“จุลพันธ์” หวังเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เข้าสภาฯ ก่อนปิดสมัยประชุม

ทำเนียบ 27 มี.ค.-“จุลพันธ์” หวังร่าง กม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เข้าสภาฯ วาระแรกก่อนปิดสมัยประชุมนี้ ยอมรับวงเงิน 50 ล้านบาท ให้คนไทยเข้าเล่นกาสิโนสูงไป บอกถกต่อในสภาฯ ชี้เป็นกลไกดึงคนเล่นพนันผิดกฎหมายเข้าระบบ

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง แถลงภายหลัง ครม. เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. …. ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ ว่า เนื้อหาในร่างเป็นไปตามที่กฤษฎีกาได้มีการแก้ไข ซึ่งกระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย เป็นหน่วยงานหลักที่เกี่ยวเนื่องกับเรื่องนี้ ก็ไม่ขัดข้องและเห็นชอบเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีตามร่างที่มีการแก้ไขจากกฤษฎีกา และมีการทำประชาพิจารณ์ ตั้งแต่ 1-15 มีนาคม และไปส่งที่คณะรัฐมนตรีสัปดาห์ที่แล้ว มีการเวียนความเห็นเข้าสู่การพิจารณาให้ความเห็นชอบวันนี้ ขั้นตอนต่อไปจะส่งเป็นเรื่องด่วนเข้าไปที่สภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้บรรจุวาระและพิจารณารับหลักการในวาระแรก เพื่อตั้งคณะกรรมาธิการพิจารณาต่อไป


ทั้งนี้ ตัว พ.ร.บ.นี้ มีการปรับแก้ไขที่มีประโยชน์หลายอย่าง โดยเฉพาะการกำกับควบคุม การกำหนดโทษโดยเฉพาะการพนัน ก็เหมือนที่นายกฯ บอกว่าเรื่องนี้เป็นประโยชน์มหาศาลกับประเทศ เม็ดเงินที่จะได้รับการลงทุนต่อจุดไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท และเงินที่รัฐจะได้รับในรูปแบบของภาษีและค่าธรรมเนียมต่างๆ เม็ดเงินที่ประชาชนจะได้รับจากผลทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น ทั้งการจ้างกิจกรรมทางเศรษฐกิจอื่นๆ เช่น โรงแรม การท่องเที่ยว ซึ่งมีมูลค่ามหาศาล ที่สำคัญไม่ใช่เรื่องของกาสิโน แต่เป็นการสร้างสถานบันเทิงครบวงจร เป็น man made tourist destination, ที่มีขนาดใหญ่ และเป็นโมเดลทางธุรกิจที่ต่างประเทศ เริ่มทำอยู่และให้การยอมรับทั้งดูไบ ญี่ปุ่น วันนี้มองประเทศไทยในอนาคตและว่าฝันได้เลยว่า เราจะมีสถานที่ท่องเที่ยวเป็นระดับโลกเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารระดับโลก สวนสนุกขนาดใหญ่ระดับเดียวกับดิสนีย์ หรือยูนิเวอร์แซล เราจะเห็นลักษณะกีฬาอินดอร์สเตเดียมขนาดใหญ่ ซึ่งนายกฯ ได้บอกว่าก่อนหน้าเราพยายามจะเอา Taylor Swift มา แต่สุดท้ายเราไม่มีพื้นที่จัดงานอินดอร์ในระดับ 40,000 ถึง 50,000 คน และเราเคยจัดกีฬา มีฟุตบอลมาจากอังกฤษพรีเมียร์ลีก สุดท้ายไม่ได้แข่ง เพราะเราจัดในสนามเปิดและมีฝนตก ก็ไม่ได้ทำการแข่ง เสียหายต่อธุรกิจและความกลัวของภาคธุรกิจ ปีนี้พยายามดึงดึง เลดี้ กาก้า แต่สุดท้ายก็โจทย์เดิมคือทำไม่ได้ จึงมองว่าการลงทุนในลักษณะแบบนี้ ถ้าเอกชนเป็นคนลงทุน โดยที่มาลงทุนแบบเอนเตอร์เทนเมนคอมเพล็กซ์ เราจะมีจุดเด่นใหม่ๆในการสร้างกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การค้าขาย โอท็อป ซึ่งกำหนดมาในกฎหมาย ทั้งการทำกิจกรรมอื่นๆอีกมากมาย มันจะสร้างเม็ดเงินให้ประชาชน นี่คือจุดเปลี่ยนของประเทศไทย จึงมี พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ หน้าที่ต่อไปก็เป็นเรื่องของสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา ซึ่งหากมีความเห็นหรือแก้ไขอย่างไร ก็คงจะแก้ไขในทางบวกและเป็นประโยชน์กับการที่เราจะมีกฎหมายฉบับนี้เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวต่อไปในอนาคต

เมื่อถามว่า วาระแรกจะเข้าทันสมัยประชุมนี้หรือไม่ นายจุลพันธ์ บอกว่า เหลือ 2 สัปดาห์ที่มีการปนะชุมสภาฯ คือวันที่ 2-3 เมษายน และ 9-10 เมษา เรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ทางรัฐบาลอยากผลักดัน ให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้จริง ไม่อยากทำแล้วไปคาราคาซัง หรือหมดสมัยของรัฐบาลแล้วก็ยังพิจารณาไม่เสร็จ สุดท้ายความฝันความหวังที่จะสร้างจุดเปลี่ยนทางเศรษฐกิจ มันก็ไม่เกิดขึ้นจริง เพราะฉะนั้นเราต้องการสร้างความมั่นใจ โดยเฉพาะการลงทุน ซึ่งเรามีคำขอเรื่องการลงทุนจากบีโอไอสูงสุดเป็นประวัติการณ์ วันนี้นักลงทุนต่างชาติมองเข้ามาในเรื่องความมั่นคงของรัฐ ความจริงจังของรัฐ ในการขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ซึ่งเราแสดงให้เห็นจากการที่ผลักดันนโยบายของรัฐบาลได้อย่างต่อเนื่อง


”ดังนั้นเมื่อเราประกาศแล้วก็จะพยายามผลักดันให้เร็วที่สุด เพื่อให้นักลงทุนต่างชาติ ไม่เฉพาะเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ แต่นักลงทุนต่างชาติทุกส่วนจะได้เห็นถึงความจริงจังของรัฐบาล และส่งไปที่สภา โดยได้พูดคุยกับนางมนพร เจริญศรี ซึ่งเป็นวิป ครม. จะไปเจรจากับทางสภาและวิปรัฐาล ว่าจะสามารถเลื่อนระเบียบวาระนี้ให้เข้าทันก่อนปิดสมัยประชุม เพื่อจะได้มีการตั้งกรรมาธิการขึ้นมา และใช้เวลาอีกหลายเดือนในการพิจารณา ก่อนจะส่งเข้ามาพิจารณาวาระ 2 ,3 อีกครั้ง“ นายจุลพันธ์ กล่าว

นานจุลพันธ์ ยืนยันว่ากระทรวงการคลังเป็นคนยกร่าง และส่งให้ ครม. พิจารณา และส่งไปที่กฤษฎีกา ปรับแก้สาระสำคัญหลายจุด ก็ต้องขอบคุณเพราะหลายจุดเป็นประโยชน์ บางจุดอาจยังมีข้อเห็นที่แตกต่างก็เป็นเรื่องปกติ แต่ขั้นตอนนี้เราคงต้องส่งมอบให้สภาฯ ต่อไป สุดท้ายเป็นเรื่องของผู้แทนประชาชนว่าจะเห็นชอบหรือไม่และจะมีการปรับแก้อย่างไร

ส่วนการกำหนดให้คนไทยที่จะเข้าเล่นคาสิโนต้องมีเงินในบัญชีไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาทนั้น นายจุลพันธ์ ยอมรับว่า ขณะนี้รายละเอียดอยู่ที่ 50 ล้านบาท แต่ตนเคยพูดไปว่าขัดกับวัตถุประสงค์หนึ่ง ที่เราต้องการแก้ไขในเรื่องเม็ดเงินทางเศรษฐกิจ และแก้ปัญหาการพนันนอกระบบที่กฎหมาย


“หากไปกำหนดเม็ดเงินที่สูงมากถึง 50 ล้านบาท คนไทยที่มีเงินจำนวนนี้ประมาณ 10,000 บัญชี แสดงว่าเรากำลังพยายามผลักคนอีกกว่า 60 ล้านคน ให้กลับไปอยู่ในการพนันที่ผิดกฎหมาย ดังนั้นก็คงต้องไปถกกันในชั้นกรรมาธิการ ส่วนจะมีมติอย่างไรก็ว่ากัน” นายจุลพันธ์ กล่าว

นอกจากนี้ ในการทำประชาพิจารณ์ ก็มีความเห็นหลากหลาย และสอบถามว่าสามารถปรับลดวงเงินได้หรือไม่ แต่ทั้งหมดก็ส่งไปที่สภาผู้แทนราษฎร ให้รับไปพิจารณาต่อ

เมื่อถามว่า รัฐบาลอยากได้วงเงินเท่าไหร่ที่ทำให้คนไทยเล่นกาสิโนได้ นายจุลพันธ์ บอกว่า กฎหมายยังกำหนดอยู่ที่ 5000 บาท แต่ตนไม่มีความเห็น เพราะตรงนี้มันเลยจุดมาแล้ว เป็นสิ่งที่สภาต้องไปพิจารณา

เมื่อถามว่า ข้อกังวลคนไทยจะติดการพนันเพิ่ม นายจุลพันธ์ กล่าวว่า เราเป็นรัฐบาลที่อยู่กับความเป็นจริง คนไทยจำนวนมีการไปเล่นการพนันที่ประเทศเพื่อนบ้าน และบ่อนที่ผิดกฎหมาย ซึ่งตามตรวจจับอยู่เข้มงวด แต่ก็ต้องยอมรับความจริง เพราะฉะนั้นกลไกนี้เป็นการดึงเขากลับมาในระบบ โดยเราสามารถติดตามกำกับช่วยเหลือดูแลคนในกลุ่มนี้ได้ จึงไม่ได้หมายความว่าเรามีหรือไม่มีเอนเตอร์เทนคอมเพล็กซ์แล้ว การพนันผิดกฎหมาย ไม่มีเลย คนไทยจะไม่เล่นเลยก็ไม่ใช่ ส่วนเรื่องการเยียวยา มีกำหนดอยู่ในกฎหมายอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่ได้อยู่ในรูปของกองทุน เพราะการทำกองทุนติด พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง ที่ห้ามมีวัตถุประสงค์ซ้ำซ้อน ก็เป็นอีกเรื่องที่สภาต้องไปพูดคุยกัน ว่าจะปรับแก้ให้ผ่านด่านได้อย่างไร

สำหรับการลงทุน นายจุลพันธ์ ยืนยันว่า ต้องเป็นการประมูลแน่นอน ต้องโปร่งใส และมีผู้ที่สนใจมานำเสนอ ความชัดเจนตรงนี้เมื่อกฎหมายผ่าน จะมีการตั้งสำนักงานขึ้นมาติดตาม กำกับดูแลและมีองค์คณะ 2 ส่วนคือ ฝั่งนโยบาย กับ ฝั่งบริหาร เริ่มต้นก็ต้องทำเรื่องความคุ้มค่าของพื้นที่ ว่าประเทศไทยควรมีกี่จุด จุดไหนควรมีอะไรที่เป็นองค์ประกอบสำคัญ แล้วเราจะไปดำเนินการทีโออาร์ ซี่งผู้ลงทุนก็ต้องไปจับเป็นกลุ่มบริษัทที่มีความเกี่ยวเนื่องกัน เพราะความถนัดไม่เหมือนกัน แล้วนำมาเสนอต่อคณะกรรมการ โดยต้องมีเกณฑ์ที่โปร่งใส เป็นธรรม เพื่อให้ทุกคนนำเสนอได้ และคณะกรรมการก็จะมีการตรวจสอบผู้ถือหุ้นในบริษัทด้วยว่ามีประวัติเป็นทุนสีเทาหรือไม่ ซึ่งต้องดูรอบคอบรัดกุมที่สุด โดยผลคะแนนที่ออกมาจะต้องเป็นวิทยาศาสตร์ที่ตรวจสอบได้

เมื่อถามว่า ใบอนุญาตของเอกชนอยู่ที่ 30 ปี ใช่หรือไม่ และ มองว่ายาวนานหรือไม่ นายจุลพันธ์ บอกว่า เรื่องของใบอนุญาตก็ว่ากันในสภาต่อ แต่ 30 ปีต้องนึกสภาพว่าเขาลงทุนหลักแสนล้าน ก็ต้องมีเวลาเหมาะสม และต้องดูว่าเริ่มนับจากวันไหน ถ้าเริ่มนับจากวันที่ออกใบอนุญาต ก็มีระยะเวลาในการก่อสร้าง การลงทุน แต่ถ้านับจากวันที่ก่อสร้างเสร็จ อันนี้ก็เป็นอีกเรื่องก็ต้องไปแก้กัน ซึ่ง 30 ปี มาตรฐานในตลาดโลกก็ไม่ได้แตกต่าง และมีระยะเวลาของการทบทวนก็คือสำนักงานที่กำกับ ก็ต้องไปตรวจดูตลอดว่ากิจกรรมที่เขาทำเป็นไปตามที่กรอบกฎหมายกำหนดหรือไม่ ผลประโยชน์ที่ได้มาสมน้ำสมเนื้อหรือไม่ สร้างประโยชน์ให้กับประเทศหรือไม่ หากไม่เข้าเกณฑ์ หรือไม่เข้า KPI การทบทวนเกิดขึ้นในช่วง 5 ปีอยู่แล้ว ตรงนี้มีกลไกกำกับดูแลให้เขาปรับเปลี่ยนเพื่อกระตุ้นให้เกิดเม็ดเงินตามที่รัฐคาดหวัง เราไม่ปล่อยให้ทำระยะยาวแล้วไม่เจอหน้ากันอยู่แล้ว.-315.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีต ผกก.ขับรถปาดหน้า-ชัก M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง

สงขลา 11 พ.ค. – การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี เดือด ลูกชาย สส.สงขลา ทำร้ายตำรวจคุมหน่วย ส่วน จ.นครศรีธรรมราช อดีตผู้กำกับขับรถปาดหน้าและชักปืน M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เดือด นายชวลิต เจริญพงษ์ อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง และปัจจุบันเป็นผู้สมัครรองนายกเทศมนตรีที่วัง เบอร์ 2 เข้าแจ้งความที่ สภ.กะปาง ว่าถูก พ.ต.อ.พิรุณ อดีต ผกก.ที่ปรึกษาผู้สมัครนายกเทศมนตรีอีกทีม ขับรถไล่ตามและใช้ปืน M16 ข่มขู่ โดยก่อนเกิดเหตุได้ไปกินข้าวที่ร้านอาหารกับผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.ที่วัง ได้เจ้อกับลูกน้องคนสนิทของ พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก เข้ามาพูดจาข่มขู่ พวกตนจึงหนีขึ้นรถเพื่อตัดปัญหา แต่ปรากฏว่าเมื่ออกจากร้านได้เพียง 10 เมตร พ.ต.อ.พิรุณ ได้ขับรถแวนเชฟโรเลตสีขาวปาดหน้า และลงจากรถพร้อมปืน M16 วิ่งมาที่รถของตน เห็นท่าไม่ดี จึงหักพวงมาลัยขับรถหนีและเข้ามาแจ้งความ ระหว่างนั้น พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]

ผบ.ตร. สั่งกองวินัยเตรียมสอบ ปมมติแพทยสภาลงโทษหมอ

ผบ.ตร. รับทราบกรณีแพทยสภาลงโทษหมอ ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 สั่งกองวินัยเตรียมสอบ หากเป็นแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษ 3 แพทย์ เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 ท่าน เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยว่ากล่าวตักเตือน 1 ท่าน พักใช้ใบประกอบวิชาชีพ 2 ท่าน เผยมติที่ประชุมมีความเห็น “เป็นเสียงส่วนใหญ่มาก มาก มาก”

ข่าวแนะนำ

ตร.ไม่ให้ประกัน “สจ.กอล์ฟ” กับพวก คอตกนอนคุก

สงขลา 12 พ.ค.- ตำรวจไม่ให้ประกัน “สจ.กอล์ฟ” กับพวก คอตกนอนคุก คดีทำร้ายร่างกาย “ด.ต.” คาหน่วยเลือกตั้ง พร้อมนำกำลังค้น 7 จุดหาหลักฐานเพิ่มเติม ความคืบหน้าเหตุการณ์นายสิรดนัย พลายด้วง หรือ สจ.กอล์ฟ สจ.เขต 7 จ.สงขลา ลูกชายนายสมยศ พลายด้วง สส.เขต 3 จ.สงขลาพรรคประชาธิปัตย์ หรือโกถึก ส่งลูกน้องไปรุมทำร้าย ด.ต.นิสาธิต ซึ่งทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยในหน่วยเลือกตั้งที่ 7 ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา เพราะไม่พอใจที่ถูกห้ามถ่ายรูปในหน่วยเลือกตั้งขณะไปลงคะแนนกับภรรยา ล่าสุดวันนี้ ศาลจังหวัดสงขลาได้ออกหมายจับผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุแล้วรวม 7 คน ประกอบด้วย 1. นายสิรดนัย หรือสจ.กอล์ฟ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาที่1 ในฐานะผู้ใช้จ้างวาน2. นายพงษ์เทพ หรือหนึ่งฟรีด้อม อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาที่ในฐานะรับคำสั่งจากนายสิรดนัย แล้วสั่งการให้ นายหนุ่มเสกกับพวกรวม […]

ตร.ตรัง เร่งขอศาลออกหมายจับ มือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ

ตรัง 12 พ.ค.- ตร.ตรัง เร่งขอศาลออกหมายจับมือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ ขณะที่ญาตินิมนต์พระทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณกลับบ้าน วันที่ 12 พฤษภาคม 2568 เมื่อเวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดตรัง ลงพื้นที่สวนปาล์มน้ำมัน เนื้อที่ 170 ไร่ จุดเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายยิงและเผานั่งยางผู้จัดการสวน เพื่อนร่วมงาน และลูกน้องรวม 3 ศพ และจุดพบศพปริศนาถูกเผาและฝังดินอีก 1 ศพ ในพื้นใกล้กัน รวมทั้งหมดเป็น 4 ศพ โดยเป็นการลงพื้นที่ซ้ำ เพื่อตรวจหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมในบริเวณที่เกิดเหตุ โดยเฉพาะบริเวณขนำจุดยิงผู้ตายทั้ง 3 ราย ก่อนนำไปจุดไฟเผา โดยตำรวจพบหัวกระสุนปืนขนาด 11 มม.เพิ่มเติมอีก 1 หัว แต่ทั้งนี้ พบอุปสรรคสำคัญในการทำงานเก็บพยานหลักฐาน เนื่องจากในพื้นที่ได้เกิดฝนตกลงมาเป็นระยะ ๆ ทำให้ร่องรอยพยานหลักฐานบางอย่างถูกทำลาย ซึ่งขณะนี้ทำให้ทราบว่าขณะเกิดเหตุมีการใช้อาวุธปืนหลายขนาด เพราะพบหัวกระสุนปืนในที่เกิดเหตุ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดียังคงกระจายกำลังกันลงพื้นที่เพื่อสืบสวนหาข่าวในพื้นที่ อ.สิเกา อ.วังวิเศษ จ.ตรัง และต.ทรายขาว […]

ออกหมายจับ สจ.คนดังพร้อมพวก รุมทำร้าย ตร.คาหน่วยเลือกตั้ง

สงขลา 12 พ.ค.- ศาลจังหวัดสงขลาออกหมายจับ สจ.คนดัง พร้อมพวกรวม 7 คน หลังก่อเหตุรุมทำร้าย ‘ด.ต.’ คาหน่วยเลือกตั้ง จ.สงขลา ขณะที่ ผบ.ตร.สั่งเอาผิด พวกทำตัวเหนือกฎหมาย จากกรณีสมาชิกสภา อบจ.สงขลา บุตรชาย สส.สงขลา ก่อเหตุสั่งให้ลูกน้อง 6 คน รุมทำร้ายร่างกาย ด.ต.นิสาธิต สังกัด ตชด.43 ปฏิบัติหน้าที่เจ้าพนักงานรักษาความสงบเรียบร้อยหน่วยเลือกตั้ง บริเวณหน้าหน่วยเลือกตั้งที่ 7 หมู่ 2 ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลาหลัง ส.อบจ.คนดังกล่าว เข้ามาใช้สิทธิที่หน่วย และให้ลูกน้องถ่ายรูป ซึ่งผิดกฎหมายเลือกตั้ง ด.ต.นิสาธิต จึงได้เข้าไปตักเตือน สร้างความไม่พอใจ ก่อนขับรถออกจากหน่วยเลือกตั้ง จากนั้นมีกลุ่มชายชกรรจ์ 5-7 คน เข้ามาที่หน่วยเลือกตั้ง และรุมทำร้าย ด.ต.นิสาธิต บาดเจ็บ ต่อหน้าต่อตาชาวบ้านที่มาใช้สิทธิเลือกตั้ง อ้างว่าลูกพี่ใหญ่ ไม่มีใครกล้าทำอะไร ล่าสุด ศาลจังหวัดสงขลาอนุมัติหมายจับผู้ก่อเหตุทั้งหมด 7 […]

เพลิงไหม้มาราธอน โหมโรงงานเฟอร์นิเจอร์ ยังคุมไม่ได้

12 พ.ค.- ยังไม่ดับ! ไฟไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์ ย่านลาดกระบัง ต้นเพลิงอยู่ที่ชั้นใต้ดิน ยังไม่สามารถลงไปได้ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ รุดลงพื้นที่ สั่งอพยพชาวบ้านใกล้เคียง เร่งช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ ยืนยันสถานการณ์จะคลี่คลายภายในวันนี้ เพลิงไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์ ซอยฉลองกรุง 55 แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ ลุกโหมมาตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ ก่อนเจ้าหน้าที่ระดมรถดับเพลิงเข้าควบคุมสถานการณ์ ตลอดทั้งคืน ยังมีไฟปะทุออกจากชั้นใต้ดินของโครงสร้างอาคาร     ล่าสุดเช้าวันนี้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมทีมวิศวกรผู้ เชี่ยวชาญด้านอาคารโรงงานอุตสาหกรรม ตำรวจ และทีมกู้ภัย เร่งเข้าตรวจสอบความเสียหายรอบพื้นที่โรงงาน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เผยว่า มอบหมายให้ ดร.สุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา(ดร.จอร์น) ประธานสภากรุงเทพมหานคร และนายธราพงษ์ เพ็ชรคง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตลาดกระบัง ลงพื้นที่ตั้งศูนย์บัญชาการเหตุยังจุดเกิดเหตุ ส่วนแนวทางปฏิบัติการ เตรียมใช้โฟมประกอบน้ำ ฉีดเข้าจุดที่ยังคงมีเพลิงปะทุคาดว่าจะควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในวงจำกัดได้ภายในช่วงเที่ยงวันนี้   ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงระบุว่า ต้นเพลิงอยู่ที่ชั้นใต้ดิน แต่ยังไม่สามารถลงไปได้ เนื่องจากมีกลุ่มควันและความร้อนสูง จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์พิเศษ หน้ากากออกซิเจน […]