ทำเนียบรัฐบาล 8 พ.ย.-รมว.กต.ขอตรวจสอบก่อนว่าแรงงานไทยไปเป็นทหารรับจ้างอิสราเอลจริงหรือไม่ คาดเป็นลูกครึ่งไทย-อิสราเอลที่ต้องเป็นทหารมากกว่า ชี้ไทยไม่ควรไปยุ่งปัญหาขัดแย้งประเทศอื่น
นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีนายซัยยิดสุไลมาน ฮูซัยนี ผู้นำศาสนาอิสลามนิกายชีอะห์แห่งประเทศไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “SaiyidSulaiman Husaini” ระบุว่า “มีแรงงานไทยไปรับจ้างเป็นทหารอิสราเอล ถ้ารัฐบาลไทยไม่รีบแก้ปัญหานำแรงงานไทยกลับมาจะทำให้แก้ปัญหาไม่ได้ตลอดกาล เพราะโลกมุสลิมมีความรู้สึกว่ารัฐไทยร่วมมือกับอิสราเอลแทงข้างหลังโลกอิสลาม” ว่า ได้สั่งการสถานทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟให้ตรวจสอบข้อมูล ยังไม่ได้รายงานกลับมา ซึ่งเท่าที่เห็นในข่าวมี 1 คน ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีข่าวในลักษณะนี้ มีแต่ข่าวลือว่าแรงงานคนนั้นคนนี้ไปเป็นทหารรับจ้าง บางคนก็บอกว่าไปเป็นรปภ. ซึ่งจากการตรวจสอบในเวลานั้นไม่พบว่ามีตามที่เป็นข่าว
ส่วนจะเป็นไปได้หรือไม่ว่าแรงงานไทยไปทำงานในกองทัพอิสราเอล แต่ไม่ได้เป็นทหารรับจ้าง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า บางคนบอกว่าเขาเป็นลูกครึ่งไทย-อิสราเอล และเป็นทหารในกองทัพอิสราเอลอยู่แล้ว อาจจะเป็นไปได้ ว่าเป็นลูกครึ่งและเป็นชาวอิสราเอล แต่ข้อมูลตรงนี้ยังไม่ได้ตรวจสอบ จึงขอตรวจสอบก่อน ถ้ามีข้อมูลคืบหน้าอย่างไรจะแจ้งให้สื่อมวลชนทราบ
“ถ้าชายคนดังกล่าวเป็นลูกครึ่งถือว่าเป็นสิทธิ์ของเขา ไม่ได้เกี่ยวข้องกับแรงงานไทย และไม่อยากให้เหมาว่าเป็นแรงงานไทยทั้งหมด เพราะจะทำให้ผู้ที่ถูกจับเป็นตัวประกันเดือดร้อนไปด้วย ซึ่งถ้าเป็นคนไทยไม่ควรเข้าไปยุ่งเรื่องความมั่นคง เพราะเราไม่ได้อยู่ในฐานะที่เป็นคู่ขัดแย้ง แต่ถ้าเข้าไปทำงานเป็นแรงงานก็สามารถทำได้” นายปรานปรีย์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย