11 ก.ค.- สำนักพุทธฯ เตรียมเสนอกฎหมายคุ้มครองพระพุทธศาสนา เพิ่มโทษจำคุก 1-7 ปี และปรับ 20,000-140,000 บาท กับทั้งพระและฆราวาส เสพเมถุนจนปาราชิก ป้องปรามการทำผิด โดนทั้งกฎพระธรรมวินัยและอาญา
นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รองผอ. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า วันนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เตรียมส่งร่างพระราชบัญ ส่งเสริมพุทธศาสนิกชนในการอุปถัมภ์คุ้มครองพระพุทธศาสนา ให้กับนายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณา และว่าควรปรับปรุงส่วนใดบ้าง เนื่องจากเคยทำไว้แล้วเมื่อปี 2564-2565 เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบัน สีกากอล์ฟ น่าจะเป็นโอกาสที่จะนำร่างพ.ร.บ.นี้มาทบทวนอีกครั้ง
ในสาระสำคัญดังกล่าว พ.ร.บ.นี้จะมีบทลงโทษพระสงฆ์ที่ต้องอาบัติปาราชิกหรือประพฤติลวงละเมิดพระธรรมวินัยให้จำคุกตั้งแต่ 1-7 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000-140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ผู้สมัครใจเสพเมถุนกับพระภิกษุหรือสามเณร ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย โทษจำคุกตั้งแต่ 1-7 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000-140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ผู้ใดทำให้พระภิกษุผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบในพระธรรมวินัยต้องมีมลทินมัวหมอง มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-7 ปีปรับตั้งแต่ 20,000-140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เป็นต้น
เชื่อว่า เมื่อพุทธศาสนิกชนเห็นวิกฤติครั้งนี้ น่าจะให้ความสนใจว่าร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวในการนำมาใช้ป้องและปราม ผู้ที่กระทำความผิด ซึ่งมีความผิดทางพระธรรมวินัยแล้ว ยังโดยกฎหมายอาญาด้วย
อย่างไรก็ตาม ร่างพ.ร.บดังกล่าว เคยนำเสนอเมื่อปี 2564 – 2565 แต่เนื่องจากมีความเห็นที่หลากหลายในแวดวงกฎหมาย ที่ระบุว่าปัจจุบันพระสงฆ์เองก็มี ศีล 227 ข้อ ซึ่งเป็นตัวบทกฎหมายพระธรรมวินัยที่พระพุทธองค์บัญญัติไว้ แล้วมีกฎหมายบ้านเมืองอาญาที่ระบุเรื่องการทำผิดไว้แล้วน่าจะเพียงพอ แต่ตอนนี้โลกเปลี่ยนไป ศีล 227 ข้อเอาไม่อยู่ อย่างเหตุการณ์สีกา ก.ครั้งนี้ถือว่าเป็นซีรีส์และวิกฤติใหญ่ ซึ่งไม่เคยเห็นเหตุการณ์ใดใหญ่เท่าครั้งนี้
โดยสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มหาเถรสมาคม จะนำเสนอให้ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้พิจารณาว่าควรปรับปรุงส่วนใดบ้าง และขั้นตอนต่อไปคือ ตั้งคณะกรรมการทั้งฆราวาส ผู้แทนมหาเถรสมาคมมาร่วมพิจารณาปรับปรุงร่างต่อไป ก่อนจะนำเข้าสู่ที่ประชุมมหาเถรสมาคมให้มติเห็นชอบ เพื่อเสนอร่างสู่สภา เข้าสู่กระบวนการทำขั้นตอนของกฎหมายต่อไป -สำนักข่าวไทย