กกต. 25 เม.ย.-กกต.ตอบข้อหารือผู้สมัคร สว.ต้องไม่เป็นสมาชิกพรรคการเมืองในวันสมัคร ส่วนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง-จนท.อื่นของรัฐ ยึดคำวินิจฉัยศาล รธน. เทียบเคียงกฎหมาย ป.ป.ช.
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เผยแพร่การตอบข้อหารือของสำนักงานเกี่ยวกับลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา (สว.) โดยกรณีผู้ที่จะสมัคร สว.หากเป็นสมาชิกพรรคการเมือง ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา มาตรา 14 (21) กำหนดว่า ผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภาต้องไม่เป็นสมาชิกพรรคการเมือง ดังนั้นหากปรากฏข้อเท็จจริงว่า ในวันสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา บุคคลซึ่งสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใด ย่อมถือว่าบุคคลนั้นไม่มีลักษณะต้องห้ามในการสมัครตามมาตรา 14 (21)
ส่วนกรณีบุคคลดำรงตำแหน่งตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด จะถือเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือไม่นั้น สำนักงาน กกต.เห็นว่า พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 4 กำหนดคำนิยามคำว่า “ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง” ซึ่งหมายความว่า นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ข้าราชการการเมืองอื่น และ ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการการเมือง ข้าราชการรัฐสภาฝ่ายการเมือง ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการรัฐสภา กรณีตามข้อหารือเกี่ยวกับการดำรงตำแหน่งทางการเมือง จึงต้องเทียบเคียงจากบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าว
สำหรับกรณีบุคคลดำรงตำแหน่งคณะกรรมการชุมชน ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยคณะกรรมการชุมชน พ.ศ. 2565 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึงฉบับที่สอง พ.ศ.2566 ข้อ 16 และ ข้อ 18 วรรคสอง จะถือเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ ถ้าไม่ต้องลาออกในวันรับสมัครหรือไม่ และกี่วัน ศาลรัฐธรรมนูญได้เคยมีคำวินิจฉัยที่ 5/2543 ลงวันที่ 14 ก.พ.43 สรุปลักษณะของ เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐไว้ โดยเป็นบุคคลที่ได้รับแต่งตั้งหรือเลือกตั้งตามกฎหมาย
รวมทั้ง มีอำนาจหน้าที่ดำเนินการหรือหน้าที่ปฏิบัติการให้เป็นไปตามกฎหมายและปฏิบัติงานประจำ โดยอยู่ในบังคับบัญชาหรือกำกับดูแลของรัฐและมีเงินเดือน ค่าจ้าง หรือค่าตอบแทนตามกฎหมาย ดังนั้น บุคคลใดจะมีสถานะเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐหรือไม่ ต้องพิจารณาตามแนวคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าว ทั้งนี้ควรหารือไปยังหน่วยงานต้นสังกัด วินิจฉัยว่าตำแหน่งคณะกรรมการชุมชนอยู่ในความหมายของคำว่า “เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ” ตามแนวคำวินิฉัยของศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ อย่างไรก็ตามสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จากพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 และ ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2567.-สำนักข่าวไทย.-314