บี้นายกฯ สอบวินัย “พล.ต.อ.เพิ่มพูน”

พรรคก้าวไกล 15 ก.ย.-“ธีรัจชัย” จี้นายกฯ ดำเนินการทางวินัย “พล.ต.อ.เพิ่มพูน” หลัง ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดปมช่วยคดี “บอส อยู่วิทยา” เชื่อ ไม่กล้าถอดถอนจากเก้าอี้ รมว.ศึกษาฯ เพราะอยู่พรรคสำคัญ ขอจริงใจตามจับคนผิดมาลงโทษ หยุดความเหลื่อมล้ำในกระบวนการยุติธรรม


นายธีรัจชัย พันธุมาศ สส.กทม. พรรคก้าวไกล แถลงข่าวกรณีที่เมื่อวานนี้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้แถลงข่าวกรณีที่ส่งชื่อพล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการให้นายกรัฐมนตรีดำเนินการทางวินัย ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีของนายวรยุทธ อยู่วิทยา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2555 ที่ขับรถชนดาบตำรวจวิเชียร กลั่นประเสริฐ จนเสียชีวิต เป็นกรณีที่ประชาชนสนใจในเรื่องนี้มีการดำเนินคดีและมีอะไรมากมายมีข้อสงสัยว่ามีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องการเปลี่ยนแปลงความเร็วให้รถมีความเร็วต่ำกว่ากฎหมายกำหนด การร้องเรียนขอความเป็นธรรมเพื่อให้สั่งไม่ฟ้องในคดี รวมถึงย้ายนายตำรวจที่จะออกหมายแดงเพื่อติดตามตัวนายวรยุทธ ซึ่งหลบหนีอยู่นอกประเทศ มีนายตำรวจใหม่มาและเปลี่ยนให้เป็นหมายที่ใช้ในหน่วยงานของรัฐเท่านั้น มีการย้ายนายตำรวจที่จะมีความเห็นแย้งอัยการได้ทำให้เกิดกรณีสั่งไม่ฟ้องเกิดขึ้นให้ออกไป และมีตำรวจท่านใหม่เข้ามาทำให้ไม่แย้งอัยการที่สั่งไม่ฟ้อง

นายธีรัจชัย  กล่าวว่า หลังจากสั่งฟ้องนายวรยุทธหลายข้อหาแต่ต่อมามีการร้องเรียนอัยการถึง 13 ครั้งจนครั้งที่ 14 ประสบความสำเร็จอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ ซึ่งเรื่องนี้ตนได้นำไปอภิปรายไม่ไว้วางใจหนึ่งครั้ง รวมถึงในคณะกรรมาธิการป.ป.ช.ของสภาผู้แทนราษฎร ได้สอบสวนจนสิ้นกระแสความและส่งเรื่องให้กรรมการป.ป.ช.ตั้งแต่อภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นต้นมา มาถึงวันนี้ถึงเป็นเรื่องที่ต้องเรียนไปยังนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ว่าจะดำเนินการอย่างไรในเรื่องนี้ เพราะก่อนหน้านี้นายวิชา มหาคุณ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ได้บอกว่าเรื่องนี้มีความผิดต่อคนหลายกลุ่ม กลุ่มสำคัญคือกลุ่มนักการเมืองและผู้บังคับบัญชาระดับสูง ซึ่งเป็นคนที่สั่งย้ายนายตำรวจที่ไม่ให้ออกหมายแดง รวมถึงนายตำรวจที่จะทำความเห็นแย้งอัยการ


“คนที่นั่งหัวโต๊ะก.ตร.  คือนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น อยากทราบว่า นายกรัฐมนตรีในปัจจุบันจะทำความจริงเรื่องนี้ให้ปรากฏอย่างไร พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ ปัจจุบันเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ถูก ป.ป.ช. ชี้มูลแบบนี้แล้ว ถึงแม้เป็นเรื่องวินัย แต่ได้ส่งเรื่องถึงนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นประธาน ก.ตร. เป็นผู้บังคับบัญชาได้ดำเนินการต่อ 8วามเหมาะสมในตำแหน่งของพล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ ในการเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เหมือนเป็นครูใหญ่ของประเทศ จะเหมาะสมหรือไม่ ที่จะออกนโยบายต่างๆ สั่งสอนเด็กให้ซื่อสัตย์สุจริต และให้มีประสิทธิภาพต่าง ๆ เพราะมีความด่างพร้อยตรงนี้” นายธีรัจชัย กล่าว

นายธีรัจชัย กล่าวว่า ขอถามนายกรัฐมนตรีว่าจะดำเนินการอย่างไรกับคดีทางวินัยที่ ป.ป.ช.ส่งมา จะย้อนหลังอย่างไร จะสั่งการอย่างไร เพื่อให้เกิดผลเป็นจริง และคืนความเชื่อมั่นของประชาชนต่อกระบวนการยุติธรรมของประเทศนี้ เพราะในนโยบายที่นายกรัฐมนตรีแถลงต่อรัฐสภาไม่มีความชัดเจนเรื่องกระบวนการยุติธรรมที่มีความเหลื่อมล้ำ เพราะเป็นคดีที่ประชาชนสนใจเรื่องความเหลื่อมล้ำของคนรวย คนจน เมื่อคนจนทำผิดถูกดำเนินคดีเต็มที่ แต่พอเป็นคนมีฐานะ มีกลไกต่าง ๆ มาช่วยเหลือ ออกไปนอกประเทศ ยังไม่ถูกดำเนินคดีจนวันนี้ และการชี้มูลของ ป.ป.ช. เป็นตัวรับรองว่ามีเหตุการณ์เกิดขึ้นจริงแม้คดีความยังไม่สิ้นสุด ผู้นำฝ่ายบริหาร และเห็นว่ากระบวนการยุติธรรมมีความเหลื่อมล้ำต้องมาจัดการเรื่องนี้ให้สิ้นกระแสความให้ได้ คือตรวจสอบคนที่ยังไม่ถูกดำเนินคดีให้ถูกดำเนินคดีได้ทั้งหมดผู้ที่ให้ความช่วยเหลือในคดีนี้ได้ถูกดำเนินคดีในสิ่งที่เขาทำ

นายธีรัจชัย เสนอให้ใช้ Biometric ติดตามจับกุมนายวรยุทธ หากนายกรัฐมนตรีมีความจริงใจต้องสั่งการไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ความสำคัญ ให้ 26-27 ประเทศในกลุ่มวีซ่าเชงเก้น มีเครือข่ายบริษัทของนายวรยุทธตั้งอยู่ ให้ติดตามว่ามีเครื่องบินของเขาเข้าออก ก็สามารถตามจับได้ไม่ยากหากใส่ใจทำ เป็นการวัดใจนายกรัฐมนตรีว่าจะเห็นความเหลื่อมล้ำในกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ ยืนยันว่าจะติดตามตรวจสอบกรณีนี้ต่อไปในฐานะตัวแทนของประชาชนว่าป.ป.ช.หรือนายกรัฐมนตรีจะดำเนินการอย่างไรต่อ เป็นร่องรอยการชี้มูลว่าเรื่องนี้มีมูลความผิดจริง นายกรัฐมนตรีมีความจริงใจต้องจัดการเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา


เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีพิจารณาควรถอดถอน พล.ต.อ.เพิ่มพูน ออกจากตำแหน่ง รมว.ศึกษาฯ หรือไม่ นายธีรัจชัย กล่าวว่า หากต้องการความเหมาะสมควรทำในสิ่งที่ไม่ให้ประเทศชาติด่างพร้อยเสียหาย แต่ตนไม่เชื่อว่านายกรัฐมนตรีจะกล้าทำแบบนั้น เพราะพรรคที่ท่านสังกัดและได้เป็นรัฐมนตรีครั้งนี้ เป็นพรรคที่สำคัญ มีเสียงสูงในขณะนี้ จึงคิดว่านายกรัฐมนตรีจะไม่กล้า แต่เมื่อไม่กล้าแล้วจะทำอย่างไร จะอธิบายอย่างไรให้ประชาชนเข้าใจ จึงคิดว่าท่านไม่กล้าเพราะเป็นพรรคการเมืองหลักในการตั้งรัฐบาล.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ ถึงอุบลฯ แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้ชาวบ้าน

อุบลราชธานี 20 มิ.ย.-นายกฯ ถึงอุบลราชธานี แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้จากประชาชน ก่อนขึ้น ฮ.ไปฐานมรกต ให้กำลังใจทหารแนวหน้า ขำสื่อรุมถาม “ไมค์เขกหัวนายกฯ” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงกองบิน 21 จ.อุบลราชธานี โดยมี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 รอรับ และเดินทางต่อไปที่สนามกีฬานานาชาติ อบต.โดมประดิษฐ์ มีว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ อดีต รมว.มหาดไทย และ สส.พรรคเพื่อไทย มารอต้อนรับ น.ส.แพทองธาร ได้มอบสิ่งของให้แก่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเอง โดยชาวบ้านหลายคนนำดอกกุหลาบ และผ้าขาวม้า มามอบให้เป็นกำลังใจแก่นายกฯ ในระหว่างที่ประชาชนมอบดอกไม้ให้ นายกฯ ชวนแม่ทัพภาคที่ 2 มารับดอกไม้และถ่ายภาพร่วมกัน ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการพูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 2 ได้เคลียร์ใจแล้วหรือไม่ […]

พรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน

รัฐสภา 20 มิ.ย.-เลขาธิการสภาฯ แจงพรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน แม้จะมีชื่อในบัญชี ก็ไม่เป็นผล ว่าที่ร้องตรีอาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หากต้องมีการเลือกนายกฯ ใหม่ ว่า บุคคลที่สามารถได้รับการเสนอชื่อจะต้องเป็นบุคคลที่มีรายชื่อในบัญชีที่เสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง โดยพรรคที่สามารถเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกฯได้ จะต้องมี สส.จำนวน 5% ของสส. 500 คน คือมี สส. 25 คน ตามมาตรา 159 วรรค 1 ซึ่งในขณะนี้มี สส.ในสภาฯ จำนวน 495 คน 5% คือ 24.75 ซึ่งพรรคพลังประชารัฐขณะนี้มี สส.เหลือไม่ถึง 20 คน จึงไม่สามารถเสนอบุคคลในบัญชีรายชื่อคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกฯ ได้ ตามมาตรา 159 […]

ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ยิงข้างห้องดับ 1 เจ็บ 1

ชุมพร 20 มิ.ย. – ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ฉุนข้างห้องติดเครื่องรถกระบะจอดแช่นาน เกิดมีปากเสียง คว้าปืนยิงสามีเข้าที่คอบาดเจ็บ ส่วนภรรยาโดนยิงเข้าเบ้าตาเสียชีวิต ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุยิงกัน บริเวณห้องเช่า ริมถนนซอยสุขาภิบาล 17 – วัดเขาปุก ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวเช่าติดกัน 4 ห้อง บริเวณหน้าห้องซ้ายสุด มีรถกระบะสีดำจอดอยู่ พร้อมกองเลือด ส่วนผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อ น.ส.จิราวรรณ อายุ 54 ปี ถูกยิงเข้าที่ตาข้างขวา อาการสาหัส หน่วยกู้ชีพนำส่งโรงพยาบาล ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนั้นยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 คน คือ นายสุรพจน์ อายุ 53 ปี ถูกยิงเข้าที่ไหปลาร้า ใกล้ลำคอด้านขวา แต่กระสุนถากไป ได้รับบาดเจ็บไม่มาก นายสุรพจน์ ให้ข้อมูลว่า คนก่อเหตุยิงเป็นเพื่อนบ้านห้องเช่าใกล้กัน ชอบตะโกนต่อว่าตนว่าติดเครื่องยนต์จอดแช่ไว้นาน ทำให้รำคาญ ซึ่งตนก็บอกไปว่า รถยนต์ตนต้องติดเครื่องวอร์มแช่ไว้ก่อนทุกครั้ง […]

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ข่าวแนะนำ

เลขาฯ เพื่อไทย ยัน นายกฯ ไม่ลาออก-ยุบสภา

กทม. 21 มิ.ย.-เลขาฯ พรรคเพื่อไทย ยืนยันนายกฯ ไม่ลาออก-ยุบสภา หลังงบฯ 69 ผ่านวาระสาม ตามที่มีกระแสข่าว เดินหน้าทำงานแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ภาษีทรัมป์ และนโยบายต่างๆ ขออย่าให้การเมืองมาบดบังเป้าหมายสำคัญ นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลฯ ว่า “จากกระแสข่าวลือที่ว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี อาจตอบรับข้อเสนอจากพรรคการเมืองบางพรรค ด้วยการลาออกหรือยุบสภาหลังผ่านการลงมติร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ในวาระที่สามนั้น ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ขอเรียนชี้แจงอย่างชัดเจนว่า ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด และนายกรัฐมนตรี ได้ยืนยันกับพวกเราชัดเจนว่า จะเดินหน้าทำหน้าที่แก้ไขวิกฤตการณ์ต่าง ๆ ที่ประเทศกำลังเผชิญอย่างเต็มความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งรัฐบาลกำลังดำเนินมาตรการตอบโต้ที่เข้มข้นขึ้น ทั้งในมิติการทูตและด้านความมั่นคง รวมถึงปัญหาวิกฤตภาษีทรัมป์ ที่รัฐบาลได้เร่งผลักดันการเจรจาอย่างจริงจัง และได้รับการตอบรับอย่างดีจากคู่เจรจา รัฐบาลยังมุ่งมั่นใช้ช่วงเวลาที่เหลืออยู่จนครบวาระการดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี ในการผลักดันนโยบายที่วางไว้ให้เกิดผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรม อาทิ -การเดินหน้านโยบายปราบปรามยาเสพติด-การปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งขณะนี้เริ่มเห็นแนวโน้มที่ดีขึ้น-มาตรการลดค่าครองชีพ ผ่านโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย-การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ผ่านการพัฒนาโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่-การสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ (man-made destination) […]

เปิดด่านรับผู้ป่วยฉุกเฉิน หญิงชาวกัมพูชาติดเชื้อในกระแสเลือด

จันทบุรี 21 มิ.ย. – น้ำใจคนไทย! เปิดด่านรับผู้ป่วยฉุกเฉิน หญิงชาวกัมพูชา วัย 67 ปี ป่วยติดเชื้อในกระแสเลือด ส่งรักษา รพ.จันทบุรี เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ 20 มิ.ย. เวลา 21.00 น. กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด (กปช.จต.) โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ชุดเคลื่อนที่เร็วทหารผ่านนาวิกโยธินที่ 4 (ชค.ทพ.นย.4) หมวดอาวุธสนับสนุนที่ 4 จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด ได้รับการประสานจาก นปพท.จันทบุรี ให้อำนวยความสะดวกในการผ่านแดนให้กับนางหยาง ทัช อายุ 67 ปี ผู้ป่วยฉุกเฉินชาวกัมพูชา พร้อมผู้ร่วมเดินทาง รวมจำนวน 4 คน เนื่องจากผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสโลหิต มีไข้สูง หนาวสั่น และปวดศีรษะรุนแรง เพื่อไปรักษาตัวที่ รพ.กรุงเทพจันทบุรี เนื่องจากทาง รพ.กัมพูชา ไม่สามารถรักษาได้ เพราะเครื่องมือทางการแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ไม่มี จึงขอประสานส่งตัวที่บริเวณสะพานคลองตะเคียน […]

แบ่งงานรองนายกฯ ใหม่ หลัง ภท. ถอนตัวพรรคร่วมรัฐบาล

กรุงเทพฯ 21 มิ.ย. – นายกฯ ลงนามคำสั่งแบ่งงานรองนายกฯใหม่ หลัง “ภูมิใจไทย” ถอนตัวพรรคร่วมรัฐบาล “ภูมิธรรม” กำกับดูแล “มหาดไทย” ไร้ชื่อ “พีระพันธุ์” กำกับงานส่วนไหนเพิ่มเติม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมตรี ลงนามในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 184/2568 เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 20 มิ.ย.68 โดยรายละเอียดในคำสั่งมอบหมายให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี กำกับการบริหารราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในกระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และสำนักงานราชบัณฑิตยสภา (รวมทั้งราชการของราชบันฑิตยสภา) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐนตรี มอบอำนาจให้กำกับบริหารราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงคมนาคม กระทรวงแรงงาน กระทรวงวัฒนธรรม และสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัมนตรี มอบหมายและมอบอำนาจให้กำกับการบริหารราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ […]

“ฮุนเซน” เย้ยหากไทยหยุดขายน้ำมันให้ กระทบตัวเอง

กัมพูชา 21 มิ.ย.-“ฮุนเซน” โพสต์เฟซบุ๊กล่าสุด เย้ยหากไทยหยุดขายน้ำมันให้กัมพูชา จะกระทบบริษัทของไทยเอง ความเคลื่อนไหวล่าสุดจาก เฟซบุ๊ก “ฮุนเซน” เวลาประมาณ 22.30 น. ที่ผ่านมา โพสต์ข้อความที่แปลเป็นภาษาไทยว่า เกมแห่งการคุกคามที่อาจนำไปสู่การทำลายตัวเอง วันนี้ พรรคฝ่ายค้านของไทยได้เสนอให้รัฐบาลไทยหยุดขายน้ำมันให้กับกัมพูชา เพื่อกดดันให้กัมพูชายอมจำนน ในการนี้ เราขอยืนยันอย่างชัดเจนว่า กัมพูชาจะไม่ล้มเหลวเพียงเพราะไม่ได้ซื้อน้ำมันจากประเทศไทย ในทางกลับกัน อาจเป็นบริษัท PTT ของไทยเองที่ต้องเผชิญกับผลกระทบ คุณต้องการให้บริษัท PTT ของไทยล่มสลายใช่หรือไม่? ถ้าคุณต้องการเช่นนั้น ก็จงเดินหน้าต่อไปตามแผนของคุณ กัมพูชาพร้อมแล้วที่จะรับมือกับสถานการณ์ที่คุณใช้คุกคามเรา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอินเทอร์เน็ต ไฟฟ้า แรงงาน และตอนนี้น้ำมันก็ถูกใช้เป็นอาวุธอีกหนึ่งอย่างในเกมนี้ ในอดีตคุณเคยดูถูกและเลือกปฏิบัติต่อแรงงานกัมพูชา ใช้พวกเขาเป็นเครื่องมือต่อรอง แต่เมื่อเราประกาศว่าจะรับแรงงานกลับประเทศ คุณก็เปลี่ยนท่าทีทันที กลับมาปลอบโยนและดูแลแรงงานเหล่านั้น ทำไม? เพราะถ้าแรงงานกัมพูชาถอนตัวจากโรงงาน ฟาร์ม บริษัท และไซต์ก่อสร้าง ธุรกิจจำนวนมากในไทยอาจต้องปิดตัวลงเพราะขาดแรงงาน หากคุณกล้าจริง ก็ลองไล่แรงงานกัมพูชาออกให้หมด แล้วมาดูกันว่าจะกระทบเศรษฐกิจไทยแค่ไหน น้ำมันก็เช่นเดียวกัน ลองดูได้เลย แต่อย่าลืมปรึกษาบริษัท PTT ของไทยก่อน เพราะนั่นอาจหมายถึงการทำลายธุรกิจของพวกเขา […]