“ปานปรีย์” หวังยุโรปหนุนโครงการมนุษยธรรม “เมียนมา”

เบลเยียม 2 ก.พ.-“ปานปรีย์” กล่าวถ้อยแถลงวงประชุม “อียู-อาเซียน” หวังยุโรปหนุนโครงการมนุษยธรรม “เมียนมา” ชี้ ก้าวเข้าสู่ 2024 ได้เดือนเดียว แต่แนวโน้มสันติภาพ-เสถียรภาพไม่ดีนัก ย้ำต้องสร้างความร่วมมือภายใน-ระหว่างภูมิภาค เน้น 3 หลักใหญ่ รับมือความไม่แน่นอนภูมิรัฐศาสตร์-ความเชื่อมโยงทุกมิติ-แนวทางความยั่งยืน

2 ก.พ. 2567 เวลา 16.00 น. ตามเวลาราชอาณาจักรเบลเยียม นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน-สหภาพยุโรป (อียู) (ASEAN-EU Ministerial Meeting-AEMM) ครั้งที่ 24 ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม


โดยนายปานปรีย์ ได้กล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมว่า เราก้าวเข้าสู่ปี 2024 ได้เพียง 1 เดือนเท่านั้น แต่โอกาสที่เห็นสำหรับสันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองของโลกยังไม่มีแนวโน้มที่ดีนัก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในยูเครนและตะวันออกกลางเตือนเราว่าสันติภาพนั้นเปราะบางและไม่อาจมองข้ามได้ และเหตุการณ์เหล่านี้ล้วนแล้วแต่ส่งผลกระทบต่อเราทุกคนไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เพราะสันติภาพและความมั่นคงของเราไม่สามารถแบ่งแยกได้ เราจึงต้องสร้างความร่วมมือทั้งภายในและระหว่างภูมิภาคเพื่อสันติภาพและเสถียรภาพ

อาเซียนและสหภาพยุโรปสามารถทำงานร่วมกันเพื่อสร้างความแตกต่างได้ ในการประชุมครั้งนี้ เราต้องแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าต่อการประสานงานและความร่วมมือกันท่ามกลางโลกหลายขั้วในปัจจุบัน เพื่อพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์อาเซียน-สหภาพยุโรป ตนขอเน้น 3 ประเด็น


ประการแรก เราต้องส่งเสริมการเจรจาเพื่อกำหนดแนวในการรับมือความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ ขณะนี้เราอยู่ในโลกที่ขาดความไว้วางใจซึ่งกันและกัน เนื่องจากสถานการณ์ความมั่นคงในภูมิภาคของเราได้รับอิทธิพลจากความสัมพันธ์ระหว่างมหาอำนาจสำคัญๆ ของโลกมากขึ้น เราจึงรู้สึกยินดีที่มีการเจรจาครั้งใหม่ระหว่างสหรัฐกับจีน และความพยายามที่จะรักษาเสถียรภาพในความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ

การพูดคุยหารือเป็นแนวทางของอาเซียนในการแก้ไขความแตกต่างมาโดยตลอด และการส่งเสริมให้มีการเจรจาถือเป็นหัวใจสำคัญของความเป็นแกนกลางของอาเซียน แต่การพูดคุยต้องเป็นไปอย่างครอบคลุม เพื่อสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจและความมั่นใจ ความครอบคลุมเป็นหลักการเบื้องต้นในมุมมองอาเซียนต่ออินโด-แปซิฟิก (ASEAN Outlook on the Indo-Pacific:AOIP) และเราเชื่อว่าสหภาพยุโรปมีวิสัยทัศน์เกี่ยวกับอินโด-แปซิฟิกที่เสรี เปิดกว้าง ยึดมั่นในกฎเกณฑ์ และครอบคลุม

ประการที่สอง ความร่วมมือจะช่วยเสริมสร้างการเชื่อมโยงในทุกมิติ เพื่อให้อาเซียนและสหภาพยุโรปเติบโตร่วมกันในฐานะศูนย์กลางการเติบโตของโลก จึงเป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องลงทุนเพิ่มเติมในการสนับสนุนเครือข่ายที่ทันสมัย สะอาด และยั่งยืนสำหรับพลังงาน การขนส่ง และเทคโนโลยีดิจิทัล


โครงสร้างพื้นฐานที่ดีขึ้น การเชื่อมต่อการขนส่งและห่วงโซ่อุปทานที่ดีขึ้น และการอำนวยความสะดวกทางการค้าที่มากขึ้นในภูมิภาค จะช่วยปูทางไปสู่เขตการค้าเสรีไทย-สหภาพยุโรปที่มีคุณภาพและครอบคลุม รวมถึงเขตการค้าเสรีอาเซียน-สหภาพยุโรปในอนาคต ซึ่งเป็นประโยชน์ร่วมกันและอยู่บนพื้นฐานของความเป็นหุ้นส่วนที่เท่าเทียมกัน

ประการที่สาม ความร่วมมือในการส่งเสริมความยั่งยืนและเร่งดำเนินการเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) เมื่อมองไปข้างหน้า เราจะต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อรับมือกับความท้าทายที่น่ากลัวที่สุดที่เราเผชิญอยู่ ซึ่งก็คือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เราเผชิญกับปรากฏการณ์สภาพอากาศสุดขั้วบ่อยครั้งขึ้น ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อโลกและผู้คน เราไม่ควรอยู่ภายใต้ภาพลวงตาใดๆ และเรากำลังอยู่ห่างจากการบรรลุเป้าหมาย SDG มากขึ้นอย่างแท้จริง ทางออกเดียวสำหรับเราคือการส่งเสริมความยั่งยืนผ่านความร่วมมือที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น แต่เราจำเป็นต้องเพิ่มความพยายามให้มากขึ้นเป็นสองเท่าและเราจะต้องลงมือทำทันที

ด้วยเหตุนี้ ประเทศไทยในฐานะผู้ประสานงานอาเซียน เพื่อความร่วมมือด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนจึงให้ความสำคัญอย่างสูงกับการสร้างความร่วมมือด้านความยั่งยืน การส่งเสริมวาระสีเขียวสามารถเป็นประเด็นหลักของความร่วมมืออาเซียน-สหภาพยุโรป และสามารถทำได้ในความร่วมมือกับศูนย์อาเซียนเพื่อการศึกษาและการหารือด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนในกรุงเทพ และเราตั้งตารอให้สหภาพยุโรปเป็นเจ้าภาพจัดการเจรจาอาเซียน-สหภาพยุโรปครั้งที่ 4 ว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน

ตนขอพูดถึงสถานการณ์ในเมียนมาสั้นๆ เราเชื่อว่าการขยายขอบเขตการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเป็นหนทางที่สำคัญ และเราหวังว่าสหภาพยุโรปจะให้การสนับสนุนโครงการริเริ่มด้านมนุษยธรรมของไทย ซึ่งจะเป็นก้าวเล็กๆ สู่การเจรจาและการมีส่วนร่วมที่สร้างสรรค์ระหว่างทุกฝ่ายในเมียนมา ตลอดจนระหว่างเมียนมาและประชาคมระหว่างประเทศอีกด้วย.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ