พรรคก้าวไกล 15 ก.ย.-“ธีรัจชัย” จี้นายกฯ ดำเนินการทางวินัย “พล.ต.อ.เพิ่มพูน” หลัง ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดปมช่วยคดี “บอส อยู่วิทยา” เชื่อ ไม่กล้าถอดถอนจากเก้าอี้ รมว.ศึกษาฯ เพราะอยู่พรรคสำคัญ ขอจริงใจตามจับคนผิดมาลงโทษ หยุดความเหลื่อมล้ำในกระบวนการยุติธรรม
นายธีรัจชัย พันธุมาศ สส.กทม. พรรคก้าวไกล แถลงข่าวกรณีที่เมื่อวานนี้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้แถลงข่าวกรณีที่ส่งชื่อพล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการให้นายกรัฐมนตรีดำเนินการทางวินัย ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีของนายวรยุทธ อยู่วิทยา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2555 ที่ขับรถชนดาบตำรวจวิเชียร กลั่นประเสริฐ จนเสียชีวิต เป็นกรณีที่ประชาชนสนใจในเรื่องนี้มีการดำเนินคดีและมีอะไรมากมายมีข้อสงสัยว่ามีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องการเปลี่ยนแปลงความเร็วให้รถมีความเร็วต่ำกว่ากฎหมายกำหนด การร้องเรียนขอความเป็นธรรมเพื่อให้สั่งไม่ฟ้องในคดี รวมถึงย้ายนายตำรวจที่จะออกหมายแดงเพื่อติดตามตัวนายวรยุทธ ซึ่งหลบหนีอยู่นอกประเทศ มีนายตำรวจใหม่มาและเปลี่ยนให้เป็นหมายที่ใช้ในหน่วยงานของรัฐเท่านั้น มีการย้ายนายตำรวจที่จะมีความเห็นแย้งอัยการได้ทำให้เกิดกรณีสั่งไม่ฟ้องเกิดขึ้นให้ออกไป และมีตำรวจท่านใหม่เข้ามาทำให้ไม่แย้งอัยการที่สั่งไม่ฟ้อง
นายธีรัจชัย กล่าวว่า หลังจากสั่งฟ้องนายวรยุทธหลายข้อหาแต่ต่อมามีการร้องเรียนอัยการถึง 13 ครั้งจนครั้งที่ 14 ประสบความสำเร็จอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ ซึ่งเรื่องนี้ตนได้นำไปอภิปรายไม่ไว้วางใจหนึ่งครั้ง รวมถึงในคณะกรรมาธิการป.ป.ช.ของสภาผู้แทนราษฎร ได้สอบสวนจนสิ้นกระแสความและส่งเรื่องให้กรรมการป.ป.ช.ตั้งแต่อภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นต้นมา มาถึงวันนี้ถึงเป็นเรื่องที่ต้องเรียนไปยังนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ว่าจะดำเนินการอย่างไรในเรื่องนี้ เพราะก่อนหน้านี้นายวิชา มหาคุณ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ได้บอกว่าเรื่องนี้มีความผิดต่อคนหลายกลุ่ม กลุ่มสำคัญคือกลุ่มนักการเมืองและผู้บังคับบัญชาระดับสูง ซึ่งเป็นคนที่สั่งย้ายนายตำรวจที่ไม่ให้ออกหมายแดง รวมถึงนายตำรวจที่จะทำความเห็นแย้งอัยการ
“คนที่นั่งหัวโต๊ะก.ตร. คือนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น อยากทราบว่า นายกรัฐมนตรีในปัจจุบันจะทำความจริงเรื่องนี้ให้ปรากฏอย่างไร พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ ปัจจุบันเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ถูก ป.ป.ช. ชี้มูลแบบนี้แล้ว ถึงแม้เป็นเรื่องวินัย แต่ได้ส่งเรื่องถึงนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นประธาน ก.ตร. เป็นผู้บังคับบัญชาได้ดำเนินการต่อ 8วามเหมาะสมในตำแหน่งของพล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ ในการเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เหมือนเป็นครูใหญ่ของประเทศ จะเหมาะสมหรือไม่ ที่จะออกนโยบายต่างๆ สั่งสอนเด็กให้ซื่อสัตย์สุจริต และให้มีประสิทธิภาพต่าง ๆ เพราะมีความด่างพร้อยตรงนี้” นายธีรัจชัย กล่าว
นายธีรัจชัย กล่าวว่า ขอถามนายกรัฐมนตรีว่าจะดำเนินการอย่างไรกับคดีทางวินัยที่ ป.ป.ช.ส่งมา จะย้อนหลังอย่างไร จะสั่งการอย่างไร เพื่อให้เกิดผลเป็นจริง และคืนความเชื่อมั่นของประชาชนต่อกระบวนการยุติธรรมของประเทศนี้ เพราะในนโยบายที่นายกรัฐมนตรีแถลงต่อรัฐสภาไม่มีความชัดเจนเรื่องกระบวนการยุติธรรมที่มีความเหลื่อมล้ำ เพราะเป็นคดีที่ประชาชนสนใจเรื่องความเหลื่อมล้ำของคนรวย คนจน เมื่อคนจนทำผิดถูกดำเนินคดีเต็มที่ แต่พอเป็นคนมีฐานะ มีกลไกต่าง ๆ มาช่วยเหลือ ออกไปนอกประเทศ ยังไม่ถูกดำเนินคดีจนวันนี้ และการชี้มูลของ ป.ป.ช. เป็นตัวรับรองว่ามีเหตุการณ์เกิดขึ้นจริงแม้คดีความยังไม่สิ้นสุด ผู้นำฝ่ายบริหาร และเห็นว่ากระบวนการยุติธรรมมีความเหลื่อมล้ำต้องมาจัดการเรื่องนี้ให้สิ้นกระแสความให้ได้ คือตรวจสอบคนที่ยังไม่ถูกดำเนินคดีให้ถูกดำเนินคดีได้ทั้งหมดผู้ที่ให้ความช่วยเหลือในคดีนี้ได้ถูกดำเนินคดีในสิ่งที่เขาทำ
นายธีรัจชัย เสนอให้ใช้ Biometric ติดตามจับกุมนายวรยุทธ หากนายกรัฐมนตรีมีความจริงใจต้องสั่งการไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ความสำคัญ ให้ 26-27 ประเทศในกลุ่มวีซ่าเชงเก้น มีเครือข่ายบริษัทของนายวรยุทธตั้งอยู่ ให้ติดตามว่ามีเครื่องบินของเขาเข้าออก ก็สามารถตามจับได้ไม่ยากหากใส่ใจทำ เป็นการวัดใจนายกรัฐมนตรีว่าจะเห็นความเหลื่อมล้ำในกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ ยืนยันว่าจะติดตามตรวจสอบกรณีนี้ต่อไปในฐานะตัวแทนของประชาชนว่าป.ป.ช.หรือนายกรัฐมนตรีจะดำเนินการอย่างไรต่อ เป็นร่องรอยการชี้มูลว่าเรื่องนี้มีมูลความผิดจริง นายกรัฐมนตรีมีความจริงใจต้องจัดการเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา
เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีพิจารณาควรถอดถอน พล.ต.อ.เพิ่มพูน ออกจากตำแหน่ง รมว.ศึกษาฯ หรือไม่ นายธีรัจชัย กล่าวว่า หากต้องการความเหมาะสมควรทำในสิ่งที่ไม่ให้ประเทศชาติด่างพร้อยเสียหาย แต่ตนไม่เชื่อว่านายกรัฐมนตรีจะกล้าทำแบบนั้น เพราะพรรคที่ท่านสังกัดและได้เป็นรัฐมนตรีครั้งนี้ เป็นพรรคที่สำคัญ มีเสียงสูงในขณะนี้ จึงคิดว่านายกรัฐมนตรีจะไม่กล้า แต่เมื่อไม่กล้าแล้วจะทำอย่างไร จะอธิบายอย่างไรให้ประชาชนเข้าใจ จึงคิดว่าท่านไม่กล้าเพราะเป็นพรรคการเมืองหลักในการตั้งรัฐบาล.-สำนักข่าวไทย