ประกาศนำเพื่อไทยกลับมาเป็นที่หนึ่งในใจประชาชน

เพื่อไทย 27 ต.ค.- “แพทองธาร” นั่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ ประกาศทำให้พรรคกลับมาเป็นพรรคอันดับหนึ่งในใจประชาชน บอก ตายังคงดูดาว เท้ายังติดดิน


ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมวิสามัญพรรคเพื่อไทยเพื่อเลือกกรรมการบริหารชุดใหม่และหัวหน้าพรรคคนใหม่ โดยผลการประชุมนั้น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และรองคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ได้รับการรับเลือกให้ดำรงตำแหน่ง หัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่

จากนั้น น.ส.แพทองธารได้ขึ้นแสดงวิสัยทัศน์หลังเข้ารับตำแหน่งหัวหน้าพรรค ซึ่งมีล่ามภาษามือคอยแปลภาษาอยู่ข้างๆ ระบุว่า ขอบคุณสมาชิกพรรคเพื่อไทยทุกคน ที่มอบความไว้วางใจให้มาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตนรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง เพราะนี่ไม่ใช่เป็นเพียงกระบวนการของพรรค แต่เป็นการเชื่อมความเชื่อมั่น ความมั่นคง ความศรัทธา เชื่อมการต่อสู้ของทุกคนเข้าด้วยกันอีกครั้ง


“พรรคเพื่อไทยผ่านอะไรมาเยอะมาก เราเป็นพรรคการเมืองที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด และเรายังเป็นพรรคการเมืองที่ถูกกระทำมากที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ดิฉันเติบโตมาในแวดวงการเมือง ได้สังเกต ได้ใกล้ชิด ทำให้ได้เรียนรู้อะไรมากมาย ต้องขอขอบคุณท่านทักษิณ ชินวัตร คุณพ่อ ที่ทำให้ดิฉันได้เห็นถึงความตั้งใจ เห็นถึงอุดมการณ์ของท่าน และทำให้ได้เรียนรู้ ได้ใกล้ชิด ที่ได้เป็นแรงบันดาลใจที่สำคัญของดิฉันในการดำรงชีวิต” น.ส.แพทองธาร กล่าว

น.ส.แพทองธาร ยังกล่าวอีกว่า ตนรู้ดีว่าภารกิจนี้เป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่ และสำคัญมาก โดยเฉพาะบริบทของการเมืองที่เปลี่ยนแปลงไปรวดเร็วในทุกวัน มั่นใจว่าเรามีบุคลากรที่มีความสามารถ สั่งสมประสบการณ์มาตั้งแต่เป็นไทยรักไทย จนถึงเพื่อไทยในปัจจุบัน เราจะทำเพื่อไทยให้พัฒนาขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง

หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยังกล่าวด้วยว่า การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ทำให้เราต้องเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ ทีมคณะบริหารพรรคเพื่อไทยทีมใหม่จะต้องถอดบทเรียน ทบทวนการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว เพื่อทำให้ดีขึ้น เพื่อนำพรรคเพื่อไทยให้กลับไปยืนอยู่ในใจของประชาชน ในฐานะพรรคการเมืองอันดับหนึ่งอีกครั้งอย่างยั่งยืน


น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาสองเดือนที่ผ่านมา ภายใต้รัฐบาลและการนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่า การจัดตั้งรัฐบาลในวันนั้นเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุด มีสิ่งต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย ทั้งการลดค่าไฟ ค่าน้ำมัน การปรับลดค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย การเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ การให้ภาคเอกชนและคนรู้จริงเข้าไปพัฒนาเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศไทยอย่างจริงจังเป็นครั้งแรก การนำร่องใช้บัตรประชาชนเพื่อรักษาพยาบาลในโครงการ 30 บาทรักษาได้ทุกที่ การรับมือวิกฤติทันท่วงทีช่วยคนไทยกลับบ้านในสถานการณ์สงครามในตะวันออกกลาง การเจริญสัมพันธไมตรีทางการทูตกับนานาประเทศ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในระยะเวลาสองเดือน สามารถสร้างโอกาสให้ประชาชนและประเทศอย่างมากมาย และตนมั่นใจว่า 4 ปี หลังจากนี้ก็จะมีบทบาทเพิ่มขึ้นให้ประเทศของเราอย่างแน่นอน

น.ส.แพทองธาร กล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยจะยังคงสานต่อภารกิจสำคัญคือ การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ทั้งด้านความเป็นอยู่ สิทธิเสรีภาพอย่างที่ทำต่อเนื่องมา 25 ปี เรามีวันนี้ได้ เพราะผู้ใหญ่ในพรรค รดน้ำพรวนดินให้ต้นไม้ต้นนี้แข็งแรงและมีรากฐานที่มั่นคง ตนมองเห็นได้ชัด ได้ไกลขึ้นเพราะทุกท่านได้ร่วมสร้างกันไว้ 

“จากนี้ไปตนอยากให้พรรคเพื่อไทยเป็นมากกว่าพรรคที่ให้โอกาส แต่สามารถขจัดความเสี่ยงในชีวิตของประชาชนได้ด้วย เพื่อปลดล็อคศักยภาพของคนได้อย่างเต็มที่ มีสิทธิ์ มีเสียงในการพัฒนาประเทศไปด้วยกัน เราจะไม่ทิ้งดีเอ็นเอเดิมของพรรคเพื่อไทย นั่นคือการทำนโยบายที่สัญญาไว้กับประชาชนให้เป็นจริงได้ เราจะทำความฝันให้เป็นความจริง เราจะทำเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ เราจะลบทุกคำสบประมาทด้วยผลงานที่ปฎิเสธไม่ได้  ดีเอ็นเอนี้จะยังคงอยู่กับพรรคเพื่อไทย และพัฒนาตามยุคสมัย” นางสาวแพทองธาร กล่าว

นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า มี 4 เรื่องหลักที่สำคัญที่ทีมบริหารทีมใหม่จะต้องทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในพรรคอย่างชัดเจน คือ  1. จะทำ Digital transformation อย่างเต็มรูปแบบ นำข้อมูลทุกอย่างให้อยู่ในระบบดิจทัลเพื่อให้เกิดการต่อยอดและพัฒนาได้ง่ายขึ้น

2.จะสร้างองค์กรแนวราบและเพิ่มการมีส่วนร่วมของทุกคนทำให้พรรคเกิดประสบการณ์ มีกระบวนการตัดสินใจที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพเพื่อประชาชนมากยิ่งขึ้น

3.จะทำให้องค์กรพรรคเพื่อไทย เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ learning organization ที่จะมีศูนย์ข้อมูลศูนย์วิจัยเพื่อนำมาพัฒนานโยบาย ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี เพื่อปรับใช้ให้ทันยุคสมัยและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลกได้อย่างเท่าทัน จะมีการอบรมศักยภาพทั้งยุวสมาชิก และสมาชิกทั่วไป แบ่งพื้นที่ให้คนทั้งรุ่นใหญ่และรุ่นใหม่แลกเปลี่ยนความคิดเห็น แชร์ไอเดียเพื่อพัฒนาแก้ไขปัญหาประชาชนให้ครบทุกพื้นที่

4.จะสร้างเครือข่ายครอบครัวเพื่อไทยให้แข็งแรง และมีในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อรับฟังเสียงประชาชนที่สะท้อนมาทั้งของตัวเองและครอบครัวได้อย่างชัดเจนให้ถึงพรรคเพื่อไทยได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

ในช่วงท้ายนางสาวแพทองธาร ยังกล่าวว่า สิ่งที่บอกกับตัวเองและสมาชิกทุกคนในพรรคว่า “ตายังคงดูดาว เท้ายังคงติดดิน ยืนหยัดอยู่ข้างประชาชนอย่างเข้มแข็ง มั่นคง เพราะพรรคเพื่อไทยหัวใจคือประชาชน“

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการขึ้นพูดของนางสาวแพทองธาร พรรคเพื่อไทยได้เปิดวีดีโอย้อนเหตุการณ์สำคัญที่แกนนำพรรคเพื่อไทยได้รับเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีตั้งแต่สมัยนายทักษิณ ชินวัตร นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และภาพของอดีตหัวหน้าพรรคทั้ง 7 คนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นที่สังเกตว่าในการแสดงวิสัยทัศน์ของนางสาวแพทองธาร มีบุคคลสำคัญและสมาชิกพรรคคนสำคัญเข้าร่วมรับฟังด้วย อาทิ นายเศรษฐา, นายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี, นางสาวพินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ พี่สาว และนายคชาภา ตันเจริญ หรือ มดดำ พิธีกรชื่อดัง เป็นต้น โดยหลังจากนั้น น.ส.แพทองธาร ได้ร่วมถ่ายรูปกับ สส.และสมาชิกพรรคต่างๆอย่างเป็นกันเอง

สำหรับรายชื่อคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย จำนวน 23 คน ประกอบด้วย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค รองศาสตราจารย์ ชูศักดิ์  ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค   นายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ รองหัวหน้าพรรค  นายโอชิษฐ์  เกียรติก้องชูชัย รองหัวหน้าพรรค  นางสาวจิราพร สินธุไพร รองหัวหน้าพรรค   นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รองหัวหน้าพรรค  นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองหัวหน้าพรรค  นายสรวงศ์ เทียนทอง  เลขาธิการพรรค   นางสาวศรีญาดา  ปาลิมาพันธ์ รองเลขาธิการพรรค  นางสาวลิณธิภรณ์  วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรค  นายศรัณย์  ทิมสุวรรณ รองเลขาธิการพรรค  นายทวีศักดิ์ อนรรฆพันธ์ เหรัญญิกพรรค   นายณณัฏฐ์ หงส์ชูเวช นายทะเบียนสมาชิกพรรค  นายดนุพร  ปุณณกันต์ โฆษกพรรค  นางสาวธีรรัตน์  สำเร็จวาณิชย์ กรรมการบริหาร นายวรวงศ์ วรปัญญา กรรมการบริหาร  นายพชร  จันทรรวงทอง กรรมการบริหาร  นายนิกร  โสมกลาง กรรมการบริหาร  นายธิติวัฐ  อดิศรพันธ์กุล  กรรมการบริหาร  นายจเด็ศ จันทรา กรรมการบริหาร   นายพลนชชา จักรเพ็ชร กรรมการบริหาร   นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ  กรรมการบริหาร  และ นางสาวสรัสนันท์ อรรณนพพร กรรมการบริหาร.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

เจอตัวแล้ว! ทหารรัวปืน พาญาติช่วยเจรจามอบตัว

สุรินทร์ 15 ส.ค.- เจอตัวแล้ว! ทหารรัวปืนกลางดึก หลบอยู่ในบ้านใกล้ที่เกิดเหตุ ประสานญาติช่วยเจรจามอบตัว เจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายปกครองและตำรวจ นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เพื่อติดตามตัวพลทหารก่อเหตุรัวยิงปืนกลางดึก ชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ผกก.สภ.กาบเชิง ลงพื้นที่เกิดเหตุ พร้อมตำรวจและทหาร ก่อนเดินทางไปติดตามอาการผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาล เบื้องต้นคนเจ็บให้การว่า นั่งดื่มสุรา 5-6 คน ก่อนจะแยกย้ายกันเหลือนั่งอยู่ 2 คน จากนั้นไม่นานพลทหารนายดังกล่าวก็ออกมายืนกราดยิงห่างประมาณ 50 เมตร วัยรุ่น 2 คนจึงรีบหมอบหลบได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ด้านนายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุ ขณะนี้พบตัวทหารผู้ก่อเหตุแล้ว อยู่ระหว่างประสานไปยังครอบครัวให้เดินทางเข้าพื้นที่ช่วยเจรจามอบตัว -สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เตือนตะวันออก-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนตกหนักบางแห่ง

กรุงเทพฯ 15 ส.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณ จ.หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันตอนบน […]

“ลุงพล” นอนคุกยาว ศาลไม่ให้ประกันตัว เกรงหลบหนี

14 ส.ค. – ศาลฎีกายกคำร้อง ไม่อนุญาตให้ประกันตัว “ลุงพล” คดีน้องชมพู่ ชี้เป็นคดีร้ายแรง เกรงจะหลบหนี ส่งผลให้ลุงพลต้องนอนคุกระหว่างฎีกา นายประยุทธ เพชรคุณ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลสูงภาค 4 กล่าวถึงความคืบหน้าในคดีที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ “ลุงพล” ในคดีฆ่าเด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ปี รวมเป็น 26 ปี เมื่อวานนี้ ลุงพลยื่นประกันตัวและศาลจังหวัดมุกดาหารส่งให้ศาลฎีกาพิจารณา เรื่องการปล่อยชั่วคราว โดยวันนี้ศาลฎีกา ได้มีคำสั่งออกมาว่า พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง กระทบต่อสังคมเป็นการลงโทษสถานหนัก ทั้งศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษให้จำคุก 26 ปี และเกรงว่าจำเลยจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างฎีกา ยกคำร้องการประกันตัว ส่งผลให้จำเลยต้องคุมขังอยู่ในเรือนจำระหว่างฎีกา ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (15 ส.ค.) เจ้าหน้าที่จะนำตัวลุงพลไปคุมขังที่เรือนจำจังหวัดนครพนม เนื่องจากโทษจำคุกสูง.-สำนักข่าวไทย

บุกชิงทอง

ควงปืนชิงทองกลางห้างดังย่านบางบ่อ กวาดทอง 163 บาท ขี่ จยย.หนี

สมุทรปราการ 14 ส.ค. – คนร้ายสวมชุดไรเดอร์ควงปืนจี้ชิงทอง ร้านทองกลางห้าง ย่านบางบ่อ กวาดทอง 163 บาท มูลค่ากว่า 8 ล้านบาท ก่อนขี่จักรยานยนต์หลบหนี ตำรวจเร่งล่าตัว เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ เกิดเหตุอุกอาจภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านบางบ่อ จ.สมุทรปราการ คนร้ายรูปร่างสูงใหญ่ สวมชุดไรเดอร์ ใส่หมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทองพร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวมราว 163 บาท หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 8 ล้านบาท วิ่งขึ้นรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า เอ็นแม็ก ที่จอดอยู่ด้านหน้า ขี่หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว พนักงานรักษาความปลอดภัยของห้าง ให้ข้อมูลว่า เห็นคนร้ายเดินเข้ามา จึงบอกให้ถอดหมวกกันน็อก แต่คนร้ายไม่สนใจ ก่อนบุกเข้าไปก่อเหตุในร้านทอง พนักงานชายร้านทอง เล่าว่า ผู้ก่อเหตุปีนเข้ามาแล้วพูดว่า ‘หยิบทองมา’ จึงสั่งให้น้องพนักงานหมอบลงเพื่อความปลอดภัย เพราะเห็นว่าคนร้ายมีอาวุธปืน และไม่เคยเห็นหน้าของคนร้ายมาก่อน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และตำรวจ สภ.บางบ่อ พร้อมผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ อยู่ระหว่างตรวจสอบที่เกิดเหตุ เร่งไล่ล่าตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป. – […]