ฟาด “หมออ๋อง” ล้ำอำนาจฝ่ายบริหาร

ทำเนียบรัฐบาล 1 มี.ค.-“สมคิด” ชี้ “หมออ๋อง” บุกทำเนียบฯ ทวงถามกฎหมายการเงิน ผิดธรรมเนียมปฏิบัติ รุกล้ำอำนาจฝ่ายบริหาร ตอกกลับแจงเป็นหนังสือไปแล้ว 2 ครั้ง แต่เลือกไม่อ่าน เชื่อทำส่วนตัว หวังแอ็กชันให้เป็นข่าว ไม่เกี่ยวสภาฯ เหน็บกม.ดองไม่ได้ ไม่ใช่หน่อไม้


นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง กล่าวถึงกรณีนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 จะมาทำเนียบรัฐบาลในช่วงบ่ายวันนี้ (1 มี.ค.)เพื่อทวงถามร่างกฎหมายที่เกี่ยวกับการเงินที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังยังไม่ได้ลงนามรับรองว่า เรื่องที่ทวงถามมาสำนักเลขาธิการนายกฯรัฐมนตรีได้ตอบกลับไปแล้ว 2 ครั้ง ถึงขั้นตอบการออกกฎหมายการเงิน แต่นายปดิพัทธ์เลือกที่จะไม่อ่าน

“ที่จริงอ่านก็เข้าใจ ไม่มีอะไรซับซ้อนเลย กฎหมายอะไรก็แล้วแต่ที่นายกรัฐมนตรียังไม่ลงนาม ก็ยังค้างอยู่ ซึ่งกฎหมายการเงินต้องรอฟังความเห็นทุกกระทรวง ทบวง กรม ที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น ต้องใช้เวลา อย่าลืมว่านักการเมืองทุกพรรคเสนอกฎหมายสะดวก เพราะสส.20 คนร่วมลงชื่อก็จบ แต่พอเป็นรัฐบาลต้องรับฟังความเห็นจากคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งกฎหมาย 31 ฉบับ ไม่ได้ดอง มันดองไม่ได้ ไม่ใช่หน่อไม้ มันจะไปดองอย่างไร” นายสมคิด กล่าว


ส่วนการมาทวงถามลักษณะนี้ถือว่าผิดธรรมเนียมที่เคยปฏิบัติหรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า ให้คิดเอาเองว่าฝ่ายนิติบัญญัติมารุกล้ำหรือไม่ ถ้าแบบนี้กระทรวง ทบวง กรมทำงานช้าก็ไปทวงถามหรือ ถ้าสมมตินายกรัฐมนตรีดำเนินการไม่ถูกต้อง หรือฝ่ายบริหารไม่ถูกต้องอย่างไร มันมีช่องทาง ไม่มีเรื่องที่ฝ่ายนิติบัญญัติบอกจะมาบุกว่า “โน่นนั่นทำนี่” อย่างนั้นกระทรวง ทบวง กรมอื่นทำงานล่าช้าก็ไปบุก

เมื่อถามว่าจะพูดคุยกับนายวัน มูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎรหรือไม่ นายปดิพัทธ์ทำในนามส่วนตัวหรือ ในตำแหน่งรองประธานสภาฯ  นายสมคิด กล่าวว่า เขาพูดในตำแหน่งรองประธานสภาฯ คงไม่ได้ปรึกษานายวัน มูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพราะเรื่องนี้เป็นวิธีการทำงานของแต่ละคน ต้องทำให้ดี คิดให้ดีว่ามันใช่หรือไม่ ถ้าคิดว่าใช่ก็ทำต่อ ถ้าคิดว่าไม่ใช่ก็ถอย เรายืนยันว่าเราพร้อมชี้แจง ซึ่งก็ชี้แจงไปแล้ว 2 ครั้ง

“เป็นเรื่องส่วนบุคคล เชื่อว่าสภา ฯ ไม่น่าจะเกี่ยวข้อง เชื่อว่านายปดิพัทธ์คิดเองสรุปเอง ถูกเองผิดเอง วันนี้อยากจะบอกไปทางฝ่ายนิติบัญญัติว่า ถ้าฝ่ายบริหารทำงานไม่ดี มีช่องทางอยู่แล้ว คืออภิปรายไม่ไว้วางใจ หากมาแบบนี้เหมือนมาทำข่าว อธิบายแล้วก็จบกันไป ซึ่งเราตอบได้ทุกคำถามไม่ต้องห่วง ว่ากฎหมายการเงินอะไรเห็นด้วยไม่เห็นด้วยหน่วยงานเป็นผู้รับรอง นายกรัฐมนตรีเป็นเพียงผู้รวบรวม ถ้าจะไม่รับรองก็เป็นไปตามข้อเสนอแนะของหน่วยงาน” นายสมคิด กล่าว


นายสมคิด กล่าวว่า ที่ผ่านมากฎหมายการเงิน รัฐบาลจะใช้เวลาพิจารณา3-4 เดือน ต้องเข้าใจว่ากฎหมายบางฉบับเสร็จแล้ว แต่นายกรัฐมนตรียังไม่ได้ลงนาม ไม่ได้ตกถือว่ากฎหมายยังไม่ได้ตกไป แต่ถ้านายกรัฐมนตรีลงนามว่าไม่เห็นชอบแล้วส่งไปยังสภาฯ  ก็ถือว่าตกเลย

ส่วนวันนี้ที่นายปดิพัทธ์ บอกว่าจะมาสอบถามกับเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เป็นรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี จะพบด้วย เพื่อพูดคุยชี้แจงหรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า ไม่มีปัญหา ถ้ามากินกาแฟ แต่อย่าบอกว่าบุกตรวจสอบ ไม่ควรจะไปออกข่าวอย่างนั้น และการมาของนายปดิพัทธ์ไม่แจ้งนัดหมาย แต่ที่ผ่านมาเคยทำหนังสือมา 2 ครั้ง และตนก็ได้ตอบกลับไป 2 ครั้ง ถ้าเลือกอ่านมันก็จบ

“ไม่มีอะไรเลย ไม่มีใครอุ้มกฎหมายคุณไปได้ มันก็อยู่ตรงนี้ ไม่รับรองคือไม่รับรอง อย่าลืมว่ากฎหมายการเงินที่พรรคการเมืองเสนอขึ้นมา เทวดาก็ทำไม่ได้ ไม่บอกว่าฉบับไหน มันมีฉบับที่เขียนเพื่อให้ทำไม่ได้ สุดท้ายเมื่อเข้าสภา เขาทิ้งก็บอกว่าไม่ดี บางอันมันเกินเหตุ กฎหมายดีๆก็มีที่ส่งมา เช่น ร่าง พ.ร.บ. ชาติพันธุ์ รัฐบาลก็ร่างรอ อะไรที่ดีเราไม่ทิ้ง อะไรที่มันเกินเลยแล้วแต่นายกรัฐมนตรีพิจารณา เรื่องนี้ไม่มีอะไร ท่านอยากแอ็คชั่น” นายสมคิด กล่าว.-316.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ จยย. ลามวอดทั้งลานจอด

กทม. 27 ก.ย.-วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟไหม้รถจักรยานยนต์ที่ลานจอด ก่อนลุกลามระเบิดวอดรถจักรยานยนต์ 29 คัน รถยนต์ 3 คัน และจักรยาน 3 คัน วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟเริ่มลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านในสุด ก่อนจะลุกลามมาคันข้างๆ และระเบิด จนควันปกคลุมไปทั่ว แล้วไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจักรยายนต์ที่จอดอยู่เสียหายถึง 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และจักรยานอีก 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.40 น. เช้าวันนี้ (27 กย.68) ที่ลานจอดรถ ของพี.อาร์.เค แมนชั่น ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 เเขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดท่ามกลางเปวดพลิงที่และกำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังลานจอดรถยนต์ด้านในอาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ ต้องรอให้เจ้าหน้าส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

ข่าวแนะนำ

“สีหศักดิ์” ฟาดกัมพูชากลางเวที UNGA รับบทเหยื่อซ้ำแล้วซ้ำเล่า

นิวยอร์ก 28 ก.ย.-“สีหศักดิ์” ฟาดกลับกัมพูชา กลางเวที UNGA แสร้งทำตัวเป็นเหยื่อซ้ำแล้วซ้ำเล่า ละเมิดข้อตกลงไม่หยุดหย่อน บิดเบือน-ล้อเลียนความจริง ชี้ ทหารที่เสียขา เด็ก และปชช.ผู้บริสุทธิ์ คือเหยื่อที่แท้จริง ลั่น! บ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว เป็นอธิปไตยไทยแต่กัมพูชารุกล้ำ ย้ำไทยยืนหยัดเพื่อสันติภาพมาโดยตลอด ถามกลับกัมพูชาจะเลือกเส้นทางเผชิญหน้าหรือเส้นทางสันติภาพ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในการอภิปรายทั่วไปของการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก โดยนายสีหศักดิ์ ได้ย้ำจุดยืนของประเทศไทยต่อสถานการณ์ระหว่างประเทศ และภูมิภาค ซึ่งประเทศไทยพร้อมร่วมมือกับนานาประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศเพื่อสร้างสันติภาพ ความมั่นคง และการพัฒนาอย่างยั่งยืน และย้ำความสำคัญของกฎบัตรสหประชาชาติ พร้อมเสนอว่า ควรมีการพัฒนาระบบสหประชาชาติให้มีประสิทธิภาพ และเป็นธรรมต่อประเทศกำลังพัฒนาด้วย นายสีหศักดิ์ ยังได้กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยสรุปและแปลอย่างไม่เป็นทางการได้ว่า สถานการณ์ปัจจุบันกับกัมพูชา ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ และไม่เป็นผลประโยชน์ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพราะสันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองของ 2 ประเทศ เชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิด ไม่อาจแยกจากกันได้ เพราะเราล้วนเป็นส่วนหนึ่งของ ”ครอบครัวอาเซียน” […]

ทบ.เปิดไทม์ไลน์เขมรจัดฉากวางแผนล่วงหน้า ยิงถล่มช่องอานม้า

28 ก.ย.- กองทัพบก ชี้ กัมพูชาจัดฉาก ปมเหตุการณ์กัมพูชายิงอาวุธหลายขนาดใส่พื้นที่ช่องอานม้า เป็นการวางแผนล่วงหน้า ทั้งการยั่วยุด้วยอาวุธ การนัดหมายคณะ IOT เข้าพื้นที่ และการแถลงบิดเบือนกล่าวหาไทย ทั้งหมดเป็นเพียง “การสร้างสถานการณ์” ของฝ่ายกัมพูชา เมื่อวานนี้ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เผยว่า จากเหตุการณ์เมื่อวานนี้ (27 ก.ย. 68) ที่ฝ่ายกัมพูชาได้ทำการใช้อาวุธยิงหลายขนาดเข้ามาในพื้นที่เขตอธิปไตยไทย บริเวณช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี นั้น มีลำดับเหตุการณ์สำคัญที่กองทัพบกได้บันทึกไว้ ดังนี้ โฆษกกองทัพบกกล่าวว่า กรณีดังกล่าวเมื่อพิจารณาประมวลลำดับเหตุการณ์ทั้งหมดอย่างถี่ถ้วนแล้ว พบว่ามีลักษณะ “การทำงานที่ดูมีความประสานสอดคล้องกันจนผิดธรรมชาติ”ต่างจากทุกๆ เหตุการณ์ที่ผ่านๆ มา ชี้ให้เห็นถึงการเตรียมการวางแผนล่วงหน้า เริ่มจาก “การยั่วยุด้วยอาวุธ” ที่มุ่งหวังบันทึกภาพ และบิดเบือนว่าฝ่ายไทยเข้าโจมตีละเมิดข้อตกลงหยุดยิง สอดรับกับการนัดหมายให้คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (IOT) กัมพูชาเข้ามาเฝ้าติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ และปิดท้ายด้วยการแถลงชี้แจงเพื่อกล่าวหาฝ่ายไทย โดยทางการฝ่ายกัมพูชา พร้อมสร้างภาพว่าเป็นผู้ถูกกระทำต่อสังคมโลก ซึ่งทั้งหมดก็เป็นเพียง “เป้าหมายของการโฆษณาชวนเชื่อ“ เท่านั้น ในความเป็นจริงคือ ฝ่ายกัมพูชาจงใจวางแผนสร้างเรื่อง ใช้อาวุธยิงเข้ามาในเขตไทย […]

คึกคัก! เลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ ทยอยใช้สิทธิตั้งแต่ช่วงเช้า

ศรีสะเกษ 28 ก.ย. – บรรยากาศการเลือกตั้งซ่อม สส. เขต 5 จังหวัดศรีสะเกษ ที่อำเภอขุนหาญ เป็นไปอย่างคึกคัก ประชาชนทยอยออกมาใช้สิทธิตั้งแต่ช่วงเช้า แม้จะมีความกังวลเรื่องความไม่สงบ แต่ส่วนใหญ่ยืนยันต้องการทำหน้าที่ของตนเอง เวลา 08.00 น. ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 6 ศาลาวัดบ้านจะเนียว เจ้าหน้าที่ได้ประกาศความพร้อมและทำการเปิดหีบเลือกตั้ง มีประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้สูงอายุ มารอตั้งแต่ก่อนเวลาเปิดหีบ ในพื้นที่มีเจ้าหน้าที่ประจำหน่วย ตำรวจ อส. และ รด.จิตอาสา คอยดูแลรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวก ขณะที่ชาวบ้านบอกว่า แม้จะรู้สึกกังวล แต่ก็เชื่อมั่นในการจัดการของเจ้าหน้าที่รัฐ และตั้งใจมาใช้สิทธิเลือกตั้ง ด้านนายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมการเลือกตั้งที่หน่วยดังกล่าวด้วย สำหรับการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ ครอบคลุมพื้นที่อำเภอขุนหาญและภูสิงห์ เปิดให้ประชาชนมาใช้สิทธิลงคะแนนตั้งแต่เวลา 08.00 น. ถึง 17.00 น. หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่สายด่วน กกต. 1444 . – 716. – สำนักข่าวไทย

ลำน้ำปิงเช้านี้ลดระดับต่ำกว่าจุดวิกฤติ หลังขึ้นสูงสุดเกือบ 4 ม.

28 ก.ย.- เมืองเชียงใหม่ยังปลอดภัยจากน้ำท่วม เช้านี้ลำน้ำปิงลดระดับต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือน หลังขึ้นสูงสุดเกือบ 4 เมตร ชาวบ้านโล่งใจ หวั่นเจอน้ำท่วมใหญ่เหมือนปีที่แล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ เริ่มลดระดับลงแล้วในเช้าวันนี้ หลังจากที่ระดับน้ำปิง บริเวณจุดตรวจวัดระดับน้ำพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ในตัวเมืองเชียงใหม่ ขึ้นสูงสุดถึง 3 เมตร 93 เซนติเมตรตั้งแต่ช่วง 4 ทุ่มจนถึงเที่ยงคืนที่ผ่านมา สูงกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ 3 เมตร 70 เซนติเมตร แต่ยังต่ำกว่าพนังกั้นน้ำที่รับได้ถึงระดับ4เมตร 20 เซ็นคิเมตร ก่อนจะเริ่มลดระดับลงอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ยชั่วโมงละ7-8 เซ็นติเมตร หลังน้ำทางตอนเหนือลดลงและไม่มีฝนเติมลงมา จนเช้านี้ (07.00 น.) ระดับปิง ที่จุดวัดพี1 อยู่ที่ 3 เมตร 56 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนแล้ว ท่ามกลางความโล่งใจของขาวเชียงใหม่ ซึ่งบางส่วนกังวลจะเกิดน้ำท่วมใหญ่เหมือนปีที่แล้ว น้ำปิงขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 5 เมตร 30 เซนเมตร จนน้ำท่วมเขตเศรษฐกิจของเมืองเชียงใหม่ อย่างไรก็ตาม ยังต้องเฝ้าระวังต่อเนื่องตั้งแต่วันนี้ถึง […]