รัฐสภา 12 มี.ค.-ฝ่ายค้านฟอร์มทีม เตรียมซักฟอกรัฐบาล ม.152 หลังยื่นประธานสภาฯ พรุ่งนี้ รอกรอบเวลาชัดจะจัดสรรให้ลงตัว ย้ำมีเรื่อง “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” ยันไม่เกี้ยะเซียะ
นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานวิปฝ่ายค้าน เปิดเผยว่าวันพรุ่งนี้ 10.00 น ฝ่ายค้านเตรียมที่จะยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปรัฐบาลตามมาตรา 152 ต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร แต่เรื่องสัดส่วนการอภิปรายต้องรอกำหนดวันเวลาที่ชัดเจนก่อนที่จะหารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน ซึ่งไม่ใช่เรื่องยาก เพราะฝ่ายค้านเคยผ่านการอภิปราย ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 วาระ1 มาแล้ว ซึ่งหัวข้อในการอภิปรายนั้น ฝ่ายค้านจะนำไปจัดหมวดหมู่กันอีกครั้ง เช่น เรื่องเศรษฐกิจ จะอภิปรายร่วมกันให้มีความสอดคล้อง ขณะที่หมวดหมู่เรื่องสังคม จะอภิปรายให้เป็นหมวดหมู่เดียวกับเรื่องการศึกษา โดยในส่วนของพรรคก้าวไกล ยอมรับว่าขณะนี้มีผู้เสนอ เข้ามาเยอะ จึงจะต้องมีการคัดเลือกไฮไลท์สำคัญ ตามกรอบเวลาที่มี ขณะที่พรรคฝ่ายค้านอื่นๆ แต่ละพรรคก็จะไปพูดคุยกันและนำกลับมารวบรวมกันอีกครั้ง
ส่วนข้ออ้างกรณีที่รัฐบาลยังไม่ได้ใช้จ่ายงบประมาณนั้น นายปกรณ์วุฒิมองว่า การอภิปรายตามมาตรา 152 เป็นการซักถาม เรื่องที่รัฐบาลยังไม่ได้ดำเนินการ ย้อนกลับไปที่การแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ว่าอะไรที่ยังไม่ทำตามสัญญาที่ให้ไว้ และที่ยังไม่เริ่มทำ
“เพราะการบริหารประเทศช่วง 7-8 เดือนที่ผ่านมาควรเป็นรูปเป็นร่างได้แล้ว หรือนโยบายที่พูดแบบหนึ่ง แต่ทิศทางเป็นอีกแบบหนึ่ง ตกลงจะเป็นไปตามที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภาหรือไม่ เช่น นโยบายแจกเงินหมื่นบาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งมองว่าเป็นนโยบายที่คิดไปทำไป เช่นเดียวกับนโยบาย Soft Power ที่ยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง แม้ไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณ พร้อมทวงถามการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่พรรคเพื่อไทยพูดไว้ตั้งแต่ช่วงหาเสียง จึงน่าจะต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับ 1 แต่ปัจจุบันยังไม่เห็นการขับเคลื่อน”นายปกรณ์วุฒิ กล่าว
ส่วนจะมั่นใจได้หรือไม่ ว่าการตรวจสอบจะมีประสิทธิภาพ หลังที่ผ่านมาการตั้งกระทู้ถามสด ก็ถูกมองว่าเกี้ยะเซียะกับรัฐบาล นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่ามองกันในมุมไหน แต่หากมองในมุมตน ในฐานะที่เป็นประธานวิปฝ่ายค้านยืนยันกระทู้สดของพรรคก้าวไกลทุกครั้งคัดเลือกอย่างเต็มที่ และที่อาจจะมีความเปลี่ยนแปลงไปบ้าง คือในสมัยนี้ ได้ถามกระทู้มากขึ้น ก็อยากที่จะถามกระทู้สดที่เกี่ยวข้องกับเรื่องความเดือดร้อนและปากท้องของพี่น้องประชาชนด้วย จึงอยากให้ความสำคัญกับหลายเรื่อง ดังนั้นในส่วนของประเด็นสำคัญทางการเมือง หากไม่แหลมคมจริงๆ ก็คิดว่าไม่จำเป็นต้องใช้เวทีกระทู้สด ก็ได้ แต่สามารถใช้เวทีอื่นๆ ในการตรวจสอบก็ได้ ซึ่งตนคิดว่า หากมองกันดีๆ ว่าการให้ข่าว หรือการออกมาพูดหลายๆ เรื่องของพรรคก้าวไกล คือการตรวจสอบรัฐบาลตลอดเวลา ซึ่งขอบอกตรงๆว่าการอภิปรายตามมาตรา 152 นั้น ถือว่าพรรคก้าวไกล ทำทุกสัปดาห์ไม่ว่านอกหรือในสภาและหลายประเด็นสื่อจับเอาไปเป็นเรื่องใหญ่ ด้วยซ้ำที่จะเชิญส.ส.พรรคก้าวไกลไปพูด
นายปกรณ์วุฒิ ยอมรับว่า เรื่องเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรม กรณีของนายทักษิณ ชินวัตร และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีอยู่ในหัวข้อที่พูดคุยกันไว้ แต่ไม่ได้เจาะจงว่าพรรคก้าวไกลหรือประชาธิปัตย์จะเป็นเจ้าภาพ โดยหลายเรื่องไม่มีใครเป็นเจ้าภาพ เพียงแต่ต้องพูดคุย ไม่ให้ซ้ำกัน
ส่วนฝ่ายค้านหวังผลให้เกิดแรงกระเพื่อมอย่างไร จากเวทีอภิปรายทั่วไป นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า เป็นการสร้างแรงกดดันให้รัฐบาลทำตามที่สัญญาไว้กับประชาชน หรืออะไรที่ผิดที่ ผิดทาง มีกลิ่นแปลกๆ อาจจะหยุดการกระทำ.-312.-สำนักข่าวไทย