รัฐสภา 4 ต.ค.- สส.ก้าวไกล จี้รัฐวางมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดในพื้นที่เศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ควรมี SMS แจ้งเตือน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำเป็นโศกนาฏกรรมกลางเมืองอีก แนะแก้กฎหมายครอบครองอาวุธปืน
นางสาวธิษะณา ชุณหะวัณ สส.กทม. พรรคก้าวไกล ในฐานะเจ้าของพื้นที่เหตุกราดยิงพารากอน หารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เรียกร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บทางร่างกายและจิตใจ อย่างเหมาะสมโดยด่วน และแสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิตและครอบครัว กับเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมแสดงความเป็นห่วงกรณีมีผู้เสียชีวิตเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน จะกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวที่เข้าประเทศไทยตามนโยบายวีซ่าฟรี ซึ่งผู้ก่อเหตุเป็นเยาวชนอายุ 14 ปี
พร้อมกันนี้ ขอความร่วมมือทุกฝ่ายไม่เปิดเผยข้อมูลผู้กระทำความผิด เนื่องจากเป็นสิทธิของเยาวชน รวมถึงไม่ให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบ หยิบยกเหตุการณ์ในสหรัฐอเมริกาที่มีเหตุการณ์พฤติกรรมเลียนแบบ โดยเมื่อวานนี้(3 ต.ค.) ในฐานะ สส. ในพื้นที่ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุทันที โดยตั้งข้อสังเกตว่า 1.มีการปล่อยให้ผู้พกพาอาวุธปืนเข้ามาในห้างสรรพสินค้าได้อย่างไร ท้วงติงกฎหมายควบคุมอาวุธปืนมีความละหลวม ขณะเดียวกันรัฐไทยยังไม่มีระบบเตือนภัยสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ
“ขอฝากไปยังนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ควรมีมาตรการแก้ไขเรื่องนโยบายป้องกันอาวุธปืนเถื่อน ซึ่งการดัดแปลงมาจาก พ.ร.บ. ควบคุมอาวุธปืนปี 2494 ที่กำหนดไว้ว่า ปืนประดิษฐ์ไม่ถือเป็นอาวุธปืน ซึ่งเป็นสิ่งเทียมอาวุธปืนไม่จำเป็นต้องมีใบอนุญาตในการซื้อปืนดังกล่าว ทำให้มีผู้ขายมากมายในอินเทอร์เน็ต และถูกนำไปใช้ฆ่าชีวิตผู้อื่นอย่างเช่นเมื่อวานนี้” นางสาวธิษะณา กล่าว
สส.กทม. พรรคก้าวไกล ยังกล่าวถึงมาตรการตรวจอาวุธในพื้นที่สาธารณะและการเตือนภัยสาธารณะในเหตุฉุกเฉิน และเรื่องของระบบรักษาความปลอดภัย ซึ่งแปลกใจว่าเครื่องตรวจจับโลหะเป็นเพียงเครื่องประดับหรือไม่ เขตปทุมวันเป็นเขตเศรษฐกิจมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เป็นหน้าตาของประเทศไทย โดยในที่คนพลุกพล่าน ควรมีเครื่องตรวจจับโลหะและระบบรักษาความปลอดภัย SMS แจ้งเตือนจากรัฐ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำเป็นโศกนาฏกรรมกลางเมืองและรักษาชีวิตของประชาชนคนไทย.-สำนักข่าวไทย