“จุลพันธ์” หวังเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เข้าสภาฯ ก่อนปิดสมัยประชุม

ทำเนียบ 27 มี.ค.-“จุลพันธ์” หวังร่าง กม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เข้าสภาฯ วาระแรกก่อนปิดสมัยประชุมนี้ ยอมรับวงเงิน 50 ล้านบาท ให้คนไทยเข้าเล่นกาสิโนสูงไป บอกถกต่อในสภาฯ ชี้เป็นกลไกดึงคนเล่นพนันผิดกฎหมายเข้าระบบ

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง แถลงภายหลัง ครม. เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. …. ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ ว่า เนื้อหาในร่างเป็นไปตามที่กฤษฎีกาได้มีการแก้ไข ซึ่งกระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย เป็นหน่วยงานหลักที่เกี่ยวเนื่องกับเรื่องนี้ ก็ไม่ขัดข้องและเห็นชอบเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีตามร่างที่มีการแก้ไขจากกฤษฎีกา และมีการทำประชาพิจารณ์ ตั้งแต่ 1-15 มีนาคม และไปส่งที่คณะรัฐมนตรีสัปดาห์ที่แล้ว มีการเวียนความเห็นเข้าสู่การพิจารณาให้ความเห็นชอบวันนี้ ขั้นตอนต่อไปจะส่งเป็นเรื่องด่วนเข้าไปที่สภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้บรรจุวาระและพิจารณารับหลักการในวาระแรก เพื่อตั้งคณะกรรมาธิการพิจารณาต่อไป


ทั้งนี้ ตัว พ.ร.บ.นี้ มีการปรับแก้ไขที่มีประโยชน์หลายอย่าง โดยเฉพาะการกำกับควบคุม การกำหนดโทษโดยเฉพาะการพนัน ก็เหมือนที่นายกฯ บอกว่าเรื่องนี้เป็นประโยชน์มหาศาลกับประเทศ เม็ดเงินที่จะได้รับการลงทุนต่อจุดไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท และเงินที่รัฐจะได้รับในรูปแบบของภาษีและค่าธรรมเนียมต่างๆ เม็ดเงินที่ประชาชนจะได้รับจากผลทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น ทั้งการจ้างกิจกรรมทางเศรษฐกิจอื่นๆ เช่น โรงแรม การท่องเที่ยว ซึ่งมีมูลค่ามหาศาล ที่สำคัญไม่ใช่เรื่องของกาสิโน แต่เป็นการสร้างสถานบันเทิงครบวงจร เป็น man made tourist destination, ที่มีขนาดใหญ่ และเป็นโมเดลทางธุรกิจที่ต่างประเทศ เริ่มทำอยู่และให้การยอมรับทั้งดูไบ ญี่ปุ่น วันนี้มองประเทศไทยในอนาคตและว่าฝันได้เลยว่า เราจะมีสถานที่ท่องเที่ยวเป็นระดับโลกเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารระดับโลก สวนสนุกขนาดใหญ่ระดับเดียวกับดิสนีย์ หรือยูนิเวอร์แซล เราจะเห็นลักษณะกีฬาอินดอร์สเตเดียมขนาดใหญ่ ซึ่งนายกฯ ได้บอกว่าก่อนหน้าเราพยายามจะเอา Taylor Swift มา แต่สุดท้ายเราไม่มีพื้นที่จัดงานอินดอร์ในระดับ 40,000 ถึง 50,000 คน และเราเคยจัดกีฬา มีฟุตบอลมาจากอังกฤษพรีเมียร์ลีก สุดท้ายไม่ได้แข่ง เพราะเราจัดในสนามเปิดและมีฝนตก ก็ไม่ได้ทำการแข่ง เสียหายต่อธุรกิจและความกลัวของภาคธุรกิจ ปีนี้พยายามดึงดึง เลดี้ กาก้า แต่สุดท้ายก็โจทย์เดิมคือทำไม่ได้ จึงมองว่าการลงทุนในลักษณะแบบนี้ ถ้าเอกชนเป็นคนลงทุน โดยที่มาลงทุนแบบเอนเตอร์เทนเมนคอมเพล็กซ์ เราจะมีจุดเด่นใหม่ๆในการสร้างกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การค้าขาย โอท็อป ซึ่งกำหนดมาในกฎหมาย ทั้งการทำกิจกรรมอื่นๆอีกมากมาย มันจะสร้างเม็ดเงินให้ประชาชน นี่คือจุดเปลี่ยนของประเทศไทย จึงมี พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ หน้าที่ต่อไปก็เป็นเรื่องของสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา ซึ่งหากมีความเห็นหรือแก้ไขอย่างไร ก็คงจะแก้ไขในทางบวกและเป็นประโยชน์กับการที่เราจะมีกฎหมายฉบับนี้เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวต่อไปในอนาคต

เมื่อถามว่า วาระแรกจะเข้าทันสมัยประชุมนี้หรือไม่ นายจุลพันธ์ บอกว่า เหลือ 2 สัปดาห์ที่มีการปนะชุมสภาฯ คือวันที่ 2-3 เมษายน และ 9-10 เมษา เรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ทางรัฐบาลอยากผลักดัน ให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้จริง ไม่อยากทำแล้วไปคาราคาซัง หรือหมดสมัยของรัฐบาลแล้วก็ยังพิจารณาไม่เสร็จ สุดท้ายความฝันความหวังที่จะสร้างจุดเปลี่ยนทางเศรษฐกิจ มันก็ไม่เกิดขึ้นจริง เพราะฉะนั้นเราต้องการสร้างความมั่นใจ โดยเฉพาะการลงทุน ซึ่งเรามีคำขอเรื่องการลงทุนจากบีโอไอสูงสุดเป็นประวัติการณ์ วันนี้นักลงทุนต่างชาติมองเข้ามาในเรื่องความมั่นคงของรัฐ ความจริงจังของรัฐ ในการขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ซึ่งเราแสดงให้เห็นจากการที่ผลักดันนโยบายของรัฐบาลได้อย่างต่อเนื่อง


”ดังนั้นเมื่อเราประกาศแล้วก็จะพยายามผลักดันให้เร็วที่สุด เพื่อให้นักลงทุนต่างชาติ ไม่เฉพาะเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ แต่นักลงทุนต่างชาติทุกส่วนจะได้เห็นถึงความจริงจังของรัฐบาล และส่งไปที่สภา โดยได้พูดคุยกับนางมนพร เจริญศรี ซึ่งเป็นวิป ครม. จะไปเจรจากับทางสภาและวิปรัฐาล ว่าจะสามารถเลื่อนระเบียบวาระนี้ให้เข้าทันก่อนปิดสมัยประชุม เพื่อจะได้มีการตั้งกรรมาธิการขึ้นมา และใช้เวลาอีกหลายเดือนในการพิจารณา ก่อนจะส่งเข้ามาพิจารณาวาระ 2 ,3 อีกครั้ง“ นายจุลพันธ์ กล่าว

นานจุลพันธ์ ยืนยันว่ากระทรวงการคลังเป็นคนยกร่าง และส่งให้ ครม. พิจารณา และส่งไปที่กฤษฎีกา ปรับแก้สาระสำคัญหลายจุด ก็ต้องขอบคุณเพราะหลายจุดเป็นประโยชน์ บางจุดอาจยังมีข้อเห็นที่แตกต่างก็เป็นเรื่องปกติ แต่ขั้นตอนนี้เราคงต้องส่งมอบให้สภาฯ ต่อไป สุดท้ายเป็นเรื่องของผู้แทนประชาชนว่าจะเห็นชอบหรือไม่และจะมีการปรับแก้อย่างไร

ส่วนการกำหนดให้คนไทยที่จะเข้าเล่นคาสิโนต้องมีเงินในบัญชีไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาทนั้น นายจุลพันธ์ ยอมรับว่า ขณะนี้รายละเอียดอยู่ที่ 50 ล้านบาท แต่ตนเคยพูดไปว่าขัดกับวัตถุประสงค์หนึ่ง ที่เราต้องการแก้ไขในเรื่องเม็ดเงินทางเศรษฐกิจ และแก้ปัญหาการพนันนอกระบบที่กฎหมาย


“หากไปกำหนดเม็ดเงินที่สูงมากถึง 50 ล้านบาท คนไทยที่มีเงินจำนวนนี้ประมาณ 10,000 บัญชี แสดงว่าเรากำลังพยายามผลักคนอีกกว่า 60 ล้านคน ให้กลับไปอยู่ในการพนันที่ผิดกฎหมาย ดังนั้นก็คงต้องไปถกกันในชั้นกรรมาธิการ ส่วนจะมีมติอย่างไรก็ว่ากัน” นายจุลพันธ์ กล่าว

นอกจากนี้ ในการทำประชาพิจารณ์ ก็มีความเห็นหลากหลาย และสอบถามว่าสามารถปรับลดวงเงินได้หรือไม่ แต่ทั้งหมดก็ส่งไปที่สภาผู้แทนราษฎร ให้รับไปพิจารณาต่อ

เมื่อถามว่า รัฐบาลอยากได้วงเงินเท่าไหร่ที่ทำให้คนไทยเล่นกาสิโนได้ นายจุลพันธ์ บอกว่า กฎหมายยังกำหนดอยู่ที่ 5000 บาท แต่ตนไม่มีความเห็น เพราะตรงนี้มันเลยจุดมาแล้ว เป็นสิ่งที่สภาต้องไปพิจารณา

เมื่อถามว่า ข้อกังวลคนไทยจะติดการพนันเพิ่ม นายจุลพันธ์ กล่าวว่า เราเป็นรัฐบาลที่อยู่กับความเป็นจริง คนไทยจำนวนมีการไปเล่นการพนันที่ประเทศเพื่อนบ้าน และบ่อนที่ผิดกฎหมาย ซึ่งตามตรวจจับอยู่เข้มงวด แต่ก็ต้องยอมรับความจริง เพราะฉะนั้นกลไกนี้เป็นการดึงเขากลับมาในระบบ โดยเราสามารถติดตามกำกับช่วยเหลือดูแลคนในกลุ่มนี้ได้ จึงไม่ได้หมายความว่าเรามีหรือไม่มีเอนเตอร์เทนคอมเพล็กซ์แล้ว การพนันผิดกฎหมาย ไม่มีเลย คนไทยจะไม่เล่นเลยก็ไม่ใช่ ส่วนเรื่องการเยียวยา มีกำหนดอยู่ในกฎหมายอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่ได้อยู่ในรูปของกองทุน เพราะการทำกองทุนติด พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง ที่ห้ามมีวัตถุประสงค์ซ้ำซ้อน ก็เป็นอีกเรื่องที่สภาต้องไปพูดคุยกัน ว่าจะปรับแก้ให้ผ่านด่านได้อย่างไร

สำหรับการลงทุน นายจุลพันธ์ ยืนยันว่า ต้องเป็นการประมูลแน่นอน ต้องโปร่งใส และมีผู้ที่สนใจมานำเสนอ ความชัดเจนตรงนี้เมื่อกฎหมายผ่าน จะมีการตั้งสำนักงานขึ้นมาติดตาม กำกับดูแลและมีองค์คณะ 2 ส่วนคือ ฝั่งนโยบาย กับ ฝั่งบริหาร เริ่มต้นก็ต้องทำเรื่องความคุ้มค่าของพื้นที่ ว่าประเทศไทยควรมีกี่จุด จุดไหนควรมีอะไรที่เป็นองค์ประกอบสำคัญ แล้วเราจะไปดำเนินการทีโออาร์ ซี่งผู้ลงทุนก็ต้องไปจับเป็นกลุ่มบริษัทที่มีความเกี่ยวเนื่องกัน เพราะความถนัดไม่เหมือนกัน แล้วนำมาเสนอต่อคณะกรรมการ โดยต้องมีเกณฑ์ที่โปร่งใส เป็นธรรม เพื่อให้ทุกคนนำเสนอได้ และคณะกรรมการก็จะมีการตรวจสอบผู้ถือหุ้นในบริษัทด้วยว่ามีประวัติเป็นทุนสีเทาหรือไม่ ซึ่งต้องดูรอบคอบรัดกุมที่สุด โดยผลคะแนนที่ออกมาจะต้องเป็นวิทยาศาสตร์ที่ตรวจสอบได้

เมื่อถามว่า ใบอนุญาตของเอกชนอยู่ที่ 30 ปี ใช่หรือไม่ และ มองว่ายาวนานหรือไม่ นายจุลพันธ์ บอกว่า เรื่องของใบอนุญาตก็ว่ากันในสภาต่อ แต่ 30 ปีต้องนึกสภาพว่าเขาลงทุนหลักแสนล้าน ก็ต้องมีเวลาเหมาะสม และต้องดูว่าเริ่มนับจากวันไหน ถ้าเริ่มนับจากวันที่ออกใบอนุญาต ก็มีระยะเวลาในการก่อสร้าง การลงทุน แต่ถ้านับจากวันที่ก่อสร้างเสร็จ อันนี้ก็เป็นอีกเรื่องก็ต้องไปแก้กัน ซึ่ง 30 ปี มาตรฐานในตลาดโลกก็ไม่ได้แตกต่าง และมีระยะเวลาของการทบทวนก็คือสำนักงานที่กำกับ ก็ต้องไปตรวจดูตลอดว่ากิจกรรมที่เขาทำเป็นไปตามที่กรอบกฎหมายกำหนดหรือไม่ ผลประโยชน์ที่ได้มาสมน้ำสมเนื้อหรือไม่ สร้างประโยชน์ให้กับประเทศหรือไม่ หากไม่เข้าเกณฑ์ หรือไม่เข้า KPI การทบทวนเกิดขึ้นในช่วง 5 ปีอยู่แล้ว ตรงนี้มีกลไกกำกับดูแลให้เขาปรับเปลี่ยนเพื่อกระตุ้นให้เกิดเม็ดเงินตามที่รัฐคาดหวัง เราไม่ปล่อยให้ทำระยะยาวแล้วไม่เจอหน้ากันอยู่แล้ว.-315.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]

พลทหารเหยียบกับระเบิดพื้นที่ปราสาทตาควาย

สุรินทร์ 27 ส.ค.-พลทหารเหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย ขาขวาท่อนล่างขาด เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 15.45 น. เกิดเหตุ พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 23 เหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บ บริเวณขาขวาท่อนล่างขาด หน่วยในพื้นที่ได้เข้าดำเนินการช่วยเหลือ และนำส่งเพื่อรับการรักษาแล้ว รายละเอียดอื่นๆ จะรายงานให้ทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย