“เศรษฐา” มั่นใจมีช่องทางสื่อสารกับผู้ว่าฯ ธปท.

บน.6 / 5 พ.ค.- “เศรษฐา” ยัน รบ.ไม่ได้บีบผู้ว่าฯ ธปท. เชื่อ “แพทองธาร” สะท้อนเสียงประชาชน ชี้ ทุกคนแสดงความเห็นได้ มั่นใจ มีช่องทางสื่อสารกับผู้ว่าฯ ธปท. พร้อมให้เกียรติทุกองค์กร


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ในงาน 10 เดือนเพื่อไทย ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10 ที่ระบุว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นอุปสรรคต่อการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ จนมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างต่อเนื่อง โดยนายกรัฐมนตรี เชื่อว่าหัวหน้าพรรคเพื่อไทยได้สะท้อนความคิดเห็นของประชาชนจากการลงพื้นที่พบปะประชาชน และเชื่อว่าทุกคนปฏิเสธไม่ได้ว่า เรื่องภาระดอกเบี้ยสูงเป็นเรื่องสำคัญ และเป็นรายจ่ายตัวหนึ่งที่ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ซึ่งเป็นการสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนมากกว่า ขณะเดียวกันก็เข้าใจถึง ความเป็นอิสระของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ได้พูดมาตลอด ซึ่งเราก็พยายามทำงานร่วมกัน และมั่นใจว่าให้เกียรติธนาคารแห่งประเทศไทย และตัวเองเมื่อมีข้อเรียกร้องก็ได้เรียกร้องไป ตลอดจนได้พูดคุยกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดอกเบี้ย ที่ตัวเองมีความคิดว่าควรต้องลดลงมา ซึ่งได้มีการพูดมาตลอด แต่ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ก็มีเหตุผลและยืนยันไม่ลดดอกเบี้ย ตนเองจึงเดินหน้าต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการคุยกับ 4 ธนาคารใหญ่ ที่ได้ลดดอกเบี้ยลงมาแล้ว จึงเชื่อว่าจะเป็นการยึดโยงกับประชาชนมากกว่า เพราะรัฐบาลรับฟังและลงพื้นที่ตลอด อย่างเช่นวันนี้ก็จะลงพื้นที่ไปจังหวัดร้อยเอ็ด มหาสารคาม โดยจะฟังเรื่องนี้ต่อไป ส่วนปลายสัปดาห์หน้าจะไป “4บุรี” โดยจะไปฟังความเดือดร้อน

“ความเป็นอิสระก็จะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ที่มาอยู่ตรงนี้ ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการ หรือสถาบันการเงิน ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง สส. รวมถึงผู้บริหารพรรคการเมืองทั้งหลาย ว่าการมาอยู่ตรงนี้ อยู่เพื่ออะไร เหมือนกับที่ตัวเองได้เคยพูดบนเวทีเมื่อวันศุกร์ ว่า เรามาอยู่เพื่อประชาชน ส่วนวิธีการแก้ปัญหาหรือจะเรียกร้องอะไรต่างๆ ก็ต้องมีความแตกต่างกันไป ทุกคนมีสิทธิ์จะวิพากษ์วิจารณ์ได้ แต่ผมขอยึดโยงกับประชาชนเป็นหลักก็แล้วกัน” นายเศรษฐา กล่าว


ส่วนกังวลหรือไม่ว่าความคิดเห็นของฝั่งรัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทย ที่คิดเห็นต่างกันจะทำให้การร่วมงานไม่ประสานกันหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนตัวมีความกังวลทุกเรื่อง เพราะมาอยู่ตรงนี้ก็ไม่อยากให้มีความขัดแย้ง ตนก็พยายามแก้ไขปัญหาในส่วนที่ทำได้ และเชื่อว่าตามที่ นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เคยแนะนำมาว่า การประสานงานระหว่างรัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทย นั้น ก็ควรจะทำผ่าน สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ หรือ สคร. ซึ่งเป็นซึ่งเป็นหน่วยงานของกระทรวงการคลัง ให้มีการพูดคุยกัน ซึ่งจะพยายามพูดคุยกันต่อไป

“แต่เรื่องความเห็นต่างก็มีความชัดเจนอยู่แล้ว เรื่องของดอกเบี้ย เรามีหน้าที่อะไร ก็ต้องทำหน้าที่ของเราไป ส่วนการแก้ไขหนี้นอกระบบ ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่รัฐบาลกำลังทำอยู่ แต่ก็ทราบกันดีว่า การลดดอกเบี้ย ทีละสลึง หรือ 50 สตางค์ ก็มีส่วนช่วยอีกส่วนหนึ่งที่เป็นหนี้นอกระบบ ที่ต้องไปแก้ไข และวันนี้เองรัฐบาลก็จะไปฟังเสียงสะท้อนของประชาชนในภาคอีสาน เพราะเรื่องหนี้นอกระบบถือเป็นปัญหาใหญ่ที่กัดกร่อนสังคมไทยมานาน ผมก็เคยพูดมาแล้วหลายเวที ว่า หากคนเป็นหนี้ ทำงานเท่าไหร่ก็ใช้หนี้ไม่พอ แล้วจะทำงานไปทำไม เลยไปพึ่งอาชญากร ไปพึ่งยาเสพติด” นายเศรษฐา กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่างย้ำว่าพรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวและใส่ใจเป็นอย่างมาก ส่วนเรื่องของการสื่อสารแต่ละคนก็มีวิธีที่แตกต่างกันไป แต่ตนเองเชื่อว่ารัฐบาลยึดโยงกับประชาชนเป็นหลัก และนำเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนมาเป็นแนวทางที่จะแก้ไขปัญหาในบริบทที่อาจจะแตกต่างกันไป แต่ยืนยันรัฐบาลให้เกียรติทุกองค์กร


นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า หากมีโอกาสก็คงได้เจอกับ นายเศรษฐพุฒิ แต่ก็จะมีการคุยผ่าน สคร. แต่ส่วนตัวก็จะปรึกษากับ นายพิชัย ชุนหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ว่าจะมีการประสานกันตรงไหนอย่างไร เพื่อให้การทำงานดีขึ้น ซึ่งขอยืนยันว่า รัฐบาลพยายามทำงานกับทุกองค์กร ให้การทำงานดีขึ้น ไม่ใช่จะสร้างความขัดแย้ง เพราะหากขัดแย้งกันแล้วผู้ที่ได้รับผลกระทบก็คือประชาชน และจะไม่เป็นผลดีตามมา ทั้งนี้ ยืนยันว่า มีหลายวิธีที่จะสื่อสารกับผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยได้

ส่วนที่ฝ่ายค้านกล่าวว่า การพูดของ นางสาวแพทองธาร เป็นการบีบ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยให้เห็นด้วยกับนโยบายของพรรคเพื่อไทยนั้น นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ตนไม่เคยบีบอะไรใคร ไปย้อนฟังคำพูดในงานวันนั้นได้ แต่เป็นการสะท้อนถึงความต้องการของประชาชน ว่าวิธีการแก้ปัญหามีอะไร.-315 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

“บิ๊กเต่า” สยบข่าวลือพาดพิงพระชั้นผู้ใหญ่

กทม. 19 ก.ค. – รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สยบข่าวลือพาดพิงพระชั้นผู้ใหญ่ ระบุข้อมูลคดีใหม่ เป็นพระในพื้นที่ต่างจังหวัด และไม่เกี่ยวกับคดี “กอล์ฟ” พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า เพิ่งรับทราบจากสื่อมวลชนเกี่ยวกับกระแสข่าวลือพาดพิงถึงพระชั้นผู้ใหญ่บางรูป ซึ่งไม่ต้องการให้มีการเผยแพร่ข่าวลือจนสร้างความเสียหาย โดยยืนยันว่าที่เคยให้สัมภาษณ์ว่า ยังมีพระชั้นผู้ใหญ่มีความเกี่ยวข้องสีกาอีก แต่ไม่เกี่ยวข้องกับกอล์ฟ เป็นพระที่มีสมณศักดิ์สูงกว่าพระในคดีกอล์ฟ แต่อยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด ไม่ใช่ในกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีการกระทำเข้าข่ายผิดวินัยสงฆ์ โดยไม่เกี่ยวข้องกับคดีกอล์ฟ และยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ขอเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ได้หลักฐานชัดเจนก่อน ส่วนการตั้งศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา เพื่อรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับพระโดยเฉพาะ ขณะนี้ มีประชาชนแจ้งเบาะแสมาแล้วหลายร้อยสาย ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังคัดแยกข้อมูล จึงยังไม่สามารถตอบได้ว่า จะมีเรื่องที่เกี่ยวกับกอล์ฟอีกหรือไม่.-412-สำนักข่าวไทย

กัมพูชา ทำหนังสือส่งถึงไทย ปฏิเสธวางกับระเบิดช่องบก

กัมพูชา 19 ก.ค.-กัมพูชาทำหนังสือส่งถึงไทย ปฏิเสธวางกับระเบิดช่องบก ลั่นยึดมั่นอนุสัญญาออตตาวา ประณามคัดค้าน การผลิต และแสดงความเสียใจผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมผลักดันสู่กระบวนการพิสูจน์ เพื่อรักษามิตรภาพ ความปลอดภัย ไม่กล่าวหาซึ่งกัน เมื่อวันที่ 19 ก.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราชอาณาจักรกัมพูชา ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้ทำหนังสือ ถึงทางการไทย เรื่อง การปฏิเสธต่อการนําเสนอของสื่อมวลชนไทยจำนวนหนึ่ง กรณีทหารไทย 3 นาย ได้รับบาดเจ็บจากทุ่นระเบิดในพื้นที่มุมเบ็ย (ช่องบก) สำานักงานปฏิบัติการทุ่นระเบิคและช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากทุ่นระเบิดแห่งชาติกัมพูชา (สํานักงานทุ่นระเบิด) ขอแจ้งว่า เมื่อไม่นานมานี้ มีสื่อมวลชนไทยจํานวนหนึ่งได้อ้างอิงแหล่งข้อมูลจากข้าราชการระดับสูงของไทย และเผยแพร่เกี่ยวกับทหารไทย 3 นายได้รับบาดเจ็บจากระเบิด เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 บริเวณพิกัด WA 220861 (ยืนยันโดยฝ่ายไทย) อยู่ในพื้นที่มุมเบ็ย (ช่องบก) การเผยแพร่ดังกล่าว มีเจตนา กล่าวหาโดยไม่มีมูลความจริงและไม่มีการตรวจสอบที่ชัดเจนว่ากัมพูชาได้วางทุ่นระเบิดใหม่ ในการนี้สํานักงานทุ่นระเบิด ขอชี้แจงดังนี้ 1.สํานักงานทุ่นระเบิดขอปฏิเสธและปัดตกทั้งหมดต่อเนื้อหาข่าวที่เผยแพร่โดยมีเจตนากล่าวหาว่า กัมพูชาได้วางทุ่นระเบิดใหม่ 2.กัมพูชา […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมาก

กทม. 19 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก คลื่นลมทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 5 เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย คลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 19-24 กรกฎาคม 2568) ประเทศไทยจะมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน ประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มจังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมากมีดังนี้ วันที่ 19 กรกฎาคม 2568ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานีภาคกลาง: จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี และสระบุรีภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราดภาคใต้: จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี […]

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]