“พิชิต” ฟันธง เชื่อมจิต ไม่มีอยู่จริงตามหลักพระพุทธศาสนา

ทำเนียบฯ 17 พ.ค.-“พิชิต” ฟันธงเชื่อมจิตไม่มีอยู่จริงตามหลักพระพุทธศาสนา ด้าน สำนักพุทธฯ ชี้ชัด ตรวจสอบแล้ว ไม่ปรากฏในพระไตรปิฎก บอก ไม่มีอำนาจเอาผิด-สั่งหยุดเผยแพร่ พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง


นายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ แถลงข่าวกรณีเด็กเชื่อมจิต โดยมีนายอินทพร จั่นเอี่ยม  ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ , นายบุญเชิด กิตติธรางกูร ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดปทุมธานี ในฐานะประธานตรวจสอบกรณีเด็กเชื่อมจิต

นายพิชิต กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแรกที่เกิดขึ้นในสังคมไทย ถือเป็นกรณีศึกษาและยังมีอีกหลายเรื่องที่ยังเกิดขึ้นอีก ย้ำว่าศรัทธาอย่าแกว่ง ธรรมะไม่ต้องซื้อไม่ต้องขาย วันนี้เป็นไปตามที่ได้นัดหมายว่าจะแถลงข่าวเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชนจนกลายเป็นข้อขัดแย้ง การแถลงข่าวของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติครั้งนี้ไม่ได้มีเจตนาที่จะใส่ร้าย บุคคลใดที่เกี่ยวข้อง พร้อมขอให้เข้าใจเจตนาว่า ภารกิจในวันนี้จะแถลงข่าวเพื่อให้สิ้นกระแสความ ถือเป็นหลักว่า หากมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นในลักษณะนี้ ที่แอบอ้างแอบอิงพระพุทธศาสนา อ้างหรือแอบอิงพระพุทธเจ้าหลักการในวันนี้จะถือเป็นหลัก ว่า จะต้องใช้หลัก ใช้สติ มีศีล สมาธิ ปัญญา ที่จะต้องตัดสินใจ ว่า เรื่องต่างๆ ถูกต้องตาม หลัก การของพระพุทธศาสนาหรือไม่ ขอย้ำว่า หากมีข้อความใดที่จะทำให้แตกต่างขัดแย้งกัน ก็เป็นเรื่องที่ทุกคนจะต้องใช้สติปัญญารับฟัง แต่วันนี้จะเอาหลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธศาสนา ที่มีมากกว่า 2,600 ปี มาเรียนผ่านสื่อมวลชนให้สาธารณะชนเข้าใจ


ด้าน ผอ. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ  กล่าวว่ากรณีเด็กเชื่อมจิตนั้น ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ติดตามสถานการณ์มาตั้งแต่ต้น และมีทีมงานในการเฝ้าระวัง โดยกลุ่มงานคุ้มครองพระพุทธศาสนาในการรวบรวมข้อมูล คลิป และรายละเอียดข่าวสารต่างๆ เพื่อประกอบการพิจารณา  รวมถึงเรื่องต่างๆที่เกี่ยวข้องกับคำสอนที่ผิดเพี้ยน  ซึ่งสำนักงานพระพุทธศาสนาขอคำปรึกษาและขอคำแนะนำจากพระมหาเถระ ซึ่งพระมหาเถระขอให้ใช้สติและทำให้รอบคอบเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนและส่งผลกระทบต่อเด็กและครอบครัว จึงได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา

และแม้สำนักงานพระพุทธศาสนาไม่มีอำนาจห้ามบุคคลที่เผยแพร่คำสอนของพระพุทธศาสนาที่ผิดเพี้ยนไปจากพระไตรปิฎก แต่เราก็ทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาโดยตลอด โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี  ซึ่งทำงานอย่างรอบคอบมากที่สุด แล้วค่อยยกระดับมาตรการตามกระบวนการของกฎหมายตามหน่วยงานที่รับผิดชอบ และขณะนี้มีหน่วยงานภาคเอกชนยื่นเรื่องไปยังตำรวจสอบสวนกลางเรียบร้อยแล้ว

ขณะที่นายบุญเชิด ประธานตรวจสอบกรณีเด็กเชื่อมจิต  กล่าวยืนยันว่า จากการตรวจสอบข้อมูลทุกรายละเอียดที่เป็นตัวอักษรอยู่ในพระไตรปิฎก ฟันธงว่าไม่ปรากฏการเชื่อมจิต และพบขัดต่อหลักธรรมคุณ 6 ประการ ยืนยันว่าในพระไตรปิฏกไม่มี แต่มีตัวบุคคลบอกว่าในพระไตรปิฏกมี แต่พยายามเทียบเคียงแล้ว


“เมื่อไม่ปรากฏในพระไตรปิฎกก็ชัดแล้ว การันตีว่าไม่จริง พระพุทธศาสนา ไม่มีเรื่องนี้ในพระไตรปิฏก โดยไทยยึดถือเถรวาสเท่านั้น ย้ำว่าการเชื่อมจิต นอกจากจะไม่ปรากฏและยังขัดต่อหลักคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่มีดำรัสไว้ให้เราได้ปฎิบัติการ คือผู้ใดปฏิบัติเองย่อมรู้เอง ไม่ต้องเชื่อตามคำของผู้อื่น ผู้ใดไม่ปฏิบัติจะบรรลุไม่ได้ หมายถึงคนอื่นไม่สามารถที่จะบอกเราให้เราเชื่อตาม แต่ต้องเป็นการศึกษาไทยได้รู้เอง” นายบุญเชิด กล่าว

จากนั้นนายพิชิต ได้สอบถามนายบุญเชิด หลายครั้งเพื่อให้ได้คำตอบที่ชัดเจนว่า กรณีที่เกิดขึ้นกับเด็กคนหนึ่ง กล่าวอ้างว่ามีการเชื่อมจิต เป็นบุตรของพระพุทธเจ้า ผู้กล่าวอ้าง ในลักษณะอภินิหารทำให้เกิดความเชื่อความศรัทธา เป็นเรื่องจริงหรือไม่ นายบุญเชิด กล่าวย้ำว่า เรื่องนี้ไม่ปรากฏในพระไตรปิฎก

ส่วนคุณวุฒิที่เด็กยังไม่บรรลุนิติภาวะ​ อยู่ในการปกครองของบิดา​ มารดา และไม่ได้มีการเรียนพระปริยัติธรรม กลับมีการแสดงออกต่อสาธารณะในลักษณะดังกล่าว​ทำให้เกิดความเชื่อ​ นายบุญเชิด  ยืนยันว่า​ ไม่ปรากฏในพระไตรปิฎก ว่าเป็นจริงหรือเท็จ​  เป็นเรื่องไม่จริง เนื่องจากในนิกายเถวาทไม่มีในพระไตรปิฎก​ แต่ในฝ่ายมหายาน​ก็อาจจะมี​ แต่ในไทยยึดเถรวาทเท่านั้น

เมื่อถามว่ากระทำในลักษณะดังกล่าวผิดกฎหมายหรือไม่​  นายพิชิต​ กล่าวว่า​ เรื่องกฎหมายบ้านเมืองเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งตำรวจที่รับเรื่องราวร้องทุกข์ไว้ ซึ่งจะต้องมีการพิจารณาว่ามีใครเสียหายหรือไม่อย่างไร ซึ่งสำนักงานพระพุทธศาสนา ในฐานะที่เป็นองค์กรศึกษาปกป้องพระพุทธศาสนาไม่ให้เกิดการผิดเพี้ยน ได้มายืนยันอย่างนี้แล้ว​ โดยยืนยันได้ในระดับหนึ่งแล้ววันนี้ ว่าสิ่งที่แถลงพนักงานสอบสวนสามารถนำไปเป็นพยานหลักฐาน ส่วนใครจะเสียหายหรือไม่อะไรอย่างไร ก็เป็นเรื่องของพนักงานสอบสวน

ส่วนเด็กหรือครอบครัว กรมกิจการเด็กฯ​ ไม่ได้ละเลย​ มีการยกระดับแล้ว​ ขอยืนยันว่าต่อไป องค์กรที่บังคับใช้กฎหมายจะเป็นผู้ตรวจสอบว่าใครเสียหาย​ ซึ่งไม่ได้อยู่ในภารกิจของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

ขณะเดียวกัน ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ยืนยันว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาไม่มีอำนาจที่จะเรียกผู้ปกครองหรือเด็กมาชี้แจงทำความเข้าใจได้ แต่หากเป็นพระภิกษุสงฆ์ก็จะแจ้งคณะผู้ปกครองให้ดำเนินการ​ พร้อมกับระบุว่า ที่ผ่านมา ในพื้นที่มีการพยายามเจรจาทำความเข้าใจ แต่ไม่ได้รับความร่วมมือกับฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และอำนาจหน้าที่ไม่สามารถห้ามระงับยับยั้ง บุคคลหรือกลุ่มบุคคล เผยแพร่หลักคำสอนที่อาจจะคลาดเคลื่อนได้ ซึ่งอำนาจจะต้องส่งต่อไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยการแถลงข่าวและการประชุมของเถรสมาคมจะเป็นข้อยืนยัน ที่สามารถนำไปใช้ประกอบ

นายพิชิต​ ยังกล่าวอีกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต​ ปัจจุบัน​ อนาคต​ ตนจะทำงานเชิงรุก​ หากใครอ้างภินิหาร​อีกใน​ 7 วัน​ สำนักพุทธ​ฯ ต้องตอบให้ได้ เราพร้อมให้ความร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย เนื่องจากรัฐธรรมนูญ มีผลคุ้มครองสิทธิ แต่เรื่องความเชื่อความศรัทธา​เป็นเรื่องละเอียดอ่อน​ แต่วันนี้เป็นเรื่องการออกมายืนยันว่าไม่มี​ ขอให้สบายใจได้ว่า​ หารือ ผอ. สำนักพุทธ ฯ​ ช่วยกันหลอมรวมน้ำใจ​ หลักกฎหมาย หากพนักงานสอบสวนเชิญสำนักพุทธฯ  ไปเป็นพยาน ก็พร้อมที่จะเป็นหนึ่งในองคาพยพพิสูจน์ความจริง ​ แต่การบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวข้องกับ กฎหมายทางอาญาไม่มีอำนาจออกหมายเรียกคนใด ​ เน้นย้ำว่ากระบวนการยุติธรรมทางอาญาเป็นเรื่องของผู้บังคับใช้กฎหมายบ้านเมือง​ พร้อมกล่าวว่าสาเหตุที่ตำรวจไม่มาแถลงข่าวด้วย เนื่องจากต้องทำตัวให้เป็นกลาง​ เป็นหน้าที่พนักงานสอบสวนต้องไปหาหลักฐาน​

ทั้งนี้ เมื่อรัฐบาลเห็นว่าบิดเบือนจะเป็นไปได้หรือไม่ว่า จะมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบ นายพิชิต​ กล่าวว่า ณ​ เวลาที่ตนทำงานอยู่ สัญญาแล้วว่า 7 วัน จะต้องได้คำตอบ ก็จะทำทุกอย่าง

ส่วนที่ไม่สามารถยับยั้งการเผยแพร่คำสอนของเด็กเชื่อมจิต ได้นั้น นายพิชิต​ กล่าวว่าในฐานะที่ตนเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ​ เป็นคนทำงานคนหนึ่ง ตนพร้อมที่จะไปเรียนหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องทั้งหมด​ เพื่อระงับยับยั้ง ในเมื่อวันนี้ได้มีการแถลงความจริงทั้งหมดแล้ว ตนก็มั่นใจในสำนักงานพระพุทธศาสนา และมีความเชื่อว่า การเชื่อมจิตไม่มีอยู่จริง เมื่อสำนักงานพระพุทธศาสนายืนยันเช่นนี้ ตนในฐานะรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีก็ยืนยันตามนั้น

ส่วนกรณีที่ครอบครัวยังคงเดินหน้าฟ้อง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จะมีแนวทางการป้องกันการฟ้องร้องอย่างไร นายพิชิต​ กล่าวว่า ห้ามคนฟ้อง ห้ามไม่ได้ แต่ต้องไปพิสูจน์กันในกระบวนการยุติธรรม ใครจะฟ้องใค รห้ามไม่ได้จริงๆ ตนขอตอบตามเหตุตามผล

ส่วนกรณีที่มีการเผยแพร่ข่าวว่า​ แดนธรรมสุขขาววะดี บ้านโนนตาแสง หมู่ 6 ต.กลางใหญ่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี  มีการรักษาโรคให้กับชาวบ้านด้วยพลังคลื่นพระเจ้า 5​ พระองค์ นั้น  ผอ. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวยืนยันว่า ​ไม่ใช่สำนักสงฆ์​ ไม่ใช่สถานที่ปฏิบัติธรรม แต่เป็นสถานที่ของเอกชน​ ตั้งชื่อว่าแดนสุขาวดี​ อยู่ที่อ.บ้านผือ​ จ.อุดรธานี​ ไม่มีพระภิกษุรูปใดเข้าไปเกี่ยวข้อง  โดยได้มีการแจ้งห้ามพระภิกษุในเขตจังหวัดหรือพื้นที่ใดก็ตามเข้าไปเกี่ยวข้อง ส่วนการรักษาโดยอ้างพระเจ้า 5 พระองค์ ทางจังหวัดได้ให้ทางสาธารณสุขบูรณาการการทำงานร่วมกัน ที่จะลงพื้นที่ว่าข้อเท็จจริงดังกล่าวเกิดขึ้นและเป็นไปตามมาตรฐานสาธารณสุขหรือไม่

ด้านนายพิชิต​ ยังระบุอีกว่า​ ​ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ทำงานจริงจัง​ คบได้ จริงใจ โดยตนจะเชิญผอ.สำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดทั่วประเทศมาทำความเข้าใจในวันที่ 29 พฤษภาคมนี้​ เวลา​ 10.00 น. ที่ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พุทธมณฑลสาย​ 4 .-316.-สำนักข่าวไท

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

ทีมทนายวัดพระบาทน้ำพุแจงปม “หลวงพ่ออลงกต” สวมบัตร ปชช. คนตาย

ลพบุรี 24 ส.ค. – วัดพระบาทน้ำพุ ตั้งโต๊ะแถลง ยืนยันเลขบัตรประชาชนของ “หลวงพ่ออลงกต” ไม่ซ้ำกับ “อลงกต พลมุข” ปัดตอบปมเลขบัตรประชาชนผู้เสียชีวิต ผูกพร้อมเพย์บัญชีมูลนิธิฯ ขอไปตรวจสอบก่อน ส่วนทางคดี จับตาสัปดาห์หน้า จะมีผู้ถูกดำเนินคดีมากกว่า 1 คน วันนี้ ที่วัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี นายศุภชัย สิงคาลวานิช หัวหน้าทีมทนายความของวัดพระบาทน้ำพุ พร้อมตัวแทนมูลนิธิต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัดพระบาทน้ำพุ ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ เป็นครั้งแรก โดยบอกว่าวันนี้ หลวงพ่ออลงกตไม่ได้หลีกเลี่ยงที่จะมาให้สัมภาษณ์ แต่ครั้งนี้มีข้อมูลมาก มีปัญหาเรื่องข้อกฎหมายและปัญหาที่ซับซ้อนหลายอย่าง หากตอบไปอาจกระทบต่อคดี และยืนยันว่า หลวงพ่อมีเจตนาบริสุทธิ์ในการช่วยเหลือผู้ป่วย เด็กกำพร้า ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส กลุ่มเปราะบางในสังคม ซึ่งขณะนี้สังคมเข้าใจผิดในหลายเรื่อง เพราะเกิดการชี้นำของหลายเพจ กลุ่มผู้มีอิทธิพลในบางสื่อ นำเรื่องมาปะติดปะต่อจนสร้างความเสียหาย ส่วนประเด็นที่กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องที่หลวงพ่ออลงกต สวมชื่อและเลขบัตรประชาชน “อลงกล พลมุข” ข้าราชการที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น ทีมทนาย เปิดเผยว่า หลวงพ่ออลงกต มีบัตรประชาชนของท่านเอง และนามสกุลของท่าน […]

สกัดจับขบวนการค้ามนุษย์ ลอบขนคนไทยไปเขมร

สระแก้ว 24 ส.ค. – ทหารพรานลาดตระเวนชายแดนไทย-กัมพูชา บ้านกุดหิน ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว สกัดจับคนไทย 10 คน ขณะลักลอบเข้ากัมพูชา เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะเจ้าหน้าที่กำลังลาดตระเวนตามแนวชาย เพื่อสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายที่จะแอบลักลอบขนข้ามแดน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย 2 คัน ประกอบด้วย รถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว (ไม่ทราบทะเบียน) และ รถยนต์เก๋ง สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ซึ่งทั้งขับผ่านเข้ามาในพื้นที่ล่อแหลม โดยรถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว ได้จอดให้คนเดินลงมาจากรถ และเดินเข้าป่าไป จำนวน 6 คน ประกอบด้วย คนนำพา 1 คน และผู้ลักลอบ 5 คน โดยทั้งหมดเป็นคนไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ ส่วนรถยนต์เก๋งสีดำที่ขับตามมา เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ จึงขับหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับไว้ได้ (ห่างจากจุดแรกประมาณ 200 เมตร) จากการตรวจสอบภายในรถพบคนไทย 4 คน […]

พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใกล้ศูนย์เด็กเล็ก

อุบลราชธานี 24 ส.ค. – พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี อยู่ริมสระน้ำใกล้ศูนย์เด็กเล็ก เพียง 100 เมตร จากกรณีที่กัมพูชา ยิงจรวด BM–21 เข้าใส่ชุมชน บ้านเรือนประชาชน ในฝั่งไทย จนนำไปสู่การสูญเสียชีวิต และทรัพย์สิน ของประชาชนคนไทย เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันผลกระทบจากจรวด BM–21 ต่อประชาชน คนไทย ยังคงมีอยู่ ภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ได้จากบ้านหลังหนึ่ง ในอำเภอน้ำยืน จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นกัมพูชาได้ยิงจรวด BM-21 เข้ามาตกในเขตชุมชนฝั่งไทย โดยเหตุการณ์ครั้งนั้น มีจรวด BM-21 ตกมาทั้งหมด 11 ลูก 2 ใน 11 ลูก ตกใส่บ้านประชาชน จนบ้านพังเสียหายทั้งหมด 2 หลัง และมี 1 […]

ทบ. ตรวจสอบสาเหตุพลทหารเสียชีวิตที่ปราสาทตาเมือนธม

24 ส.ค. – กองทัพบกได้รับรายงานการเสียชีวิตของกำลังพลบริเวณปราสาทตาเมือนธม ปัจจุบันอยู่ระหว่างการตรวจสอบสาเหตุ พร้อมให้การช่วยเหลือเยียวยาตามสิทธิอย่างครบถ้วน กองทัพบกขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของ พลทหาร พิทยุตท์ โสดา กำลังพลสังกัด กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 ซึ่งเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2568 เวลา 18.15 น. โดยพบร่างผู้เสียชีวิตภายในห้องสุขา บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ พลทหารพิทยุตท์ โสดา อายุ 20 ปี เป็นทหารกองประจำการ รุ่นปี 1/67 จากการสมัครใจเข้ามารับราชการในโครงการพลทหารออนไลน์ ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง พลปืนเล็ก หมู่ปืนเล็กที่ 2 หมวดปืนเล็กที่ 1 สังกัด กองร้อยทหารราบที่ 211 กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 จากการตรวจสอบเบื้องต้น ผู้เสียชีวิตไม่มีโรคประจำตัว ไม่มีประวัติเสพยาเสพติด ไม่มีภาวะความเครียด […]