ประชุม ผบ.ทบ.กลุ่มอาเซียน สร้างเครือข่ายเสริมสร้างความมั่นคง

ชะอำ 23 พ.ย. -“สุทิน” เปิดประชุม ผบ.ทบ.กลุ่มอาเซียน สร้างเครือข่ายเสริมสร้างความมั่นคง พื้นที่ภูมิรัฐศาสตร์-เศรษฐกิจ ย้ำ ผนึกกำลังสร้างกลไกความร่วมมือ บนความไว้เนื้อเชื่อใจ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานเปิดการประชุมผู้บัญชาการทหารบกกลุ่มประเทศอาเซียน ครั้งที่ 24 (ASEAN Chiefs of Armies Multilateral Meeting – 24th ACAMM) โดยมี ผู้บัญชาการทหารบก 10 ประเทศอาเซียน ประกอบด้วย ไทย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย บรูไน เวียดนาม กัมพูชา สปป.ลาว และเมียนมา

นายสุทิน กล่าวเปิดการประชุมตอนหนึ่งว่า การประชุมนี้เป็นการสร้างเครือข่ายผู้นำทางทหาร เสริมสร้างความแข็งแกร่งของประชาคมอาเซียน ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญ และทั่วโลกต้องเผชิญกับความท้าทายหลายรูปแบบที่มีความสลับซับซ้อน ซึ่งการเสริมสร้างความมั่นคงร่วมกันในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต้องอาศัยกองทัพเป็นผู้สนับสนุนภาครัฐในการดำเนินนโยบายและวางรากฐานสนับสนุนภารกิจต่างๆ อย่างเพียงพอ โดยที่ผ่านมากองทัพบกกลุ่มประเทศอาเซียนได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ ทั้งในยามปกติและภาวะวิกฤต และเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนความร่วมมือด้านต่างๆ ของภูมิภาค


นายสุทิน กล่าวว่า ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีความสำคัญในด้านภูมิรัฐศาสตร์ ความมั่นคง และเศรษฐกิจ เพราะมีทรัพยากรธรรมชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์ และมีปัจจัยพื้นฐานรวมถึงทรัพยากรมนุษย์ที่เพียบพร้อม ส่งผลให้เป็นภูมิภาคที่มีศักยภาพสูง พร้อมที่จะเติบโตต่อไปในอนาคต ทั้งนี้การส่งเสริมความมั่นคงที่ยั่งยืนในภูมิภาค เป็นนโยบายที่ทุกประเทศควรร่วมมือกัน โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมความร่วมมือด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจเชิงยุทธศาสตร์ ทั้งประเทศที่อยู่ภายในและนอกภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

“รัฐบาลไทยให้ความสำคัญเกี่ยวกับการพัฒนาความมั่นคงอย่างยิ่ง เช่น การส่งเสริมการค้าตามแนวชายแดน การพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างสมาชิกอาเซียน รวมถึงสนับสนุนบทบาทของกองทัพในการพัฒนาประเทศ โดยปัจจัยเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ ทุกประเทศต้องมีเป้าหมายร่วมกัน และหวังว่าการประชุมครั้งนี้จะช่วยต่อยอดความสัมพันธ์อันดี เพื่อส่งเสริมให้กองทัพบกในกลุ่มอาเซียน เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนความร่วมมือด้านต่างๆให้เกิดรูปธรรม แสดงให้ทั่วโลกประจักษ์ถึงศักยภาพที่ไร้ขีดจำกัด ที่อยู่บนพื้นฐานของความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด” นายสุทิน กล่าว

พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวต้อนรับ ผบ.ทบ.กลุ่มประเทศอาเซียน ว่า การประชุมผู้บัญชาการทหารบกกลุ่มประเทศอาเซียน มีวัตถุประสงค์ให้ผู้บัญชาการทหารบกในภูมิภาค ได้ทำความรู้จักคุ้นเคย แลกเปลี่ยนข่าวสารข้อคิดเห็น และร่วมหารือในประเด็นด้านความมั่นคงที่สำคัญ โดยจัดพร้อมกับการประชุมนายทหารประทวนอาวุโสกองทัพบก กลุ่มประเทศอาเซียน เพื่อให้นายทหารประทวน ได้แลกเปลี่ยนมุมมองและประสบการณ์ ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อหลักของการประชุม ACAMM และ กิจกรรมการทดสอบยิงปืนทางยุทธวิธี กองทัพบกกลุ่มประเทศอาเซียน ที่มีเป้าหมายเพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกำลังพลและ เพื่อการเรียนรู้เทคนิคทางยุทธวิธีระหว่างกัน


พล.อ.เจริญชัย กล่าวต่อว่า ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีความสำคัญและโดดเด่น ในด้านภูมิรัฐศาสตร์ การเมือง และความมั่นคง อีกทั้งเป็นศูนย์รวมทางด้านเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนส่งผลให้ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นภูมิภาคที่ทั่วโลกให้การจับตามองความร่วมมือของประเทศสมาชิกอาเซียน จึงมีบทบาทสำคัญในการสร้างความมั่นคงและความมั่งคั่งให้กับภูมิภาค ดังจะเห็นได้จาก ประเด็นหลักของการประชุมอาเซียนในปีนี้ คือ “อาเซียนเป็นศูนย์กลาง สรรค์สร้างความเจริญ” 

กองทัพบกไทย ตระหนักถึงความสำคัญของแนวคิดดังกล่าว และมุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การประชุมในครั้งนี้ จะเป็นเวทีที่สำคัญที่กองทัพบกกลุ่มประเทศอาเซียนจะได้มีส่วนส่งเสริมความร่วมมือร่วมใจของประเทศสมาชิกอาเซียนเพื่อให้บรรลุเจตนารมณ์ของอาเซียน ในการเป็นศูนย์กลางของความร่วมมือในภูมิภาค จึงได้กำหนดประเด็นหลักของการประชุมในครั้งนี้ว่า “ความร่วมมือของกองทัพบก เพื่อส่งเสริมความเป็นแกนกลางของอาเซียน”

“หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้บัญชาการทหารบก และผู้เข้าร่วมประชุมจะร่วมกันแลกเปลี่ยนข้อมูลที่มีประโยชน์ ซึ่งอาจกลายเป็นความร่วมมือที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งนี้ การพบปะพูดคุยกันในห้วงระหว่างการประชุมมิตรจะได้กระชับมิตร เพื่อนใหม่จะได้ทำความรู้จักและเรียนรู้ซึ่งกันและกันมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้เกิดความเข้าใจ อันจะกลายเป็นเครือข่ายความร่วมมือและเป็นพลังในการเผชิญหน้ากับภัยคุกคามทุกรูปแบบได้อย่างแน่นแฟ้น และก้าวไปสู่ความมั่นคงที่ยั่งยืนต่อไป”พล.อ.เจริญชัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูเชิญถกอาเซียน ยันไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยได้

พรรคภูมิใจไทย 19 ก.ย.- “อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูหาเชิญร่วมประชุมอาเซียน ยัน ไม่มีใครเคลียร์-แทรกแซงรัฐบาลได้ หลัง “ฮุนมาเนต” ขอมาเลเซียเป็นตัวกลาง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยว่าได้โทรศัพท์พูดคุยเป็นการส่วนตัว โดยนายอนุทิน ยอมรับว่า เมื่อวานนายอันวาร์ได้โทรมาหา พูดคุยถึงการเชื้อเชิญว่า ถ้าหากตนได้รับตำแหน่งเรียบร้อยแล้วคงจะได้พบกันโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในช่วงเดือนหน้า ส่วนการพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนจังหวัดสระแก้วนั้น นายอนุทิน ระบุว่าไม่ได้มีการพูดคุยในรายละเอียด อีกทั้งตนยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เนื่องจากยังไม่ได้เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงมีรัฐบาลรักษาการ เราให้เกียรติกัน “ผมรับตำแหน่งได้ ก็ต่อเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน ส่วนเรื่องนโยบาย ข้อสั่งการ ต้องรอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งขณะนี้เราก็ยังรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไว้ให้มากที่สุด” นายอนุทิน กล่าว ส่วนกรณีที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ร้องขอไปยังนายอันวาร์ เพื่อให้เข้ามาแทรกแซงการเจรจานั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยและอธิปไตยของไทยได้ ส่วนเรื่องการพูดคุย นายอนุทิน ย้ำว่า เราสามารถทำได้ เพราะเป็นคนที่คุ้นเคยรู้จักกัน แต่เมื่อถึงจุดที่เราต้องรักษาผลประโยชน์ […]

“อนุทิน” กินข้าว “อภิสิทธิ์” ขอคำแนะนำอดีตนายกฯ

กทม. 19 ก.ย.- “อนุทิน” โพสต์ภาพร่วมโต๊ะกินมื้อกลางวันคู่กับ “อภิสิทธิ์” บอกขอคำแนะนำอดีตนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพรับประทานอาหารกลางวันคู่กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเป็นการส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า “ได้รับคำแนะนำที่มีประโยชน์และคุณค่ามากมายจากท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ให้เกียรติมาให้กำลังใจและทานอาหารกลางวันด้วยกันในวันนี้ ขอบพระคุณท่านมากครับ” ทั้งนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวแรกของนายกรัฐมนตรี หลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของนายอนุทิน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีอีกกระแสข่าว ที่เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ -สำนักข่าวไทย

รวบยกแก๊ง 4 ชาวอังกฤษขับรถชิงทรัพย์ชาวอเมริกัน

ภูเก็ต 19 ก.ย. – วานนี้มีเหตุอุกอาจกลางเมืองภูเก็ต กลุ่มชายฉกรรจ์ขับรถชนรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายก่อนลงไปชิงนาฬิกาหรู มูลค่ากว่า 2 ล้าน เช้านี้ตำรวจรวบผู้ก่อเหตุได้ครบ เชื่อวางแผนทำกันเป็นขบวนการ.-สำนักข่าวไทย

ไทยยึดหลักสากล จัดการปมบ้านหนองหญ้าแก้ว

กระทรวงการต่างประเทศ 19 ก.ย.- “อนุทิน” แจงประธานอาเชียน เหตุบ้านหนองหญ้าแก้ว ไทยยืนยันยึดหลักสากล จัดการปัญหา กัมพูชาขัดข้อตกลงหยุดยิง ใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์ ไร้มนุษยธรรม ไม่สร้างสรรค์ บิดเบือนข้อเท็จจริง พร้อมเรียกร้องกัมพูชาแสดงความจริงใจในการแก้ปัญหา นายนิกรเดช พลางกูล อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ที่มีการรื้อถอนสิ่งกีดขวางของฝ่ายไทย และมีการปะทะจนมีเจ้าหน้าที่ไทยได้รับบาดเจ็บ ซึ่งถือเป็นการทำผิดกฎหมายไทยหลายมาตรา โดยย้ำว่าที่ผ่านมาฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัดทุกประการมาโดยตลอด ข้อตกลงนี้เป็นหมุดหมายสำคัญที่จะปูทางไปสู่สันติภาพ แม้สถานการณ์สงบลง แต่กัมพูชายังยั่วยุในรูปแบบต่างๆ ซึ่งขัดข้อตกลงหยุดยิง พร้อมย้ำว่าการวางเครื่องกีดขวางเสริมความมั่นคง เป็นการดำเนินการในอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยอดกลั่น และใช้เวลาชี้แจงกับประชาชนกัมพูชา แต่ไม่เป็นผล ที่สุดเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนของไทยต้องเข้าระงับเหตุตามหลักสากล ตามหลักมนุษยชนการปลุกระดมให้ประชาชนมาเป็นโล่มนุษย์ ขัดกฎหมายระหว่างประเทศ ไร้มนุษยธรรม ขาดความรับผิดชอบ ไม่สร้างสรรค์ และไม่ยึดถือประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนเป็นที่ตั้ง นอกจากนี้ ทั้ง 2 ประเทศให้คำมั่นหยุดยิงไปแล้ว แต่กัมพูชาเลือกเส้นทางจากต่างไทยโดยสิ้นเชิง ไทยมุ่งมั่นแสวงหาสันติภาพ ซึ่งต่างจากกัมพูชาที่แสวงหาความรุนแรง การวางรั้วลวดหนามของฝ่ายไทย เป็นไปเพื่อป้องกันการปะทะ และเพื่อสร้างความปลอดภัยของประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ และเหตุความรุนแรงอาจนำไปสู่การสูญเสีย […]