ชี้ สว.เปิดอภิปราย รบ.เป็นเรื่องดี ช่วยกันตรวจสอบ

พรรคประชาธิปัตย์ 8 ม.ค.-“ราเมศ” ชี้ สว. เปิดอภิปราย รบ. เรื่องดี ช่วยกันตรวจสอบ ย้ำ กรณี “ทักษิณ” ไม่ใช่เรื่องสีเสื้อ เป็นหลักความถูกผิดของบ้านเมือง


นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กรณีที่สมาชิกวุฒิสภา (สว.) บางส่วน ต้องการเปิดอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 153 แบบไม่ลงมติ ว่า โดยหลักการ รัฐธรรมนูญได้กำหนดไว้ชัดใน มาตรา 153  ที่กำหนดให้ สว. จำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสามของจำนวน สว. ทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ มีสิทธิ์เข้าชื่อขอเปิดอภิปรายทั่วไปในวุฒิสภา เพื่อให้คณะรัฐมนตรีได้แถลงข้อเท็จจริง หรือชี้แจงปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน โดยที่ไม่มีการลงมติ

“ถือว่าเป็นสิทธิของ สว.ตามรัฐธรรมนูญ ก็สามารถดำเนินการได้ อย่าไปคิดว่า สว. มีเจตนาไม่ดีต่อรัฐบาล หากมีการอภิปรายที่เล็งเห็นถึงการตรวจสอบอย่างแท้จริง เพื่อให้รัฐบาลได้มาอธิบายปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมแถลงข้อเท็จจริง ก็เป็นเรื่องที่ดีอย่างน้อยที่สุด นี่คือกระบวนการตรวจสอบถ่วงดุลโดยฝ่ายรัฐสภา ฝ่ายนิติบัญญัติ”นายราเมศ กล่าว


นายราเมศ กล่าวว่า ส่วนที่มี สว. บางคนบอกว่าเรื่องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ควรมีการแบ่งสีแบ่งฝ่าย ให้เลิกทะเลาะกันเรื่อง สีแดง สีเหลือง นปช. กปปส. แล้ว เพราะได้ไปรวมเป็นรัฐบาลกันหมดแล้วนั้น ตนคิดว่าวุฒิสมาชิกกำลังเข้าใจผิดในหลักการของบ้านเมือง เพราะเรื่องของนายทักษิณ เป็นเรื่องหลักการความถูกผิดของบ้านเมือง

“เป็นเรื่องการเลือกปฏิบัติ การบังคับใช้กฎหมายที่ไม่เท่าเทียม ไม่ใช่เรื่องสีเสื้อ ไม่ใช่เรื่องทะเลาะส่วนตัว เรื่องนี้คือเรื่องใหญ่ของบ้านเมือง หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้บ้านเมืองในวันข้างหน้าจะอยู่กันอย่างไร นักการเมืองควรเป็นแบบอย่างในการเคารพกฎหมายบ้านเมือง เพราะถ้าไม่เป็นเช่นนั้นต่อไปบ้านเมืองจะเหลืออะไร”นายราเมศ กล่าว.-312.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย