โรงแรมเซ็นทาราฯ 13 มี.ค.-ประธาน กกต. ปัดมีใบสั่งยื่นศาล รธน.ยุบก้าวไกล บอกใช้เวลาพอสมควรแล้ว ไม่เร็วเกินไป ชี้ หลักฐานสำคัญคือ “คำวินิจฉัยศาล” รอดูผิดกฎหมายอื่นหรือไม่ ก่อนฟันอาญาเพิ่ม
นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่าที่ประชุม กกต. เห็นควรให้ส่งเรื่องพรรคก้าวไกลล้มล้างการปกครองไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งกระบวนการพิจารณาเรื่องนี้ที่ประชุม กกต. ได้ให้สำนักงาน กกต.ศึกษาวิเคราะห์ ตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ. หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัย เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ซึ่งเป็นการศึกษาพิจารณาอย่างต่อเนื่องโดยตลอด จนกระทั่งถึงวันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยอย่างเป็นทางการเมื่อ 29 ก.พ. และเราก็ใช้เวลาในการพิจารณาเพิ่มเติม และข้อเสนอแนะ จนเป็นที่มาของผลการประชุมกกต.เมื่อวานนี้(12 มี.ค.)
ส่วนที่พรรคก้าวไกลตั้งคำถามว่าเร็วเกินไป นายอิทธิพร ยืนยันว่า เรื่องนี้เป็นการดำเนินการโดยใช้อำนาจหน้าที่ตามมาตรา 92 ซึ่งใช้คำว่าเมื่อ กกต. มีหลักฐานอันควรเชื่อว่า มีพรรคใดกระทำการอันควรจะเป็นการล้มล้างการปกครอง ให้เสนอเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา ซึ่งเรามีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญออกมา ตั้งแต่วันที่ 31 ม.ค.และคำวินิจฉัยที่ประกาศเป็นทางการออกมาวันที่ 29 ก.พ. ก็ใช้เวลาพอสมควร
“สิ่งที่เป็นหลักฐานอันเชื่อได้ว่า ก็คือ คำวินิจฉัยของศาลนั่นเอง มีรายละเอียด ข้อกฎหมาย ข้อเท็จจริง พยานหลักฐาน มีเอกสารประกอบ มีคำไต่สวน มีถ้อยคำของผู้ที่เกี่ยวข้อง ฉะนั้นเราจึงมีเหตุผลที่เชื่อได้ว่า ควรส่งศาลรัฐธรรมนูญ และเมื่อ กกต.มีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรคก้าวไกล โดยทั่วไปจะใช้เวลาไม่เกิน 1 สัปดาห์ ในการจัดทำคำร้องเพื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเสร็จเมื่อไหร่ก็ยื่นเมื่อนั้น”นายอิทธิพร กล่าว
ส่วนที่โซเชียลฯ วิพากษ์วิจารณ์ว่า กกต. มีใบสั่งนั้น นายอิทธิพร ชี้แจงว่า ที่ทำงานมาก็ทำตามกฎหมาย คนที่จะสั่งให้เราปฎิบัติหน้าที่ คือกฎหมายที่เขียนเอาไว้ หากมองตามรัฐธรรมนูญ ก็คือ เราเป็นองค์กรอิสระหนึ่ง ที่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ กฎหมายและหลักนิติธรรม เพราะฉะนั้นหากไม่ทำตามกฏหมาย ก็ถือว่าไม่ปฏิบัติหน้าที่
เมื่อถามว่าจากนี้ยังมีคิวยื่นยุบพรรคการเมืองอื่นอีกหรือไม่ ประธาน กกต. กล่าวว่าไม่อยากเรียกว่า เป็นคิว หากมีการเสนอเรื่อง และพิจารณาว่า พรรคการเมืองหรือผู้บริหารพรรคการเมืองใดกระทำการอันจะเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายที่เกี่ยวข้องซึ่งจะนำไปสู่การต้องยื่นศาลที่เกี่ยวข้อง เราก็ดำเนินการตามนั้น ไม่ได้มีเฉพาะเจาะจงอะไร
ส่วนความคืบคดียุบพรรคภูมิใจไทย กรณีรับเงินบริจาค หจก.บุรีเจริญ คอนสตรัคชั่น นั้น ประธาน กกต.กล่าวว่า อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบของเท็จจริงและรวบรวบพยานหลักฐานของเลขาฯ กกต. ซึ่งเป็นนายทะเบียนพรรคการเมือง ยังไม่ถึงขั้นที่จะสรุปความเห็นและนำเข้าสู่ที่ประชุม กกต. ส่วนที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. ระบุว่าโทษของการยุบพรรคก้าวไกล อาจร้ายแรงถึงขั้นถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิต
ประธาน กกต.กล่าวว่า ตามมาตรา 92 แล้ว หาก กกต.ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรค กกต.สามารถยื่นให้ศาลพิจารณาเพิกถอนสิทธิในการลงสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ ตามกฎหมายแล้ว ศาลจะสั่งห้ามตั้งพรรคใหม่ ห้ามเป็นคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองอื่น ซึ่งศาลจะสั่งห้ามไม่ให้เกิน 10 ปี นั่นเป็นโทษสูงสุด ส่วนกกต.จะดำเนินคดีอาญากับพรรคก้าวไกลด้วยหรือไม่ ต้องพิจารณาว่าการกระทำฝ่าฝืนกฎหมายอื่นด้วยหรือไม่.-314.-สำนักข่าวไทย