กองทัพเรือถอยซื้อเรือดำน้ำ เปลี่ยนเป็นเรือฟริเกตแทน

กองทัพเรือ 20 ต.ค.- “สุทิน” เผย กองทัพเรือถอยจัดซื้อเรือดำน้ำ เปลี่ยนเป็นซื้อเรือฟริเกตแทน ย้ำ โครงการจัดหาเรือดำน้ำของกองทัพเรือ ไม่ยกเลิก แค่ชะลอโครงการฯ รอความพร้อมประเทศ ส่วนเหตุไม่เปลี่ยนเจ้า เพราะจ่ายเงินไปแล้ว ยอมรับฟังกระแสสังคมในการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ ยืนยันปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อเลี่ยงความขัดแย้งสังคม


นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน เกี่ยวกับโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือ ว่า ทุกท่านทราบดีอยู่แล้วว่าโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำมีปัญหา โดยกระทรวงกลาโหม กองทัพเรือ และรัฐบาล ต่างก็ร่วมที่จะแก้ปัญหามาโดยตลอด ประการแรก เราต้องการให้ได้เครื่องยนต์เดิม ตามสัญญาโครงการฯ ตั้งแต่สมัย ผบ.ทร. ท่านก่อน แต่ไม่สำเร็จ จึงไม่ได้เครื่องยนต์ตามที่ตกลง

ปัจจุบัน ก็ได้มีการหารือเกี่ยวกับโครงการฯ อย่างไรก็ตาม กองทัพเรือก็พยายามหาทางออก โดยผบ.ทร.ท่าน ก่อนเกษียณอายุราชการ ก็ได้จัดทำหนังสือเรื่อง โครงการจัดซื้อเรือดำน้ำให้เปลี่ยนสัญญาจากเดิมใช้เครื่องยนต์เยอรมันให้เปลี่ยนมาใช้เครื่องที่ผลิตในประเทศจีนแทนที่ ได้ส่งมายัง กระทรวงกลาโหม ขณะที่กระทรวงกำลังศึกษาหาทางออกควบคู่และปรึกษากับกองทัพเรือ ดังนั้น จึงมีการทบทวนโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำอีกครั้ง เพื่อหาแนวทางใหม่


หลังการพิจารณาร่วมกัน จึงมีข้อสรุปเปลี่ยนจากการจัดซื้อเรือดำน้ำ เป็นซื้อเรือฟริเกตแทน ตามข้อเสนอของกองทัพเรือ โดยการตัดสินใจร่วมระหว่างรัฐบาลและกระทรวงกลาโหม ส่วน เรือฟริเกตสามารถทำหน้าที่ทดแทนเรื่องดำน้ำ โดยเรือมีความสามารถต่อสู้ทางบก ทางอากาศ ทางน้ำ และเรือดำน้ำ ซึ่งคุ้มค่ามีราคาไม่ต่างกันมากจากการศึกษา เพียงสูงกว่าเดิมประมาณ 1,000 ล้านบาท มีมูลค่าประมาณ 17,000 บาท หากได้เรือฟริเกตจะทำให้กองทัพเรือจะต้องไม่สูญเสียโอกาส เพื่อทำให้กองทัพเข้มแข็ง ไม่ทำให้กองทัพอ่อนแอลงจากเรือดำน้ำ รวมถึงสร้างความพึงพอใจของสังคมที่มีต่อกองทัพและรัฐบาล โดยผู้บริหารฝ่ายการเมืองและกองทัพสามารถตอบปัญหาต้องไม่เป็นข้อครหาของสังคม

สำหรับการเดินทางไปเยือนจีนที่ผ่านมาของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นายสุทิน กล่าวว่า เป็นไปเพื่อการเจรจาหารือเพื่อหาทางออกร่วมกับรัฐบาลจีน เกี่ยวกับการระงับข้อตกลงโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำ เพื่อเปลี่ยนทำข้อตกลงจัดซื้อเรือฟริเกต ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปเนื่องจากรายละเอียดเยอะ แต่รัฐบาลจีนมีความเข้าใจรัฐบาลไทย ด้านรัฐบาลจีนก็ขอความเห็นใจกัน เนื่องจากปัญหาไม่ได้เกิดที่จีน เพราะฉะนั้นต่างเห็นใจกัน โดยรัฐบาลจีนยินดีที่จะหาทางออกให้และรับข้อเสนอของรัฐบาลไทยไปพิจารณาในการจัดหาเรือฟริเกต โดยจะนำเงินที่เคยชำระค่าเรือดำน้ำจากรัฐบาลจีนเปลี่ยนเป็นค่าเรือฟริเกตแทน ส่วนเงินที่เพิ่มมา 1,000 ล้านบาท จะนำเงินที่ใช้สำหรับสร้างอาคารเก็บและซ่อมบำรุงเรือดำน้ำมาใช้แทนที่

ส่วนโครงการจัดหาเรือดำน้ำ นายสุทิน ยืนยันว่าโครงการฯ จะยังมีอยู่ต่อไป ไม่มียกเลิกเพียงชะลอโครงการจัดหาเรือดำน้ำ เพียงแต่รอความพร้อมของประเทศ โดยให้กองเรือดำน้ำของกองทัพเรือพิจารณาศึกษาไปก่อน ส่วนเหตุผลที่ไม่เปลี่ยนประเทศผู้ซื้อ เนื่องจากชำระเงินสำหรับเรือน้ำดำไปแล้ว โดยการจัดซื้อเรือดำน้ำเป็นข้อตกลง G to G ซึ่งมีความแตกต่างกับสัญญาเอกชน หากเป็นสัญญาเอกชนเราสามารถระงับสัญญาได้เลย แต่ข้อตกลง G to G หากผิดเงื่อนไขข้อตกลงจะสามารถเจรจาหาข้อตกลงใหม่ ซึ่งมีระบุอยู่ในข้อตกลงอยู่แล้ว


สำหรับการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ตามกระแสสังคม นายสุทิน กล่าวว่า ยอมรับส่วนหนึ่งว่าต้องดูกระแสสังคมในการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ของทุกเหล่าทัพ รวมถึงกระทรวง ทบวง กรม จะทำอะไรที่สังคมมองว่าไม่คุ้ม ไม่เกิดประโยชน์ และเสียผลประโยชน์ อย่างไรก็ตามเราไม่ได้เอาเรื่องความเห็นของสังคมเป็นประเด็นหลัก หากต้องรับเรือดำน้ำใช้เครื่องยนต์จีน ประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ต่างไม่เคยใช้ ซึ่งต้องยอมรับเป็นเรื่องข้อกฏหมายที่จะทำให้รัฐบาลปฏิบัติด้วยความยุ่งยาก ผู้ใดจะสามารถรับประกันได้จะไม่มีปัญหาไปถึงการฟ้องร้องต่อศาล เป็นประเด็นทางการเมือง และอาจนำไปสู่ความแตกแยกในสังคม .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แม่น้ำยมล้นพนังกั้นน้ำ ชาวบ้าน-พระ เดือดร้อน

สุโขทัย 28 ส.ค. – หลายพื้นที่เมืองสุโขทัย จมอยู่ใต้น้ำและขยายวงกว้าง แม่น้ำยมล้นพนังกั้นน้ำ ด้านหลังวัดปากแคว พระและชาวบ้าน ช่วยกันขนสิ่งของหนีน้ำ ภาพมุมสูง เผยให้เห็นสภาพน้ำท่วมสูงภายในวัดปากแคว และบริเวณโดยรอบ ทหารนำกำลังพล 22 นาย ลงพื้นที่ช่วยเหลือ พระวัดปากแคว ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 2 หมู่ 4 ต.ปากแคว 4 ชุมชน ในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ถูกน้ำท่วมขยายวงกว้าง รถยนต์จมน้ำหลายคัน ด้านหลังวัดปากแคว อำเภอเมือง แม่น้ำยมผนังกั้นน้ำล้นตลิ่ง มวลน้ำมหาศาล ทะลักเข้าท่วมเต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงรอบวัดเกือบ 2 เมตร ทะลักเข้าท่วม ไหลข้ามถนนจรดวิถีถ่อง ระยะทางกว่า 500 เมตร ต้องปิดกั้นถนนห้ามสัญจรไปมา พระครูปลัดสุวัฒนสาธุคุณ (พระอาจารย์นาค) เจ้าคณะตำบลบ้านกล้วย เจ้าอาวาสวัดพายชุมพล หลังทราบข่าว ระดับน้ำท่วม ในวัดปากแคว รีบนำอาหารกล่องพร้อมทั้งถุงยังชีพ เข้าไปถวายพระสงฆ์ 18 รูป ที่จำพรรษาอยู่ในวัดปากแคว เร่งหาผู้สูญหายที่แม่ฮ่องสอน […]

เร่งค้นหาอีก 3 ผู้สูญหายดินถล่มปางอุ๋ง ท่ามกลางความหวังของญาติ

28 ส.ค. – เข้าสู่วันที่ 2 ของเหตุดินโคลนถล่มบ้านปางอุ๋ง หมู่บ้านกลางหุบเขา อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายอีก 3 ราย โดยระดมกำลังนับร้อยนายพร้อมเครื่องจักรเดินหน้าค้นหา ท่ามกลางบรรดาญาติที่เฝ้ารอด้วยความหวัง ล่าสุดวันนี้พบร่างผู้เสียชีวิตอีก 2 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้เพิ่มเป็น 6 ราย และยังสูญหายอีก 3 คน ขณะที่หลายครอบครัวต้องสูญเสียบ้านที่อยู่มาหลายสิบปีและยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นสร้างขึ้นใหม่ได้อย่างไร.-สำนักข่าวไทย

ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. โผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด

กทม. 28 ส.ค.-ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. หลัง “ภูมิธรรม” ถกลับ ผบ.ตร. นานหลายชั่วโมง เหตุมีหนังสือร้องเรียนจำนวนมาก ทำโผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. เป็นประธานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 7/2568 ณ ห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 มีระเบียบวาระการประชุม 5 วาระ ประกอบด้วย วาระที่ 1 เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ /วาระที่ 2 รับรองรายงานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 6/2568 /วาระที่ 3 เรื่องที่เสนอเพื่อทราบ เรื่องที่ 1 รายงานการดำเนินการของ อ.ก.ตร.สืบสวนสอบสวน ที่ ก.ตร. มอบหมายให้ทำการแทน […]

กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา เขต อ.อรัญประเทศ

สระแก้ว 23 ส.ค.-กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา จุดแรกบริเวณหลักเขตที่ 50-51 เขต อ.อรัญประเทศ ระยะทาง 10 กม. เชื่อเริ่มดำเนินการได้เป็นรูปธรรมภายในปีนี้ พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทยพร้อมคณะลงพื้นที่เพื่อสำรวจแนวชายแดนตั้งแต่หลักเขตที่สี่ 48 ต่อเนื่องถึง 51 บริเวณพื้นที่บ้านป่าไร่ ถึงบ้านท่าข้าม ในเขต อ.อรัญประเทศ โดยการสำรวจดังกล่าวเพื่อเตรียมสร้างแนวกำแพงแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ข้อสรุปเบื้องต้นบริเวณหลักเกณฑ์ที่ห้า 50 และ 51 ซึ่งไทยและกัมพูชาเห็นตรงกันแล้วในเรื่องเขตแดน จะสร้างเป็นรั้วถาวรเป็นจุดแรกระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ขณะบริเวณอื่นๆ ซึ่งยังมีการอ้างสิทธิ และยังไม่มีข้อสรุปเรื่องเขตแดนที่ชัดเจน เบื้องต้นก็จะสร้างเป็นแนวรั้วชั่วคราวด้วยวิธีการตัดถนนเลียบตลอดแนวชายแดนและวางรั้วลวดหนามหีบเพลงสามชั้น พร้อมติดกล้องวงจรปิดในจุดที่สามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้เชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวจะเกิดประโยชน์ในการเคลื่อนย้ายกำลัง รวมไปถึงการลาดตระเวนตรวจตรา นอกจากนี้การปรับพื้นที่ให้โล่งก็จะทำให้การลักลอบผ่านแดนตามช่องทางธรรมชาติยากขึ้น ซึ่งถือเป็นการสกัดกั้นทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์และปัญหาสแกมเมอร์ ได้ โดยการดำเนินการจะเริ่มต้นทันทีที่นำเรื่องเข้าขออนุมัติจากสภาความมั่นคงแห่งชาติและไม่ได้ติดขัดในเรื่องงบประมาณแต่อย่างใด เชื่อว่าภายในปีนี้น่าจะเห็นแนวรั้วกำแพงชายแดนไทย-กัมพูชา เริ่มต้นเกิดขึ้นได้ ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้จะมีการลงในรายละเอียดพื้นที่ต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนตามแนวชายแดนที่บางส่วนอาจได้รับผลกระทบบ้าง แต่ก็เชื่อว่าประชาชนพร้อมที่จะเสียสละเพื่อความมั่นคงปลอดภัยของส่วนรวม พลตรี วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำรั้วตลอดแนวชายแดนไทยกัมพูชาเกิดขึ้นจากข้อเรียกร้องของประชาชน […]