นายกฯ เปิดงาน Thailand Biennale, Chiang Rai 2023

เชียงราย 10 ธ.ค.-นายกฯ เปิดงานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยระดับนานาชาติ (Thailand Biennale, Chiang Rai 2023) สุดยิ่งใหญ่ ศิลปินร่วมสมัยจากทั่วโลกร่วมงานคึกคัก โชว์งานศิลปะต้อนรับนักท่องเที่ยวมาเยือนจังหวัดเชียงราย

เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานพิธีเปิดงานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยระดับนานาชาติ Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 ภายใต้แนวคิด ‘เปิดโลก’ หรือ ‘The Open World’ ซึ่งกระทรวงวัฒนธรรม โดยสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย (สศร.) ร่วมกับจังหวัดเชียงราย และภาคีเครือข่ายทั้งในและต่างประเทศ โดยมีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร รองประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ศาสตรเมธี ดร.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ นางลาลีวรรณ กาญจนจารี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม นายสุรพล เกียรติไชยากร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม ศิลปินเชียงราย ประชาชน แขกผู้มีเกียรติ และสื่อมวลชน เข้าร่วมงานกว่า 2,500 คน ณ หอศิลป์ร่วมสมัยเมืองเชียงราย Chiang Rai International Art Museum (CIAM) จังหวัดเชียงราย


ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้ชมการแสดงศิลปะวัฒนธรรมร่วมสมัย ชมผลงานของเหล่าศิลปิน และทำพิธีเปิดงานอย่างยิ่งใหญ่ ตระการตาด้วยการแสดง แสง สีเสียง การแนะนำศิลปินและผลงานศิลปะของแต่ละประเทศ พร้อมเยี่ยมชมผลงานและร่วมพูดคุยกับศิลปินจากนานาชาติ

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในเดือนธันวาคมปีนี้ ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงาน มหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ ‘Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 โดยบูรณาการการทำงานร่วมกันกระทรวงวัฒนธรรม โดยสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย (สศร.) จังหวัดเชียงราย ตลอดจนองค์กรเครือข่ายทั้งในและต่างประเทศ พร้อมด้วยผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์และภัณฑารักษ์ ศิลปินร่วมสมัยชาวไทยและชาวต่างประเทศ ผู้มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในระดับโลก 60 คนจาก 21 ประเทศ ที่ได้มาร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานศิลปะร่วมกับเครือข่ายศิลปินเชียงราย ในช่วงระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา โดยใช้พลังของ Soft Power ต่อยอดและยกระดับกิจกรรมงานเทศกาล ประเพณีไทย และศิลปวัฒนธรรมจากระดับประเทศ สู่ระดับระดับโลก เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยว สอดคล้องกับแนวทางการส่งเสริมโครงการ Winter Festival ของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ


การเปิดโลกศิลปะ เปิดบ้านเชียงราย ในครั้งนี้จึงเป็น กลไกสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและพัฒนาเชียงรายให้ก้าวสู่เมืองเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และก้าวสู่การเป็นเมืองศิลปะระดับโลกอย่างสมดุลและยั่งยืนบนพื้นฐานของความหลากหลายทางศิลปวัฒนธรรมอย่างแท้จริง จึงขอเชิญชวนชาวไทยและชาวเชียงรายร่วมกันเป็นเจ้าบ้านที่ดี เปิดบ้านอบอุ่นต้อนรับศิลปินและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่มาเยือนประเทศไทยของเรา เพื่อชมงานศิลปะร่วมสมัยอันทรงคุณค่า ชมความสวยงามของทิวทัศน์ธรรมชาติ อีกทั้งวัฒนธรรมประเพณีอันงดงาม แวะชิมอาหารท้องถิ่นหลากรส ร่วมเติมเต็มความสดชื่นและสีสัน ร่วมเปิดโลกสู่งานไทยแลนด์ เบียนนาเล่เชียงราย 2023 ไปพร้อมๆ กัน

นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวต่อว่า งานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ ไทยแลนด์เบียนนาเล่ได้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ซึ่งกระทรวงวัฒนธรรมตั้งเป้าผลการจัดงานครั้งนี้จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาร่วมชมนิทรรศการมากกว่า 5 ล้านคน เกิดการจ้างงานมากกว่า 8,000 อัตรา ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพรวมทางเศรษฐกิจ และก่อให้เกิดรายได้หมุนเวียนในจังหวัดเชียงรายและจังหวัดทางภาคเหนือของประเทศไทยไม่น้อยกว่า 3,000 ล้านบาท ในช่วง 5 เดือนเต็มของการจัดแสดงนิทรรศการ และความสำเร็จของการจัดงาน จะทำให้เชียงราย ไม่เพียงมีความงดงามจากธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ มีมรดกทางศิลปวัฒนธรรมอันเก่าแก่กว่า 700 ปี ยังมีศักยภาพอันเข้มแข็งของชุมชน ศิลปินเชียงราย ซึ่งมีอาจารย์ถวัลย์ ดัชนีและอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ สองศิลปินแห่งชาติชาวเชียงราย เป็นต้นแบบที่ดีในการสร้างสรรค์เมืองเชียงราย เหล่านี้จะทำให้เชียงรายเป็นเมืองศิลปะ ที่สามารถขับเคลื่อนมิติทางศิลปวัฒนธรรมสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ สร้างภาพลักษณ์ที่ดีของไทยในเวทีโลก

นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ที่ผ่านมาจังหวัดเชียงรายได้บูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อให้งาน Thailand Biennale,Chiang Rai 2023 ขับเคลื่อนเมืองเชียงรายให้มีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยสีสันบรรยากาศของงานศิลปะร่วมสมัย ที่ครอบคลุมในทุกมิติ เช่นการเปิดพื้นที่การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านเทคนิคและแนวคิดในการทำงานระหว่างศิลปินนานาชาติ ศิลปินเชียงราย สล่าและปราชญ์ชาวบ้าน กิจกรรมเสวนาทางวิชาการ มิติการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม กิจกรรมเวิร์คชอปและนิทรรศการในพาวิลเลี่ยนต่างๆ ทั้ง 13 พาวิลเลี่ยน ตลอดจนการเปิดบ้านศิลปินมากกว่า 62 แห่ง ในอำเภอต่างๆ ของจังหวัดเชียงราย เพื่อสร้างการรับรู้ และยังเป็นการนำมิติด้านศิลปวัฒนธรรมเชื่อมโยงผู้คนไปสู่การพัฒนาเมืองเชียงรายให้ก้าวไปสู่ชุมชนศิลปะร่วมสมัยซึ่งมีความเป็นพหุวัฒนธรรมที่เข้มแข็งในแบบฉบับของเชียงรายอีกด้วย


ด้านผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ คุณฤกษ์ฤทธิ์ ตีระวนิช และคุณกฤติยา กาวีวงศ์ พร้อมด้วยทีมภัณฑารักษ์ อังกฤษ อัจฉริยโสภณ และคุณมนุพร เหลืองอร่าม ย้ำถึงจุดเด่นของงานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยระดับนานาชาติ ‘Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 ภายใต้แนวคิด เปิดโลก หรือ The Open World ว่า เป็นการเปิดมุมมองใหม่ให้กับวงการศิลปะร่วมสมัย ด้วยการเชื่อมโยงพหุวัฒนธรรมของเชียงรายที่มีประวัติศาตร์ยาวนานกว่า 700 ปี นำเสนอผ่านมุมมองของศิลปินอย่างลุ่มลึกด้วยเทคนิคและเนื้อหา ที่เชื้อเชิญให้ผู้ชมร่วมขบคิด และตีความไปด้วยกัน ซึ่งนอกจากการจัดแสดงผลงานในพื้นที่หลักของอำเภอเมือง เช่น อุทยานศิลปะวัฒนธรรมแม่ฟ้าหลวง ศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวัน พิธภัณฑ์บ้านดำ วัดร่องขุ่น หอศิลป์ร่วมสมัยเมืองเชียงราย (CIAM) พิพิธภัณฑ์อารยธรรมลุ่มน้ำโขง ศาลากลางจังหวัดเชียงรายหลังเก่า โกดังยาสูบ และห้องสมุดรถไฟ ซึ่งเป็นพื้นที่จัดแสดงหลักในอำเภอเมืองแล้ว อำเภอเชียงแสนยังมี ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ เชียงแสน วัดป่าสัก ศรีดอนมูลอาร์ตสเปซ ช้างแวร์เฮาส์ โบราณสถานหมายเลข 16 ศูนย์ดิจิทัลชุมชนตำบลเวียงเชียงแสน โรงเรียนบ้านแม่มะ รวมถึงบ้านสวนสมพงษ์ อ.แม่ลาว และพื้นที่กิจกรรมพิเศษ ได้แก่ สิงห์ปาร์คเชียงรายและ มโนรมย์

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม Pavillion หรือ ศาลาจัดแสดงผลงาน Collateral Events จำนวน 13 แห่ง กระจายตัวอยู่ตามอำเภอต่าง ๆ เช่นอำเภอเมือง อำเภอแม่ลาวและอำเภอพาน พร้อมด้วยกิจกรรมคู่ขนานอื่นๆ ซึ่งจะเกิดขึ้นนับจากนี้ไปจนถึงวันที่ 30 เมษายน 2567 ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดกิจกรรมและรายชื่อ ศิลปินทั้ง 60 คนได้จากศูนย์ข้อหอศิลป์ร่วมสมัยเมืองเชียงราย หรือ Chiang Rai International Art Museum (CIAM) วัดร่องขุ่น และเพจ Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 /@thailandbiennale และเว็บไซต์ https://www.thailandbiennale.org/ .-612.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แม่น้ำยมล้นพนังกั้นน้ำ ชาวบ้าน-พระ เดือดร้อน

สุโขทัย 28 ส.ค. – หลายพื้นที่เมืองสุโขทัย จมอยู่ใต้น้ำและขยายวงกว้าง แม่น้ำยมล้นพนังกั้นน้ำ ด้านหลังวัดปากแคว พระและชาวบ้าน ช่วยกันขนสิ่งของหนีน้ำ ภาพมุมสูง เผยให้เห็นสภาพน้ำท่วมสูงภายในวัดปากแคว และบริเวณโดยรอบ ทหารนำกำลังพล 22 นาย ลงพื้นที่ช่วยเหลือ พระวัดปากแคว ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 2 หมู่ 4 ต.ปากแคว 4 ชุมชน ในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ถูกน้ำท่วมขยายวงกว้าง รถยนต์จมน้ำหลายคัน ด้านหลังวัดปากแคว อำเภอเมือง แม่น้ำยมผนังกั้นน้ำล้นตลิ่ง มวลน้ำมหาศาล ทะลักเข้าท่วมเต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงรอบวัดเกือบ 2 เมตร ทะลักเข้าท่วม ไหลข้ามถนนจรดวิถีถ่อง ระยะทางกว่า 500 เมตร ต้องปิดกั้นถนนห้ามสัญจรไปมา พระครูปลัดสุวัฒนสาธุคุณ (พระอาจารย์นาค) เจ้าคณะตำบลบ้านกล้วย เจ้าอาวาสวัดพายชุมพล หลังทราบข่าว ระดับน้ำท่วม ในวัดปากแคว รีบนำอาหารกล่องพร้อมทั้งถุงยังชีพ เข้าไปถวายพระสงฆ์ 18 รูป ที่จำพรรษาอยู่ในวัดปากแคว เร่งหาผู้สูญหายที่แม่ฮ่องสอน […]

เร่งค้นหาอีก 3 ผู้สูญหายดินถล่มปางอุ๋ง ท่ามกลางความหวังของญาติ

28 ส.ค. – เข้าสู่วันที่ 2 ของเหตุดินโคลนถล่มบ้านปางอุ๋ง หมู่บ้านกลางหุบเขา อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายอีก 3 ราย โดยระดมกำลังนับร้อยนายพร้อมเครื่องจักรเดินหน้าค้นหา ท่ามกลางบรรดาญาติที่เฝ้ารอด้วยความหวัง ล่าสุดวันนี้พบร่างผู้เสียชีวิตอีก 2 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้เพิ่มเป็น 6 ราย และยังสูญหายอีก 3 คน ขณะที่หลายครอบครัวต้องสูญเสียบ้านที่อยู่มาหลายสิบปีและยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นสร้างขึ้นใหม่ได้อย่างไร.-สำนักข่าวไทย

ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. โผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด

กทม. 28 ส.ค.-ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. หลัง “ภูมิธรรม” ถกลับ ผบ.ตร. นานหลายชั่วโมง เหตุมีหนังสือร้องเรียนจำนวนมาก ทำโผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. เป็นประธานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 7/2568 ณ ห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 มีระเบียบวาระการประชุม 5 วาระ ประกอบด้วย วาระที่ 1 เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ /วาระที่ 2 รับรองรายงานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 6/2568 /วาระที่ 3 เรื่องที่เสนอเพื่อทราบ เรื่องที่ 1 รายงานการดำเนินการของ อ.ก.ตร.สืบสวนสอบสวน ที่ ก.ตร. มอบหมายให้ทำการแทน […]

กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา เขต อ.อรัญประเทศ

สระแก้ว 23 ส.ค.-กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา จุดแรกบริเวณหลักเขตที่ 50-51 เขต อ.อรัญประเทศ ระยะทาง 10 กม. เชื่อเริ่มดำเนินการได้เป็นรูปธรรมภายในปีนี้ พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทยพร้อมคณะลงพื้นที่เพื่อสำรวจแนวชายแดนตั้งแต่หลักเขตที่สี่ 48 ต่อเนื่องถึง 51 บริเวณพื้นที่บ้านป่าไร่ ถึงบ้านท่าข้าม ในเขต อ.อรัญประเทศ โดยการสำรวจดังกล่าวเพื่อเตรียมสร้างแนวกำแพงแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ข้อสรุปเบื้องต้นบริเวณหลักเกณฑ์ที่ห้า 50 และ 51 ซึ่งไทยและกัมพูชาเห็นตรงกันแล้วในเรื่องเขตแดน จะสร้างเป็นรั้วถาวรเป็นจุดแรกระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ขณะบริเวณอื่นๆ ซึ่งยังมีการอ้างสิทธิ และยังไม่มีข้อสรุปเรื่องเขตแดนที่ชัดเจน เบื้องต้นก็จะสร้างเป็นแนวรั้วชั่วคราวด้วยวิธีการตัดถนนเลียบตลอดแนวชายแดนและวางรั้วลวดหนามหีบเพลงสามชั้น พร้อมติดกล้องวงจรปิดในจุดที่สามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้เชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวจะเกิดประโยชน์ในการเคลื่อนย้ายกำลัง รวมไปถึงการลาดตระเวนตรวจตรา นอกจากนี้การปรับพื้นที่ให้โล่งก็จะทำให้การลักลอบผ่านแดนตามช่องทางธรรมชาติยากขึ้น ซึ่งถือเป็นการสกัดกั้นทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์และปัญหาสแกมเมอร์ ได้ โดยการดำเนินการจะเริ่มต้นทันทีที่นำเรื่องเข้าขออนุมัติจากสภาความมั่นคงแห่งชาติและไม่ได้ติดขัดในเรื่องงบประมาณแต่อย่างใด เชื่อว่าภายในปีนี้น่าจะเห็นแนวรั้วกำแพงชายแดนไทย-กัมพูชา เริ่มต้นเกิดขึ้นได้ ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้จะมีการลงในรายละเอียดพื้นที่ต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนตามแนวชายแดนที่บางส่วนอาจได้รับผลกระทบบ้าง แต่ก็เชื่อว่าประชาชนพร้อมที่จะเสียสละเพื่อความมั่นคงปลอดภัยของส่วนรวม พลตรี วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำรั้วตลอดแนวชายแดนไทยกัมพูชาเกิดขึ้นจากข้อเรียกร้องของประชาชน […]