รัฐสภา 16 พ.ย.-คณะเจรจาช่วยเหลือตัวประกันไทยฯ แย้มมีข่าวดีฮามาสเตรียมปล่อย 25 แรงงานไทย คาด 2-3วันนี้ ย้ำเงื่อนไขเดียวต้องปลอดภัย วอนแรงงานกลับบ้านก่อน สถานการณ์ไม่ปลอดภัย
คณะทำงานเจรจากับผู้แทนฮามาสประจำกรุงเตหะรานประเทศอิหร่าน เพื่อช่วยเหลือคนไทยในอิสราเอล โดยนายเลอพงษ์ ซาร์ยีด นายกสมาคมนักเรียนเก่าไทยในอิหร่าน และอาจารย์มหาวิทยาลัยนานาชาติในอิหร่าน และผู้ประสานงานฝ่ายต่างประเทศ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เข้าพบนายวันมูหะทัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อรายงานผลการพูดคุยเจรจากับคณะผู้แทน ฮามาสหลังเดินทางกลับมาจาก อิหร่านในวันนี้
นายเลอพงษ์ ซาร์ยีด เปิดเผยว่า คณะเจรจาฯ เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ในอิสราเอลเกือบทุกชั่วโมง โดยก่อนหน้านี้ทางฮามาสพูดมาตลอดว่าจะปล่อยตัวแรงงานที่จับกุมไปโดยขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของความปลอดภัยทางด้านชีวิตและสถานการณ์หยุดยิงมากกว่านี้ เนื่องจากอิสราเอลยิงเข้าไปในทุกพื้นที่ทั้งโรงพยาบาล มัสยิด หากปล่อยตัวประกันก็เกรงว่าจะส่งผลต่อชีวิตของตัวประกัน หรือเกรงว่าตัวประกันจะเสียชีวิต แต่เมื่อนานาประเทศกดดันและหลังจากที่มีการประชุมของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อวานนี้(15 พ.ย.) เพื่อให้ประกาศหยุดยิง 72 ชั่วโมง แลกกับการปล่อยตัวประกันและช่วยเหลือลำเลียงทางด้านสิทธิมนุษยชน
“ตอนแรกกลุ่มฮามาสแจ้งว่าหากประกาศหยุดยิง จะปล่อยตัว 70 คน แต่ล่าสุดเมื่อเช้าแจ้งมาว่า 50 คนซึ่งคณะทำงานของประธานสภาฯ ขอว่า 50 คนนี้ขอให้เป็นคนไทยทั้งหมด ซึ่งทางฮามาสรับปากจะปล่อยตัวและแจ้งว่าจากการถล่มแต่ละครั้ง มีเชลยศึกของประเทศอื่น ๆ เสียชีวิต ไปบ้าง ส่วนแรงงานไทยได้รับการรับรองว่าปลอดภัยทุกครั้งที่คุยกัน ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าไม่กี่วันนี้เราคงได้รับข่าวดี เพื่อสร้างความปลื้มปิติมาสู่ ครอบครัวของแรงงานที่ห่วงใยในชีวิตและความปลอดภัย คิดว่าไม่น่าจะเกิน 10 วัน อาจจะ 2-3 วันนี้ก็ได้ที่จะปล่อยตัว แต่จะปล่อยเส้นทางไหนก็ต้องศึกษาถึงความปลอดภัยว่าจะปล่อยไปทางชายแดนตรงไหน ยังไม่ได้รับการยืนยันจากฮามาส แต่สิ่งที่ได้รับการยืนยันคือถ้ามีการปล่อยตัวจะคำนึงถึงความปลอดภัยของพี่น้องคนไทยและแรงงานไทยให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้” นายเลอพงษ์ กล่าว
นายเลอพงษ์ กล่าวว่า ตัวเลขคนไทยที่กลุ่มฮามาสจับเป็นตัวประกันและยืนยันกับคณะทำงานขณะนี้มี 25 คน และจะปล่อยตัวคนไทยเป็นกลุ่มแรกตามที่ร้องขอแน่นอน เชื่อว่าครั้งนี้จะไม่ดีใจเก้อ เขายืนยัน มีคนไทย 25 คน ฮามาสไม่ยืนยันตัวเลขอื่น แต่ยืนยันว่าปลอดภัย ซึ่งตัวเลขของไทย ไม่นิ่งอาจจะคลาดเคลื่อนได้อาจจะมีกลุ่มอื่นที่จับกุมไปด้วย และไม่ทราบว่าคนไทยทั้งหมดที่ถูกจับปลอมตัวไปเป็นแรงงานหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ถ้าจะปล่อยตัวจะแจ้งกลับมาที่คณะทำงานที่ปรึกษาและหลังจากนั้นอาจจะแจ้งทางสื่อโฆษกของทางฮามาส
นายเลอพงษ์ กล่าวว่า สิ่งหนึ่งที่ฮามาสให้ความสำคัญกับการพูดคุยในครั้งนี้ เพราะมองว่าทางประธานรัฐสภาและชาวชีอะห์เป็นมุสลิม ดังนั้น สิ่งที่ตนพูดคุยมาตั้งแต่เริ่มต้น จึงมีน้ำหนักในฐานะมุสลิมสามารถสื่อสารได้เข้าใจกันมากกว่า และในฐานะผู้ที่ขอร้องให้ฮามาสเห็นใจ เพราะไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง แต่เกิดปัญหาว่า แรงงานไทยเข้าไปทำในพื้นที่ขัดแย้ง ยืนยันว่า ฮามาสดูแลเชลยศึกหรือตัวประกันเป็นอย่างดี แต่อยากจะสื่อสารว่าอิสราเอลไม่ได้ความสำคัญกับการดูแลความปลอดภัย รวมถึงการโจมตีโรงพยาบาลและทำลายโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมดของฉนวนกาชาดที่จะทำให้ประเทศล่มสลายได้เลย หลังจากนี้ ยังคงติดตามสถานการณ์ ทุกชั่วโมงและประเมินตลอด ซึ่งขอยืนยันว่าสถานการณ์ในอิสราเอลขณะนี้ไม่ปลอดภัย คนไทยที่อยู่ที่อิสราเอลควรจะเดินทางกลับ เพราะยังคงมีความไม่สงบและโอกาสจะเสียชีวิตยังมีอยู่
ด้านนายมุข สุไลมาน เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า คณะเจรจากับฮามาสได้มีการประสานกันตลอดและสบายใจว่าคนไทยยังปลอดภัย ทั้งที่ขณะนี้มีการยิงจรวดและยิงกันตลอดเวลายังไม่มีการหยุดยิง หลังจากที่ไปพูดคุยทางฮามาส พร้อมส่งคนไทยกลับมา โดยจะส่งทันทีที่เห็นว่าปลอดภัย แต่จากวันนั้นถึงวันนี้ต้องยอมรับว่ายังมีการยิงอยู่ตลอดเวลา ความปลอดภัยที่จะออกมายังไม่ได้ เพราะจะมีเครื่องมือในการติดตามตรวจสอบตลอดเวลา ดังนั้น สิ่งที่จะเป็นไปได้คือการขอให้หยุดยิงสักระยะหนึ่ง ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับอิสราเอลจะยอมรับหรือไม่ วันก่อนหน้านี้ฮามาสขอให้หยุดยิงซัก 72 ชั่วโมงก็ยังไม่หยุด อย่างไรก็ตาม โอกาสที่จะหยุดยิงมีสูงขึ้น เพราะโลกทั้งโลกกำลังกดดันอิสราเอลและเชื่อว่าจะปล่อยตัวในเร็ว ๆ นี้ แต่จะปล่อยตัวลักษณะอย่างไร ทางไหนนั้น เราคงไม่สามารถระบุได้ เพราะยังไม่ชัดเจน แต่ปล่อยตัวแน่
“ขอให้ทุกคนมั่นใจได้ว่า คนของเราอยู่อย่างปลอดภัยและจะปล่อยตัวในเร็วๆนี้โดยเฉพาะญาติพี่น้องของคนที่ถูกจับ ถ้าได้ฟังวันนี้ก็อาจจะคลายความกังวลใจในระดับหนึ่ง ทั้งนี้ เป็นห่วงพี่น้องคนไทยที่ยังอยู่ที่อิสราเอล และเห็นว่า เมื่อความปลอดภัยไม่มีทุกอณู ก็ควรจะกลับประทศไทย ขอให้เป็นห่วงตัวเองด้วย ในขณะที่เราพยายามจะช่วยแรงงานไทย ก็ขอให้ท่านช่วยตัวเองเหมือนกัน เพราะตบมือข้างเดียวคงไม่ดัง ซึ่งฝ่ายนิติบัญญัติไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่มีความเป็นห่วง ดังนั้น ม่ ก้าวก่าย ฝ่ายบริหาร แต่เห็นว่าสงครามยังคงมีอยู่ มีโอกาสเสียชีวิต ตัวเลขจึงไม่สามารถยืนยันได้ เราพยายามช่วยแล้วแต่อยากให้พี่น้องคนไทยที่อยู่ทางอิสราเอล ขอร้องให้กลับมาก่อน เพราะตอนนียังอันตราย” นายมุข กล่าว.-สำนักข่าวไทย