“พิชิต” ฟันธง เชื่อมจิต ไม่มีอยู่จริงตามหลักพระพุทธศาสนา

ทำเนียบฯ 17 พ.ค.-“พิชิต” ฟันธงเชื่อมจิตไม่มีอยู่จริงตามหลักพระพุทธศาสนา ด้าน สำนักพุทธฯ ชี้ชัด ตรวจสอบแล้ว ไม่ปรากฏในพระไตรปิฎก บอก ไม่มีอำนาจเอาผิด-สั่งหยุดเผยแพร่ พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง


นายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ แถลงข่าวกรณีเด็กเชื่อมจิต โดยมีนายอินทพร จั่นเอี่ยม  ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ , นายบุญเชิด กิตติธรางกูร ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดปทุมธานี ในฐานะประธานตรวจสอบกรณีเด็กเชื่อมจิต

นายพิชิต กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแรกที่เกิดขึ้นในสังคมไทย ถือเป็นกรณีศึกษาและยังมีอีกหลายเรื่องที่ยังเกิดขึ้นอีก ย้ำว่าศรัทธาอย่าแกว่ง ธรรมะไม่ต้องซื้อไม่ต้องขาย วันนี้เป็นไปตามที่ได้นัดหมายว่าจะแถลงข่าวเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชนจนกลายเป็นข้อขัดแย้ง การแถลงข่าวของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติครั้งนี้ไม่ได้มีเจตนาที่จะใส่ร้าย บุคคลใดที่เกี่ยวข้อง พร้อมขอให้เข้าใจเจตนาว่า ภารกิจในวันนี้จะแถลงข่าวเพื่อให้สิ้นกระแสความ ถือเป็นหลักว่า หากมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นในลักษณะนี้ ที่แอบอ้างแอบอิงพระพุทธศาสนา อ้างหรือแอบอิงพระพุทธเจ้าหลักการในวันนี้จะถือเป็นหลัก ว่า จะต้องใช้หลัก ใช้สติ มีศีล สมาธิ ปัญญา ที่จะต้องตัดสินใจ ว่า เรื่องต่างๆ ถูกต้องตาม หลัก การของพระพุทธศาสนาหรือไม่ ขอย้ำว่า หากมีข้อความใดที่จะทำให้แตกต่างขัดแย้งกัน ก็เป็นเรื่องที่ทุกคนจะต้องใช้สติปัญญารับฟัง แต่วันนี้จะเอาหลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธศาสนา ที่มีมากกว่า 2,600 ปี มาเรียนผ่านสื่อมวลชนให้สาธารณะชนเข้าใจ


ด้าน ผอ. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ  กล่าวว่ากรณีเด็กเชื่อมจิตนั้น ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ติดตามสถานการณ์มาตั้งแต่ต้น และมีทีมงานในการเฝ้าระวัง โดยกลุ่มงานคุ้มครองพระพุทธศาสนาในการรวบรวมข้อมูล คลิป และรายละเอียดข่าวสารต่างๆ เพื่อประกอบการพิจารณา  รวมถึงเรื่องต่างๆที่เกี่ยวข้องกับคำสอนที่ผิดเพี้ยน  ซึ่งสำนักงานพระพุทธศาสนาขอคำปรึกษาและขอคำแนะนำจากพระมหาเถระ ซึ่งพระมหาเถระขอให้ใช้สติและทำให้รอบคอบเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนและส่งผลกระทบต่อเด็กและครอบครัว จึงได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา

และแม้สำนักงานพระพุทธศาสนาไม่มีอำนาจห้ามบุคคลที่เผยแพร่คำสอนของพระพุทธศาสนาที่ผิดเพี้ยนไปจากพระไตรปิฎก แต่เราก็ทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาโดยตลอด โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี  ซึ่งทำงานอย่างรอบคอบมากที่สุด แล้วค่อยยกระดับมาตรการตามกระบวนการของกฎหมายตามหน่วยงานที่รับผิดชอบ และขณะนี้มีหน่วยงานภาคเอกชนยื่นเรื่องไปยังตำรวจสอบสวนกลางเรียบร้อยแล้ว

ขณะที่นายบุญเชิด ประธานตรวจสอบกรณีเด็กเชื่อมจิต  กล่าวยืนยันว่า จากการตรวจสอบข้อมูลทุกรายละเอียดที่เป็นตัวอักษรอยู่ในพระไตรปิฎก ฟันธงว่าไม่ปรากฏการเชื่อมจิต และพบขัดต่อหลักธรรมคุณ 6 ประการ ยืนยันว่าในพระไตรปิฏกไม่มี แต่มีตัวบุคคลบอกว่าในพระไตรปิฏกมี แต่พยายามเทียบเคียงแล้ว


“เมื่อไม่ปรากฏในพระไตรปิฎกก็ชัดแล้ว การันตีว่าไม่จริง พระพุทธศาสนา ไม่มีเรื่องนี้ในพระไตรปิฏก โดยไทยยึดถือเถรวาสเท่านั้น ย้ำว่าการเชื่อมจิต นอกจากจะไม่ปรากฏและยังขัดต่อหลักคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่มีดำรัสไว้ให้เราได้ปฎิบัติการ คือผู้ใดปฏิบัติเองย่อมรู้เอง ไม่ต้องเชื่อตามคำของผู้อื่น ผู้ใดไม่ปฏิบัติจะบรรลุไม่ได้ หมายถึงคนอื่นไม่สามารถที่จะบอกเราให้เราเชื่อตาม แต่ต้องเป็นการศึกษาไทยได้รู้เอง” นายบุญเชิด กล่าว

จากนั้นนายพิชิต ได้สอบถามนายบุญเชิด หลายครั้งเพื่อให้ได้คำตอบที่ชัดเจนว่า กรณีที่เกิดขึ้นกับเด็กคนหนึ่ง กล่าวอ้างว่ามีการเชื่อมจิต เป็นบุตรของพระพุทธเจ้า ผู้กล่าวอ้าง ในลักษณะอภินิหารทำให้เกิดความเชื่อความศรัทธา เป็นเรื่องจริงหรือไม่ นายบุญเชิด กล่าวย้ำว่า เรื่องนี้ไม่ปรากฏในพระไตรปิฎก

ส่วนคุณวุฒิที่เด็กยังไม่บรรลุนิติภาวะ​ อยู่ในการปกครองของบิดา​ มารดา และไม่ได้มีการเรียนพระปริยัติธรรม กลับมีการแสดงออกต่อสาธารณะในลักษณะดังกล่าว​ทำให้เกิดความเชื่อ​ นายบุญเชิด  ยืนยันว่า​ ไม่ปรากฏในพระไตรปิฎก ว่าเป็นจริงหรือเท็จ​  เป็นเรื่องไม่จริง เนื่องจากในนิกายเถวาทไม่มีในพระไตรปิฎก​ แต่ในฝ่ายมหายาน​ก็อาจจะมี​ แต่ในไทยยึดเถรวาทเท่านั้น

เมื่อถามว่ากระทำในลักษณะดังกล่าวผิดกฎหมายหรือไม่​  นายพิชิต​ กล่าวว่า​ เรื่องกฎหมายบ้านเมืองเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งตำรวจที่รับเรื่องราวร้องทุกข์ไว้ ซึ่งจะต้องมีการพิจารณาว่ามีใครเสียหายหรือไม่อย่างไร ซึ่งสำนักงานพระพุทธศาสนา ในฐานะที่เป็นองค์กรศึกษาปกป้องพระพุทธศาสนาไม่ให้เกิดการผิดเพี้ยน ได้มายืนยันอย่างนี้แล้ว​ โดยยืนยันได้ในระดับหนึ่งแล้ววันนี้ ว่าสิ่งที่แถลงพนักงานสอบสวนสามารถนำไปเป็นพยานหลักฐาน ส่วนใครจะเสียหายหรือไม่อะไรอย่างไร ก็เป็นเรื่องของพนักงานสอบสวน

ส่วนเด็กหรือครอบครัว กรมกิจการเด็กฯ​ ไม่ได้ละเลย​ มีการยกระดับแล้ว​ ขอยืนยันว่าต่อไป องค์กรที่บังคับใช้กฎหมายจะเป็นผู้ตรวจสอบว่าใครเสียหาย​ ซึ่งไม่ได้อยู่ในภารกิจของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

ขณะเดียวกัน ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ยืนยันว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาไม่มีอำนาจที่จะเรียกผู้ปกครองหรือเด็กมาชี้แจงทำความเข้าใจได้ แต่หากเป็นพระภิกษุสงฆ์ก็จะแจ้งคณะผู้ปกครองให้ดำเนินการ​ พร้อมกับระบุว่า ที่ผ่านมา ในพื้นที่มีการพยายามเจรจาทำความเข้าใจ แต่ไม่ได้รับความร่วมมือกับฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และอำนาจหน้าที่ไม่สามารถห้ามระงับยับยั้ง บุคคลหรือกลุ่มบุคคล เผยแพร่หลักคำสอนที่อาจจะคลาดเคลื่อนได้ ซึ่งอำนาจจะต้องส่งต่อไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยการแถลงข่าวและการประชุมของเถรสมาคมจะเป็นข้อยืนยัน ที่สามารถนำไปใช้ประกอบ

นายพิชิต​ ยังกล่าวอีกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต​ ปัจจุบัน​ อนาคต​ ตนจะทำงานเชิงรุก​ หากใครอ้างภินิหาร​อีกใน​ 7 วัน​ สำนักพุทธ​ฯ ต้องตอบให้ได้ เราพร้อมให้ความร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย เนื่องจากรัฐธรรมนูญ มีผลคุ้มครองสิทธิ แต่เรื่องความเชื่อความศรัทธา​เป็นเรื่องละเอียดอ่อน​ แต่วันนี้เป็นเรื่องการออกมายืนยันว่าไม่มี​ ขอให้สบายใจได้ว่า​ หารือ ผอ. สำนักพุทธ ฯ​ ช่วยกันหลอมรวมน้ำใจ​ หลักกฎหมาย หากพนักงานสอบสวนเชิญสำนักพุทธฯ  ไปเป็นพยาน ก็พร้อมที่จะเป็นหนึ่งในองคาพยพพิสูจน์ความจริง ​ แต่การบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวข้องกับ กฎหมายทางอาญาไม่มีอำนาจออกหมายเรียกคนใด ​ เน้นย้ำว่ากระบวนการยุติธรรมทางอาญาเป็นเรื่องของผู้บังคับใช้กฎหมายบ้านเมือง​ พร้อมกล่าวว่าสาเหตุที่ตำรวจไม่มาแถลงข่าวด้วย เนื่องจากต้องทำตัวให้เป็นกลาง​ เป็นหน้าที่พนักงานสอบสวนต้องไปหาหลักฐาน​

ทั้งนี้ เมื่อรัฐบาลเห็นว่าบิดเบือนจะเป็นไปได้หรือไม่ว่า จะมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบ นายพิชิต​ กล่าวว่า ณ​ เวลาที่ตนทำงานอยู่ สัญญาแล้วว่า 7 วัน จะต้องได้คำตอบ ก็จะทำทุกอย่าง

ส่วนที่ไม่สามารถยับยั้งการเผยแพร่คำสอนของเด็กเชื่อมจิต ได้นั้น นายพิชิต​ กล่าวว่าในฐานะที่ตนเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ​ เป็นคนทำงานคนหนึ่ง ตนพร้อมที่จะไปเรียนหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องทั้งหมด​ เพื่อระงับยับยั้ง ในเมื่อวันนี้ได้มีการแถลงความจริงทั้งหมดแล้ว ตนก็มั่นใจในสำนักงานพระพุทธศาสนา และมีความเชื่อว่า การเชื่อมจิตไม่มีอยู่จริง เมื่อสำนักงานพระพุทธศาสนายืนยันเช่นนี้ ตนในฐานะรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีก็ยืนยันตามนั้น

ส่วนกรณีที่ครอบครัวยังคงเดินหน้าฟ้อง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จะมีแนวทางการป้องกันการฟ้องร้องอย่างไร นายพิชิต​ กล่าวว่า ห้ามคนฟ้อง ห้ามไม่ได้ แต่ต้องไปพิสูจน์กันในกระบวนการยุติธรรม ใครจะฟ้องใค รห้ามไม่ได้จริงๆ ตนขอตอบตามเหตุตามผล

ส่วนกรณีที่มีการเผยแพร่ข่าวว่า​ แดนธรรมสุขขาววะดี บ้านโนนตาแสง หมู่ 6 ต.กลางใหญ่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี  มีการรักษาโรคให้กับชาวบ้านด้วยพลังคลื่นพระเจ้า 5​ พระองค์ นั้น  ผอ. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวยืนยันว่า ​ไม่ใช่สำนักสงฆ์​ ไม่ใช่สถานที่ปฏิบัติธรรม แต่เป็นสถานที่ของเอกชน​ ตั้งชื่อว่าแดนสุขาวดี​ อยู่ที่อ.บ้านผือ​ จ.อุดรธานี​ ไม่มีพระภิกษุรูปใดเข้าไปเกี่ยวข้อง  โดยได้มีการแจ้งห้ามพระภิกษุในเขตจังหวัดหรือพื้นที่ใดก็ตามเข้าไปเกี่ยวข้อง ส่วนการรักษาโดยอ้างพระเจ้า 5 พระองค์ ทางจังหวัดได้ให้ทางสาธารณสุขบูรณาการการทำงานร่วมกัน ที่จะลงพื้นที่ว่าข้อเท็จจริงดังกล่าวเกิดขึ้นและเป็นไปตามมาตรฐานสาธารณสุขหรือไม่

ด้านนายพิชิต​ ยังระบุอีกว่า​ ​ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ทำงานจริงจัง​ คบได้ จริงใจ โดยตนจะเชิญผอ.สำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดทั่วประเทศมาทำความเข้าใจในวันที่ 29 พฤษภาคมนี้​ เวลา​ 10.00 น. ที่ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พุทธมณฑลสาย​ 4 .-316.-สำนักข่าวไท

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ ข่าว สส.ดังนครศรีฯ ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา

กทม. 30 พ.ค.-“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ-ไม่รู้ ข่าว สส.ดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมากลางงานบวช ยืนยันไม่เป็นความจริง นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าว สส.ชื่อดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา กลางงานบวชลูกชายของนายก อบต. ต่อหน้าชาวบ้านนับร้อยคน โดยนายชัยชนะ ได้ปฏิเสธข่าวบอก ไม่รู้ ไม่ทราบข่าว พร้อมบอกผู้สื่อข่าวว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อถามว่า เป็นคนรู้จัก หรือคนใกล้ชิดหรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนไม่ทราบเหมือนกัน เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบข่าวเลย ก่อนย้ำอีกครั้งว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ตอบว่า “ครับผม” เมื่อถามว่า ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่เลยใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนลงพื้นที่วันละหลายงาน และเมื่อถามทิ้งท้ายว่า ไม่มีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ยืนยันว่า “ไม่มี“.-315.-สำนักข่าวไทย

รวบพระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกดับ

นครราชสีมา 30 พ.ค. – รวบแล้ว พระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกเสียชีวิต และล่วงละเมิดลูกเลี้ยงผู้หญิงคนเล็กอายุ 11 ขวบ เจ้าตัวยังปากแข็ง แต่จำนนด้วยหลักฐาน ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา บุกรวบตัว นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเก “ลักยิ้มทับทิมสยาม” ได้คาบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ โดยขณะนี้คุมตัวอยู่ในห้องขัง สภ.เมืองนครราชสีมา ขณะจับกุมตัวผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา” และ “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี” ขณะนี้กำลังเค้นสอบปากคำ เนื่องจากผู้ต้องหายังปากแข็ง แต่จำนวนด้วยหลักฐาน ก่อนเตรียมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คาดว่าเป็นช่วงบ่ายวันนี้ คดีนี้สืบเนื่องจาก น.ส.หมิว อายุ 46 ปี นางเอกลิเก พาลูกสาวอายุ 11 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังลูกชายคนโต อายุ 18 ปี ซึ่งป่วยออทิสติก […]

“สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 หมอ คดีชั้น 14

สธ. 29 พ.ค. – “สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เผย “สมศักดิ์” สภานายกพิเศษ ส่งคำตอบให้มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 แพทย์ กรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจเมื่อวานนี้ ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ให้ใช้คำว่าเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย นายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ได้ยื่นรายงานความเห็นจากคณะกรรมการฯ ต่อมติแพทยสภาให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) สภานายกพิเศษฯ ได้ทำหนังสือตอบกลับไปยังแพทยสภาแล้ว เมื่อเวลา 16.00 น. โดยที่ตนเองก็ยังไม่ทราบว่า มีเนื้อหาบ้าง แต่ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ขอให้ใช้คำว่ามีส่วนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เบื้องต้นเป็นความส่งความเห็นกลับต่อมติของแพทยสภา ซึ่งมีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนแพทย์จำนวน 4 […]

จับแล้ว! “สามีภรรยา” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

29 พ.ค.- จับแล้ว! สองสามีภรรยา คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง มือคุมบัญชีประมูลร้านค้างานประจำปี – ร้านค้าสวัสดิการ หลังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ วันนี้ ( 29 พ.ค.68) เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม สองสามีภรรยา คนสนิทนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับ ในความผิดฐาน ข้อหาฟอกเงิน และ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อหรือการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” โดยสามารถจับกุมตัวทั้งสองได้ภายในค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาสอบปากคำยัง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ขณะเดียวมีรายงานว่า นอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ พนักงานสอบสวนยังได้ขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับอดีตพระลูกวัดคนสนิท ทิดแย้ม ซึ่งถูกจับกุมก่อนหน้านี้ และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดย พนักงานสอบสวน เตรียมประสานไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ […]

ข่าวแนะนำ

ภูมิต้านภัย : จับตาทุจริตงบซ่อม ฮ.ตำรวจ

กรุงเทพฯ 31 พ.ค. – คอลัมน์ “ภูมิต้านภัย” ตรวจสอบหาสาเหตุเฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตก 2 เหตุการณ์ในรอบ 1 เดือน หลังถูกตั้งข้อสังเกตถึงการนำ ฮ.ที่เสีย มาตั้งงบซ่อมแบบไม่ได้มาตรฐาน ทำให้นักบินต้องเสี่ยงชีวิตทุกครั้งที่ยก ฮ.ขึ้นน่านฟ้า. – สำนักข่าวไทย

นายกฯ บอกวันนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน ลั่นปรับ ครม. อะไรก็เกิดขึ้นได้

รัฐสภา 31 พ.ค.-นายกฯ บอกวันนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน ลั่นปรับ ครม. อะไรก็เกิดขึ้นได้ ส่วนโยกกระทรวงให้ถาม “ทักษิณ” คนพูด ปมดึง มท. มาดูเอง ย้ำครอบงำไม่ได้ แต่พ่อให้คำปรึกษา ลูกรับไว้พิจารณา เผยยกหูหากลางห้องประชุมแล้ว นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ว่า วันนี้ยังเหมือนเดิมไม่มีอะไร ถ้าจะมีการปรับเปลี่ยนอะไร หากเป็นรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยเดี๋ยวตนจะคุยเอง เห็นเป็นกระแสข่าวออกไปหลายอย่างมาก ทำให้รัฐมนตรีทุกคนรู้สึกหวั่นไหวและท้อใจ ซึ่งตนไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น ซึ่งตนพยายามสื่อสารในพรรคเพื่อไทยว่าอย่างไรเดี๋ยวจะคุยเอง ส่วนคำพูดของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำให้บั่นทอนจิตใจพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น นายกฯ กล่าวว่า ไม่ เมื่อสักครู่ก็นั่งอยู่ข้างๆ กันไม่ได้มีอะไร ไม่มีใครถามถึงเรื่องนี้เลย เมื่อถามว่ากระทรวงมหาดไทยทำงานไม่ดีจริงหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นั่นเป็นความคิดเห็นของนายทักษิณ แต่ตนยังไม่ได้ประเมินอะไร เดี๋ยวก็รอดู ส่วนมีการพูดคุยกับนายทักษิณ หรือไม่ว่าเหตุใดจึงให้สัมภาษณ์ นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า คุยกันทุกวัน หากถ่ายรูปมา เมื่อสักครู่ได้ตนก็คุยโทรศัพท์กับคุณพ่อ ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่าตอนนี้ถูกมองว่าเป็นการครอบงำพรรคเพื่อไทย นายกรัฐมนตรี […]

สภาผ่านฉลุย รับหลักการงบฯ 69 นายกฯ เชื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย

รัฐสภา 31 พ.ค.-สภาผ่านฉลุย รับหลักการงบฯ 69 วาระแรก เสียงท่วม 322 เสียง ตั้ง กมธ. 73 คน พบ “อนุดิษฐ์” โผล่เป็น กมธ.โควตารัฐบาล ด้านนายกฯ ขอบคุณสภาฯ ยันรัฐบาลจัดลำดับความสำคัญงบฯ ตามสถานการณ์ เชื่องบประมาณที่เสนอไปจะยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนคนไทยทุกคน ตั้งใจใช้เป็นเครื่องมือสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันสุดท้ายของการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เป็นประธานการประชุม โดยหลังจากใช้เวลากว่า 3 วัน รวม 41 ชั่วโมง ที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ด้วยคะแนน 322 ต่อ 158 เสียง ไม่ลงคะแนน 2 เสียง และตั้งคณะกรรมาธิการ จำนวน 73 คน ทั้งนี้ เป็นที่สังเกตว่า มีชื่อ […]

โฆษก ทบ. ยันสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยังไม่ถึงขั้นต้องปิดด่าน

กองทัพบก 31 พ.ค.-โฆษก ทบ. ยืนยันสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังไม่ถึงขั้นต้องปิดด่าน แต่ยอมรับว่า แนวทางการปิดด่านเป็นแผนส่วนหนึ่งที่หน่วยงานระดับพื้นที่อาจพิจารณาใช้ เพื่อดูแลความมั่นคงและความปลอดภัยประชาชน พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ระบุถึงกรณีกระแสข่าวการพิจารณาปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาบางจุดว่า ปกติจะเป็นส่วนหนึ่งของแผน สำหรับใช้ในการบริหารจัดการต่อสถานการณ์ ที่อาจส่งผลกระทบความมั่นคง และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ของหน่วยงานในระดับพื้นที่ปัจจุบัน ซึ่งในขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานแต่อย่างใด ที่ผ่านมา การปิดด่านจะดำเนินการต่อเมื่อมีความจำเป็นจริง โดยในอดีตจะดำเนินการเฉพาะต่อเมื่อสถานการณ์ในพื้นที่นั้นๆ มีปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศในระดับที่น่ากังวลสูง โดยเฉพาะข่าวสารที่น่าเชื่อว่าจะมีการใช้อาวุธระยะไกล ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยต่อพี่น้องประชาชน สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน หากพิจารณาในภาพรวม ส่วนใหญ่มีความเรียบร้อย มีเพียงบางจุดบางพื้นที่เท่านั้นที่อาจมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดความน่ากังวลมากนัก เนื่องจากทั้งสองฝ่ายได้อาศัยกลไกที่มีอยู่ในระดับพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน ภายใต้กรอบข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายได้ยึดถือกันอยู่อย่างเคร่งครัด.-313.-สำนักข่าวไทย