“พิธา” ลั่นจะออกจากสภาฯ อีกครั้งคือไปทำเนียบฯ

รัฐสภา 25 ม.ค. –“พิธา” เข้าสภาฯ ทำหน้าที่ สส.วันแรก บอกเสียดายโอกาสเลือกนายกฯ ครั้งที่ 2 ไม่ยึดติดตำแหน่ง ขึ้นอยู่กับสมาชิกพรรคตัดสินในการประชุมใหญ่เดือน เม.ย.นี้ ประกาศเข้าสภาฯ วันนี้ไม่ออกแล้ว จะออกอีกทีคือไปทำเนียบฯ


ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ไม่มีลักษณะต้องห้ามและลงสมัครเลือกตั้งสส.ได้ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด วันนี้(25 ม.ค.) นายพิธาได้เดินทางมาที่รัฐสภา ในฐานะสส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เวลา 10.24 น. ทันทีที่ลงจากรถแฟนคลับซึ่งมาจากจ.เพชรบูรณ์ โดยออกเดินทางตั้งแต่เที่ยงคืนวานนี้(24 ม.ค.) เพื่อมารอต้อนรับนายพิธา โดยบอกว่า “ขอให้พิธาสู้ๆ รักคุณพิธา เป็นกำลังใจให้” ขณะเดียวกันสส.พรรคก้าวไกลมารอต้อนรับ พร้อมกล่าวว่า “Come back ยินดีต้อนรับกลับบ้าน” ซึ่งนายพิธาเข้าไปสวมกอดเพื่อนสส.พรรคก้าวไกล บรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่น

นายพิธา กล่าวว่า ดีใจที่ได้กลับมาเห็นบรรยากาศที่อาคารรัฐสภาอีกครั้ง  รู้สึก คิดถึงรัฐสภาเป็นที่รวมตัวของสังคมประชาชน เวลาหกเดือนที่หยุดปฏิบัติหน้าที่ เสียดายโอกาสที่จะได้เลือกนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 2 แต่เราสามารถบริหารจัดการสถานการณ์ได้ ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่ได้พบปะประชาชน ได้ทำงานกับเพื่อนสส.ที่ทำงานอยู่ในพื้นที่ ได้ลงพื้นที่ที่จังหวัดสมุทรปราการ ภูเก็ต เห็นปัญหาขยะล้นเมืองของทั้ง 2 จังหวัด ซึ่งจะใช้ข้อมูลที่ได้จากการประชุมร่วมกับผู้นำท้องถิ่นมาอภิปรายในที่ประชุมสภาฯ นัดพิเศษพรุ่งนี้ (26 ม.ค.) โดยจะใช้เวลา 7 นาทีอภิปรายให้ประชาชนรับทราบ พร้อมทั้งแถลงเป้าหมายของพรรคก้าวไกลในปีนี้ ให้ประชาชนมีส่วนร่วม และให้สมาชิกมีส่วนร่วมการทำงานของพรรคก้าวไกล


ส่วนข้อครหาที่เกิดขึ้นกับพรรคก้าวไกลตลอด ช่วงเวลาหยุดปฏิบัติหน้าที่ นาย กล่าวว่า เสียใจและขอโทษประชาชน แต่ในช่วงที่เกิดสถานการณ์ ตนไม่ได้หายไปไหน และไม่ก้าวก่ายการทำหน้าที่ของนายชัยธวัชที่เป็นหัวหน้าพรรค ในฐานะที่เป็นที่ปรึกษาคอยให้คำปรึกษามาโดยตลอด  ไม่ว่าจะเป็นมุมการป้องกันสถานการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นอีก หรือการรักษาเมื่อเหตุเกิดขึ้นแล้วต้องตอบสนองให้เร็ว ให้ไว

“ต้องเรียนรู้จากความผิดพลาดและปรับปรุง ไม่แก้ตัว ยอมรับว่าเราจะต้องพัฒนากันอีกเยอะ ประชาชนคงจะสัมผัสได้กับพัฒนาการเป็นสถาบันของพรรคก้าวไกล ยืนยันไม่ฟ้องกลับนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เนื่องจากเป็นอดีตที่ผ่านมาแล้ว ต้องอยู่กับปัจจุบัน ใช้สมาธิ ทรัพยากรและเวลาให้เต็มที่กับอนาคตที่จะถึงนี้” นายพิธา กล่าว

ส่วนจะมีโอกาสกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคและผู้นำฝ่ายค้านหรือไม่ นายพิธากล่าวว่า ต้องแยกเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งคือตามกระบวนการที่จะประชุมวิสามัญในเดือนเมษายนนี้เพื่อคัดเลือกกรรมการบริหารพรรค หรือการนำเสนอในที่ประชุม ส่วนที่สองตนไม่ยึดติดกับตำแหน่ง นายชัยธวัชทำหน้าที่ได้ดี ทำงานอย่างแหลมคม เป็นตัวของตัวเอง แต่ขึ้นอยู่กับสมาชิก ตนและนายชัยธวัชไม่มีใครยึดติดกับตำแหน่ง ขณะนี้ไม่มีเหตุจำเป็นที่ต้องประชุมใหญ่วิสามัญพรรค เดือนเมษายนจึงเป็นเวลาที่เหมาะสมหลังกรรมการบริหารพรรค ปฎิบัติหน้าที่ครบ 4 ปีตามวาระ ขอยืนยันว่าการประชุมพรรค ไม่เกี่ยวข้องกับคดีความส่วนตัวของตน


“ส่วนการขอเปิดอภิปายไม่ไว้วางใจรัฐบาลจะยึดประชาชนเป็นที่ตั้ง จะไม่ค้านทุกเรื่อง จะค้านเฉพาะสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ไม่ชอบมาพากล เพื่อแนะนำทางเลือกให้รัฐบาลกระตุ้นเศรษฐกิจที่ซบเซา กระตุ้นการสร้างเศรษฐกิจชายแดนภาคใต้ ไม่ให้กระทบสิ่งแวดล้อมหรือภูมิรัฐศาสตร์ และยังมีวาระร่วมเพื่อประชาชนอีกมากมาย โดยไม่จำเป็นต้องคำนึงว่ามาจากพรรคการเมืองไหน หากเป็นวาระดี เช่น สมรสเท่าเทียม พ.ร.บ. อากาศสะอาด สุราก้าวหน้า แม้เเต่การทำประชามติที่ทั้งเห็นด้วยและมีข้อกังวล ทำการเมืองแบบสร้างสรรค์ มีประชาชนเป็นที่ตั้ง” นายพิธา กล่าว

 นายพิธา กล่าวว่า ระหว่างหยุดปฎิบัติหน้าที่ โครงการที่เป็นเรือธงของรัฐบาลซึ่งต้องจับตาอยู่ 3 โครงการคือ โครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต โครงการแลนด์บริดจ์ และโครงการซอฟท์พาวเวอร์ มีหลายเรื่องที่เห็นด้วยและต้องพูดคุยกันเป็นพิเศษ ต้องมองในมุมกว้างและเชิงลึก ต้องดูเป้าหมายให้ชัดและดูว่ามีทางเลือกอะไรบ้าง ทั้งมหภาคและจุลภาค งบประมาณที่ใช้

เมื่อถามว่า โครงการเงินดิจิทัล วอลเล็ต เป็นเป้าหมายหลักของพรรคก้าวไกลในการอภิปรายรัฐบาลหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า มองว่าเศรษฐกิจซบเซาและโตช้ามาเป็นเวลานาน และเห็นในสื่อว่าจะโตช้าในรอบ 10 ปี ต้องยอมรับว่าไม่ได้เป็นความผิดของรัฐบาลในปัจจุบันที่เพิ่งบริหารมาเพียง 6 เดือน แต่เป็นปัญหาการเมืองไทยที่ไม่ได้ปรับโครงสร้างมานับ 10 ปี แต่ในขณะเดียวกันมีความกังวลกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นโดยการงบประมาณระยะยาว จนทำให้ไม่มีพื้นที่ทางการคลัง

“การแก้ไขปัญหาระยะยาวเป็นหนทางที่เหมาะสม เพราะฉะนั้นอยากชวนรัฐบาลคิดว่ามีแผน 2 หรือไม่ กรณีนโยบายที่ได้หาเสียงไว้ไม่ผ่าน การกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่จำเป็นต้องเป็นการแจกเงินจากบนลงล่างเท่านั้น การกระตุ้นเศรษฐกิจจากล่างขึ้นบน ก็สามารถช่วย ช่วยเป็นพลังเศรษฐกิจได้ที่ดีเช่นกัน และประหยัดงบประมาณโดยที่ไม่ต้องกู้สร้างภาระทางการคลังเพิ่มขึ้น” นายพิธา กล่าว

นายพิธา ปฏิเสธที่จะบอกประเด็นที่จะอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล แต่ขณะนี้มีข้อมูลผ่านช่องทางต่าง ๆ เข้ามาเรื่อย ๆ แต่จะเน้นเรื่องการประพฤติมิชอบการทุจริตคอรัปชั่น ความล้มเหลวในการใช้งบประมาณ และจัดเตรียมข้อมูลไปเรื่อยเรื่อยและขอดูจังหวะที่เหมาะสม “ว่าจะใช้บาซูก้าหรือจะใช้เเค่แนวรบ” เพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติและภาษีของประชาชน

“ถึงเวลาที่ต้องทำการเมือง แบบที่มีสาระเป็นหลัก สีสันเป็นรอง การใช้วาทกรรมแบบฉาบฉวย เน้นทำงานเชิงลึก แต่ต้องทำให้คนธรรมดาเข้าใจสาระ ซึ่งเป็นศิลปะของผู้แทนราษฎร ที่ทำเรื่องยาก ๆ เข้าใจง่าย ศิลปะย่อมสำคัญกว่าวาทกรรม การเข้ามาครั้งนี้ ไม่มีออก จะออกก็คงออกไปทำเนียบฯ เลย ถ้าจะออกก็คงออกไปทำเนียบฯ อย่างเดียว.-313.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ว่าฯ สงขลา จัดคิวนายอำเภอรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ทุกสัปดาห์

กทม. 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ทำหนังสือด่วน จัดคิวนายอำเภอ เวียนต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” สนามบินหาดใหญ่ ทุกสัปดาห์ นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ สข 0017.3/17839 เรื่อง ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เรียน นายอำเภอเมืองสงขลา ด้วยจังหวัดสงขลาได้รับแจ้งว่า นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มีกำหนดเดินทางมาราชการในพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อตรวจราชการสำคัญตามนโยบายรัฐบาล และมีกำหนดเดินทางกลับไปปฏิบัติราชการ ณ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD 3103 เวลา 08.25-09.50 น. เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จังหวัดสงขลาจึงขอให้ท่านดำเนินการ ดังนี้ 1. เชิญนายอำเภอเมืองสงขลา ร่วมส่งนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ณ ห้องรับรอง ท่าอากาศยานหาดใหญ่ […]

ดราม่า “ไข่เจียวปู 4,000” ถึงหูพาณิชย์

กรุงเทพฯ​ 18 ส.ค.​-“จตุพร” สั่งกรมการค้าภายในตรวจสอบประเด็น​ดราม่า​ “ไข่​เจียวปู” ร้าน​ Michelin Guide สูงถึง​จานละ 4,000 บาท​ จาก​ที่​แจ้งราคาในเมนู​ 1,500​ บาท ย้ำ​ไม่ตรงปกไม่ได้ กรณี “พีชชี่” ยูทูบเบอร์ชื่อดัง โพสต์เล่าประสบการณ์สั่งไข่เจียวปูร้านดังราคาเมนู 1,500 บาท แต่ถูกเก็บจริง 4,000 บาท กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ ล่าสุด นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า จะมอบหมายให้กรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะนี้​ยังไม่ได้รับรายละเอียด​ แต่โดยหลักการแล้ว ราคาที่เรียกเก็บจากผู้บริโภคต้องตรงกับราคาที่ระบุในเมนู หาก “ไม่ตรงปก” จะบั่นทอนความเชื่อมั่นทางการค้า “การค้าขายจะยั่งยืนได้ต้องอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจ หากผู้บริโภครู้สึกว่า​ ราคาไม่ตรงกับที่เห็นในเมนู ย่อมเสียความรู้สึก” นายจตุพรกล่าว เรื่องนี้เริ่มจาก “พีชชี่” โพสต์ผ่าน X เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ระบุว่าไปทานไข่เจียวปู ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยเพียงไม่กี่แห่งที่ได้รับการบรรจุใน Michelin Guide โดยเมนูระบุราคา 1,500 […]

“บิ๊กต่าย” ถกบอร์ดกลั่นกรอง เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร.

กรุงเทพฯ 17 ส.ค. – ผบ.ตร. นั่งหัวโต๊ะประชุมกลั่นกรองแต่งตั้งนายพลสีกากี เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร. ที่ห้องประชุม 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ตร. หรือ “บอร์ดกลั่นกรอง” พิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบ.ตร.-ผบก. โดยมี พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.นิรันดร เหลื่อมศรี รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. และ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.สกพ. และเลขานุการ เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ […]

เสียงเรียกแห่งความอร่อย…ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วโบราณเชียงใหม่

เชียงใหม่ 17 ส.ค. – โดดเด่นไม่เหมือนใคร “ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วสูตรโบราณ” ของอาแปะตี๋อ้วน ที่แต่งกายแบบล้านนาโบราณ เดินหาบขายตามตลาดและย่านชุมชนใน จ.เชียงใหม่ มานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยใช้การตีกังสดาล หรือระฆังวงเดือน เรียกลูกค้า สะดุดตาผู้พบเห็น หลายคนติดใจในรสชาติและราคาที่ย่อมเยา จนมีลูกค้ามากมาย .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ผู้ว่าฯ สงขลา ยืนยันไม่ได้ออกคำสั่งรับ มท.3

สงขลา 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ยืนยันไม่ได้ออกคำสั่งให้นายอำเภอจัดเวรต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ส่วนมีใครคิดจะปลอมแปลงขึ้นมาก็ต้องตรวจสอบกันต่อไป นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ออกมากล่าวถึงเรื่องที่มีหนังสือคำสั่งทางราชการให้นายอำเภอของจังหวัดสงขลาทั้ง 16 อำเภอจัดเวรต้อนรับ-ส่ง และจัดห้อง VIP พร้อมอาหารว่าง ต้อนรับ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงมหาดไทย นายเดชอิศม์ ขาวทอง ซึ่งรายละเอียดในหนังสือกล่าวว่าให้นายอำเภอเมืองสงขลาปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 คือในวันนี้ ว่าไม่เป็นความจริง ตนไม่ได้ออกหนังสือฉบับนี้ เพราะหนังสือที่ตนลงนามฉบับสุดท้ายในวันนั้นคืองานประชุม ส่วนความจริงตอนนี้มอบหมายให้รองผู้ว่าราชการที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว แต่ให้ข้อคิดว่าหนังสือที่จะขอใช้พื้นที่หน่วยงานจากท่าอากาศยาน ก็ต้องเป็นลายเซ็นของผู้ว่าราชการเท่านั้น ส่วนมีใครคิดจะปลอมแปลงหรือทางหนังสือปลอมขึ้นมาก็ต้องตรวจสอบกันต่อไป แต่จะให้ได้ความจริงให้เร็วที่สุด เมื่อมีการสอบถามเรื่องความขัดแย้งของจังหวัดสงขลาราชการจังหวัดสงขลากล่าวว่าท่านไม่น่าจะมีความขัดแย้งกับใคร เพราะไม่เคยทำงานในพื้นที่มาก่อน เพิ่งมารับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาในครั้งแรก ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ยังกล่าวอีกว่า วันและเวลาดังกล่าวที่มีการออกหนังสือ ตนก็ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ ไปธุระส่วนตัวงานแต่งงานของญาติที่จังหวัดนครศรีธรรมราช แต่จะให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องหาความจริงเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดเพราะถือว่าเป็นการทำผิดอย่างมาก.-สำนักข่าวไทย

“วันนอร์” จี้ สส.ที่ถูกติดต่อให้เงิน 10 กก. เปิดโปง อย่าอ้ำอึ้ง

รัฐสภา 18 ส.ค.-“วันนอร์” จี้ สส.ที่ถูกติดต่อให้เงิน 10 กก. เปิดโปง อย่าอ้ำอึ้ง ยันพร้อมตรวจสอบหากส่งเรื่อง-หลักฐานร้องมา ส่วนปัญหาองค์ประชุม โยนวิปรัฐคุมเสียงปริ่มน้ำ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงปัญหาองค์ประชุมที่เสียงรัฐบาลปริ่มน้ำทำให้ประธานต้องชิงปิดประชุมหลายครั้งเพราะองค์ประชุมไม่ครบ ว่าเสียงของรัฐบาลเป็นหน้าที่ของวิปรัฐบาล ที่จะทำให้องค์ประชุมเกินกึ่งหนึ่งเพื่อให้ประชุมได้ ซึ่งในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ที่ผ่านมา ต้องมีการตรวจสอบองค์ประชุมก่อนลงมติ ดังนั้นหากประสานงานกันให้ดีและทุกคนรู้หน้าที่ตนเอง สภาก็คงดำเนินการเดินหน้าไปได้ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นกฎหมายอะไรก็เช่นกัน หากมีการลงมติที่มีผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ก็คิดว่าหากทุกคนปฏิบัติตามหน้าที่ ก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะรัฐบาลมีเสียงเกินกึ่งหนึ่งจะมากหรือจะน้อยก็ถือว่าเกินกึ่งหนึ่ง ก็ถือว่าเป็นองค์ประชุมและลงคะแนนได้ ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนที่มีการปิดประชุมก่อนเนื่องจากเสียงไม่พอนั้น ประธานสภาผู้แทนราษฎรกล่าวว่า หากองค์ประชุมไม่ครบก็ต้องปิดประชุม เพราะตามกฎหมายและข้อบังคับไม่สามารถดำเนินการไปได้ ซึ่งก็ต้องดูกันไป โดยในช่วงสัปดาห์ต่อไปก็มีกฎหมายหลายฉบับที่จะเข้ามา ซึ่งตนคิดว่าแม้องค์ประชุมมาก หากสมาชิกไม่มาอยู่ในห้องประชุมให้ครบองค์ประชุมก็ไม่มีประโยชน์อะไรเช่นกัน แต่ถ้าองค์ประชุมปริ่มน้ำ แต่มาครบเกินกึ่งหนึ่งก็ดำเนินการไปได้ เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ที่มีฝ่ายค้านและรัฐบาล โดยหากรัฐบาลต้องการให้กฎหมายผ่าน มติกฎหมายของฝ่ายรัฐบาล รัฐบาลก็ต้องดูแลสมาชิกให้เกินกึ่งหนึ่งจะมากหรือจะน้อยก็ให้เกินกึ่งหนึ่งก็ถือว่าใช้ได้แล้ว ประธานสภาผู้แทนราษฎรยังกล่าวถึงกรณีที่มี สส.ออกมาเปิดเผยว่า มีการเสนอให้เงิน 10 กิโล เพื่อแลกกับการลงมติ ผ่านร่างพระราชบัญญัติงบประมาณฯ และร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ว่า […]

กัมพูชาขอเลื่อนประชุม RBC ทภ.2 เป็น 27 ส.ค.นี้

กทม. 18 ส.ค.-กัมพูชาขอเลื่อนประชุม RBC กองทัพภาคที่ 2 เป็นวันที่ 27 ส.ค.นี้ เตรียมนัดหารือที่ช่องสะงำ ศบ.ทก. แจ้งความคืบหน้าการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค RBC ไทย-กัมพูชา ในส่วนของกองทัพภาคที่ 2 โดยระบุว่ากองเลขาฯ ฝ่ายกัมพูชา ประสานขอเลื่อนการประชุม RBC สมัยวิสามัญ จากเดิมวันที่ 21 ส.ค.68 เป็นวันที่ 27 ส.ค.68 เพื่อมีเวลาเตรียมการประชุมเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 นำเรียน พลเอกพนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. แล้ว ไม่ขัดข้องสำหรับการเลื่อนห้วงการประชุม RBC ตามที่ฝ่ายกัมพูชาเสนอ ดังนั้น กองทัพภาคที่ 2 จึงขอเลื่อนการประชุมประสานการปฏิบัติ และการประชุม RBC สมัยวิสามัญ ดังนี้1.วันที่ 25-26 ส.ค.68 : ประชุมกองเลขาฯ2.วันที่ 27 […]

“เดชอิศม์” ยันหนังสือด่วนปลอม เชื่อหวังดิสเครดิต

กทม.18 ส.ค.-“เดชอิศม์” ยันหนังสือด่วนปลอม จัดคิวนายอำเภอรับ-ส่งสนามบินหาดใหญ่ เชื่อหวังดิสเครดิต นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณี ที่มีการเผยแพร่ทำหนังสือด่วนลงนามโดยนายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เนื้อหาลักษณะจัดคิวนายอำเภอ ต้อนรับและส่ง นายเดชอิศม์ สนามบินหาดใหญ่ ทุกสัปดาห์ว่า ได้ตรวจสอบไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาแล้ว พบว่าเป็นเอกสารปลอม ผู้ว่าราชการจังหวัดบอกว่าไม่มีไม่ใช่ลายเซ็นของท่าน นายเดชอิศม์ กล่าวว่าส่วนตัวไม่ได้ต้องการให้มีใครมารับมาส่ง เพราะเป็น สส.สงขลาอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องให้ใครมาต้อนรับ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะเป็นกระบวนการ ต้องการดิสเครดิตผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และอาจมีความพยายามต้องการให้มาถึงตนเองด้วย.-(1)319.-สำนักข่าวไทย