เปิดโต๊ะถกปัญหารง.พลุระเบิดพรุ่งนี้

สุพรรณบุรี 18 ม.ค.-“รองนายกฯ สมศักดิ์” ลงพื้นที่สุพรรณฯ ด่วน ติดตามเหตุโรงงานพลุระเบิด เผย นายกฯห่วงใย สั่งเร่งเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต เรียกประชุมทุกฝ่าย ถกสาเหตุ-แก้ปัญหาระยะยาวพรุ่งนี้


นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยกรณีพลุระเบิด ที่วัดโรงช้าง ตำบลศาลาขาว จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อแสดงความเสียใจและให้กำลังใจครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมชี้แจงแนวทางการช่วยเหลือกับครอบครัวผู้เสียชีวิต ซึ่งนายสมศักดิ์ ได้นั่งพูดคุยกับญาติของผู้เสียชีวิต ยืนยันว่านายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้มีความห่วงใย และสั่งการให้ทุกหน่วยงานช่วยเหลือเยียวยาแบบเร่งด่วน

นายสมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า นายเศรษฐา ได้มอบหมายให้ตนที่ทำหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรีอยู่ ลงพื้นที่ เพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบในทุกด้าน พร้อมอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ซึ่งขณะนี้ ได้รับรายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 23 ราย นายกรัฐมนตรี จึงได้กำชับเรื่องการเยียวยาแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยขณะนี้ มีกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี จะช่วยเยียวยาการเสียชีวิต 50,000 บาท, การทำศพ 30,000 บาท, ค่าดูแลบุตรที่กำลังศึกษาอายุไม่เกิน 25 ปี อีก 50,000 บาท รวมเป็นรายละ 130,000 บาท รวมถึงยังมีเงินเยียวยา ของกระทรวงยุติธรรม ให้ผู้เสียชีวิตอีกประมาณ 200,000 บาท และยังมีเงินเยียวยาจากกระทรวงพัฒนาสังคมฯ และกระทรวงมหาดไทย อีกจำนวนหนึ่ง ดังนั้น รวมแล้วครอบครัวผู้เสียชีวิต จะได้รับเงินเยียวยาประมาณรายละ 300,000 บาท


“พรุ่งนี้ผมจะประชุมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเวลา 11.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อหารือเกี่ยวกับเหตุที่เกิดขึ้นทุกประเด็น รวมถึงการบูรณาการในการแก้ปัญา ไม่ให้เกิดเหตุระเบิดซ้ำอีก พร้อมจะมีการหารือถึงการแก้ไขกฎระเบียบต่างๆ โดยข้อสรุปในที่ประชุม ผมจะนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรี ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี วันอังคารหน้า เพราะเรื่องนี้ ท่านนายกฯ ได้มีความห่วงใยเป็นพิเศษ ผมจึงรีบเดินทางลงพื้นที่อย่างเร่งด่วน” นายสมศักดิ์ กล่าว

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนสาเหตุที่เกิดครั้งนี้ ได้รับรายงานว่า โรงงานพลุมีวัตถุระเบิด คือดินปืน ที่เป็นตัวจุดระเบิด แต่สิ่งที่ทำให้ประชาชนบาดเจ็บ เสียชีวิต เป็นเพราะตัวเร่ง คือโพรเทสเซียมคลอเลต (KClo3) ที่เป็นสารแคตตาไลท์ ซึ่งเมื่อมีดินปืนระเบิด ทำให้เกิดการสันดาป จึงเกิดแรงระเบิด และแรงอัด ที่ทำให้ผู้อยู่ในบริเวณเสียชีวิตอย่างกระทันหัน โดยเป็นความสูญเสียที่เกิดขึ้นทุกปี ดังนั้น จากนี้ต้องแก้ปัญหา ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า โรงงานมีการขอใบอนุญาตการให้ทำและค้าดอกไม้เพลิงถูกต้องตามกฎหมาย

“กระทรวงกลาโหมตรวจสอบการสั่งซื้อสารเคมีประกอบวัตถุระเบิด พบว่า ปฏิบัติตามกฎหมายถูกต้อง ส่วนกระทรวงอุตสาหกรรมตรวจสอบพบว่า สถานที่เก็บพลุแห่งนี้  ไม่ได้ขออนุญาตเป็นโรงงาน จึงทำให้ไม่มีการตรวจสอบวัตถุอันตราย ตนจึงมองว่า ตรงนี้เป็นจุดอ่อน เพราะทำให้ไม่มีการตรวจสอบ ส่วนผลกระทบจากนี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณที่อาจเกิดสารเคมีแล้วตั้งแต่เมื่อคืนนี้” นายสมศักดิ์ กล่าว


ส่วนสาเหตที่เกิดระเบิดเพราะมีสารดินปืน และโพรแทสเซียมคลอเลต จำนวนมากเกินไปใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า สารโพรแทสเซียมคลอเลต เป็นสารไม่สันดาบเอง แต่เป็นตัวเร่งหรือสารแคทตาไลท์ ทำให้เกิดแรงอัดสูง เป็นสารที่ต้องควบคุมปริมาณ ซึ่งไม่ได้ยืนยันสาเหตุแน่ชัด เพราะอยู่ในการพิสูจน์ของตำรวจ แต่ตนมองว่า กฎหมายและระเบียบทั้งหมดที่มีอยู่ขณะนี้ ไม่สามารถควบคุมให้เกิดความปลอดภัยต่อโรงงานลักษณะนี้ในทุกประเด็น โดยจะเป็นเรื่องที่ต้องเร่งดำเนินการศึกษาว่า จะต้องปรับกฎเกณฑ์อะไรบ้าง

ส่วนกรณีผู้เสียชีวิตครอบครัวหนึ่งที่มีถึง 6 ราย นายสมศักดิ์ กล่าวว่า สะท้อนว่า บางครั้งประชาชนมีรายได้ไม่เพียงพอกับอาชีพ ดังนั้น เราต้องแก้ไขปัญหาความยากจนด้วย และต้องสร้างหลักประกันให้คนทำงานอย่างคุ้มค่า โดยเฉพาะการทำงานในโรงงานลักษณะนี้ ที่มีวัตถุระเบิด โดยควรมีประกันชีวิต เพราะมีความเสี่ยงที่สูงมาก

เมื่อถามว่าต้องปรับหลักเกณฑ์การขออนุญาตหรือไม่ เพราะโรงงานนี้เคยเกิดเหตุมาแล้ว แต่เปลี่ยนชื่อและขอใบอนุญาตใหม่ได้ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ความบกพร่องของระเบียบราชการที่ทำให้เกิดสิ่งนั้นได้ ดังนั้น เราต้องดูว่าการเปลี่ยนชื่อขอใบอนุญาตทำได้หรือไม่ โดยตนยังไม่ทราบในวันนี้ แต่จะตั้งคำถามนี้ในที่ประชุมวันพรุ่งนี้ด้วย เพราะเราต้องแก้ที่ต้นเหตุ ทั้งระเบียบ กฎหมาย และแบบแผนของแต่ละหน่วยงาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังลงพื้นที่ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย นายสมศักดิ์ ได้ลงพื้นที่โรงงานที่เกิดเหตุ เพื่อติดตามผลกระทบที่เกิดขึ้น ก่อนจะนำข้อมูลทั้งหมด สรุปในที่ประชุมวันพรุ่งนี้.-314.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร