ทำเนียบ 4 ม.ค.- โฆษกรัฐบาล ย้ำ 1 ม.ค. – 15 ก.พ. 67 หากซื้อสินค้าหรือรับบริการตามที่กำหนด ขอรับใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อลดหย่อนภาษีได้
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงมาตรการ “Easy E-Receipt” ย้ำเตือนคนไทยผู้ซื้อสินค้าหรือรับบริการ ตามที่กฎหมายกำหนด ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 ขอหลักฐานเป็นใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice หรือ e-Receipt) ยอดรวมสูงสุดถึง 50,000 บาท สามารถลดหย่อนภาษีได้
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สนับสนุนให้เกิดการกระตุ้นการบริโภคในประเทศ เชื่อมั่นว่าจะเป็นแรงส่งกระตุ้นภาพรวมเศรษฐกิจประเทศให้ขยายตัว และต้องการสนับสนุนผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษีให้ใช้ระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบภาษี และการใช้ระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์ จึงได้กำหนดมาตรการ “Easy E-Receipt” กระตุ้นการใช้จ่าย โดยให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี ซึ่งมีหลักเกณฑ์ และเงื่อนไข ตามกฎกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 391 (พ.ศ. 2566) ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร ให้เป็นค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการ ดังต่อไปนี้ (1) ค่าซื้อหนังสือ หนังสือพิมพ์ และนิตยสาร (2) ค่าบริการหนังสือ หนังสือพิมพ์ และนิตยสาร ที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต (3) ค่าซื้อสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้ลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชนแล้ว
“โดยไม่รวมถึงค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการ ดังต่อไปนี้ ค่าซื้อสุรา เบียร์ และไวน์,ค่าซื้อยาสูบ,ค่าซื้อน้ำมันและก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ,ค่าซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือ,ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าบริการสัญญาณโทรศัพท์ และค่าบริการสัญญาณอินเทอร์เน็ต,ค่าบริการที่มีข้อตกลงการให้บริการและผู้รับบริการสามารถใช้บริการดังกล่าวนอกเหนือจากระยะเวลาตามที่กำหนดในข้อ 1 และค่าเบี้ยประกันวินาศภัย”นายชัย กล่าว
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า ผู้ที่ใช้สิทธิประโยชน์ ตามมาตรการ Easy E-Receipt คือบุคคลธรรมดา เท่านั้น ไม่รวม ห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือ คณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล ส่วนใบกำกับภาษีต้องมีชื่อผู้ซื้อสินค้าหรือชำระค่าบริการเพียงคนเดียว โดยผู้ซื้อมีที่อยู่ตามบัตรประชาชน กับที่อยู่ในแบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคลแตกต่างกันจะใช้ที่อยู่ตามบัตรประชาชน หรือ ที่อยู่ปัจจุบันก็ได้ และต้องเป็นการชำระค่าบริการและใช้บริการ ในช่วง 1 มกราคม 2567 ถึง 15 กุมภาพันธ์ 2567เท่านั้น
สำหรับค่าซื้ออาหารในโรงแรม สามารถนำมาลดหย่อนได้ หากโรงแรมสามารถออกใบกำกับภาษีแบบเต็ม ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ e-Tax Invoice ของค่าซื้ออาหารได้ ส่วนค่าซื้อแพคเกจทัวร์ท่องเที่ยวในประเทศ สามารถนำมาลดหย่อนได้ หากเป็นค่าที่พักโรงแรมหรือบริการนำเที่ยวระหว่าง 1 มกราคม 2567 ถึง 15 กุมภาพันธ์ 2567 และผู้ประกอบการสามารถออกใบกำกับภาษีแบบเต็ม ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ e-Tax Invoice ได้
ขณะที่ค่าซ่อมรถ สามารถนำมาลดหย่อนได้ หากเป็นการซ่อมและจ่ายค่าซ่อม ระหว่าง 1 มกราคม 2567 ถึง 15 กุมภาพันธ์ 2567 และผู้ประกอบการสามารถออกใบกำกับภาษีแบบเต็ม ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ e-Tax Invoice ได้
ส่วนการซื้อทองรูปพรรณสามารถนำมาลดหย่อนเป็นค่าซื้อสินค้าได้ เฉพาะค่ากำเหน็จ (ตามมูลค่าที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม) หากผู้ประกอบการสามารถออกใบกำกับภาษีแบบเต็ม ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ e-Tax Invoice ได้ สำหรับค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าโทรศัพท์ ไม่สามารถนำมาลดหย่อนเป็นค่าซื้อสินค้าหรือบริการในประเทศได้.-316.-สำนักข่าวไทย