“สุทิน” ชี้ กอ.รมน. ยังมีประโยชน์ อยู่ที่ผู้นำเลือกใช้งาน

กอ.รมน. 31 ต.ค.- “สุทิน” ไม่ยุบ กอ.รมน. เพราะมีประโยชน์ อยู่ที่ผู้นำเลือกใช้งาน ย้ำจุดยืน “สส.เพื่อไทย” ขอแค่ปรับภารกิจ ลดซ้ำซ้อน-ลดหวาดระแวง ไม่ใช่เป็นเครื่องมือการเมือง บอกทหารทำ “ไอโอ” ได้ แต่ต้องสร้างสรรค์ ห้ามใช้ทำร้าย-ด้อยค่ากัน


นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคก้าวไกลล่ารายชื่อประชาชน เพื่อเสนอร่างกฎหมายยุบ กอ.รมน. ต่อสภาฯ ว่า ต้องยอมรับว่า กอ.รมน. ถือเป็นหน่วยงานหนึ่งในการบูรณาการกับส่วนราชการต่างๆ เพื่อผลักดันนโยบายต่างๆ ของรัฐบาล ดังนั้นการขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ หากสั่งผ่าน กอ.รมน. จะเวิร์ก

เมื่อถามว่า กอ.รมน. ไม่ใช่ หน่วยงานซ้ำซ้อนตามที่โดนโจมตีใช่หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ตนมองว่า อยู่ที่ผู้บริหารประเทศจะใช้งาน ถ้าเลือกใช้ไม่เป็นจะซ้ำซ้อน แต่ถ้าเลือกเป็นคือการสนธิกำลังและบูรณาการอำนาจและทรัพยากร


เมื่อถามว่า กอ.รมน. ถูกมองว่าให้อำนาจทหารมากเกินไป ในปัจจุบันนี้สมดุลอยู่แล้วหรือต้องมีการปรับสมดุลใหม่ นายสุทิน กล่าวว่า “คงไม่หรอก ถ้าผู้นำประเทศใช้ กอ.รมน. เป็น อยู่ที่คนใช้งาน ไม่ใช่ตัวองค์กร ที่ผู้นำประเทศที่จะสั่งการเป็นหรือไม่ ยืนยันว่ารัฐบาลเพื่อไทย ยังไม่มีนโยบายลดบทบาท กอ.รมน. เพียงแต่ว่ามีการขับเคลื่อนนักการเมืองหลายส่วน ซึ่งในกลุ่ม สส.เพื่อไทย อยากให้ปรับภารกิจ แต่ สส. บางพรรคอยากให้ยุบ กอ.รมน.”

“สิ่งที่ สส.เพื่อไทย อยากให้ปรับภารกิจ คือ สิ่งที่ซ้ำซ้อนให้ลดลง เน้นสนับสนุนความมั่นคงต่างๆ ของประเทศ เช่น เศรษฐกิจ วัฒนธรรม คุณภาพชีวิต เพราะที่ผ่านไปเป็นหนักความมั่นคงทางทหาร ที่เน้นแก้ไขปัญหาความขัดแย้งเพียงอย่างเดียว” นายสุทิน กล่าว

เมื่อถามว่า กอ.รมน. ถูกโจมตีว่าใช้มวลชนไปหาเสียงเลือกตั้งหรือการทำประชามติ นายสุทิน กล่าวว่า อาจจะมีคนคิด และบางยุคอาจจะเป็นอย่างนั้น ดังนั้นหากผู้นำใช้เป็น ก็จะเป็นประโยชน์ ผู้นำบางยุคอาจนำ กอ.รมน. ไปใช้ในทางการเมือง เพราะฉะนั้นจากนี้ผู้นำที่ดี จะไม่ใช้ กอ.รมน. เป็นเครื่องมือการเมือง ก็จะทำให้คนมองภาพลักษณ์ กอ.รมน. ดีขึ้น


เมื่อถามว่ากรณี กอ.รมน. มีอำนาจในการตั้งศูนย์ติดตามสถานการณ์ที่กระทบต่อความมั่นคง เช่น การชุมนุม การเกิดภัยพิบัติ ต้องปรับลดอำนาจหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ตรงนี้ตนก็อยากให้ลด เพราะภารกิจที่ผ่านมา ไปทำให้เกิดความหวาดระแวง ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการสร้างความสงบ กลายเป็นแนวร่วมมุมกลับ ซึ่งต่อไปนี้

“ตนได้กำชับกระทรวงกลาโหมไปว่าให้ระมัดระวังในเรื่องปฏิบัติการไอโอที่พูดถึงกัน ตนได้บอกว่าไอโอสามารถทำได้ แต่ต้องสร้างสรรค์ เกิดภาพพจน์ที่ดีต่อประเทศและกองทัพ แต่ถ้าเป็นไอโอที่ไปทำร้ายกันหรือด้อยค่า ขยายความขัดแย้ง ได้กำชับว่าอย่าทำ แต่ก็ยอมรับว่ากองทัพก็ถูกไอโอทางอื่นมาด้อยค่า ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกองทัพด้วย ซึ่งตนได้กำชับว่ากองทัพก็ต้องตั้งหลักให้ดี “ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุ

เมื่อถามว่ากรณีพรรคก้าวไกลระดมความคิดเห็นผ่านโซเชียลมีเดีย เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับการยุบ กอ.รมน. แต่เมื่อมีคนกดไม่เห็นด้วย ก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นไอโอของกองทัพ นายสุทิน กล่าวว่า อันนี้ต้องเตือนสติประชาชนให้รู้เท่าทันโลกโซเชียลมีเดีย ซึ่งกองทัพอาจจะต้องทำเรื่องนี้มากขึ้น โดยสร้างการศึกษาให้ประชาชนมีความรู้ในเรื่องนี้ ก็จะทำให้คนที่สร้างไอโอทำลายกันยากขึ้น .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

หนุ่มอุดรฯ ดวงเฮง ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ 45 ล้านบาท

สุดเฮง! หนุ่มอุดรฯ ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ รับเงินรางวัล 45 ล้านบาท ลูกสาวเผยพ่อเป็นคนชอบทำบุญ ก่อนหน้านี้เพิ่งโทรมาบอกให้ใส่บาตร เชื่อผลบุญหนุนโชคลาภ

สามีภรรยาจากอยุธยารับ “เจ้าจอร์จ” ไปดูแล

สามีภรรยาใจบุญจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ขอรับ “เจ้าจอร์จ” สุนัขพันธุ์อเมริกันบูลลี่ ไปอุปการะแล้ว หลังกัดแทะร่างพระเจ้าของที่มรณภาพในกุฏิด้วยโรคประจำตัว

ดีเอสไออนุมัติสืบสวนคดีแตงโม คาดตั้งชุดเริ่มสืบได้ 27 ม.ค.นี้

อธิบดีดีเอสไอ อนุมัติให้สืบสวนคดีแตงโม ว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ คาดเริ่มได้ 27 ม.ค.นี้