รมช.คลัง ย้ำเดินหน้า “เงินดิจิทัลวอลเล็ต” กระตุ้น ศก.ประเทศ

พรรคเพื่อไทย 10 ต.ค. – สส.เพื่อไทย แจงที่ประชุมพรรค ประชาชนต้องการเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ด้าน รมช.คลัง ย้ำเดินหน้าเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ ขณะที่ “แพทองธาร” เชื่อหากนโยบายสำเร็จ ต่างชาติจะดูเป็นตัวอย่าง


พรรคเพื่อไทยมีการประชุม สส.พรรค ประจำสัปดาห์ โดยมีนายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ และรักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ และประธาน สส.พรรค, นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) และนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง, นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานการประชุม โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และรองประธานกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ เข้าร่วมการประชุม

ช่วงหนึ่งที่ประชุมเปิดให้ สส. อาทิ นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์, นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ สส.กาญจนบุรี, น.ส.ชนก จันทาทอง สส.หนองคาย, น.ส.ศรีโสภา โกฏคําลือ สส.เชียงใหม่ ได้สอบถามเกี่ยวกับนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต พร้อมสะท้อนความเห็นว่าประชาชนทุกคนต่างเฝ้ารอนโยบายดังกล่าว อยากให้เริ่มโครงการได้โดยเร็วที่สุด และต้องการให้ขยายรัศมีในการใช้เงินมากกว่า 4 กิโลเมตร เพราะในบางพื้นที่ลำบากในการเดินทางใช้จ่าย เช่น พื้นที่บนเขาบนดอย รวมทั้งผู้สูงอายุที่ไม่มีโทรศัพท์มือถือหรืออินเทอร์เน็ต จะสามารถใช้เงินในโครงการนี้ได้หรือไม่


นายจุลพันธ์ ชี้แจงว่า วันนี้มารับฟังตัวแทนของประชาชนในการสะท้อนปัญหานโยบายดิจิทัลวอลเล็ต เมื่อรับฟังแล้วก็ดีใจที่เห็นตรงกันว่านโยบายนี้มีความจำเป็น เบื้องต้นขอชี้แจงว่ารัฐบาลรับฟังทุกเสียงทั้งเห็นด้วยและคัดค้าน ขณะนี้เสียงในสังคมเป็นสองส่วน ทั้งเห็นด้วยอยากให้เดินหน้าโครงการให้เรียบร้อย และอีกส่วนหนึ่งขอให้ยับยั้งได้หรือไม่ ในฐานะรัฐบาลเรารับฟังทั้งหมด แต่ในภาคเอกชนที่รับฟังมาอยากเห็นการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายนี้ ส่วนประชาชนได้สะท้อนเป็นเสียงเดียวกันอย่างเป็นเอกฉันท์ว่าให้เดินหน้าโครงการเพื่อให้เงินตัวนี้ต่อยอดชีวิตของเขา

นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า วันนี้สถานการณ์ในประเทศไทยไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่เข้มแข็ง มุมมองที่เสนอออกมาหลายมุมมอง แม้จะเป็นอดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็เป็นในมุมมองรักษาเสถียรภาพ แต่กลไกที่เป็นเครื่องมือในการบริหารเศรษฐกิจคือ กลไกทางการเงินและกลไกทางการคลัง ซึ่งกลไกทางการเงินอยู่ในมือ ธปท. เป็นหลักในการรักษาเสรีภาพระบบเศรษฐกิจ แต่กลไกในการคลังอยู่ในกระทรวงการคลังและรัฐบาล เพื่อกระตุ้นให้เศรษฐกิจเติบโต ขณะนี้ทุกคนรู้ว่าประเทศไทยอยู่ในสถานะของสังคมผู้สูงอายุ และมีความเสี่ยงต่อระบบการเงินการคลังของประเทศ ถ้าปล่อยแบบนี้ต่อไปประเทศไทยเติบโตเหมือนกับ 10 ปีที่ผ่านมาโตไม่ถึง 2% จะถึงจุดที่แตกหัก คือรายรับของรัฐและงบประมาณของรัฐไม่สามารถเติบโตไปกับสวัสดิการที่จะให้กับประชาชนทั้งผู้สูงอายุหรือใครก็ตาม ซึ่งเป็นความเสี่ยง ฉะนั้นสิ่งที่รัฐบาลมองเราเห็นแล้วว่าการเติบโตของประเทศไทยใน 10 ปีที่ผ่านมา ไม่สามารถโตได้เต็มศักยภาพ เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน บ้านเรายังโตเพียงแค่ปีละ 3% กว่าๆ ซึ่งต่ำกว่าภูมิภาคมากมาย

นายจุลพันธ์ กล่าวอีกว่า วันนี้เราจึงมีความจำเป็นที่จะต้องดึงประเทศไทยให้กลับมาเติบโตเหมาะสมกับศักยภาพและคนในประเทศเอง รัฐบาลจึงมองว่าการเติบโตในระดับ 5% เป็นระดับที่มีความเหมาะสมเป็นอย่างต่ำ กลไกที่จะใช้หนึ่งในนั้นคือ ตัวนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท แต่ไม่ได้มีในปีกเดียว แต่รัฐบาลที่นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีความครอบคลุมหลายมิติ ซึ่งเมื่อไปเปิดดูนโยบายเร่งด่วนที่เราแถลงนโยบายไปเมื่อเดือนกว่าๆ เราทำไปเกือบหมดแล้ว และปีหน้าคิดอยู่ว่าทำอะไรเพราะเราทำไปหมดเล่มแล้ว นี่คือสิ่งที่เราต้องรีบแก้ไขให้กับประชาชน


ทั้งนี้ สิ่งที่เราทำนอกจากการเดินหน้านโยบายเงินดิจิทัลคือ การลดค่าใช้จ่ายของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของราคาไฟฟ้าที่เหลือ 3.99 ราคาน้ำมันดีเซล วีซ่าฟรีให้กับนักท่องเที่ยวบางประเทศ ตอนนี้ยอดการจอง ยอดการเข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว นโยบายที่เราไปกิโยตินกฎหมายที่เป็นข้อกำจัดต่างๆ ในการดำรงชีวิตและประกอบอาชีพของประชาชน เราเดินหน้าหมด ซึ่งเวลาเราดูเราต้องดูเป็นแพ็กเกจใหญ่ และยืนยันว่านโยบายนี้จะทำให้ชีวิตพี่น้องประชาชนดีขึ้น

นายจุลพันธ์ กล่าวว่า สิ่งที่เรากำลังเดินหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ตอบคำถามได้หลายประเด็น แต่ขณะนี้มีความเข้าใจค่อนข้างสับสน บางส่วนอาจจะเป็นเรื่องของมุมมองทางการเมืองที่ต้องการโจมตีในตัวนโยบายหรือบุคคลของเราก็ตาม จึงขอฝาก สส. ที่สัมผัสกับประชาชนอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอดในการที่จะช่วยรัฐบาลชี้แจงเพื่อความเข้าใจในหลายประเด็น เรื่องแรกคือความจำเป็นของนโยบาย ซึ่งตนชี้แจงไปแล้วว่าประเทศไทยไม่ได้โตตามศักยภาพ มีความจำเป็นที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ เงินเฟ้อถามว่าห่วงหรือไม่ ยืนยันว่าไม่กระทบมาก เพราะเงินเฟ้อช่วงที่ผ่านมามีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจาก 1.25% เป็น 2.50% เพิ่มมา 5 จุด ซึ่งสามารถหยุดยั้งสถานการณ์เงินเฟ้อในระดับที่น่าพึงพอใจ เป็นนโยบายของ ธปท. เงินเฟ้อจาก 5% ขณะนี้เหลือ 0.3% ต่อให้มีนโยบายนี้เข้ามา เราก็มีกลไกควบคุมดูแลให้ความเหมาะสม แต่เรามีความจำเป็นที่จะต้องขยายฐานขยายเศรษฐกิจให้พี่น้องประชาชนอยู่ดีกินดีขึ้น

ส่วนเรื่องที่สองกรณีที่มีกล่าวหาว่านโยบายนี้จะไปซื้อคริปโทฯ จากต่างประเทศมาแจกประชาชน นี่เป็นความเข้าใจผิด เราไม่ได้แจกเงินเหรียญคริปโทฯ เงินนี้คือเงินบาทเดิม เพราะเงินบาทที่ไปอยู่ในรูปแบบของดิจิทัลวอลเล็ตทุกบาท จะต้องถูกแบ็กด้วยเงินบาทของไทยจริงๆ มันจะไม่มีการเปลี่ยนค่าหรือเก็งกำไรได้ มันคือเงินบาทในรูปแบบดิจิทัล คิดง่ายๆ คือเปรียบเสมือนเป็นคูปองที่เทียบเท่ากับเงินบาทจำนวนเงิน 10,000 บาท แต่มีการเขียนเงื่อนไขลงไปในคูปองด้วย การอธิบายแบบนี้จะเข้าใจให้ประชาชนเข้าใจเพราะเราต้องการให้เงินนี้กระตุ้นและเกิดการหมุนเวียนในเศรษฐกิจจริงๆ ถึงได้กำหนดว่าต้องใช้ภายใน 6 เดือน ต้องใช้กรอบระยะทางที่กำหนด และห้ามเอาไปใช้ในบางประเภท

“นโยบายนี้จะเป็นนโยบายแรกที่จะหมุนเวียนเศรษฐกิจมากกว่านโยบายใดๆ ก็ตามที่ประเทศไทยเคยใช้มา โดยไม่กล้าไปเทียบกับในโลก แต่อาจจะมากที่สุดในโลกก็ได้ เพราะในโลกไม่เคยมีกลไกนี้ ในการส่งเม็ดเงินไปยังประชาชนแล้วให้เขียนกลไกให้มันเกิดการหมุนเวียนลงทุนและการใช้จ่าย ซึ่งเมื่อจะมีการใช้จ่าย เราก็เห็นประชาชนในหลายจังหวัดเตรียมรอรับนโยบายนี้ ด้วยการเตรียมการลงทุนในภาคการผลิต ไปจ้างงาน ไปซื้อสินค้าประเภททุนมารองรับ เมื่อเงินมาถึงก็สามารถนำเงินส่วนนี้มาลงทุนในการประกอบอาชีพ” นายจุลพันธ์ กล่าว

นายจุลพันธ์ กล่าวอีกว่า เม็ดเงินเหล่านี้จะไม่ได้ลงเพียงแค่นี้ เพราะเราได้มีการพูดคุยกับสถาบันการเงินของรัฐบางแห่ง เช่น ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสิน สิ่งที่เขาต้องการทำคือเมื่อประชาชนจะนำเม็ดเงินที่บอกว่ามาจากดิจิทัลวอลเล็ต หากสามารถรวมกลุ่มกันได้หรืออาจจะไปคนเดียวก็ตามแล้วมีแผนลงทุนในการประกอบอาชีพที่ชัดเจน แล้วไปคุยกับธนาคารของรัฐก็พร้อมที่จะให้กู้เงินเพิ่มเติมเพื่อไปประกอบอาชีพ นี่คือการสร้างเม็ดเงินมหาศาลในกระบวนการลงทุนและเม็ดเงินในประเทศไทย

“สิ่งที่เราเดินหน้ามาขณะนี้เราเห็นแสงที่ปลายอุโมงค์ เราเห็นโอกาส เห็นความหวังของประชาชนว่าเขาจะสามารถนำเม็ดเงินเหล่านี้ไปต่ออายุ ไปยื้อชีวิต ไปประกอบอาชีพสร้างการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ” นายจุลพันธ์ กล่าว

นายจุลพันธ์ ยังกล่าวว่า เราพร้อมที่จะผ่อนปรนในเรื่องพื้นที่ โดยอนุกรรมการขับเคลื่อนเรารับฟังและมีการพูดคุยกันในสัปดาห์นี้ เพื่อที่จะนำสิ่งที่ทุกท่านแสดงความเห็นและประชาชนส่งสัญญาณมาเข้าพิจารณาและพร้อมที่จะผ่อนปรนเพื่อให้มันเกิดประโยชน์สูงสุดกับการใช้เม็ดเงินตัวนี้ โดยอาจจะขยับเพิ่มจาก 4 กิโลเมตรเป็นตำบลเป็นอำเภอก็ได้ ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงตนเชื่อว่ากลไกทางใช้เม็ดเงินจะเกิดการสะดวก และคล่องตัวและการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจจะมีเพิ่มมากขึ้น

ส่วนกรณีที่มีการเสนอให้แคปวงเงินว่าคนรวยอาจจะไม่ได้ประโยชน์นั้น นายจุลพันธ์ กล่าวว่า กลไกทำนโยบายต้องมีการยืนยันตัวตนระดับหนึ่ง ถ้าใครไม่ยืนยันตัวตนถือว่าสละสิทธิ์ ถ้าใครไม่ต้องการเข้าโครงการก็ถือว่าเป็นสิทธิ์ของประชาชน แต่เรากำลังดูอยู่และขอข้อมูลแล้วว่าถ้าเราจะหาเกณฑ์ในบอกว่าใครรวย ใครจนจะใช้เกณฑ์อย่างไร เช่น รายได้ที่ไปยื่นแบบต่อสรรพากรหรือบัญชีเงินฝากว่ามีเงินเท่าไร แต่เราต้องหาตัวเลขที่เป็นธรรมกับทุกฝ่าย และมันเป็นตัวเลขที่สามารถพิสูจน์ชัดได้ว่าเราจะทำด้วยความยุติธรรม

ส่วนคำถามเรื่องผู้สูงอายุและผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้นั้นจะแก้ไขอย่างไร เบื้องต้นตอนที่เราคิดโครงการ เราคิดว่าจะให้เขาต้องไปเดินยืนยันตัวตนที่ธนาคารของรัฐ เมื่อยืนยันตัวตนแล้วอาจจะมีกระดาษมาหนึ่งใบ และมีคิวอาร์โค้ดให้ไปซื้อของแลกเปลี่ยนกับคนที่มีแอปพลิเคชัน หรือคนที่มีสมาร์ทโฟนได้เลย แต่เรากำลังหาหนทางที่จะทำให้ดีกว่านี้ คือเมื่อยืนยันตัวตนแล้วจะบันทึกในบัตรประชาชน แล้วนำใช้บัตรประชาชนกับแอปพลิเคชันของอีกคนหนึ่ง เพื่อทำการแลกเปลี่ยนได้ แต่ต้องมีการยืนยันใบหน้า เพื่อไม่ให้สามารถให้ใครไปแอบอ้างหรือใช้บัตรประชาชนของท่านไปขึ้นเงินได้ ก็ขอให้สภาผู้แทนราษฎรไปทำความเข้าใจกับประชาชนว่า นโยบายนี้เป็นนโยบายหลักและเป็นประโยชน์ ไม่ใช่แค่กับประชาชน แต่หากให้พูดตรงๆ คือการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยใช้ประชาชนเป็นกลไกมาช่วยรัฐบาลเพื่อให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจมันเกิดขึ้น

ขณะที่นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า สส. ได้ลงพื้นที่และพูดคุยกับประชาชน ไม่ได้มีข้อที่บอกว่าควรทำหรือไม่ควรทำ แต่ถามมากกว่าว่าจะได้เมื่อไร ฉะนั้นประชาชนในพื้นที่กำลังรอคอยนโยบายนี้อย่างใจจดใจจ่อ เราเห็นได้ชัดว่าเศรษฐกิจของประเทศไม่ได้ถูกกระตุ้นในภาพรวมและภาพใหญ่แบบนี้มานานแล้ว จึงหวังว่านโยบายนี้จะช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศได้ครั้งใหญ่ ถามว่าใหญ่แค่ไหนก็ใหญ่เท่าที่ว่าหากเราทำสำเร็จต่างชาติจะดูเราเป็นตัวอย่างด้วยซ้ำว่าเราทำได้อย่างไร ทั้งนี้ ตอนที่เราหาเสียงต้องกำหนดเงื่อนไขต่างๆ เพื่อให้เศรษฐกิจหมุนเวียนและทั่วถึง ทั้งประชาชนที่อยู่ไกลอาจจะมีรายละเอียดต่างๆ ให้ทั่วถึงยิ่งขึ้น

นางสาวแพทองธาร กล่าอีกว่า นอกจากกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว ยังยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน ซึ่งถือว่าเป็นนโยบายที่สำคัญอย่างมาก และแน่นอนว่ารัฐบาลนี้เรามีนโยบายอื่นๆ ที่ทำควบคู่กันไปด้วยและเริ่มคิกออฟไปแล้ว เราจะเริ่มเห็นผลสำเร็จค่อยๆ ตามมาในแต่ละนโยบาย อย่างไรก็ตาม นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตจะนำไปสู่การจ้างงานและเกิดการสร้างอาชีพ ทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด จะได้รับผลประโยชน์ทั่วกัน อีกทั้งรัฐบาลจะได้ผลตอบแทนมาในรูปแบบของภาษี ซึ่งภาษีที่ได้กลับมาจะทำให้รัฐบาลมีงบประมาณในการพัฒนานโยบายอื่นๆ ต่อยอดอีก เพื่อพัฒนาประเทศและช่วยเหลือและเพิ่มโอกาสให้ประชาชนได้

“วันนี้ที่เราได้ประชุมกันรับฟังความคิดเห็นจาก สส. ซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชนอย่างแท้จริง และมาคุยกับรัฐมนตรีแล้ว ขอฝากรัฐบาลไว้ด้วยว่าให้ทำนโยบายนี้ให้สำเร็จอย่างที่เราได้บอกกับประชาชนไว้ เพื่อรัฐบาลเข้มแข็งและประชาชนทุกคนจะได้รับประโยชน์ไปพร้อมกัน” นางสาวแพทองธาร กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีต ผกก.ขับรถปาดหน้า-ชัก M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง

สงขลา 11 พ.ค. – การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี เดือด ลูกชาย สส.สงขลา ทำร้ายตำรวจคุมหน่วย ส่วน จ.นครศรีธรรมราช อดีตผู้กำกับขับรถปาดหน้าและชักปืน M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เดือด นายชวลิต เจริญพงษ์ อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง และปัจจุบันเป็นผู้สมัครรองนายกเทศมนตรีที่วัง เบอร์ 2 เข้าแจ้งความที่ สภ.กะปาง ว่าถูก พ.ต.อ.พิรุณ อดีต ผกก.ที่ปรึกษาผู้สมัครนายกเทศมนตรีอีกทีม ขับรถไล่ตามและใช้ปืน M16 ข่มขู่ โดยก่อนเกิดเหตุได้ไปกินข้าวที่ร้านอาหารกับผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.ที่วัง ได้เจ้อกับลูกน้องคนสนิทของ พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก เข้ามาพูดจาข่มขู่ พวกตนจึงหนีขึ้นรถเพื่อตัดปัญหา แต่ปรากฏว่าเมื่ออกจากร้านได้เพียง 10 เมตร พ.ต.อ.พิรุณ ได้ขับรถแวนเชฟโรเลตสีขาวปาดหน้า และลงจากรถพร้อมปืน M16 วิ่งมาที่รถของตน เห็นท่าไม่ดี จึงหักพวงมาลัยขับรถหนีและเข้ามาแจ้งความ ระหว่างนั้น พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]

ผบ.ตร. สั่งกองวินัยเตรียมสอบ ปมมติแพทยสภาลงโทษหมอ

ผบ.ตร. รับทราบกรณีแพทยสภาลงโทษหมอ ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 สั่งกองวินัยเตรียมสอบ หากเป็นแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษ 3 แพทย์ เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 ท่าน เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยว่ากล่าวตักเตือน 1 ท่าน พักใช้ใบประกอบวิชาชีพ 2 ท่าน เผยมติที่ประชุมมีความเห็น “เป็นเสียงส่วนใหญ่มาก มาก มาก”

ข่าวแนะนำ

พบสารก่อมะเร็ง จากเหตุไฟไหม้โกดังเฟอร์นิเจอร์ฉลองกรุง

กรุงเทพฯ 13 พ.ค. – พบสารพิษบางตัวเป็นสารก่อมะเร็ง จากเหตุเพลิงไหม้โกดังเฟอร์นิเจอร์ ย่านฉลองกรุง 55 แนะผู้สูดดมไปตรวจเลือดและตรวจปัสสาวะ.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กแจ๊ส” เผยไม่สนใจ-ไม่ให้ค่า ชี้มีหลาย “J”

13 พ.ค. – หลัง “สส.ฟลุ๊ค มนัสนันท์” จากพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความเดือดทางเฟซบุ๊ก “กูไม่กลัวมึง ไอ้ J” ล่าสุด “บิ๊กแจ๊ส” ออกมายืนยันไม่สนใจ พร้อมระบุลูกชายตนสอนมาดี รู้จักเด็ก รู้จักผู้ใหญ่ ไม่ก้าวร้าว ความคืบหน้าประเด็นร้อนการเมืองท้องถิ่น จ.ปทุมธานี หลังเพิ่งผ่านการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี 2568 เมื่อวันที่อาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา แต่คล้อยหลังเพียง 1 วัน สส.พรรคใหญ่ในพื้นที่ปทุมธานี คือ นายมนัสนันท์ หลีนวรัตน์ หรือ ฟลุ๊ค สส.ปทุมธานี เขต 5 พรรคเพื่อไทย ลูกชายนายกฤษดา หลีนวรัตน์ เคลื่อนไหวทางเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยบางโพสต์มีความเกี่ยวข้องกับการจะฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ และบางโพสต์ได้ท้าทายว่าไม่กลัวบุคคลอักษรเจ (J) วันนี้ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เปิดใจกับทีมข่าวสำนักข่าวไทย ระบุว่า อย่าไปให้ค่า ตัวเจ (J ) […]

แจ้งข้อหาซ่องโจร “สจ.กอล์ฟ” และพวก เพิ่มอีก 1 ข้อหา

สงขลา 13 พ.ค. – ตำรวจแจ้งข้อหา “ซ่องโจร” เพิ่มอีก 1 ข้อหา แก๊ง “สจ.กอล์ฟ” คดีรุมทำร้ายตำรวจหน้าหน่วยเลือกตั้งตำบลพะวง จ.สงขลา เตรียมนำตัวส่งศาลวันพรุ่งนี้ (14 พ.ค.) ญาติขอค้านประกันตัว หวั่นอิทธิพล คดีนายสิรดนัย หรือ สจ.กอล์ฟ สจ.เขต 7 จ.สงขลา สั่งการให้ลูกน้องไปรุมทำร้ายร่างกาย ด.ต.นิสาธิต คงเทพ ตำรวจ ตชด. ประจำหน่วยเลือกตั้งเทศบาลตำบลพะวง อ.เมือง จ.สงขลา เหตุเกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังไม่พอใจถูกห้ามถ่ายรูปในหน่วยเลือกตั้งขณะไปลงคะแนน ก่อนตำรวจรวบรวมหลักฐานขอศาลออกหมายจับ และวานนี้ (12 พ.ค.) นายสมยศ หรือ โกถึก สส.เขต 3 จ.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพ่อ นำ สจ.กอล์ฟ เข้ามอบตัว ส่วนลูกน้องอีก 6 คน ถูกจับกุมตัวได้หมดแล้วเช่นกัน […]

“ปชน.” ไม่ขับ “สส.กฤษฎิ์” พ้นพรรค-ตัดสิทธิทุกอย่าง

รัฐสภา 13 พ.ค.- “เท้ง” ประกาศดอง “งูเห่า” ไม่ขับ “สส.กฤษฎิ์” พ้น ปชน.ตามต้องการ ส่งตีความหนังสือเข้าข่ายลาออก พ้น สส.หรือไม่ พร้อมตัดสิทธิทุกอย่างในโควตาพรรค นายณัฐพงศ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมด้วย นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล รองหัวหน้าพรรคประชาชน และนายสหัสวัต คุ้มคง ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาชน ร่วมกันแถลงตอบโต้นางสาวกฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ พรรคประชาชน เขต 6 จังหวัดชลบุรี ทำหนังสือ ขอยุติบทบาทภายในพรรคและขอให้พรรคประชาชนขับออก นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่าได้รับฟังเหตุผล ที่น.ส.กฤษฎิ์แถลงต่อข้อกล่าวหาว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม และไม่ได้รับการผลักดันนโยบายจึงต้องการขับเคลื่อนงานในพื้นที่ และอ้างว่าไม่เคยได้รับงบประมาณจากพรรคในการทำกิจกรรมนั้น ยืนยันว่าพรรคได้สนับสนุนการทำงานในพื้นที่มาโดยตลอด ฝ่ายนโยบายพรรคเคยอนุมัติงบในส่วนกลางเพื่อให้ไปทำกิจกรรมรับฟังความเห็นต่อการพัฒนานโยบายของพื้นที่ศรีราชาตามที่ได้ร้องขอเข้ามา ซึ่งสส. คนอื่นก็ทำงานได้อย่างราบรื่นและได้รับการสนับสนุน และที่บอกว่าการทำงานในคณะกรรมการธิการคมนาคม ไม่ได้รับการสนับสนุนนั้นนับตั้งแต่เริ่มเปิดสภา เราจะให้สส.ทุกคนได้เสนอมาว่าอยากได้ทำงานในกรรมาธิการฯในคณะใด แต่เป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนจะได้รับการเป็นกรรมาธิการในอันดับหนึ่งที่เลือก แต่น.ส.กฤษฎิ์ก็ได้ตามที่ต้องการและยังได้เป็นรองประธาน อนุกรรมาธิการ ฯ เรื่องงานก่อสร้างท่าเรือ และยังมีมติให้ศึกษาดูงานเพื่อรับฟังปัญหาทางต่าง ๆ จากประชาชนที่อยู่ในเขตท่าเรือแหลมฉบัง ส่วนเรื่องการไม่ได้รับความเคารพเรื่องสภานะทางเพศนั้น นายปกรณ์วุฒิ ยืนยันว่า […]