ปลัดมหาดไทย นำข้าราชการในสังกัดวางพวงมาลา

กทม. 1 ต.ค.-ปลัดมหาดไทย นำข้าราชการในสังกัดวางพวงมาลา เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช

เวลา 07.30 น. ณ พระบรมราชานุสาวรีย์หน้าพระราชวังสราญรมย์ กรุงเทพมหานคร นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นำนายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมือง นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายขจร ศรีชวโนทัย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ผู้แทนส่วนราชการระดับกรม หน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ร่วมพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช


นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช ทรงพระราชสมภพ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 18 ตุลาคม 2347 มีพระนามเดิมว่า “เจ้าฟ้ามงกุฎ” ทรงเป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 43 ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย และพระองค์ที่ 2 ในสมเด็จพระศรีสุริเยนทรามาตย์ (เจ้าฟ้าหญิงบุญรอด) ทรงเสด็จขึ้นครองสิริราชสมบัติสืบราชสันตติวงศ์ต่อจากพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อวันพุธที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2394 ทรงเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 4 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ทรงพระนามตามที่เฉลิมพระบรมนามาภิไธย จารึกในพระสุพรรณบัฏว่า “พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหามงกุฎ สุทธิสมมติเทพยพงษ์ วงษาดิศวร กระษัตริย์ วรขัตติยราชนิกโรดม จาตุรันตบรมมหาจักรพรรดิราชสังกาษ บรมธรรมิกมหาราชาธิราช บรมนาถบพิตร พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว” ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อนำพาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้า อาทิ ทรงทำสัญญาทางพระราชไมตรีและการต่างประเทศกับชาติตะวันตก ทรงคำนวณการเกิดสุริยุปราคาเต็มดวงได้อย่างแม่นยำ จนได้รับการถวายพระราชสมัญญานามว่า “พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย” ซึ่งพระองค์เสด็จสวรรคต เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 1 ตุลาคม 2411 พระชนมพรรษา 64 พรรษา ทรงครองสิริราชสมบัติเป็นเวลา 17 ปี

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2562 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกาศว่า โดยที่ทรงพระราชอนุสรณ์คำนึงถึงพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 4 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ผู้ทรงกอปรด้วยพระบรมราชกฤษฎาภินิหาร เป็นอัจฉริยภูมิบาลบรมบพิตร เสด็จสถิตในพระราชธรรมจริยาสถาพรมิหวั่นไหว ทรงอธิษฐานพระราชหฤทัยในทางบำรุงราชอาณาจักรให้ดำรงอิสราธิปไตยอย่างมั่นคง ทรงค้ำจุนพระบวรพุทธศาสนาให้ดำรงบริสุทธิ์ตามพระธรรมวินัย พร้อมพระราชทานเสรีภาพทั่วไปแก่อาณาราษฎร ยังให้สยามรัฐสีมาสามารถรอดพ้นภัยดัสกรอันคุกคามมาประชิด อีกทั้งทรงผูกราชสัมพันธมิตรกับนานามหาประเทศ ทรงมีสายพระเนตรสอดส่องการณ์ไกล สามารถวินิจฉัยในคุณและโทษแห่งประเพณีเมือง ทรงปลดเปลื้องโทษนำประโยชน์มาบัญญัติโดยมหัจฉริยปรีชา ทรงเชี่ยวชาญศิลปวิทยาเสมอปราชญ์แห่งไพรัชประเทศในเขตอัสดงคต มิทรงละลดพระวิริยอุตสาหะและพระวิจารณปัญญากล้าแกร่ง สำแดงพระบรมราชกุศโลบายอันแยบคายและลึกซึ้ง ทรงพระราชญาณทัศนะสอดส่องถึงอนาคตกาลแห่งราชอาณาจักร ทรงเผยพระราชศักดานุภาพทางพระปัญญาบารมีอันคมกล้า เสมือนราชศัสตรารักษาชาติไทย ทรงวางวิถีพระบรมราโชบายพระราชทานให้สมเด็จพระบรมราชปิโยรส บังเกิดปฐมบทสู่การสืบสาน รักษา และต่อยอดตลอดไป พระบารมีธรรม ซึ่งทรงสั่งสมไว้มากเหลือคณานับ ประดุจมหาวราภรณ์ประดับพระเกียรติคุณอลังการ แม้ตราบถึงวารเสด็จสวรรคต พระสติสัมปชัญญะยังปรากฏมั่นคงตลอดขณะ จวบถึงสภาวะอันเป็นที่สุด คือพยานแห่งลักษณะมหาบุรุษมหัศจรรย์ พระองค์คือบุพการีผู้ยิ่งใหญ่แห่งพสกนิกร…ปรารภเหตุดั่งนี้ รัชสมัยของพระองค์ตลอดจนถึงมหามกุฏราชสันตติวงศ์สืบมา จึ่งยิ่งยงวัฒนา รุ่งเรืองงาม มหาชนชาวสยามถึงความผาสุกผ่องพ้นไพรี ประหนึ่งมีพระสยามเทวาธิราชคอยเฝ้าอารักขา พระองค์เป็นพระมหาราชเจ้าผู้ทรงเปรียบแม้นเทวดา ทรงวิทยาภรณ์เป็นมหามงกุฎปกเกล้าปกกระหม่อมชาวสยาม สมควรจะได้สนองพระเดชพระคุณเฉลิมพระเกียรติยศ ให้ปรากฏแผ่ไพศาลยิ่งขึ้น จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ถวายพระราชสมัญญาแด่ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ว่า “พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช”.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สาวซิ่งรถหรูชนท้าย จยย. ทำแม่ลูกดับ 3 ศพ

แม่ขี่ จยย.ไปรับลูก 2 คน กลับจากเรียนพิเศษ ถูกสาวขับรถหรูซิ่งชนท้าย ร่างกระเด็นตกสะพานข้ามรางรถไฟ เสียชีวิตทั้ง 3 คน ส่วนผู้ก่อเหตุอุ้มแมว ทิ้งรถ หลบหนีไป

ปิดล้อมล่ามือปืนคลั่งสังหาร 3 ศพ

ตำรวจเร่งไล่ล่ามือปืนคลั่งก่อเหตุยิง 3 ศพ ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ล่าสุดปิดล้อมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ รอยต่อ จ.เลย หลังพบเบาะแสคนร้ายหนีไปซ่อนตัว ขณะที่ชนวนสังหารยังไม่แน่ชัด

ลูกชายมือปืนคลั่งยิง 3 ศพ พาครอบครัวหนีตาย พ่อโพสต์ขู่ฆ่าล้างครัว

ลูกชายมือปืนคลั่งยิงดับ 3 ศพ ต้องพาภรรยาและลูก รวมถึงพ่อตา-แม่ยาย หนีไปอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังพ่อโพสต์ข้อความขู่จะฆ่าล้างครัว เหตุจากปัญหาในครอบครัว

ชายคลั่งยิง3ศพ

ชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ โผล่วัดที่ จ.เลย ขอข้าวกิน ก่อนหนีเข้าป่า

แม่ครัววัดภูคำเป้ ต.ผาสามยอด อ.เอราวัณ จ.เลย เผยพบชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ เดินเข้ามาในวัดด้วยสภาพอิดโรย ขอข้าวกิน ลักษณะรีบกินเหมือนวิตกกังวล หลังกินเสร็จรีบเดินเข้าป่าหายไป ก่อนมาทราบภายหลังว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต

ข่าวแนะนำ

สงขลาประกาศเขตภัยพิบัติแล้วทุกอำเภอ เร่งช่วยน้ำท่วมวิกฤติ

ผู้ว่าฯ สงขลา ลงนามประกาศให้ทั้ง 16 อำเภอ เป็นเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินอุทกภัยและวาตภัย เพื่อเร่งรัดให้ความช่วยเหลือประชาชน บรรเทาความเดือดร้อน โดย อ.จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย ยังมีระดับน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้น

จ.ยะลา น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบหลายสิบปี

จ.ยะลา โดยเฉพาะ อ.เมือง ปีนี้น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบหลายสิบปี และวันนี้ (28 พ.ย.) น้ำยังขยายวงกว้างอีกหลายจุด ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมากกว่า 120,000 คน ถนนถูกน้ำท่วมแล้ว 158 สาย ใน 8 อำเภอ 58 ตำบล

ศาลไม่ให้ประกันเมีย-ลูก “หมอบุญ” ชี้ความเสียหายสูง หวั่นหลบหนี

ศาลอาญาไม่ให้ประกันภรรยา-ลูก “หมอบุญ” ชี้การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ความเสียหายสูง เกรงหลบหนี ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ส่วนปมปลอมลายมือชื่ออยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์

มือยิง 3 ศพ ขอโทษ-สำนึกผิด อ้างบันดาลโทสะ

ตำรวจแถลงข่าวจับกุม “สามารถ” ผู้ต้องหายิง 3 ศพ ในพื้นที่ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู หลังจากติดต่อมอบตัว พร้อมยอมรับผิด ขอโทษญาติผู้เสียชีวิต อ้างบันดาลโทสะจึงก่อเหตุ และไม่มีอาการคลั่งตามที่เป็นข่าว