ประกาศนำเพื่อไทยกลับมาเป็นที่หนึ่งในใจประชาชน

เพื่อไทย 27 ต.ค.- “แพทองธาร” นั่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ ประกาศทำให้พรรคกลับมาเป็นพรรคอันดับหนึ่งในใจประชาชน บอก ตายังคงดูดาว เท้ายังติดดิน


ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมวิสามัญพรรคเพื่อไทยเพื่อเลือกกรรมการบริหารชุดใหม่และหัวหน้าพรรคคนใหม่ โดยผลการประชุมนั้น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และรองคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ได้รับการรับเลือกให้ดำรงตำแหน่ง หัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่

จากนั้น น.ส.แพทองธารได้ขึ้นแสดงวิสัยทัศน์หลังเข้ารับตำแหน่งหัวหน้าพรรค ซึ่งมีล่ามภาษามือคอยแปลภาษาอยู่ข้างๆ ระบุว่า ขอบคุณสมาชิกพรรคเพื่อไทยทุกคน ที่มอบความไว้วางใจให้มาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตนรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง เพราะนี่ไม่ใช่เป็นเพียงกระบวนการของพรรค แต่เป็นการเชื่อมความเชื่อมั่น ความมั่นคง ความศรัทธา เชื่อมการต่อสู้ของทุกคนเข้าด้วยกันอีกครั้ง


“พรรคเพื่อไทยผ่านอะไรมาเยอะมาก เราเป็นพรรคการเมืองที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด และเรายังเป็นพรรคการเมืองที่ถูกกระทำมากที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ดิฉันเติบโตมาในแวดวงการเมือง ได้สังเกต ได้ใกล้ชิด ทำให้ได้เรียนรู้อะไรมากมาย ต้องขอขอบคุณท่านทักษิณ ชินวัตร คุณพ่อ ที่ทำให้ดิฉันได้เห็นถึงความตั้งใจ เห็นถึงอุดมการณ์ของท่าน และทำให้ได้เรียนรู้ ได้ใกล้ชิด ที่ได้เป็นแรงบันดาลใจที่สำคัญของดิฉันในการดำรงชีวิต” น.ส.แพทองธาร กล่าว

น.ส.แพทองธาร ยังกล่าวอีกว่า ตนรู้ดีว่าภารกิจนี้เป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่ และสำคัญมาก โดยเฉพาะบริบทของการเมืองที่เปลี่ยนแปลงไปรวดเร็วในทุกวัน มั่นใจว่าเรามีบุคลากรที่มีความสามารถ สั่งสมประสบการณ์มาตั้งแต่เป็นไทยรักไทย จนถึงเพื่อไทยในปัจจุบัน เราจะทำเพื่อไทยให้พัฒนาขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง

หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยังกล่าวด้วยว่า การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ทำให้เราต้องเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ ทีมคณะบริหารพรรคเพื่อไทยทีมใหม่จะต้องถอดบทเรียน ทบทวนการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว เพื่อทำให้ดีขึ้น เพื่อนำพรรคเพื่อไทยให้กลับไปยืนอยู่ในใจของประชาชน ในฐานะพรรคการเมืองอันดับหนึ่งอีกครั้งอย่างยั่งยืน


น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาสองเดือนที่ผ่านมา ภายใต้รัฐบาลและการนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่า การจัดตั้งรัฐบาลในวันนั้นเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุด มีสิ่งต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย ทั้งการลดค่าไฟ ค่าน้ำมัน การปรับลดค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย การเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ การให้ภาคเอกชนและคนรู้จริงเข้าไปพัฒนาเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศไทยอย่างจริงจังเป็นครั้งแรก การนำร่องใช้บัตรประชาชนเพื่อรักษาพยาบาลในโครงการ 30 บาทรักษาได้ทุกที่ การรับมือวิกฤติทันท่วงทีช่วยคนไทยกลับบ้านในสถานการณ์สงครามในตะวันออกกลาง การเจริญสัมพันธไมตรีทางการทูตกับนานาประเทศ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในระยะเวลาสองเดือน สามารถสร้างโอกาสให้ประชาชนและประเทศอย่างมากมาย และตนมั่นใจว่า 4 ปี หลังจากนี้ก็จะมีบทบาทเพิ่มขึ้นให้ประเทศของเราอย่างแน่นอน

น.ส.แพทองธาร กล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยจะยังคงสานต่อภารกิจสำคัญคือ การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ทั้งด้านความเป็นอยู่ สิทธิเสรีภาพอย่างที่ทำต่อเนื่องมา 25 ปี เรามีวันนี้ได้ เพราะผู้ใหญ่ในพรรค รดน้ำพรวนดินให้ต้นไม้ต้นนี้แข็งแรงและมีรากฐานที่มั่นคง ตนมองเห็นได้ชัด ได้ไกลขึ้นเพราะทุกท่านได้ร่วมสร้างกันไว้ 

“จากนี้ไปตนอยากให้พรรคเพื่อไทยเป็นมากกว่าพรรคที่ให้โอกาส แต่สามารถขจัดความเสี่ยงในชีวิตของประชาชนได้ด้วย เพื่อปลดล็อคศักยภาพของคนได้อย่างเต็มที่ มีสิทธิ์ มีเสียงในการพัฒนาประเทศไปด้วยกัน เราจะไม่ทิ้งดีเอ็นเอเดิมของพรรคเพื่อไทย นั่นคือการทำนโยบายที่สัญญาไว้กับประชาชนให้เป็นจริงได้ เราจะทำความฝันให้เป็นความจริง เราจะทำเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ เราจะลบทุกคำสบประมาทด้วยผลงานที่ปฎิเสธไม่ได้  ดีเอ็นเอนี้จะยังคงอยู่กับพรรคเพื่อไทย และพัฒนาตามยุคสมัย” นางสาวแพทองธาร กล่าว

นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า มี 4 เรื่องหลักที่สำคัญที่ทีมบริหารทีมใหม่จะต้องทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในพรรคอย่างชัดเจน คือ  1. จะทำ Digital transformation อย่างเต็มรูปแบบ นำข้อมูลทุกอย่างให้อยู่ในระบบดิจทัลเพื่อให้เกิดการต่อยอดและพัฒนาได้ง่ายขึ้น

2.จะสร้างองค์กรแนวราบและเพิ่มการมีส่วนร่วมของทุกคนทำให้พรรคเกิดประสบการณ์ มีกระบวนการตัดสินใจที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพเพื่อประชาชนมากยิ่งขึ้น

3.จะทำให้องค์กรพรรคเพื่อไทย เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ learning organization ที่จะมีศูนย์ข้อมูลศูนย์วิจัยเพื่อนำมาพัฒนานโยบาย ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี เพื่อปรับใช้ให้ทันยุคสมัยและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลกได้อย่างเท่าทัน จะมีการอบรมศักยภาพทั้งยุวสมาชิก และสมาชิกทั่วไป แบ่งพื้นที่ให้คนทั้งรุ่นใหญ่และรุ่นใหม่แลกเปลี่ยนความคิดเห็น แชร์ไอเดียเพื่อพัฒนาแก้ไขปัญหาประชาชนให้ครบทุกพื้นที่

4.จะสร้างเครือข่ายครอบครัวเพื่อไทยให้แข็งแรง และมีในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อรับฟังเสียงประชาชนที่สะท้อนมาทั้งของตัวเองและครอบครัวได้อย่างชัดเจนให้ถึงพรรคเพื่อไทยได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

ในช่วงท้ายนางสาวแพทองธาร ยังกล่าวว่า สิ่งที่บอกกับตัวเองและสมาชิกทุกคนในพรรคว่า “ตายังคงดูดาว เท้ายังคงติดดิน ยืนหยัดอยู่ข้างประชาชนอย่างเข้มแข็ง มั่นคง เพราะพรรคเพื่อไทยหัวใจคือประชาชน“

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการขึ้นพูดของนางสาวแพทองธาร พรรคเพื่อไทยได้เปิดวีดีโอย้อนเหตุการณ์สำคัญที่แกนนำพรรคเพื่อไทยได้รับเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีตั้งแต่สมัยนายทักษิณ ชินวัตร นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และภาพของอดีตหัวหน้าพรรคทั้ง 7 คนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นที่สังเกตว่าในการแสดงวิสัยทัศน์ของนางสาวแพทองธาร มีบุคคลสำคัญและสมาชิกพรรคคนสำคัญเข้าร่วมรับฟังด้วย อาทิ นายเศรษฐา, นายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี, นางสาวพินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ พี่สาว และนายคชาภา ตันเจริญ หรือ มดดำ พิธีกรชื่อดัง เป็นต้น โดยหลังจากนั้น น.ส.แพทองธาร ได้ร่วมถ่ายรูปกับ สส.และสมาชิกพรรคต่างๆอย่างเป็นกันเอง

สำหรับรายชื่อคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย จำนวน 23 คน ประกอบด้วย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค รองศาสตราจารย์ ชูศักดิ์  ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค   นายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ รองหัวหน้าพรรค  นายโอชิษฐ์  เกียรติก้องชูชัย รองหัวหน้าพรรค  นางสาวจิราพร สินธุไพร รองหัวหน้าพรรค   นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รองหัวหน้าพรรค  นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองหัวหน้าพรรค  นายสรวงศ์ เทียนทอง  เลขาธิการพรรค   นางสาวศรีญาดา  ปาลิมาพันธ์ รองเลขาธิการพรรค  นางสาวลิณธิภรณ์  วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรค  นายศรัณย์  ทิมสุวรรณ รองเลขาธิการพรรค  นายทวีศักดิ์ อนรรฆพันธ์ เหรัญญิกพรรค   นายณณัฏฐ์ หงส์ชูเวช นายทะเบียนสมาชิกพรรค  นายดนุพร  ปุณณกันต์ โฆษกพรรค  นางสาวธีรรัตน์  สำเร็จวาณิชย์ กรรมการบริหาร นายวรวงศ์ วรปัญญา กรรมการบริหาร  นายพชร  จันทรรวงทอง กรรมการบริหาร  นายนิกร  โสมกลาง กรรมการบริหาร  นายธิติวัฐ  อดิศรพันธ์กุล  กรรมการบริหาร  นายจเด็ศ จันทรา กรรมการบริหาร   นายพลนชชา จักรเพ็ชร กรรมการบริหาร   นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ  กรรมการบริหาร  และ นางสาวสรัสนันท์ อรรณนพพร กรรมการบริหาร.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้โดยสารรถทัวร์สยอง นั่งร่วมกับศพจากโคราชถึงลำปาง

ลำปาง 17 มิ.ย. – ไม่รู้นั่งมากับศพทั้งคืน ผู้โดยสารรถทัวร์สายนครราชสีมา-เชียงใหม่ ถึงขนส่งลำปาง ผวาทั้งคัน หลังรถเข้าจอดชานชาลาพบหนุ่มวัย 38 ปี เสียชีวิต ตรวจสอบเบื้องต้นพบขามีรอยช้ำ เลือดไหล แพทย์คาดเสียชีวิตจากโรคประจำตัว ช่วง 05.30 น. วานนี้ (16 มิ.ย.) ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลลำปาง เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างลำปาง รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตบนรถทัวร์โดยสาร สายนครราชสีมา-เชียงใหม่ จอดอยู่บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดลำปาง เทศบาลนครลำปาง ผู้เสียชีวิตเป็นชายอายุ 38 ปี ชาว ต.พิชัย อ.เมืองลำปาง นั่งมากับรถทัวร์โดยสารปรับอากาศ 2 ชั้น ผู้เสียชีวิตนั่งอยู่ชั้น 2 ฝั่งซ้ายโซนด้านหลัง ซึ่งเป็นที่นั่งเดียว ขึ้นรถต้นทางจาก จ.นครราชสีมา ปลายทาง จ.ลำปาง โดยรถเข้าจอดที่ชานชาลา เจ้าหน้าที่ของบริษัททัวร์ได้เชิญผู้โดยสารทั้งหมดลงมาจากรถ จากนั้นแพทย์เวรโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่กู้ภัย ร่วมชันสูตรศพ ทำเอาผู้โดยสารที่นั่งมาในรถคันเดียวกัน โดยเฉพาะผู้ที่นั่งด้านหน้าและหลัง ถึงกับสยอง […]

Hun Sen delivers speech in Cambodia's Senate

“ฮุน เซน” ขู่ให้ไทยเปิดด่านทั้งหมดภายในวันนี้

พนมเปญ 16 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาประกาศว่า ไทยต้องเปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมด และห้ามสินค้าไทยทุกอย่างเข้ากัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนยื่นคำขาดระหว่างกล่าวสุนทรพจน์พิเศษก่อนการประชุมวุฒิสภาในเช้าวันนี้ว่า เดิมกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมดในวันนี้ แต่รัฐบาลได้เลื่อนการตัดสินใจออกไป หลังจากที่เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีแพรทองธาร ชินวัตรของไทย หากไทยไม่เปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป กัมพูชาจะห้ามผักและผลไม้ผ่านจุดผ่านแดนทั้งหมดของกัมพูชา นอกจากนี้กัมพูชาจะยกเลิกมาตรการจำกัดการผ่านแดนกับไทยที่ใช้อยู่ในขณะนี้ หากทางการไทยกลับมาเปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ตามเดิม นายฮุน เซนประกาศชัดเจนว่า ทางการกัมพูชาจะไม่มีวันนั่งโต๊ะเจรจากับทางการไทยเรื่องการจำกัดการผ่านแดน เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยได้ตั้งคำถามว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายจำกัดการผ่านแดน และเมื่อกัมพูชาทำเช่นเดียวกัน ก็ต้องการเจรจาเพื่อรักษาหน้าเช่นนั้นหรือ พร้อมกับสำทับว่า กัมพูชาจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะความผิดพลาดของคนอื่น.-814.-สำนักข่าวไทย

ครูสาวเขียนจดหมายระบายความอัดอั้น ก่อนคิดสั้น-ศธ.สั่งสอบข้อเท็จจริง

บุรีรัมย์ 17 มิ.ย. – ครูสาวโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ เขียนจดหมายระบายความอัดอั้น “งานครูหนักและเครียดมากจนทนไม่ไหว” ก่อนตัดสินใจคิดสั้น ด้าน ศธ. สั่งสอบข้อเท็จจริง ยอมรับครูรับภาระหนัก ตำรวจพร้อมกู้ภัยได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตในบ้านหลังหนึ่ง อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ พบร่างของครูมัท วัย 39 ปี ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ โดยครูตัดสินใจลาโลกด้วยตัวเอง ข้างร่างของครูมีจดหมายลาที่เขียนถึง 5 หน้ากระดาษ หน้าซองจดหมายเขียนไว้ว่า “จดหมายส่วนตัวถึงครอบครัวของฉัน” เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยหน้าที่ 1-4 ผู้ตายเขียนถึงพี่สาวซึ่งเป็นข้าราชการครู ลูกสาววัย 10 ขวบ และพ่อแม่ ส่วนหน้าที่ 5 เขียนถึงการทำงาน ถึงสาเหตุที่ลาโลกใบนี้ เพราะไม่สบายกายและไม่สบายใจ มีปัญหาเรื่องการทำงาน การเงิน การบัญชี ซึ่งพอกพูนจนแก้ไขได้ยาก ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นเพราะครูมัทเพียงคนเดียว เกิดจากกระบวนการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพภายในโรงเรียน ทำงานไม่เป็นระบบ ให้เบิกเงินก่อนเคลียร์เอกสารทีหลัง สุดท้ายนิ่งเฉย ไม่มีใครมาเคลียร์ให้ อันไหนเคลียร์เองได้ก็ดีไป แต่อันไหนเคลียร์ไม่ได้ก็ต้องมานั่งเครียดเองจนหัวจะระเบิด เป็นไมเกรนแทบทุกวัน […]

สาวโพสต์ถูกไฟดูดจากตู้กดบัตรจอดรถอัตโนมัติห้างดัง

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – สาวโพสต์ถูกไฟตู้กดบัตรจอดรถอัตโนมัติห้างดังดูดมือ ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลหลายวัน ทำงานไม่ได้ กินข้าวไม่ได้ ชีวิตพัง ห้างโยนภาระให้เดินเอกสารเบิกกับโรงพยาบาลเอง สาวโพสต์ภาพพร้อมเล่าเรื่องราวเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา กำลังขับรถเข้าลานจอดรถห้างฯ แห่งหนึ่ง แล้วลดกระจกเอามือโบกระบบเซ็นเซอร์เพื่อรับบัตรจอด ปรากฏว่าถูกไฟดูดทั้งที่มือไม่ได้แตะโดนเครื่อง เพราะระบบเซ็นเซอร์ไม่ต้องสัมผัสโดน แค่โบกหน้าเครื่อง ตนเองรู้สึกไฟดูด แขนชา จี๊ดขึ้นหัว และชาลงไปถึงขา บัตรก็ไหลออกมาจากเครื่อง แต่ไม้กั้นรถไม่เปิด คาดว่าไฟฟ้าในเครื่องน่าจะขัดข้อง และไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่บริเวณนั้นเลย จะกดปุ่ม SOS ขอความช่วยเหลือที่ตัวเครื่องก็ไม่กล้า เพราะกลัวถูกไฟดูดรอบ 2 จึงพยายามบีบแตรเรียกหลายครั้งกว่าจะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาหา พอเจ้าหน้าที่มาตนก็บอกว่าถูกไฟดูด แต่เจ้าหน้าที่มาเปิดไม้กั้นให้และไม่พูดอะไรต่อ เลยรีบเอารถเข้าไปในลานจอด จากนั้นรีบเดินไปที่จุดบริการลูกค้า เพื่อขอความช่วยเหลือ เพราะตอนนั้นชาไปครึ่งตัว เจ้าหน้าที่พาไปห้องพยาบาล เอาเจลเย็นมาประคบอยู่นานก็ไม่รู้สึกดีขึ้น แขนเริ่มไม่มีแรงยก เจ้าหน้าที่เห็นอาการหนักเลยพาไปโรงพยาบาลที่มีสัญญากับห้าง หมอตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจกับตรวจเลือดแล้วค่าปกติดี หมอสั่งยาและให้กลับบ้าน ทั้งที่ยังไม่หายชา ถึงขนาดแขนไม่มีแรงแม้แต่จะเซ็นเอกสาร หมอบอกว่าคุณไม่เคยข้อศอกกระแทกโต๊ะเหรอ ชาๆ เหมือนกัน เดี๋ยวก็หายเอง ตนเองจึงตั้งคำถามว่าจะหายเองจริงเหรอ เพราะยังทำอะไรไม่ได้เลย ตอนกลางคืนลองยกแขนนิ้วยังสั่นอยู่เลย กินยาคลายกล้ามเนื้อก็ไม่มีอะไรดีขึ้น […]

ข่าวแนะนำ

สยองหนุ่มลำปางเสียชีวิตบนรถทัวร์ พบติดเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อ

ลำปาง 17 มิ.ย.- จากเหตุหนุ่มวัย 38 ปี เสียชีวิตในรถทัวร์จากโคราชกลับบ้านที่ลำปางโดยที่เพื่อนร่วมทางไม่รู้ ผลชันสูตรพบติดเชื้อในกระแสเลือดจากโรคแบคทีเรียกินเนื้อ ที่เคยระบาดในญี่ปุ่น ซึ่งญาติยืนยันผู้ตายไม่มีโรคประจำตัว แต่เคยเป็นงูสวัดจนลามไปที่หูและพบอาการขาบวมไม่ถึง 2 สัปดาห์ก่อนเสียชีวิต ขณะที่แพทย์ระบุหากเกิดแผลมีโอกาสรับเชื้อแบคทีเรียจนเนื้อเน่าได้โดยเฉพาะกลุ่มที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ .-สำนักข่าวไทย

วันแรกห้ามคนไทยไปทำงาน “กาสิโน-สถานบันเทิง” ปอยเปต

กัมพูชา 17 มิ.ย. – ติดตามบรรยากาศวันแรกของการยกระดับมาตรการคุมเข้มการเดินทางข้ามไปที่กาสิโนฝั่งกัมพูชา ที่ด่านคลองลึก จ.สระแก้ว ด่านที่มีมูลค่าการค้าสูงสุดระหว่างไทยและกัมพูชา สำหรับวันแรกของมาตรการยกระดับตามคำสั่งกองกำลังบูรพาที่ห้ามไม่ให้คนไทยข้ามไปบ่อนและคาสิโนฝั่งกัมพูชาทั้งคนที่จะข้ามไปทำงานและเล่นการพนัน ในช่วงเช้าก่อนที่จะทราบมาตรการ พบมีคนไทยจำนวนมากนั่งต่อแถวยาวเหยียดตั้งแต่หน้าด่านตรวจคนเข้าเมืองยาวไปจนถึงตลาดโรงเกลือระยะทาง 2 กิโลเมตร แต่เมื่อมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ทราบถึงมาตรการที่มีการยกระดับและให้คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินปรากฏว่าคนไทยที่นั่งต่อแถวได้แยกย้ายไปอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้หลังการยกระดับคำสั่งของกองกำลังบูรพาพบว่าจากเดิมที่มีคนไทยข้ามไปฝั่งปอยเปตเฉลี่ยวันละ 4,000-5,000 คน วันนี้ปรากฏว่าเป็นคนไทยเดินทางข้ามไปเป็นความบังเอิญที่ตัวเลขทั้งข้ามไปโดย Flowing Pass หรือบัตรผ่านแดนชั่วคราวและข้ามไปโดยพาสปอร์ตมีตัวเลขตรงกันคือมีข้ามไปเพียงอย่างละ 196 คนเท่านั้น โดยมีรายงานว่าสำหรับคนที่ไม่ได้ข้ามไป ถ้าเป็นคนในพื้นที่ที่เคยข้ามไปทำงาน บางส่วนก็กลับไปที่บ้านพัก แต่สำหรับคนไทยที่ต้องการเดินทางข้ามไปกาสิโนฝั่งกัมพูชา บางส่วนก็เดินทางกลับต้นทาง แต่บางส่วนที่หวังว่า อาจมีการผ่อนคลายมาตรการ ก็เปิดรีสอร์ตหรือห้องพักต่างๆ ใกล้เคียงด่านเป็นที่พำนัก ทำให้ขณะนี้รีสอร์ตและโรงแรมต่างๆ ในอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว มีผู้เข้าพักเต็มในหลายที่ด้วยกัน พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว เปิดเผยว่าได้รับคำสั่งจากกองกำลังบูรพาตั้งแต่ค่ำวานนี้และถือปฏิบัติตั้งแต่เวลา 08.00 น. ที่ผ่านมา ดังนั้นประชาสัมพันธ์ถึงคนไทยที่อยู่ในฝั่งปอยเปตให้รีบเดินทางกลับมายังฝั่งไทยส่วนคนไทยที่จะเดินทางข้ามไปอย่างกัมพูชาหากไม่จำเป็นขอให้งดการเดินทาง ทั้งนี้สำหรับการรองรับหลังมีการควบคุมบริเวณด่านพรมแดนไม่ข้ามไปยังบ่อนกาสิโนฝั่งกัมพูชา พบว่าเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะตำรวจตระเวนชายแดนและทหารพรานคุมเข้มตั้งแต่ต้นน้ำ และมีรายงานว่ามีการวางกำลังตลอดแนวชายแดนไทยกัมพูชาในเขตจังหวัดสระแก้วเช่น เพื่อป้องกันการลักลอบใช้ช่องทางธรรมชาติเพื่อเข้าไปยังประเทศกัมพูชา.-สำนักข่าวไทย

บอร์ดค่าจ้างเคาะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท กทม.-บางกิจการ ตจว.

กทม. 17 มิ.ย.-แรงงานเฮ! ก.แรงงาน ขับเคลื่อนสำเร็จ “ปลัดบุญสงค์” เผยบอร์ดค่าจ้างเคาะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท พื้นที่กรุงเทพฯ และบางกิจการในต่างจังหวัด เริ่ม 1 ก.ค.นี้ นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการค่าจ้าง (ไตรภาคี) ชุดที่ 22 ครั้งที่ 6/2568 มีมติเห็นชอบให้ปรับขึ้น ค่าจ้างขั้นต่ำเป็นวันละ 400 บาท ในหลายพื้นที่และกลุ่มกิจการทั่วประเทศ โดยถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการยกระดับรายได้ให้กับแรงงานไทย ตามแนวทางนโยบายของรัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ ที่มุ่งให้แรงงานไทยมีค่าจ้างที่เป็นธรรม และสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน มติของที่ประชุมในวันนี้ ซึ่งประกอบด้วยกรรมการจากฝ่ายนายจ้าง ฝ่ายลูกจ้าง และฝ่ายรัฐบาล รวม 15 คน มีเสียงเห็นชอบ 2 ใน 3 โดยกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำใหม่ ดังนี้•พื้นที่กรุงเทพมหานคร ปรับค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 บาทต่อวัน ทั่วพื้นที่•ต่างจังหวัด ปรับค่าแรง 400 บาท […]

นายกฯ เผยพร้อมอพยพคนไทยออกจากกรุงเตหะราน

พรรคเพื่อไทย 17 มิ.ย.-นายกฯ ย้ำความพร้อมหลังสถานทูตฯ สั่งคนไทยอพยพออกจากกรุงเตหะราน ปัดตอบ “อนุทิน” เตรียมเป็นฝ่ายค้าน หากยึดมหาดไทยคืน เมื่อเวลา 16.45 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะราน ออกแถลงการณ์อพยพคนไทยออกจากกรุงเตหะราน หลังจากสถานการณ์ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับแจ้ง แต่เดี๋ยวจะเช็กเลย น่าจะอพยพแล้ว เพราะเตรียมการไว้แล้วตั้งแต่เมื่อเช้า นายกรัฐมนตรี ไม่ได้ตอบคำถามถึงกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ว่า หากกระทรวงมหาดไทยไม่ได้อยู่กับพรรคภูมิใจไทย ก็พร้อมที่จะเป็นฝ่ายค้าน โดยนายกรัฐมนตรีได้เดินทางกลับในทันที.-316.-สำนักข่าวไทย