‘ผบ.นรด.’ ตรวจความพร้อมค่ายเขาชนไก่ รับ นศท.กว่า 7 หมื่นคน

7 ม.ค. – ‘ผบ.นรด.’ เช็กความพร้อมค่ายเขาชนไก่” รับนักศึกษาวิชาทหารกว่า 70,000 คน เน้นปลอดภัย สร้างความมั่นใจในการฝึกภาคสนาม


เมื่อวันที่ 7 ม.ค. 2567 ที่ค่ายฝึกนักศึกษาวิชาทหาร (นศท.) เขาชนไก่ จ.กาญจนบุรี พล.ท.ทวีพูล ริมสาคร ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (ผบ.นรด.) เป็นประธานการประกอบพิธีทางศาสนาและบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในค่ายฝึกนักศึกษาวิชาทหารเขาชนไก่ และเปิดกองอำนวยการฝึกภาคสนามนักศึกษาวิชาทหาร พร้อมกันนี้ได้นำเตรียมความพร้อมใน 5 มาตรการความปลอดภัยในการฝึกนักศึกษาวิชาทหาร

เพื่อสร้างความมั่นใจและคลายความกังวลให้แก่ผู้ปกครอง จากนโยบายการฝึกภาคสนาม และข้อห่วงใยของผู้บังคับบัญชาที่ให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยของนักศึกษาวิชาทหาร (นศท.) เป็นอันดับแรก หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (นรด.) จึงได้กำหนดมาตรการหลัก 5 ประการ ให้กับส่วนที่เกี่ยวข้องได้ยึดถือปฏิบัติ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับ นศท. ที่เข้ารับการฝึก รวมทั้งเพื่อสร้างความมั่นใจและคลายความวิตกกังวลแก่ผู้ปกครอง ในการฝึกภาคสนาม นศท.ประจำปีการศึกษา 2566 จะมี นศท.ชั้นปีที่ 2-3 จากส่วนกลาง และ นศท.ชั้นปีที่ 4-5 จากทั่วประเทศ เข้ารับการฝึก ณ ค่ายฝึก นศท.เขาชนไก่ มากกว่า 72,000 คน


มาตรการด้านที่ 1 ความปลอดภัยในการเคลื่อนย้าย จัดรถโดยสารรับ-ส่ง นศท. จาก กทม. ไป-กลับค่ายฝึกเขาชนไก่ กว่า 1,900 เที่ยว โดยมีวันที่มากที่สุดถึง 63 คัน รถโดยสารทุกคันได้มาตรฐาน มีประสิทธิภาพ ผ่านการประมูลแบบ e-bidding ตามข้อสัญญาในหลักเกณฑ์ที่กำหนด, ตรวจสภาพความพร้อมของพนักงานขับรถและรถโดยสาร ให้พร้อมและปลอดภัยในการใช้งาน โดยจัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบก่อนออกเดินทางในช่วงเช้าของทุกวัน

จัดเจ้าหน้าที่ชุดเคลื่อนย้ายประจำอยู่บนรถโดยสารทุกคัน เพื่อกำกับดูแลในระหว่างการเคลื่อนย้ายให้เกิดความปลอดภัย จัดให้มีแผนเผชิญเหตุในกรณีต่างๆ และได้ทำการฝึกทบทวนการปฐมพยาบาล เบื้องต้นให้กับเจ้าหน้าที่ชุดเคลื่อนย้าย และขอรับการสนับสนุนชุดปฐมพยาบาลขบวนล่ะ 1 ชุด กรณีเกิดเหตุเจ็บป่วยระหว่างการเดินทาง โดยมีแผนบรรทุก นศท. จำนวน 42 คนต่อคัน

จัดรถนำขบวนจาก มทบ.11 และ มทบ.17 ร่วมกับตำรวจทางหลวง ตำรวจภูธรจังหวัด และตำรวจภูธรอำเภอ ในแต่ละพื้น เพื่ออำนวยความสะดวก ควบคุมระยะต่อและจำกัดความเร็วของขบวนรถตลอดเส้นทางทั้งไปและกลับ


มาตรการด้านที่ 2 การให้บริการทางการแพทย์ จัดทำบัตรข้อมูลประจำตัว นศท. ให้พกติดตัวไว้ที่กระเป๋าเสื้อด้านขวาตลอดเวลาที่เข้ารับการฝึก (ชื่อ-สกุล อายุ หมู่เลือด โรคประจำตัว ยาที่แพ้ หมายเลขบัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ผู้ปกครอง และเพื่อนสนิท) ช่วยให้สามารถช่วยเหลือ นศท. ที่เจ็บป่วยหรือบาดเจ็บได้อย่างรวดเร็ว

จัดเจ้าหน้าที่เสนารักษ์ประจำอยู่กับ นศท.ทุกกองร้อย และมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายการแพทย์ พร้อมยาและเวชภัณฑ์ประจำกองอำนวยการฝึกฯ พร้อม 24 ชั่วโมง รวมทั้งยังได้ดำเนินโครงการ “นักศึกษาวิชาทหารปลอดภัยจากการฝึก” ของกรมแพทย์ทหารบก โดยได้รับการสนับสนุนจากโรงพยาบาลค่ายสุรสีห์ และโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา ที่อยู่ในพื้นที่, ติดสัญลักษณ์ (ผูกโบว์สีแดงแขนเสื้อด้านขวา) เพื่อให้ครูฝึกได้สังเกตและเฝ้าระวัง นศท. ที่มีความเสี่ยง เช่น เป็นโรคอ้วน หรือมีโรคประจำตัว

ความปลอดภัยจากโรคลมร้อน โดยได้อบรมครูฝึกทุกนายให้มีความรู้และทักษะพื้นฐานในการช่วยเหลือผู้ป่วยโรคลมร้อน รวมทั้งสร้างการรับรู้ให้ นศท. โดยการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์เผยแพร่ทางสื่อโซเชียลก่อนเข้ารับการฝึก และจัดการอบรม เพื่อให้ นศท. ได้รู้ถึงวิธีการป้องกันตนเอง วิธีการสังเกตอาการ และวิธีการปฏิบัติเมื่อตนเองหรือเพื่อนๆ มีอาการของโรคลมร้อน พร้อมกำหนดให้เจ้าหน้าที่ส่วนปกครองเน้นย้ำให้ นศท.ทุกนายให้ความสำคัญกับการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย และสังเกตสีปัสสาวะของตนเองทุกวัน รวมทั้งกวดขันให้ นศท. เติมน้ำให้เต็มกระติกก่อนออกไปทำการฝึก และดื่มน้ำทุกๆ 1 ชั่วโมง เพื่อช่วยระบายความร้อนของร่างกาย

ติดตั้งเครื่องมือวัดอุณหภูมิ วัดค่าความชื้นสัมพัทธ์ และธงสัญญาณในพื้นที่การฝึก เพื่อใช้ในการแจ้งเตือนและปรับระยะเวลาการฝึกให้เหมาะสมกับสภาพอากาศ, จัดเจ้าหน้าที่เสนารักษ์ประจำอยู่กับ นศท. ทุกกองร้อย และมีรถพยาบาลที่ติดตั้งอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้ป่วยจากโรคลมร้อน ประจำอยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยง พร้อมกำหนดให้ทำการซักซ้อมและประสานงานกับหน่วยที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีความพร้อมในการช่วยเหลือผู้ป่วยจากโรคลมร้อนและส่งกลับไปรับการบริการทางการแพทย์จากโรงพยาบาลในพื้นที่ได้อย่างรวดเร็ว

ในปีนี้ทางกรมแพทย์ทหารบกได้สนับสนุนนวัตกรรม Smart Cooling Bed มาประจำในที่สถานีซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคลมร้อน เพื่อเตรียมการและลดอันตรายจากโรคลมร้อน, ฝึกอบรมครูฝึก เพื่อให้มีความสามารถทำ CPR ช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐาน และสามารถใช้เครื่อง AED กระตุกหัวใจอัตโนมัติ หากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน

มาตรการด้านที่ 3 ด้านการฝึก จัดเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบ-ทดสอบความพร้อมของสิ่งอุปกรณ์ ก่อนการใช้งานทุกครั้ง โดยเฉพาะที่สถานีทดสอบกำลังใจ การไต่หน้าผา-ลงทางดิ่ง สถานีที่มีการใช้สิ่งอุปกรณ์ประเภทกระสุนและวัตถุระเบิด และการฝึกกระโดดร่มแบบพาราเซล รวมทั้งจัดให้มีรถพยาบาล ฝ่ายการแพทย์ พร้อมพลขับประจำในพื้นที่การฝึก, การแต่งตั้งนายทหารนิรภัยการฝึก คอยให้คำแนะนำ ตรวจตรา และกำกับดูแลการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ครูฝึก ให้เป็นไปตามมาตรการรักษาความปลอดภัยที่กำหนดอย่างเคร่งครัด

มาตรการด้านที่ 4 ด้านการเสริมสร้างสุขอนามัย ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ศูนย์ฝึกฯ ได้รับฟังแนวความคิดและปัญหาต่าง ๆ จาก นศท. ที่เข้ามาฝึกในแต่ละปี และได้นำมาแก้ไขพัฒนาปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยยึดโยงกับนโยบายของผู้บังคับบัญชาในเรื่องความปลอดภัยและการฝึกเชิงสร้างสรรค์ นำไปสู่การพัฒนาเพื่อ อาทิ จัดหาห้องสุขาน็อกดาวน์ เพิ่มเติมเป็น 65 ห้อง, ติดเครื่องกรองเพิ่มเติม ที่แท็ก์น้ำขนาด 2,000 ลิตร รวมเป็น 12 จุด เพื่อให้มีจุดบริการน้ำสะอาดที่เพียงพอกับ นศท. (เปลี่ยนทำความสะอาดไส้กรองในทุกๆ 3 เดือน)

จัดหาเต็นท์นอนเพิ่มเติม รวมจำนวน 2,800 หลัง สำหรับ นศท.ชั้นปีที่ 2 และ 3 พร้อทจัดหาเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง ช่วยทำความสะอาดได้ทั่วถึงและประหยัดเวลา และติดตั้งฝักบัวไว้ในทุกโรง เพื่อทำความสะอาดร่างกายหลังการฝึก ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคที่อาจติดมากับคนใดคนหนึ่ง

ทางศูนย์ฝึกฯ จะแจกจ่ายถาดใส่อาหาร (ถาดหลุม) สำหรับใช้ประจำตัว นศท. จนกว่าจะจบการฝึก ป้องกันการปะปนกัน มีการล้างน้ำยา น้ำสะอาด ลวกน้ำร้อนฆ่าเชื้อ ลดไขมันที่เกาะติดถาด และนำใส่ถุงเก็บเพื่อป้องกันฝุ่นละออง ดินทรายที่ลมพัด ถังใส่เศษอาหาร และถังขยะต่างๆ ในพื้นที่ จะมีฝาปิดมิดชิด ไม่ทิ้งหมักเอาไว้ มีถุงดำใส่ รวมไปทิ้งทำลาย ฝึกการคัดแยกขยะเพื่อลดโลกร้อน

มาตรการด้านที่ 5 ความปลอดภัยด้านการประกอบอาหาร ให้ความสำคัญกับสุขอนามัยของแม่ครัวที่มาประกอบอาหาร ใส่ใจความสะอาด สดใหม่ และคุณภาพของวัตถุดิบ รวมถึงความสะอาดของสถานที่ กระบวนการประกอบอาหาร ไปจนถึงภาชนะที่ใช้ และให้ความสำคัญกับเวลาและสถานที่ เพื่อให้ นศท. ได้รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ในสภาวะแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการรับประทานอาหาร

พล.ท.ทวีพูล กล่าวว่า จากการตรวจความพร้อมของเจ้าหน้าที่และครูฝึก นศท. วันนี้ ทั้งด้านการปฐมพยาบาลนักศึกษาวิชาทหาร ด้านการฝึก และด้านอื่นๆ ตามมาตรการทั้ง 5 ด้าน ในการรักษาความปลอดภัยให้กับ นศท. พบว่ามีการเตรียมความพร้อมเป็นอย่างดี รถรับส่งมีความปลอดภัย มีกำลังพลคุ้มกัน ด้านการดูแลสุขภาพ นศท. มีการเตรียมยาและเวชภัณฑ์ไว้พร้อม รวมถึงดูแลพิเศษสำหรับรายที่มีโรคประจำตัว หรือรายที่มีความเสี่ยงว่าขณะฝึกอาจเกิดเหตุสุดวิสัยขึ้นได้ จะมีการผูกริบบิ้นสีแดงไว้ที่อินทรนูแขนขวาเพื่อแสดงให้เห็นชัดเจน ง่ายต่อการสังเกตและการเข้าช่วยเหลือ เมื่อเกิดเหตุ และย้ำว่าการลงโทษ นศท. ที่ผิดวินัยจะไม่เกินกว่าเหตุอย่างแน่นอน โดยจะไปในลักษณะของท่ากายบริหาร และอาจมีการตัดแต้มบ้าง

“การฝึกอาจไม่ได้สบายเหมือนอยู่บ้าน เพราะเป็นการให้ นศท. ได้เผชิญชีวิต เป็นการสร้างวัคซีนชีวิต สร้างภูมิคุ้มกันให้ นศท. เติบโตอย่างเข้มแข็ง” พล.ท.ทวีพูล กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

เตือนไทยตอนบนฝนตกหนัก-พายุหวู่ติบ ขึ้นฝั่งจีนวันนี้

กทม. 14 มิ.ย.- กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบน มีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนลดลง ขณะที่พายุ “หวู่ติบ” ขึ้นฝั่งจีนวันนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน และประเทศลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุโซนร้อนกำลังแรง “หวู่ติบ” บริเวณอ่าวตังเกี๋ย คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีนในวันนี้ (14 มิ.ย. 68) โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางในช่วงวันดังกล่าวไว้ด้วย – สำนักข่าวไทย

แอร์อินเดียบินกลับเดลีแล้ว หลังตรวจไม่เจอระเบิด

ภูเก็ต 13 มิ.ย. – เครื่องบินแอร์อินเดีย พร้อมผู้โดยสาร 155 คน ออกจากสนามบินภูเก็ต กลับเมืองเดลีแล้ว หลังตรวจละเอียดยิบ ไม่พบระเบิดตามจดหมายขู่ สอบเครียด 3 ผู้ต้องสงสัยชาวอินเดีย แต่ต้องปล่อยไป เพราะไร้หลักฐานมัด ยันไม่กระทบการให้บริการท่าอากาศยานฯ เมื่อเวลา 09.30 น. หอบังคับการบินสนามบินภูเก็ต ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์ควบคุมการบิน บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ว่าลูกเรือสายการบิน AIR INDIA เที่ยวบินที่ AI 379 เส้นทางบิน HKT-ภูเก็ต-DEL (เดลี) ผู้โดยสารจำนวน 156 คน พบข้อความขู่วางระเบิดในแผ่นกระดาษระบุว่า ‘F… you all bomb’ วางไว้ในห้องน้ำ จากนั้นสายการบินได้ประกาศเข้าสู่แผนฉุกเฉิน ให้นักบินนำเครื่องบินมาลงที่สนามบินภูเก็ต โดยทางสนามบินภูเก็ต ได้ประกาศใช้แผนเผชิญเหตุของสนามบิน Airport Contingency Plan และดำเนินการตั้งศูนย์อำนวยการสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ EOC เพื่อควบคุมและบริหารจัดการสถานการณ์ตามแผนฯ […]

คดี “ทักษิณ” ชั้น 14 ศาลเรียกพยาน 20 ปาก-นัดไต่สวนอีก 6 นัด ก.ค.นี้

กรุงเทพฯ 13 มิ.ย. – คดี “ทักษิณ” วันนี้ ศาลเตรียมเรียกพยาน 20 ปาก พร้อมนัดไต่สวนอีก 6 นัด ช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ ถือเป็นการเริ่มกระบวนการไต่สวนเรื่องการบังคับคดีของอดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

ผู้ว่าฯ สระแก้ว ยืนยันไม่มีการปิดด่านบ้านคลองลึก

สระแก้ว 13 มิ.ย. – ผู้ว่าฯ สระแก้ว ลงพื้นที่สยบข่าวลือปิดด่านคลองลึก หลังชาวไทย-กัมพูชา ตื่นตระหนกแห่ข้ามฝั่ง จนเกิดความวุ่นวายหน้าด่าน ขณะฝั่งปอยเปตเริ่มตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เกิดความวุ่นวายขึ้นในช่วงเวลาประมาณ 12.30 น. หลังจากมีกระแสข่าวลือในกลุ่มผู้ค้าชาวกัมพูชาและชาวไทย ว่าทางการจะมีคำสั่งปิดด่านชั่วคราวในช่วงบ่าย ระหว่างเวลา 13.00-14.00 น. ทำให้ประชาชนทั้ง 2 ฝั่งเร่งรีบข้ามแดนและสอบถามข้อมูลกันอย่างจ้าละหวั่น โดยข่าวลือดังกล่าวแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว พ่อค้าแม่ค้าจำนวนมากเดินทางข้ามแดนก่อนถึงช่วงเวลาที่เข้าใจกันว่าจะปิดด่าน ทำให้บรรยากาศหน้าด่านเต็มไปด้วยความตึงเครียดและสับสน ด้านผู้ว่าฯ สระแก้ว ลงพื้นที่ชี้แจงเรื่องดังกล่าว ยืนยันไม่มีคำสั่งปิดด่าน พร้อมขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก และย้ำชัดว่าเวลาการเปิด-ปิดด่านยังคงเป็นไปตามประกาศเดิมของกองกำลังบูรพา คือเปิด 08.00-16.00 น. ทุกวัน โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือคำสั่งใหม่ ฝั่งปอยเปตเริ่มตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากไทยแหล่งข่าวด้านความมั่นคงกัมพูชา เปิดเผยว่า ฝ่ายปกครองในฝั่งปอยเปตได้ดำเนินการตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต ที่เชื่อมโยงกับฝั่งไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการควบคุมข้อมูลและสื่อสารในพื้นที่ชายแดน ฝั่งกัมพูชาปิดด่านบ้านแหลมไม่แจ้งล่วงหน้าส่วนบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี เมื่อเวลา 10.45 น. เกิดความวุ่นวาย หลังฝั่งกัมพูชา มีการปิดประตูด่านฝั่ง ต.บึงรัง […]