสำหรับผู้สมัครหนึ่งคนจะใช้เวลาประมาณ 40-60 นาที และในบางกรณีใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง อยากตั้งข้อสังเกตว่ากฎหมายเปิดกว้างให้สามารถรับสมัครได้ถึงเจ็ดวันไม่ครอบคลุมวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ในกตยังคงเลือกใช้เวลา 5 วัน อีกส่วนหนึ่งคือ เจ้าหน้าที่สับสน หลายกรณีเจ้าหน้าที่เรียกเอกสารที่อยู่นอกเหนือจากที่กำหนดไว้ เช่น สูติบัตร, วุฒิการศึกษา หนังสือรับรองการทำงานจากบริษัท ความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนนี้กลายเป็นภาระให้ผู้สมัครต้องแย้งกับเจ้าหน้าที่ด้วยตัวเอง หรือบางคนอาจต้องมีภาระหาเอกสารเพิ่มโดยไม่จำเป็น แสดงให้เห็นถึงการอบรมและการเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่ที่ยังคงมีปัญหา และสุดท้ายคือการขาดการอำนวยความสะดวกผู้สูงอายุและผู้พิการ สถานที่รับสมัครหลายแห่งไม่เอื้อต่อการเดินทางของผู้พิการและผู้สูงอายูที่ใช้รถเข็น หลายพื้นที่มีบันไดและทางต่างระดับ รวมถึงจัดสถานที่รับสมัคร์ไว้บนอาคารชั้น 2 ชั้น 3 ผู้พิการ ทางสายตายังไม่ได้รับการอำนวยความสะดวก เพราะไม่มีเอกสารที่เป็นอักษรเบรลล์
พร้อมกล่าวถึงข้อกังวลที่เกิดขึ้นว่า บางครั้งมีสื่อมวลชนไปทำข่าว อีกทั้งเจ้าหน้าที่ไม่ปกปิดข้อมูล จำนวนผู้สมัครให้มิดชิด รวมทั้งมาการขนคนมาในวันสุดท้าย จ้างให้ลงสมัคร อีกทั้งข้อกังวลของผู้สมัครที่อาตมีความสัมพันธ์กับผู้มีอิทธิพล และนัดการเมืองท้องถิ่น
ขณะที่วานนี้ (24 พ.ค.) ศาลปกครองกลาง สั่งเพิกถอนระเบียบ กกต. ที่ว่าด้วยการแนะนำตัวของผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา อย่างไรก็ตาม 5 องค์กรฯ เห็นพ้องกันว่า ผลคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง ยังไม่เกิดขึ้นทันที เพราะ กกต. สามารถอุธรณ์ได้ ภายใน 30 วัน จึงขอเรียกร้องไปยัง กกต. ว่าต้องไม่อุทธรณ์คำวินิจฉัยดังกล่าว และแถลงยืนยันอย่างเป็นทางการและเป็นลายลักษณ์อักษรโดยเร็วที่สุด เพื่อให้เกิดความชัดเจน รวมทั้งต้องออกระเบียบในการแนะนำตัวใหม่ ซึ่งต้องไม่ขัดกับแนวทางที่ศาลปกครองวางไว้ ไม่จำกัดการรับรู้หรือให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวผู้สมัคร สว. และต้องคำนึงถึงหลักการมีส่วนร่วมของประชาชนเป็นสำคัญ
นายยิ่งชีพ กล่าวเสริมว่า เรากำลัวจะเดินหน้าเข้าสู่สนามเลือก สว. แบบที่ควรจะเป็นมาตั้งแต่แรก ขอเน้นย้ำให้ กกต. ต้องไม่อุธรณ์ต่อศาล เพื่อให้การเลือกเป็นไปตามเจตนารมณ์ของศาลปกครองกลาง พร้อมกล่าวว่ารู้สึกเศร้าใจ ที่ผู้สมัครไม่ถึงเกณฑ์ ซึ่งจะทำให้รอบแรก หลายคนจะไม่ต้องกาบัตรสีชมพูและผ่านเข้ารอบต่อไปได้เลย แต่ขอให้เลือกไขว้ในระดับจังหวัด แม้ว่าบางสายอาจจะไม่รู้จักใครเลยก็ตาม เพราะหากไม่ทำ จะส่งผลให้ผู้สมัครที่อาจถูกจัดตั้งมา เข้าเป็นสมาชิกวุฒิสภาตัวจริงได้ พร้อมเปิดเผยว่า กกต.ได้ประสานมายังกลุมตน จะมีการให้ลงทะเบียนล่วงหน้าเพื่อให้ประชาชนเข้าไปเป็นผู้สังเกตการณ์ แต่อาจจะไม่ครบทุกอำเภอ และขอให้ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมในทุกๆ กระบวนการนับจากนี้ต่อไป
ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล เครือข่ายรณรงค์รัฐธรรมนูญ (CALL) เรียกร้องให้ กกต. ดำเนินการตามลำดับต่อไป โดย ต้องประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิสมัคร สว. โดยเร็วและครบถ้วน กรณีที่ไม่รับสมัครบุคคลใด กกต. ต้องระบุเหตุผลที่ชัดเจนและเป็นบรรทัดฐานเดียวกัน กกต. ต้องให้ความชัดเจนว่าจะเปิดเผยข้อมูลผู้สมัครสว. เมื่อใด เปิดเผยช่องทางไหนบ้าง และจะอำนวยความสะดวกให้ผู้สมัครที่ไม่สามารถไปรับเอกสารตามวันเวลานัดหมายได้อย่างไร อีกทั้ง ต้องประกาศสถานที่เลือกในระดับอำเภอโดยเร็ว และต้องเป็นสถานที่ที่เป็นที่รู้จัก เดินทางไปได้โดยสะดวก สุดท้าย กกต. ต้องเปิดให้ประชาชนทั่วไปสามารถสังเกตการณ์การเลือก สว. ได้ตลอดกระบวนการ ต้องเปิดให้ผู้สังเกตการณ์และผู้สมัคร สว. มีสิทธิทักท้วงกระบวนการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
นอกจากนี้ นายณัชปกร นามเมือง เครือข่ายรณรงค์รัฐธรรมนูญ (CALL) ตั้งข้อสังเกตถึงจำนวนผู้สมัครที่ต่ำกว่าเกณฑ์ โดยเห็นว่า เป็นผลมาจากการขาด การประชาสัมพันธ์ในวงกว้าง กระบวนการขั้นตอนที่ชับซ้อน การประกาศวันรับสมัครอย่างกระชั้นชิด รวมทั้งการตีความคุณสมบัติของผู้สมัครที่ขาดความชัดเจน
นายยิ่งชีพ กล่าวเสริมว่า เรากำลัวจะเดินหน้าเข้าสู่สนามเลือก สว. แบบที่ควรจะเป็นมาตั้งแต่แรก ขอเน้นย้ำให้ กกต. ต้องไม่อุธรณ์ต่อศาล เพื่อให้การเลือกเป็นไปตามเจตนารมณ์ของศาลปกครองกลาง พร้อมกล่าวว่ารู้สึกเศร้าใจ ที่ผู้สมัครไม่ถึงเกณฑ์ ซึ่งจะทำให้รอบแรก หลายคนจะไม่ต้องกาบัตรสีชมพูและผ่านเข้ารอบต่อไปได้เลย แต่ขอให้เลือกไขว้ในระดับจังหวัด แม้ว่าบางสายอาจจะไม่รู้จักใครเลยก็ตาม เพราะหากไม่ทำ จะส่งผลให้ผู้สมัครที่อาจถูกจัดตั้งมา เข้าเป็นสมาชิกวุฒิสภาตัวจริงได้ พร้อมเปิดเผยว่า กกต.ได้ประสานมายังกลุมตน จะมีการให้ลงทะเบียนล่วงหน้าเพื่อให้ประชาชนเข้าไปเป็นผู้สังเกตการณ์ แต่อาจจะไม่ครบทุกอำเภอ และขอให้ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมในทุกๆ กระบวนการนับจากนี้ต่อไป
ในช่วงถามตอบ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีข้อกังวลถึงคำพิพากษาที่ศาลปกครองเพิกถอนระเบียบของ กกต. นั้น ว่าตนจะสามารถโพสต์ เผยแพร่ข้อมูลแนะนำตัวได้เลยหรือไม่ เนื่องจากเกรงว่า กกต. อาจจะอุธรณ์คำพิพากษาดังกล่าว นานยิ่งชีพ ได้ให้ความเห็นว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถการันตีอะไรได้ หากว่าอุธรณ์ไป ศาลปกครองสูงสุดเห็นต่างจากศาลปกครองกลาง ผู้สมัครที่ลงข้อมูลไปแล้ว ก็เสี่ยงถูกตัดสิทธิ์ได้ .-317-สำนักข่าวไทย