สำนักงานกกต. 19 เม.ย.-ประธานกกต.ยันพร้อมเลือก สว. เตือนอย่าทำผิด กม. มั่นใจมาตรการเข้มจับได้แน่ โทษหนักทั้งจำ ทั้งปรับ ตัดสิทธิการเมือง
นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กล่าวถึงความคืบหน้าของระเบียบและประกาศกกต.ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ว่า แล้วเสร็จเป็นส่วนใหญ่ โดยมี 1 ฉบับที่ส่งไปแล้วและอยู่ระหว่างการตรวจสอบ เพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษา ส่วนระเบียบเกี่ยวกับการแนะนำตัวของผู้สมัคร สว. ตั้งใจว่าจะส่งวันที่ 23 เม.ย.นี้ อย่างไรก็ตาม ช่วงเช้าที่ผ่านมา(19 เม.ย.) กกต.จัดอบรมชี้แจงให้ตัวแทนกกต.ประจำจังหวัดหรือรอง ผอ.กกต.จังหวัด หัวหน้ากลุ่มงานจัดการเลือกตั้งและการมีส่วนร่วม และพนักงานการเลือกตั้งในการจัดการเลือกสมาชิกวุฒิสภา เพื่อเตรียมการเลือกตั้งสว. ทั้งการสมัคร การเลือก การนับคะแนน และขอให้ทุกคนใช้ความพยายามการศึกษากฎมาย ระเบียบ ประกาศต่าง ๆ รวมถึงหลักต่าง ๆ ให้ละเอียดรอบคอบ เพื่อนำไปถ่ายทอดให้เจ้าหน้าที่ผู้ที่ปฏิบัติงานต่อไป ทั้งระดับอำเภอ จังหวัด และระดับประเทศ ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบว่ามีปัญหา แต่เมื่อนำไปปฏิบัติจริงในพื้นที่อาจจะยังมีความเข้าใจที่ไม่ตรงกัน
เมื่อถามว่ามีมาตรการป้องกันการฮั้วกันของผู้สมัครที่หลายฝ่ายมีความกังวลอย่างไร ประธานกกต. กล่าวว่า ถ้าไม่ฝ่าฝืนกฎหมายกันได้ก็อย่าฝ่าฝืนเลย ส่วนจะป้องกันอะไรบ้างนั้น ตามกลไกกฎหมายคือการกำหนดค่ารับสมัครในระดับที่ไม่ได้ต่ำหรือสูงเกินไป การเลือกแบบไขว้กันจะทำให้เกิดความไม่แน่นอนจึงฮั้วกันยาก และกกต.ยังมีผู้ตรวจการเลือกตั้งที่ตั้งขึ้น ชุดนี้จะปฏิบัติหน้าที่เลือกสว.ด้วยเช่นกัน หน้าที่หลักคือตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของผู้จัดการเลือกว่าทำถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ และตรวจสอบการกระทำใดที่ฝ่าฝืนกฎหมาย เรามีชุดเคลื่อนที่เร็วซึ่งเป็นตำรวจที่คุ้นเคยพื้นที่ดี จะช่วยสอดส่องการฝ่าฝืนกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ถ้าจะมาสมัครเป็นผู้แทนประชาชน จิตสำนึกก็พยายามอย่าฝ่าฝืนกฎหมาย ไม่ว่าจะด้านใดก็ตาม ให้เริ่มต้นจากการเป็นผู้สมัครที่ดี ต้องไม่ฝ่าฝืนกฎหมาย
เมื่อถามถึงกรณีคณะก้าวหน้ารณรงค์ให้ประชาชนลงสมัครเลือกสว. เข้าข่าย จำเป็นต้องตักเตือนหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า เท่าที่ทราบข่าวไม่ถึงขั้นสุ่มเสี่ยงในขณะนี้ เพราะการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่สนใจไปทำหน้าที่เป็นตัวแทนประชาชนในด้านต่าง ๆ เป็นสิ่งที่กกต.รณรงค์มาตลอด หากมีผู้มาสมัครมาก การแข่งขันก็จะยิ่งมาก และทำให้การแข่งขันมีคุณค่า การเชิญชวนให้ประชาชนมาสมัครเป็นสิ่งที่น่าจะสนับสนุน แต่เตือนว่าอย่าทำอะไรฝ่าฝืนกฎหมาย ถ้าสงสัยอะไร แนะนำให้มาคุยกับกกต.ก่อนทุกเรื่อง ซึ่งคำตอบของเราจะไม่มีการกระทำสุ่มเสี่ยงเกิดขึ้น
ส่วนกรณีคณะก้าวหน้าชูนโยบาย “1 ครอบครัว 1 สว.” ผิดเจตนารมณ์ของการเลือกสว.หรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า เบื้องต้น 1 ครอบครัว 1 สว.เป็นการรณรงค์ให้มีการสมัคร อาจจะเป็นคอนเซ็ปต์ที่ฟังง่ายให้คนฉุกคิดว่า ในฐานะที่เป็นคนไทย เรามีคุณสมบัติและมีความประสงค์ที่จะสมัครหรือไม่ และทำงานเพื่อประเทศ เรื่องนี้ไม่ถึงขั้นสุ่มเสี่ยง ถ้าสุ่มเสี่ยงต้องรับฟังกรอบความเห็นของสำนักงานกกต.
“หากมีผู้ตอบรับแคมเปญแล้วมีผู้สมัครหลักแสนคน ทางกกต.ต้องรับมือได้อยู่แล้ว เพราะเป็นสิ่งที่เราคาดการณ์เอาไว้แต่แรกว่าจะมีผู้สมัครหลักแสนคน และกกต.มีแผน 1 แผน 2 ตอนนี้กำหนดรูปแบบบัตรเลือกตั้งไว้ในท้ายระเบียบแล้ว ส่วนสีบัตรในแต่ละระดับให้เลขาธิการกกต.เป็นผู้พิจารณาเลือกสี ทั้งนี้ บัตรเลือกสว.จะพิมพ์ 2 รอบ รอบแรก พิมพ์ตามจำนวนที่คาดการณ์ไว้ และอีกรอบจะจัดพิมพ์เมื่อเห็นตัวเลขผู้สมัครแล้ว” ประธานกกต. กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีมีผู้ฟ้องร้องศาลรัฐธรรมนูญเพื่อคัดค้านการสมัครสว. จะเป็นการยื้อเวลาการทำหน้าที่ของ สว.ชุดปัจจุบันหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องที่เชื่อมโยงกัน เมื่อเราจัดการเลือกระดับประเทศเสร็จแล้ว กฎหมายให้รอ 5 วัน เผื่อจะมียื่นร้องเรียน และถ้ามีร้องเรียนต้องร้องภายใน 3 วัน หลังจากวันที่เลือก ซึ่งกกต.ต้องพิจารณาให้เสร็จภายใน 2 วัน ส่วนกกต.จะสั่งให้เลือกในวันไหน กรณีมีเลือกซ่อม โดยหลักต้องทำให้เร็ว เพราะฉะนั้นจะไม่ทำอะไรที่เป็นการขวาง
“ณ เวลานี้ผมไม่คิดว่า จะถูกทำใก้ต้องเลื่อน การเลื่อนต้องมีเหตุตามกฎหมายและชัดเจน ถ้าไม่มีเหตุก็ไม่อยากจะสันนิษฐานว่าเลื่อนออกไปเพราะเหตุนั้น เหตุนี้ หากมีพระราชกฤษฎีกา เราต้องทำตามตารางของเรา เราไม่ได้คิดเป็นอื่น” ประธานกกต. กล่าว
เมื่อถามว่า หากยื่นต่อศาล และศาลมีคำสั่งให้ชะลอไปก่อน ประธานกกต. กล่าวว่า เป็นกระบวนการศาล ซึ่งตนไม่แน่ใจว่าจะเป็นอย่างไร เพราะศาลมีกฎหมายว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีของศาล และหากมีการส่งเรื่องไปศาลก็ไม่ได้หมายความว่าจะกระทบต่อไทม์ไลน์ ส่วนกรณีนายธีระยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นเรื่องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินนั้น ทางผู้ตรวจฯ ก็จะมีกระบวนการการพิจารณาอยู่ว่า ควรส่ง หรือไม่ควรส่งเรื่อง
เมื่อถามย้ำถึงกรณีอาจมีรับจ้างสมัครสว. นายอิทธิพร กล่าวว่า เรื่องนี้มีกระบวนการตรวจสอบอยู่แล้ว ทางกกต.ได้หารือเรื่องนี้ ถ้าทำจริงถือว่ามีความผิด ทั้งจำ ทั้งปรับและตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปี การไม่กระทำการฝ่าฝืนกฎหมายเป็นสิ่งที่ดีที่สุด กฎหมายออกแบบให้ป้องกันเรื่องนี้ได้ระดับหนึ่ง กกต.มีกลไกระดับหนึ่ง ถ้าตั้งใจจะฮั้วอย่ามั่นใจว่าจะรอด ไม่มีใครจับได้ เพราะสมัยนี้ระบบอิเล็กทรอนิกส์เยอะ ช่องทางการตรวจสอบก็เยอะ ดังนั้น อย่าเสี่ยง
เมื่อถามว่ามาตรการป้องกันการฮั้วกันของผู้สมัคร จะทันเกมโกงคนที่จะฮั้วหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า เราพยายามทำให้ทัน ซึ่งเรามีหน้าที่ป้องกันไม่ให้เขากระทำการฝ่าฝืนกฎหมายด้วยวิธีการใดการหนึ่งก็ต้องหาวิถีทางทุกได้ ส่วนจะทันเกมโกงหรือไม่รอดูวันเลือก
ส่วนที่เงื่อนไขระบุว่าผู้สมัครไม่ให้ลงสมัครในนามพรรคการเมือง หรือเป็นสมาชิกพรรค แต่ในทางปฏิบัติพรรคอาจจะส่งคนมาสมัคร นายอิทธิพร กล่าวว่า อย่างที่บอกกฎหมายไม่ให้ทำเช่นนั้น และถ้าทำแล้วเรามีหลักฐานก็ต้องรับผิด เพราะเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย โทษของการฝ่าฝืนกฎหมายมีทั้งจำทั้งปรับ ทั้งตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปี ฉะนั้นอย่าเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมายเลย และถ้าไม่แน่ใจก็สอบถามได้
เมื่อถามย้ำว่าถ้าทำจะผิดเฉพาะคนสมัครหรือพรรคการเมืองด้วย นายอิทธิพร กล่าวว่า ผู้สมัคร และมีคำว่าผู้ใดระบุไว้ด้วย คือผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งกรรมการบริหารพรรค ผู้มีตำแหน่งในพรรคการเมือง สส. สมาชิกท้องถิ่น.-314 .-สำนักข่าวไทย