นายฯ เตรียมนอนทำเนียบฯ 3-4 วัน/สัปดาห์

นสพ.ไทยรัฐ 18 ก.ย.-นายกฯ บอกทำงานไม่มีสิทธิ์เหนื่อย เป็นภารกิจสร้างความหวังให้ ปชช. รับไม่ได้ซื้อขายตำแหน่ง เล็งนอนทำเนียบ 3-4 วันต่อสัปดาห์ มีทีมรปภ. บ้านเล็ก เกรงใจเพื่อนบ้าน หวังบอลไทยไปบอลโลกใน 12 ปี


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมเสวนาในหัวข้อ “Future Perfect เปิดมุมคิด พลิกอนาคต” ในงานเสวนา Thairath Forum 2023 โดยมีนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง  และนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รวมถึงผู้บริหารจากหลายภาคส่วน เข้าร่วมรับฟัง

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังเป็นนายกรัฐมนตรี 7 วันที่ผ่านมา ไม่มีสิทธิเหนื่อย เพราะมีหน้าที่ต้องทำงาน ตราบใดที่มีภารกิจก็ต้องทำ ตั้งแต่เข้าทำเนียบรัฐบาล นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีประมาณ 10 วินาทีตามที่ซินแสบอกให้นั่งเวลาไหนเท่านั้น แล้วลุกออกมาไม่เคยไปนั่งอีก จะมีระบบการเปลี่ยนแปลงวิธีตั้งโต๊ะทำงานต่าง ๆ ให้เหมาะกับการรับฟังปัญหาจากทุกภาคส่วนมากขึ้น


“ถ้าเป็นโต๊ะ เป็นกระจก ประตูกั้น ทางกายภาพไม่เป็นมิตรภาพเท่าไหร่ อยากให้เป็นรัฐบาลที่เข้าถึงได้ และกำลังคิดจะไปใช้บ้านพิษณุโลก ให้คณะที่ปรึกษาไปทำงานกัน และหากใครจะมาเป็นที่ปรึกษาผมแล้วถามว่ามีห้องทำงานหรือไม่ ถ้าเริ่มต้นแบบนี้คงไม่ได้เป็นที่ปรึกษาผม เรามานั่งคุยกันดีกว่า” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่แถลงนโยบายต่อรัฐสภาเป็นเพียงการแถลงนโยบาย ยืนยัน ไม่ลืมที่ไปหาเสียงไว้ ไม่ลืมที่ไปพูดไว้ ไทน์ไลน์อาจมีความคลาดเคลื่อน แต่ตนเพิ่งเข้ามารับตำแหน่ง ยังไม่ทราบกระบวนการ งบประมาณ กลไล แต่พยายามเรียนรู้ระบบราชการให้เร็วที่สุด เพื่อทำงานร่วมกับภาคราชการต่อไป

ส่วนที่ไปพูดที่วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) เรื่องการกระจายคอนเน็คชั่น เพื่อให้คนตัวเล็ก นายเศรษฐา กล่าวว่า วปอ.เป็นสถาบันที่สมควรจะมีและต้องมี เป็นสถาบันที่มีการรวมตัวกันระหว่างข้าราชการชั้นกลางและชั้นสูงที่กำลังไต่เต้าไปจนบนสุด ต้องการการประสานงานที่ดีมาก ๆ และเห็นด้วยกับภาคเอกชนหลายคนที่ไปมา ตนถือเป็นเรื่องสำคัญ พวกเราที่นั่งตรงนี้ ทำอะไรไม่เหมาะสมอยู่บ้างหรือไม่ อย่าคิดว่าไม่มีใครเห็น ตนยืนยันวปอ.เป็นสถาบันที่ดีสมควรได้รับการสนับสนุนต่อไป


ส่วนก่อนเลือกตั้งมีคำมั่นต่าง ๆ แต่การตั้งรัฐบาลครั้งนี้มีการเปลี่ยนแปลงไปอธิบายเหตุผลได้หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เรามี 141 เสียง เราต้องการ 376 เรารวมกับก้าวไกล แต่ได้ไม่ถึง ถ้าเราไม่จับมือกับคนอื่นจะได้ 376 หรือไม่ จะคอย 9-10 เดือน ประชาชนคอยได้หรือไม่ คอยไม่ได้ ตนไม่ได้ขอความเห็นใจ แต่เป็นคณิตศาสตร์พื้นฐาน

ส่วนการเลือกตั้งครั้งนี้ขั้วประชาธิปไตยชนะเลือกตั้ง แต่การตั้งรัฐบาลทำให้เห็นว่าเป็นการลงของรัฐประหารอย่างสวยงาม นายเศรษฐา กล่าวว่า จุดยืนตนไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร พรรคที่มาร่วมกับเราอย่างภูมิใจไทย แม้มาจากรัฐบาลเก่า แต่ไม่มีส่วนร่วมรัฐบาลเก่า อีกสองพรรคคนที่เกี่ยวกับการรัฐประหารก็ไม่อยู่แล้ว ประเทศต้องเดินต่อ หลายคนจะบอกว่า นายกฯ ส้มหล่น นายกฯตระบัดสัตย์ ก็พูดกันไป แต่คนเข้าใจจริงทราบคณิตศาสตร์เป็นอย่างไร สิ่งที่จะตอบได้ดีสุดคือผลงาน

“ความฝัน ความหวัง แรงบันดาลใจ เป็นภารกิจกิจหลักที่ผมแบกไว้ และต้องนำเสนอ ต้องแสดงให้เห็นในสี่ปี ต้องทำให้ประชาชนมีความหวัง ถ้าเขาไม่มีความหวัง อีกสี่ปีก็ไปใช้สิทธิสะท้อนออกมาในคะแนนเสียง ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ประชาชนต้องการ สถานการณ์ที่เราอยู่เป็นความผิดปกติของรัฐธรรมนูญที่ต้องแก้ไข ผมเทหมดหน้าตักแล้ว ถ้าเกิดคำว่าไม่เทหมดหน้าตักแสดงว่ายังมีก๊อกสองในกระเป๋า ผมไม่มีอะไรในกระเป๋า ผมเต็มที่กับทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ สังคม รัฐธรรมนูญ เราพูดทุกเวที อาจยังไม่มีความชัดเจนเรื่องเวลา ถ้าชัดแล้วจะขีดไทม์ไลน์” นายเศรษฐา กล่าว

เมื่อถามว่าจะทำอย่างไรให้เรื่องการซื้อขายตำแหน่งหมดไป นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ใช่ตำรวจอย่างเดียว แต่การให้เกียรติข้าราชการ ไม่ยอมรับการซื้อขายตำแหน่ง เพราะถือว่าเป็นการคอรัปชันที่ร้ายแรงและรัฐบาลนี้ไม่ยอมรับ ตนดูกระทรวงการคลังและได้มอบนโยบายโดยเน้นเรื่องนี้ ไม่ได้หลีกเลี่ยงประเด็นตำรวจ เพราะรู้ว่าข้าราชการตำรวจเสียเวลาอย่างมากเรื่องการวิ่งเต้นโยกย้าย ขออภัย ผบ.ตร.ด้วย แต่เป็นเรื่องจริงที่ต้องพูด จะกำกับในเรื่องนี้

“ถ้าความเป็นจริงเรื่องซื้อขายตำแหน่งอย่างไรก็ไม่หมดไป แต่ต้องทำให้เหลือน้อยที่สุดเท่าที่ทำได้ ไม่ได้ยอมรับการซื้อขายตำแหน่ง แต่เราต้องอยู่กับความเป็นจริง ในเดือนก.ย.ก็เป็นเดือนที่ร้อนแรงเหลือเกิน คนที่ไม่รู้จักกัน 20-30 ปี ก็ส่งเข้ามา ญาติกันเต็มไปหมดเลย ผมก็ไม่รู้ เยอะมากเกินไป ที่ปรึกษาที่คุยกันอยู่ให้ปรึกษา ไม่ได้ให้เอาคนมาฝาก มันอะไรก็ไม่รู้ ผมจะรู้ได้อย่างไรคนไหนเก่งคนไหนดี ก็ต้องไปถามผู้บังคับบัญชาเขา เป็นความลำบากใจเหมือนกัน ที่ต้องจัดลำดับความเหมาะสมระหว่าง ภาคการเมือง ภาคธุรกิจและภาคราชการ ที่ต้องให้ความสำคัญ แต่ยืนยันแกนของการทำงานให้ความเป็นธรรมมากที่สุดกับภาคราชการ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ส่วนที่หลายคนมองว่านายกรัฐมนตรีเป็นคนไหว้สวย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คุณแม่สอนไว้ว่าการไหว้เป็นเรื่องสำคัญ เป็นความประทับใจแรกพบ เป็นการเริ่มต้นที่ดี ถ้าทักทายเหมาะสม เป็นการให้เกียรติให้ความเคารพซึ่งกันและกัน ไม่ว่าจะเป็นใครต้องให้ความเสมอภาคตรงนี้ ส่วนเรื่องที่บอกว่าจะนอนที่ทำเนียบรัฐบาลนั้นเป็นเรื่องจริง เพราะบ้านที่ตนอยู่เล็ก ต้องมีตำรวจไปดูแล เพื่อนบ้านจะเดือดร้อน รวมถึงต้องใช้เวลาเดินทางมาก

“ไม่อยากเป็นภาระกับตำรวจและหน่วยรักษาความปลอดภัย คนที่เป็นภาระคือฝ่ายเลขาฯ ผมทานอาหารเช้า 06.30 น. ก็ต้องมีคนมาสั่งงานได้แล้ว ผมยอมเป็นภาระกับกลุ่มเลขาฯ 4-5 คนเท่านั้น โดยจะไปนอน 3-4 วันต่อสัปดาห์ ถ้ามีภารกิจตอนค่ำ ก่อนนอนก็สั่งงานได้ ยืนยันทำงานเต็มที่ เทหมดหน้าตักจริง ๆ ก็ต้องทำงานหนักจริง ๆ ตอนเจอพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ ก็เตือนให้ผมระวังว่าคนจะหาว่าสร้างภาพ ผมเข้าใจในความหวังดีเพราะโดนแน่นอน” นายกรัฐมนตรี กล่าว

เมื่อถามว่าอยากเขียนประวัติให้คนจดจำตัวเองอย่างไร นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนไม่อยากเขียนเรื่องราวตัวเอง แต่อยากให้ประชาชนเขียนเรื่องราวของตน อยากให้ประชาชนเห็นว่าชีวิตความเป็อยู่ดีขึ้นอย่างไร ความแตกแยกของสังคม ทั้งความต่างวัย ต่างความคิด เราสามารถอยู่กันได้โดยไม่พูดจาด้อยค่ากันด้วยคำหยาบคาย อยากให้สัมคมดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อจะหมดวาระ

ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีเป็นคนชื่นชอบฟุตบอล มีโอกาสหรือไม่ที่บอลไทยจะได้ไปบอลโลก นายเศรษฐา กล่าวว่า มี แต่ต้องตั้งต้นก่อน ต้องร่วมกันพัฒนาวงการกีฬาให้ดีขึ้น เราต้องมีความหวัง รัฐบาลมีส่วนช่วยได้ต้องเต็มที่ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรีเคยบอกว่าญี่ปุ่นใช้เวลาเริ่มต้นไปบอลโลกได้ใช้เวลา 25 ปี แต่เรามีตัวช่วยอื่นๆ จากโตวต้าบอลโลก ยังมีความหวังตนว่าอย่างช้าไม่น่าเกิน 12 ปี ให้อีก 2-3 รอบ ถ้าเรามีความหวังผู้สนับสนุนก็จะเข้ามาได้ ทุกภาคส่วนต้องช่วยกัน.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

เตือนภาวะน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.

กรุงเทพฯ 16 ก.ย.-สทนช. ออกประกาศเตือน เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.นี้ คาดระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงจะสูงกว่าจุดวิกฤติ 0.20 เมตร เสี่ยงน้ำเอ่อล้นริมเจ้าพระยา-ท่าจีน-แม่กลอง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ออกประกาศเตือน เรื่อง “เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง” เตือนประชาชนและหน่วยงานในพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลอง ให้เฝ้าระวังระดับน้ำเอ่อล้นตลิ่ง ระหว่างวันที่ 17–22 กันยายน 2568 ในช่วงเวลา 16.00–19.00 น. ของแต่ละวัน โดยเฉพาะพื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราว ซึ่งยังไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร หรือที่เรียกว่า “แนวฟันหลอ” นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสทนช. กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ร่วมกับกรมอุทกศาสตร์ คาดว่าช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นช่วงที่ระดับน้ำทะเลหนุนสูง โดยระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงอาจสูงถึง 1.70–1.90 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำวิกฤติประมาณ 0.20 เมตร ปัจจัยที่ส่งผลต่อการหนุนสูงของน้ำทะเลในช่วงนี้ได้แก่ ร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศไทย ประกอบกับลมตะวันออกเฉียงใต้และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังปานกลาง ซึ่งยังคงพัดปกคลุมประเทศไทยและบริเวณอ่าวไทย ส่งผลให้บางพื้นที่ยังคงมีฝนตก และเมื่อรวมกับปรากฏการณ์น้ำทะเลหนุน จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้น เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำ พื้นที่เสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ […]

จับตาเวทีหารือปราบสแกมเมอร์

15 ก.ย. – พรุ่งนี้ (16 ก.ย.) ต้องเกาะติดการประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา วางแนวทางปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสแกมเมอร์ ที่ จ.สระแก้ว ต่อยอดการประชุม GBC ที่เกาะกง เมื่อ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี

เชียงใหม่ 15 ก.ย. – แม่ทัพภาค 2 บรรยายพิเศษที่เชียงใหม่ ปลุกพลังรักชาติของคนไทย ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี พร้อมให้ข้อมูลแนวหน้าและคำแนะนำกับรัฐบาล ช่วงบ่ายวันนี้ (15 ก.ย.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อม พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ร่วมบรรยายพิเศษ บอกเล่า “เรื่องจริงจากชายแดน” ที่หอประชุมทีปังกรรัศมีโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ศูนย์แม่ริม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ มีนักเรียน นักศึกษา ประชาชนชาวเชียงใหม่ และนักศึกษาวิชาทหาร กว่า 2,000 คน รอให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยแม่ทัพภาคที่ 2 ได้พูดคุยกับคุณยายที่มารอต้อนรับ พร้อมสวมกอดคุณยายอย่างเป็นกันเอง และยังมอบลายเซ็นลงบนรูปถ่ายของตนที่คุณยายเตรียมมาด้วย พล.ท.บุญสิน ได้กล่าวสดุดีเหล่าทหารกล้าที่เสียสละเพื่อแผ่นดินไทย แสดงความเสียใจต่อประชาชนผู้สูญเสีย พร้อมประณามการกระทำของทหารกัมพูชาที่โจมตีเข้ามาด้วยอาวุธหนักโดยไม่เลือกเป้าหมาย พร้อมเน้นย้ำกับน้องๆ เยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มาร่วมฟังบรรยายในวันนี้ว่าขอให้ยึดมั่นใน 3 สถาบันหลักของชาติ มีความรักชาติหวงแหนในผืนแผนดินไทย จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และช่วยกันทำนุบำรุงศาสนา ร่วมแรงร่วมใจสามัคคีกันเป็นพลังให้ประเทศไทยก้าวผ่านหลากหลายความท้าทายในสถานการณ์ปัจจุบันไปให้ได้ ส่วนการเปิดด่านชายแดน […]

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]