fbpx

เสนอรื้อฟื้น ประชุมร่วม ครม. ไทย-เวียดนาม

เวียดนาม 26 ต.ค.- “ปานปรีย์” หารือ นายกฯ เวียดนาม รื้อฟื้นประชุมร่วม ครม. 2 ประเทศ เพิ่มการค้าการลงทุน ตั้งเป้า 25,000 ล้านดอลลาร์ ในปี 2025


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเดินทางเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม อย่างเป็นทางการของ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ระหว่างวันที่ 25-26 ต.ค.นี้ นายปานปรีย์ ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ นายกรัฐมนตรีเวียดนาม  โดยทั้งสองฝ่ายย้ำความร่วมมือที่ใกล้ชิดระหว่างกัน ทั้งในด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว ตลอดจนความร่วมมือในกรอบภูมิภาค โดยเฉพาะในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงและในกรอบอาเซียน นายกรัฐมนตรีเวียดนามยังได้เชิญนายกรัฐมนตรีไทยเยือน และเสนอจัดประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมไทย-เวียดนาม ในปี 2567

นายปานปรีย์ กล่าวว่า เป็นการเดินทางเยือนอย่างเป็นทางการครั้งแรก  หลังเข้ารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ  ซึ่ง นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้เล่าถึงความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับเวียดนาม ที่มีมาอย่างยาวนาน รวมถึงได้มีการหารือถึงการค้าการลงทุน ที่ทั้งสองประเทศมีแนวโน้ม เพิ่มการค้าการลงทุนมากขึ้นไปอีก โดยมีการตั้งเป้ามูลค่าการค้าระหว่างกันในปี 2025 ถึง 25,000 ล้านเหรียญสหรัฐ


ส่วนในเรื่องความสัมพันธ์ทางด้านการเมือง นายกรัฐมนตรีเวียดนามเสนอให้กลับมามีการประชุมรัฐมนตรีร่วมระหว่างไทยกับเวียดนาม ในปี 2567 เนื่องจากเคยมีการประชุมร่วมกัน แต่ได้ว่างเว้นไปหลายปี ซึ่งตนรับปากจะนำเรียนเรื่องนี้ต่อนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีต่อไป ซึ่งการประชุม ครม. ร่วมกัน จะมีประเด็นหลักในการพูดคุย โดยประเด็นที่น่าสนใจคือเรื่อง New Momentum ที่ประธานคณะกรรมาธิการต่างประเทศ พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ได้เสนอ นอกจากนี้ยังมีเรื่องการค้าการลงทุน เรื่องภูมิรัฐศาสตร์  เพราะไทยและเวียดนามอยู่ในจุดสำคัญของอาเซียน หรืออยู่ในจุดยุทธศาสตร์ 

นอกจากนี้ อาจจะพูดคุยไปถึงเรื่องวัฒนธรรมและสังคมด้วย นายปานปรีย์ เปิดเผยว่านายกรัฐมนตรีเวียดนาม ได้แสดงความห่วงใยและแสดงความเสียใจ ต่อการสูญเสียของคนไทยในอิสราเอล จากสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น และบอกว่าเรื่องเหล่านี้ไม่น่าจะเกิดขึ้น พร้อมขอให้ผู้ที่ถูกจับเป็นตัวประกัน ได้รับการปล่อยตัวอย่างรวดเร็วด้วย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบจุดที่ ฮ.ปธน.อิหร่านตกแล้ว

เตหะราน 20 พ.ค.- สื่อทางการอิหร่านรายงานอ้างแหล่งข่าวภาคสนามว่า ผลการตรวจตราทางอากาศในพื้นที่ที่เฮลิคอปเตอร์ของประธานาธิบดีเอบราฮิม เรซี ประสบเหตุตก สามารถกำหนดพิกัดการตกที่แม่นยำได้แล้ว เว็บไซต์สำนักข่าวไออาร์เอ็นเอ (IRNA) ของทางการอิหร่านรายงานว่า ทีมค้นหาและกู้ภัยกำลังเดินทางไปยังจุดที่อาจเกิดอุบัติเหตุ แต่ยังไม่มีการยืนยันเรื่องนี้จากทางการ ขณะเดียวกันโดรนของทูร์เคียหรือตุรกีได้ตรวจพบจุดความร้อนที่น่าจะเป็นจุดที่เฮลิคอปเตอร์ตก ผู้บัญชาการของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่านยืนยันว่า โดรนทูร์เคียพบจุดความร้อนที่น่าจะเป็นซากเฮลิคอปเตอร์ ไออาร์เอ็นเอรายงานว่า แม้ว่าสภาพอากาศเลวร้ายหมอกลงจัดและมีฝนตก ทีมกู้ภัยกำลังเร่งค้นหาเฮลิคอปเตอร์ที่ประธานาธิบดีไรซีโดยสารมาพร้อมกับคณะและหายไปเมื่อวันอาทิตย์ขณะบินอยู่เหนือภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ โดยได้ค้นหาอย่างละเอียดตามพื้นที่เทือกเขาและเนินเขาใกล้เมืองวาร์ซากานในจังหวัดอาร์เซอร์ไบจานตะวันออก.-814.-สำนักข่าวไทย

เร่งวิจัยยาฉีดพ่นรักษามะเร็งปอด คาดสำเร็จใน 3 ปี

การรักษามะเร็งมีความหวังมากขึ้น หลังนักวิจัยไทยจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกับนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก ใช้เทคโนโลยีรักษามะเร็งสมองได้สำเร็จ และนำมาวิจัยต่อยอดรักษามะเร็งกระดูกอ่อนและมะเร็งตับแนวใหม่ได้ผล ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นการวิจัยยารักษามะเร็งปอดแบบฉีดพ่น

รวบแล้วหนุ่มปากี-เมียคนไทย ลวงชายอินเดียฆ่าทิ้งศพ

ตำรวจภูธรภาค 8 จับกุมชายปากีสถาน พร้อมภรรยาชาวไทย ลวงชายอินเดียมาฆ่าแล้วทิ้งศพริมถนน พุ่งเป้าปมขัดแย้งธุรกิจ โดยมีหลักฐานสำคัญจากวงจรปิดที่จับภาพเหตุการณ์ ขัดแย้งกับคำให้การของผู้ต้องหา

Made in Thailand แดนไทยเท่ : จากเมืองเก่าภูเก็ตสู่แพ็กเกจกล่องชิโนโปรตุกีส

ช่วง Made in Thailand แดนไทยเท่ วันนี้ จะพาไปดู มนต์เสน่ห์ของตึกรามบ้านช่องในย่านเมืองเก่าภูเก็ต ที่ถูกถ่ายทอด ไปสู่กล่องขนมรูปแบบชิโนโปรตุกีส กลายเป็นซอฟต์พาวเวอร์ภูเก็ตและไทยที่โดนใจนักท่องเที่ยวทั่วโลก

ข่าวแนะนำ

สิงคโปร์แอร์ไลน์ตกหลุมอากาศ เบื้องต้นเสียชีวิต 1 ราย

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เผยสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ เที่ยวบิน SQ321 ลอนดอน-สิงคโปร์ ขอลงจอดฉุกเฉิน เนื่องจากมีผู้โดยสารบาดเจ็บจากเครื่องบินตกหลุมอากาศ เบื้องต้นเสียชีวิต 1 ราย

“พิชิต” ยื่นลาออก รมต.ประจำสำนักฯ ให้นายกฯ บริหารประเทศต่อไปได้

“พิชิต” ยื่นหนังสือลาออก รมต.ประจำสำนักฯ แล้ว เพื่อให้นายกรัฐมนตรีเดินหน้าบริหารประเทศต่อไปได้ ยืนยัน ไม่ยึดติดตำแหน่ง