‘ผบ.นรด.’ ตรวจความพร้อมค่ายเขาชนไก่ รับ นศท.กว่า 7 หมื่นคน

7 ม.ค. – ‘ผบ.นรด.’ เช็กความพร้อมค่ายเขาชนไก่” รับนักศึกษาวิชาทหารกว่า 70,000 คน เน้นปลอดภัย สร้างความมั่นใจในการฝึกภาคสนาม


เมื่อวันที่ 7 ม.ค. 2567 ที่ค่ายฝึกนักศึกษาวิชาทหาร (นศท.) เขาชนไก่ จ.กาญจนบุรี พล.ท.ทวีพูล ริมสาคร ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (ผบ.นรด.) เป็นประธานการประกอบพิธีทางศาสนาและบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในค่ายฝึกนักศึกษาวิชาทหารเขาชนไก่ และเปิดกองอำนวยการฝึกภาคสนามนักศึกษาวิชาทหาร พร้อมกันนี้ได้นำเตรียมความพร้อมใน 5 มาตรการความปลอดภัยในการฝึกนักศึกษาวิชาทหาร

เพื่อสร้างความมั่นใจและคลายความกังวลให้แก่ผู้ปกครอง จากนโยบายการฝึกภาคสนาม และข้อห่วงใยของผู้บังคับบัญชาที่ให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยของนักศึกษาวิชาทหาร (นศท.) เป็นอันดับแรก หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (นรด.) จึงได้กำหนดมาตรการหลัก 5 ประการ ให้กับส่วนที่เกี่ยวข้องได้ยึดถือปฏิบัติ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับ นศท. ที่เข้ารับการฝึก รวมทั้งเพื่อสร้างความมั่นใจและคลายความวิตกกังวลแก่ผู้ปกครอง ในการฝึกภาคสนาม นศท.ประจำปีการศึกษา 2566 จะมี นศท.ชั้นปีที่ 2-3 จากส่วนกลาง และ นศท.ชั้นปีที่ 4-5 จากทั่วประเทศ เข้ารับการฝึก ณ ค่ายฝึก นศท.เขาชนไก่ มากกว่า 72,000 คน


มาตรการด้านที่ 1 ความปลอดภัยในการเคลื่อนย้าย จัดรถโดยสารรับ-ส่ง นศท. จาก กทม. ไป-กลับค่ายฝึกเขาชนไก่ กว่า 1,900 เที่ยว โดยมีวันที่มากที่สุดถึง 63 คัน รถโดยสารทุกคันได้มาตรฐาน มีประสิทธิภาพ ผ่านการประมูลแบบ e-bidding ตามข้อสัญญาในหลักเกณฑ์ที่กำหนด, ตรวจสภาพความพร้อมของพนักงานขับรถและรถโดยสาร ให้พร้อมและปลอดภัยในการใช้งาน โดยจัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบก่อนออกเดินทางในช่วงเช้าของทุกวัน

จัดเจ้าหน้าที่ชุดเคลื่อนย้ายประจำอยู่บนรถโดยสารทุกคัน เพื่อกำกับดูแลในระหว่างการเคลื่อนย้ายให้เกิดความปลอดภัย จัดให้มีแผนเผชิญเหตุในกรณีต่างๆ และได้ทำการฝึกทบทวนการปฐมพยาบาล เบื้องต้นให้กับเจ้าหน้าที่ชุดเคลื่อนย้าย และขอรับการสนับสนุนชุดปฐมพยาบาลขบวนล่ะ 1 ชุด กรณีเกิดเหตุเจ็บป่วยระหว่างการเดินทาง โดยมีแผนบรรทุก นศท. จำนวน 42 คนต่อคัน

จัดรถนำขบวนจาก มทบ.11 และ มทบ.17 ร่วมกับตำรวจทางหลวง ตำรวจภูธรจังหวัด และตำรวจภูธรอำเภอ ในแต่ละพื้น เพื่ออำนวยความสะดวก ควบคุมระยะต่อและจำกัดความเร็วของขบวนรถตลอดเส้นทางทั้งไปและกลับ


มาตรการด้านที่ 2 การให้บริการทางการแพทย์ จัดทำบัตรข้อมูลประจำตัว นศท. ให้พกติดตัวไว้ที่กระเป๋าเสื้อด้านขวาตลอดเวลาที่เข้ารับการฝึก (ชื่อ-สกุล อายุ หมู่เลือด โรคประจำตัว ยาที่แพ้ หมายเลขบัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ผู้ปกครอง และเพื่อนสนิท) ช่วยให้สามารถช่วยเหลือ นศท. ที่เจ็บป่วยหรือบาดเจ็บได้อย่างรวดเร็ว

จัดเจ้าหน้าที่เสนารักษ์ประจำอยู่กับ นศท.ทุกกองร้อย และมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายการแพทย์ พร้อมยาและเวชภัณฑ์ประจำกองอำนวยการฝึกฯ พร้อม 24 ชั่วโมง รวมทั้งยังได้ดำเนินโครงการ “นักศึกษาวิชาทหารปลอดภัยจากการฝึก” ของกรมแพทย์ทหารบก โดยได้รับการสนับสนุนจากโรงพยาบาลค่ายสุรสีห์ และโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา ที่อยู่ในพื้นที่, ติดสัญลักษณ์ (ผูกโบว์สีแดงแขนเสื้อด้านขวา) เพื่อให้ครูฝึกได้สังเกตและเฝ้าระวัง นศท. ที่มีความเสี่ยง เช่น เป็นโรคอ้วน หรือมีโรคประจำตัว

ความปลอดภัยจากโรคลมร้อน โดยได้อบรมครูฝึกทุกนายให้มีความรู้และทักษะพื้นฐานในการช่วยเหลือผู้ป่วยโรคลมร้อน รวมทั้งสร้างการรับรู้ให้ นศท. โดยการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์เผยแพร่ทางสื่อโซเชียลก่อนเข้ารับการฝึก และจัดการอบรม เพื่อให้ นศท. ได้รู้ถึงวิธีการป้องกันตนเอง วิธีการสังเกตอาการ และวิธีการปฏิบัติเมื่อตนเองหรือเพื่อนๆ มีอาการของโรคลมร้อน พร้อมกำหนดให้เจ้าหน้าที่ส่วนปกครองเน้นย้ำให้ นศท.ทุกนายให้ความสำคัญกับการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย และสังเกตสีปัสสาวะของตนเองทุกวัน รวมทั้งกวดขันให้ นศท. เติมน้ำให้เต็มกระติกก่อนออกไปทำการฝึก และดื่มน้ำทุกๆ 1 ชั่วโมง เพื่อช่วยระบายความร้อนของร่างกาย

ติดตั้งเครื่องมือวัดอุณหภูมิ วัดค่าความชื้นสัมพัทธ์ และธงสัญญาณในพื้นที่การฝึก เพื่อใช้ในการแจ้งเตือนและปรับระยะเวลาการฝึกให้เหมาะสมกับสภาพอากาศ, จัดเจ้าหน้าที่เสนารักษ์ประจำอยู่กับ นศท. ทุกกองร้อย และมีรถพยาบาลที่ติดตั้งอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้ป่วยจากโรคลมร้อน ประจำอยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยง พร้อมกำหนดให้ทำการซักซ้อมและประสานงานกับหน่วยที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีความพร้อมในการช่วยเหลือผู้ป่วยจากโรคลมร้อนและส่งกลับไปรับการบริการทางการแพทย์จากโรงพยาบาลในพื้นที่ได้อย่างรวดเร็ว

ในปีนี้ทางกรมแพทย์ทหารบกได้สนับสนุนนวัตกรรม Smart Cooling Bed มาประจำในที่สถานีซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคลมร้อน เพื่อเตรียมการและลดอันตรายจากโรคลมร้อน, ฝึกอบรมครูฝึก เพื่อให้มีความสามารถทำ CPR ช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐาน และสามารถใช้เครื่อง AED กระตุกหัวใจอัตโนมัติ หากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน

มาตรการด้านที่ 3 ด้านการฝึก จัดเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบ-ทดสอบความพร้อมของสิ่งอุปกรณ์ ก่อนการใช้งานทุกครั้ง โดยเฉพาะที่สถานีทดสอบกำลังใจ การไต่หน้าผา-ลงทางดิ่ง สถานีที่มีการใช้สิ่งอุปกรณ์ประเภทกระสุนและวัตถุระเบิด และการฝึกกระโดดร่มแบบพาราเซล รวมทั้งจัดให้มีรถพยาบาล ฝ่ายการแพทย์ พร้อมพลขับประจำในพื้นที่การฝึก, การแต่งตั้งนายทหารนิรภัยการฝึก คอยให้คำแนะนำ ตรวจตรา และกำกับดูแลการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ครูฝึก ให้เป็นไปตามมาตรการรักษาความปลอดภัยที่กำหนดอย่างเคร่งครัด

มาตรการด้านที่ 4 ด้านการเสริมสร้างสุขอนามัย ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ศูนย์ฝึกฯ ได้รับฟังแนวความคิดและปัญหาต่าง ๆ จาก นศท. ที่เข้ามาฝึกในแต่ละปี และได้นำมาแก้ไขพัฒนาปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยยึดโยงกับนโยบายของผู้บังคับบัญชาในเรื่องความปลอดภัยและการฝึกเชิงสร้างสรรค์ นำไปสู่การพัฒนาเพื่อ อาทิ จัดหาห้องสุขาน็อกดาวน์ เพิ่มเติมเป็น 65 ห้อง, ติดเครื่องกรองเพิ่มเติม ที่แท็ก์น้ำขนาด 2,000 ลิตร รวมเป็น 12 จุด เพื่อให้มีจุดบริการน้ำสะอาดที่เพียงพอกับ นศท. (เปลี่ยนทำความสะอาดไส้กรองในทุกๆ 3 เดือน)

จัดหาเต็นท์นอนเพิ่มเติม รวมจำนวน 2,800 หลัง สำหรับ นศท.ชั้นปีที่ 2 และ 3 พร้อทจัดหาเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง ช่วยทำความสะอาดได้ทั่วถึงและประหยัดเวลา และติดตั้งฝักบัวไว้ในทุกโรง เพื่อทำความสะอาดร่างกายหลังการฝึก ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคที่อาจติดมากับคนใดคนหนึ่ง

ทางศูนย์ฝึกฯ จะแจกจ่ายถาดใส่อาหาร (ถาดหลุม) สำหรับใช้ประจำตัว นศท. จนกว่าจะจบการฝึก ป้องกันการปะปนกัน มีการล้างน้ำยา น้ำสะอาด ลวกน้ำร้อนฆ่าเชื้อ ลดไขมันที่เกาะติดถาด และนำใส่ถุงเก็บเพื่อป้องกันฝุ่นละออง ดินทรายที่ลมพัด ถังใส่เศษอาหาร และถังขยะต่างๆ ในพื้นที่ จะมีฝาปิดมิดชิด ไม่ทิ้งหมักเอาไว้ มีถุงดำใส่ รวมไปทิ้งทำลาย ฝึกการคัดแยกขยะเพื่อลดโลกร้อน

มาตรการด้านที่ 5 ความปลอดภัยด้านการประกอบอาหาร ให้ความสำคัญกับสุขอนามัยของแม่ครัวที่มาประกอบอาหาร ใส่ใจความสะอาด สดใหม่ และคุณภาพของวัตถุดิบ รวมถึงความสะอาดของสถานที่ กระบวนการประกอบอาหาร ไปจนถึงภาชนะที่ใช้ และให้ความสำคัญกับเวลาและสถานที่ เพื่อให้ นศท. ได้รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ในสภาวะแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการรับประทานอาหาร

พล.ท.ทวีพูล กล่าวว่า จากการตรวจความพร้อมของเจ้าหน้าที่และครูฝึก นศท. วันนี้ ทั้งด้านการปฐมพยาบาลนักศึกษาวิชาทหาร ด้านการฝึก และด้านอื่นๆ ตามมาตรการทั้ง 5 ด้าน ในการรักษาความปลอดภัยให้กับ นศท. พบว่ามีการเตรียมความพร้อมเป็นอย่างดี รถรับส่งมีความปลอดภัย มีกำลังพลคุ้มกัน ด้านการดูแลสุขภาพ นศท. มีการเตรียมยาและเวชภัณฑ์ไว้พร้อม รวมถึงดูแลพิเศษสำหรับรายที่มีโรคประจำตัว หรือรายที่มีความเสี่ยงว่าขณะฝึกอาจเกิดเหตุสุดวิสัยขึ้นได้ จะมีการผูกริบบิ้นสีแดงไว้ที่อินทรนูแขนขวาเพื่อแสดงให้เห็นชัดเจน ง่ายต่อการสังเกตและการเข้าช่วยเหลือ เมื่อเกิดเหตุ และย้ำว่าการลงโทษ นศท. ที่ผิดวินัยจะไม่เกินกว่าเหตุอย่างแน่นอน โดยจะไปในลักษณะของท่ากายบริหาร และอาจมีการตัดแต้มบ้าง

“การฝึกอาจไม่ได้สบายเหมือนอยู่บ้าน เพราะเป็นการให้ นศท. ได้เผชิญชีวิต เป็นการสร้างวัคซีนชีวิต สร้างภูมิคุ้มกันให้ นศท. เติบโตอย่างเข้มแข็ง” พล.ท.ทวีพูล กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุทหารรัวยิงชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ยังคุมตัวไม่ได้

15 ส.ค.- กองทัพบกแจงเหตุทหารหนีออกจากหน่วยพร้อมอาวุธปืน รัวยิงกลางดึก ชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ราย จนท.เร่งล่า ยังไม่พบตัว หากประชาชนพบเห็นรีบแจ้งทันที กองทัพบกชี้แจงเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 00.45 น. กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุด จำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาเวลา 00.54 น. ได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด จากการตรวจสอบกำลังพลและอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม โดยขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมกับกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นคาดว่าพลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ […]

แจ้งจับ “ภูมิธรรม” ปล่อยกัมพูชารุกราน ทำไทยเสียเปรียบ

ขอนแก่น 15 ส.ค. – องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ปล่อยกัมพูชารุกรานไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.119, ม.120, ม.124 ม.157 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การมาร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ ด้วยเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด แต่รักษาการนายกฯ ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเอง โดยปล่อยปละละเลยทำให้ต่างชาติรุกรานประเทศไทย ต้องปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้มั่นคง แต่ที่ทหารขาขาด บาดเจ็บ ประชาชนล้มตายทรัพย์สินเสียหาย คือ ความร้ายแรงของของผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีต้องทำและต้องปกป้องให้ได้ แต่ไม่มี มีแต่ไปเข้าข้างศัตรูโดยเฉพาะกัมพูชา เป็นโทษร้ายแรงมาก.-สำนักข่าวไทย

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

คณะทูตออตตาวา ลงพื้นที่ศรีสะเกษ

ศรีสะเกษ 16 ส.ค.-รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูตภาคีอนุสัญญาออตตาวา ถึง จ.ศรีสะเกษ ลงพื้นที่สำรวจและตรวจการเก็บกู้ทุ่นระเบิด บริเวณภูมะเขือ ใกล้ปราสาทพระวิหาร หวังให้ประชาคมโลกเข้าใจถึงปัญหา และช่วยกดดันให้กัมพูชาแสดงความจริงใจ เมื่อช่วงใกล้เที่ยงที่ผ่านมา นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้นำคณะทูตจากประเทศภาคีอนุสัญญาออตตาวา และผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ องค์กรภาคประชาสังคมด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิด รวม 36 คน จาก 33 ประเทศ พร้อมสื่อมวลชนไทยและต่างประเทศ เข้าฟังการบรรยายสรุปภาพรวมจังหวัดชายแดน ณ โรงเรียนภูมิซรอลวิทยา อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยมีตัวแทนชาวบ้าน 5 คน ที่ได้รับผลกระทบมาร่วมให้การต้อนรับด้วย บริเวณด้านหน้าห้องประชุมได้ติดตั้งป้ายตัวอย่างความเสียหายบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหาย จากเหตุปะทะ โดยเสียหายหนักและเสียหายทั้งหลัง 36 หลังคาเรือน เสียหายบางส่วน 320 หลังคาเรือน พลเรือนเสียชีวิต 8 ราย บาดเจ็บ 18 ราย สถานที่ราชการ เสียหาย 14 แห่ง ตามกำหนดการเดิม 13.00 น.คณะทูตจะขึ้นไปยังภูมะเขือเพื่อสำรวจพื้นที่ทุ่นระเบิด […]

เก๋งแต่งซิ่ง เสียหลักพุ่งชนยับ 10 คันรวดบนทางด่วน

กทม. 16 ส.ค.-เก๋งแต่งซิ่งประลองความเร็ว เสียหลักพุ่งชนกันยับ 10 คันรวดบนทางด่วนมุ่งหน้าบางปะอิน เจ้าของรถบีเอ็ม เล่านาทีถูกชน เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนกันจำนวนหลายคัน บนทางด่วนช่วงทางขึ้นเมืองทองธานี มุ่งหน้าบางปะอิน โดยภาพจากกล้องหน้ารถยนต์คันหนึ่งบันทึกภาพเวลา 00.59 น.วันนี้ (16 ส.ค.68) รถเก๋งสีขาวจำนวน 3 คัน ขับตามกันมาด้วยความเร็วก่อนเกิดการชนกัน ทำให้รถเสียหลักหมุน ก่อนจะถูกรถเก๋งที่ขับตามมาพุ่งชนซ้ำอีกหลายคัน บางคันเกือบตกทางด่วน หลังตำรวจ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี รับแจ้งเหตุ จึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยการทางพิเศษ เร่งตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถเก๋งแต่งซิ่งประมาณ 10 คัน บางคันเป็นรถหรูราคาแพง ได้รับความเสียหายยับเยิน กีดขวางทั้ง 2 ช่องจราจร มีเศษชิ้นส่วนของรถยนต์ที่แตกและหลุดกระจายเต็มพื้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรปากเกร็ดและเจ้าหน้าที่กู้ภัยการทางพิเศษได้ประสานรถยกเร่งเคลื่อนย้ายรถที่เสียหายออกพร้อมทำความสะอาดคราบน้ำมันและชิ้นส่วนรถยนต์ เพื่อเปิดการจราจรใช้เวลากว่า 3 ชม. จากการสอบถาม นายอชิตพล อายุ 29 ปี เจ้าของรถยนต์บีเอ็ม ที่ถูกชนกล่าวว่า ตนขับรถไปรับแฟนมาจากที่ทำงาน เพื่อจะเดินทางกลับบ้านย่านธรรมศาสตร์รังสิต ขณะที่ขับรถอยู่ในช่องทางขวา เห็นรถเก๋งสีขาวที่ขับตามมาด้วยความเร็ว ตนจะเปลี่ยนเลนหลบไปในช่องทางซ้าย แต่ก็ถูกรถเก๋งคันดังกล่าวพุ่งชนท้ายก่อนที่รถจะเสียหลักหมุน เป็นจังหวะเดียวกันกับรถอีกคันที่ขับตามกันมาด้วยความเร็วพุ่งชนซ้ำอีกครั้ง […]

‘ทรัมป์’ – ‘ปูติน’ หารือไร้ข้อสรุปเรื่องยุติสงครามในยูเครน

แองเคอเรจ, อะแลสกา 15 ส.ค. – การประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ซึ่งทั่วโลกต่างเฝ้ารอคอย ได้สิ้นสุดลงโดยไม่มีข้อตกลงใด ๆ เพื่อยุติหรือพักรบสงครามในยูเครน แม้ว่าผู้นำทั้งสองจะกล่าวว่าการพูดคุยเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ก็ตาม หลังจากการประชุมยาวนานเกือบ 3 ชั่วโมง ในอะแลสกา ผู้นำทั้งสองได้ปรากฏตัวต่อหน้าสื่อเป็นช่วงระยะเวลาสั้น ๆ โดยระบุว่ามีความคืบหน้าในประเด็นต่าง ๆ ที่ไม่ได้ระบุรายละเอียด แต่ไม่ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมใด ๆ และไม่เปิดโอกาสให้ตั้งคำถาม นายทรัมป์ซึ่งปกติเป็นคนช่างพูด กลับเพิกเฉยต่อคำถามที่นักข่าวตะโกนถาม นายทรัมป์กล่าวว่า มีความคืบหน้าบ้าง แต่จะยังไม่มีข้อตกลงใด ๆ จนกว่าจะมีการทำข้อตกลง ดูเหมือนว่าการพูดคุยครั้งนี้จะไม่ได้นำไปสู่การดำเนินการที่มีความหมายเพื่อหยุดยิงในความขัดแย้งที่นองเลือดที่สุดในยุโรปในรอบ 80 ปี ซึ่งเป็นเป้าหมายที่นายทรัมป์ได้ตั้งไว้ก่อนการประชุม แต่เพียงแค่การได้นั่งพูดคุยแบบตัวต่อตัวกับประธานาธิบดีสหรัฐ ก็ถือเป็นชัยชนะสำหรับนายปูตินแล้ว หลังจากเขาถูกผู้นำชาติตะวันตกกีดกันมาโดยตลอดนับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครนเต็มรูปแบบในปี 2022 หลังการประชุมสุดยอด นายทรัมป์ให้สัมภาษณ์กับฟอกซ์นิวส์ ว่าเขาจะชะลอการกำหนดภาษีนำเข้ากับจีนสำหรับการซื้อน้ำมันรัสเซีย หลังจากที่การเจรจากับนายปูตินมีความคืบหน้า นายทรัมป์ยังเคยขู่จะใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย แต่จนถึงขณะนี้เขายังไม่ได้ดำเนินการใด ๆ แม้ว่านายปูตินจะเพิกเฉยต่อเส้นตายหยุดยิงที่นายทรัมป์กำหนดไว้เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ในการให้สัมภาษณ์กับฟอกซ์ นิวส์ นายทรัมป์ยังได้เสนอแนะว่าจะมีการจัดการประชุมระหว่างนายปูตินและประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี […]

กต. นำคณะทูตรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา 33 ประเทศ ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ

กทม. 16 ส.ค.-กต. นำคณะทูตรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา 33 ประเทศ ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ สำรวจความเสียหายการใช้ทุ่นระเบิดของฝั่งกัมพูชา นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยนายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ นำคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียนรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา ผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ และองค์กรภาคประชาสังคมด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ลงพื้นที่จ.ศรีษะเกษ เพื่อชี้แจงข้อมูลและเหตุผลเกี่ยวกับการดำเนินการของไทย โดยมีคณะทูตและผู้แทน จำนวน 36 คน แบ่งเป็น 33 ประเทศ 1 องค์กร 2 องค์การระหว่างประเทศ สื่อมวลชนไทยและสื่อต่างประเทศ เข้าร่วม ทั้งนี้ ก่อนออกเดินทางกระทรวการต่างประเทศได้บรรยายข้อมูลเบื้องต้นให้คณะได้รับทราบ โดยนายมาริษ กล่าวกับคณะทูต ว่า ขอบคุณที่ร่วมเดินทาง และหวังว่าทุกท่านจะได้รับข้อมูลด้วยตาตัวเองถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะเดินทางออกไปยัง จ.ศรีสะเกษ โดยจุดแรกจะนำคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียนรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวาเดินทางไปโรงเรียนภูมิซรอลวิทยา ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษณ์ เพื่อรับฟังบรรยายสรุปจากกองทัพบก กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงมหาดไทย จากนั้นจะนำคณะทูตและสื่อมวลชนขึ้นไปภูมะเขือ และฐานปฏิบัติการ เพื่อดูภูมิประเทศ เยี่ยมชมการเก็บกู้ทุนระเบิดของหน่วยปฏิบัติการด้านทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมในพื้นที่ภูมะเขือ สำรวจความเสียหายที่เกิดจากการใช้ทุ่นระเบิดของฝั่งกัมพูชา.-316.-สำนักข่าวไทย