พท.ชี้ นายกฯ ลุย 3 จชต.ดันเศรษฐกิจ-เปิดโอกาสใหม่

กรุงเทพ 4 มี.ค.- “ลิณธิภรณ์” ชี้ “นายกฯ เศรษฐา” ลุย 3 จชต.ดันเศรษฐกิจ-เปิดโอกาสใหม่ แก้ไฟใต้นอกกรอบความมั่นคงเดิม


น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกิจกรรมการลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จชต.) ในชื่อ “เที่ยวใต้ สุดใจ” ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระหว่างวันที่ 27 – 29 ก.พ. ที่ผ่านมา

น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวว่า ภารกิจการลงพื้นที่จังหวัด 3 ชายแดนภาคใต้ของนายเศรษฐา ถือเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกในรอบ 10 ปีที่มีการนอนพักค้างแรม สะท้อนเจตจำนงชัดเจนว่า รัฐบาลจะนำความเสมอภาคความเท่าเทียม และโอกาสมาสู่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะที่ผ่านมาการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น เป็นเพียงเรื่องของความมั่นคงซึ่งมีความซับซ้อน จนอาจถูกมองว่าเป็นพื้นที่ที่มีความปลอดภัยน้อย เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาพื้นที่ในหลายมิติ นอกเหนือจากมิติด้านความมั่นคง


น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรี เสนอหนทางแก้ปัญหา ด้วยโอกาสและเศรษฐกิจ รัฐบาลชวนมองมุมใหม่ให้จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีความปลอดภัย มีการท่องเที่ยว และการลงทุน เจตนารมณ์นี้จึงสะท้อนผ่านความใส่ใจของนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการเค้นของดีและศักยภาพชายแดนใต้ออกมา เพื่อสร้างโอกาสใหม่ ไม่ใช่แก้ด้วยกรอบความมั่นคงที่จะได้ผลลัพธ์แบบเดิม รัฐบาลจะไม่พายเรือในอ่าง แต่จะพาพี่น้อง 3 จังหวัดออกจากวังวนเดิม เปิดประตูสู่การค้าชายแดน ไปจนถึงการลงทุนในปริมาณและโอกาสที่มากกว่าเดิม โดยไม่ละเลยมิติด้านความมั่นคง ซึ่งจะทำให้คนมีรายได้ มีกินมีใช้ เป็นปัจจัยหนึ่งทำให้ความขัดแย้งในพื้นที่ลดลง

น.ส.ลิณธิภรณ์ ยังยืนยันว่า รัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย ไม่เคยใช้ และไม่มีกฎหมายใดสักฉบับเดียว ที่จะควบคุมหรือลิดรอนเสรีภาพสื่อ และยืนยันเคารพในหลักการประชาธิปไตย

“วอนสื่ออาวุโส อย่าด้อยค่ารัฐบาล รัฐบาลนี้เคารพในสิทธิและเสรีภาพของสื่อ เพราะสื่อคือตัวชี้วัดและสะท้อนผลการทำงานของรัฐบาล แต่การแสดงความคิดเห็นหรือวิพากษ์วิจารณ์ของสื่อเพียงด้านเดียว อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดต่อสังคมในภาพรวมได้ อยากขอวิงวอนให้สื่อช่วยนำเสนอมุมมองการทำงานของรัฐบาลทั้งในด้านบวกและด้านลบให้ครบทุกด้าน และให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินเองว่า รัฐบาลนี้ทำงานเพื่อประชาชนหรือไม่” น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าว .-316 -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง