รัฐสภา 22 ก.พ.- สภาฯ รับหลักการร่าง กม.ประมง “พิธา” ชี้ ชาวประมง 22 จังหวัด น้ำตาไหล แบกรับผล IUU ทั้งที่ส่งออกยุโรป 6.7% ทำคนส่งออกไม่ได้รับโทษ คนที่รับโทษไม่ได้ส่งออก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯคนที่สอง ทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุม ได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 พ.ศ. …. ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ และมีร่างทำนองเดียวกันอีก 7 ฉบับ
โดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ลุกอภิปราย ด้วยการเตือนสติเพื่อนสมาชิก ว่า ร่าง พ.ร.บ. ประมงนี้ นำเข้าสภา ตั้งแต่ 21 เม.ย. 2558 จนถึงวันนี้ แสดงให้เห็นถึงแรงเฉื่อยของสภาฯ ในการแก้ปัญหา ปี 2558 ที่เราผ่านกฎหมาย ประมงผิดกฎหมายและไร้การควบคุม หรือ IUU ที่ระบุชัดว่าเราจะต้องปฏิบัติตามหลักการใช้เขตอำนาจรัฐนอกดินแดน (Long arm jurisdiction) และหากประเทศไทยไม่ปฏิบัติตามก็จะไม่สามารถส่งสินค้าประมงไปขายสหภาพยุโรปได้ จึงขอเตือนสติอีกครั้งว่า ประเทศไทยส่งออกประมง 2 แสนล้านบาท ส่งออกไปยุโรปเพียงแค่ 6.7% เท่านั้น
“แต่คนที่ต้องรับกรรมคือพี่น้องประชาชนที่ไม่ได้ส่งออกไปยุโรป คนส่งออกไม่ได้รับโทษ คนที่รับโทษไม่ได้ส่งออก นี่คือความอยุติธรรมตลอด 10 ปี ที่ผ่านมา ที่ประชาชนน้ำตาไหลแล้ว น้ำตาไหลเล่า วันนี้เป็นวันที่เราจะร่วมนิมิตหมายทุกคน ทุกพรรค ผ่านกฎหมายนี้ ตั้งคณะกรรมาธิการซะ และผ่านกฎหมายโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”นายพิธา กล่าว
นายพิธา กล่าวถึงผลกระทบของอุตสาหกรรมประมง ตั้งแต่ปี 2560-2566 การส่งออกลดลง 11% อย่าลืมว่าการส่งออกไม่ใช่อยู่แค่การจับปลา แต่ยังมีเรื่องท่าเรือ สะพานปลา และการขนส่ง ที่นายกรัฐมนตรีเดินทางไปพบประชาชนเมื่อวันที่ 31 ส.ค. 2566 และไปสัญญากับนายกสมาคมประมงเอาไว้ว่าจะแก้ไขให้ชาวประมงได้เร็วที่สุด อย่างน้อยกฎหมายลูกต้องแก้ให้ได้ภายใน 90 วัน แต่ตัวเลขอุตสาหกรรมท่าเรือ สะพานปลา และการขนส่งหายไป 25 % นี่คือความใหญ่ ความหนัก และความยาวนานกว่า 10 ปีที่ชาวประมงโดนกฎหมายอำนาจนิยมกดขี่พวกเขาไว้ โดนบีบจนไม่มีทางเลือกที่เหลือ
นายพิธา กล่าวว่าชาวประมงที่กลายเป็นผู้ต้องหาคดี 4,632 คน โทษปรับและจำคุกหนัก บีบให้ต้องขายเรือมากมาย ซึ่งชาวบ้านบอกว่าการที่ต้องปรับตัวไปตาม IUU ไม่ได้ว่าอะไร แต่ต้องให้โอกาสเขาปรับตัว ไม่ใช่ปรับจนเขาล้มละลาย ถ้ามีระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน มีกองทุนประมง เรื่องกฎหมายต้องทำให้ถูกต้องและศักดิ์สิทธิ์ ตนไม่เถียง แต่ได้สัดส่วนหรือไม่กับอาชญากรรมที่เขาก่อ
“บางรายพ่อจะเสียชีวิต ไม่ได้แจ้ง BMS กลับเข้าฝั่ง จึงถูกดำเนินคดี ถูกปรับหลายแสน จึงเรียกร้องให้สภาแห่งนี้ ไม่ว่าจะผ่านร่างกฎหมายอะไร ขอให้รวมร่างของพรรคก้าวไกลไปด้วย เพราะ พ.ร.บ.ของพรรคก้าวไกล เน้นให้ท้องถิ่นดูแลทรัพยากรเอง ซึ่งจะมีคณะกรรมการประมงจังหวัดที่จะกำหนดเงื่อนไขประมงตามความเหมาะสมของพื้นที่ ไม่ใช่ตัดเสื้อตัวเดียวเป็นโหล และขยายเขตอนุรักษ์เป็น 12 ไมล์ทะเล มีประชาชนร่วม 4 คน หัวโต๊ะเป็นนายก อบต.ที่มาจากการเลือกตั้ง และมีตัวแทนจาก อบต. และ อบจ. สุดท้ายขอให้กรรมาธิการ ครม.และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องคิดถึง 3 วิสัยทัศน์สำคัญ คือคำนึงถึงวิถีชีวิตชาวประมง ทรัพยากรประมง และความมั่นคงของเศรษฐกิจ”นายพิธา กล่าว
ขณะที่ รอ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า พยายามหลับตาและนึกถึงพี่น้องชาวประมงทั้ง 22 จังหวัด ว่า 10 ปีที่ผ่านมา นึกสภาพสมัยก่อนที่ไม่มีกฎหมายมาบังคับ ประมงไทยถือเป็นเจ้าสมุทร ทำรายได้มหาศาล แต่ช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา อุปสรรคกฎหมายมาบังคับไม่ให้ชาวประมงอยู่รอดได้ มีหนี้สินและคดีความติดตัว ยืนยันว่ากฎหมายที่รัฐบาลร่างมาในวันนี้ เป็นตัวแทนของพี่น้องชาวประมง ตนในฐานะคณะรัฐมนตรี วันนี้ตนขอให้เพื่อนสมาชิกมาร่วมทำบุญกัน ทำบุญให้กับพี่น้องคนไทย โดยเฉพาะครอบครัวชาวประมงทั้ง 22 จังหวัด
จากนั้นที่ประชุมได้ลงมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.ทั้ง 8 ฉบับ ด้วยมติ 416 คน ไม่เห็นด้วยไม่มี จำนวนผู้ลงมติ 416 คน ตั้งคณะกรรมาธิการ 37 คน โดยใช้ร่างของคณะรัฐมนตรีเป็นร่างหลัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันนี้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เข้าติดตาม การประชุมสภาผู้แทนราษฎรด้วย.-สำนักข่าวไทย